เราเป็นคนนึงที่ชอบในGalaxyมากๆ ชอบนั่งมอง ชอบที่จะไปอยู่ท่ามกลางหมู่มวลดวงดาว ตื่นเต้นและดีใจทุกครั้งที่แหงนมองฟ้าแล้วเจอแสงดาวจ้องมองเราอยู่ แต่มีสิ่งนึงที่หาโอกาสสัมผัสได้ยาก ก็คืออยากเห็นเจ้าแสงสีเขียวๆเต้นระบำกับหมู่มวลดวงดาวต่อหน้าเราสักครั้งนึงในชีวิตได้แต่แอบเก็บมันไว้ในBucket Listอยู่เหมือนกัน เพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้ไปสัมผัสเมื่อไหร่ จนเมื่อเวลานั้นมาถึงจากฝันที่กลายเป็นมากกว่าฝัน ฝันกลายเป็นจริงขึ้นมา ก็1เดือนก่อนการเดินทางของพวกเรา เริ่มต้นที่มีเวลา3คืนจะไปเที่ยวไหนกันดี โดยเพื่อนเราอยากได้หนาวๆหิมะๆ แต่ป่าเขาก็อยากไป ปรับเปลี่ยนแพลนอยู่หลายที่ทั้งในไทยไปถึงหลายประเทศจนมาจบที่Murmansk,Russia ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการสุดในตอนนั้น
ทำไมต้องเป็นแสงเหนือประเทศรัสเซีย?
คืองี๊ประเทศที่สามารถเกิดAurora(Northern Lights หรือ Aurora Borealis) ได้เนี๊ยะต้องขอวีซ่าทั้งนั้นเลยมีประเทศ SWEDEN, ICELAND, FINLAND, ALASKA AMERICA, CANADA, NORWAY, GREENLAND, SCOTLAND, DENMARK แต่มีอยู่ประเทศนึงไม่ต้องใช้วีซ่า ตั้งอยู่ในเขตArctic Circle คาบสมุทรKola ชายแดนจะติดกับประเทศนอร์เวย์และฟินแลนด์เพียงขับรถไป2ชั่วโมง นั่นก็คือเมือง
Murmansk ทางตอนเหนือของประเทศ
RUSSIA
*เอาง่ายๆไม่มีไรมากแค่ ประเทศรัสเซีย ได้รับการยกเว้นวีซ่าสำหรับคนที่ถือPassportไทย โดยอยู่ได้ถึง30วัน แต่!!! ตั้งใจอ่านให้ดี ถ้ามาเกิน 7 วัน เราต้องให้ทางโรงแรมหรือที่พักที่เราไปอยู่นั้น ลงทะเบียนวีซ่าให้ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในบางที่ ต้องลองเจรจากันดูจ้า ส่วนเราไปไม่ถึง7วัน ก็สบายๆไม่ยุ่งยากอะไรค่ะ
*ช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคมมีโอกาสเห็นแสงเหนือมากที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดวงค่ะ ฮาา ไม่ใช่ๆเนอะ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศต่างๆ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับดวงจริงๆนะไม่เชื่อลองดู
เมื่อได้ที่จะไปแล้วเราก็เริ่มวางแผนและเตรียมการ
- เช็คราคาตั๋วทุกวัน แพงขึ้นทุกวันด้วยจากที่ดูครั้งแรกประมาณ23,xxxบาท จนถึงวันที่ต้องตัดสินใจซื้อแล้วก่อนที่จะแพงไปมากกว่านี้คือจบที่31,xxxบาท (ราคาไปกลับBKK-SVO, SVO-MMK รวมค่าโหลดกระเป๋าและเลือกที่นั่ง)
- หาที่เที่ยวMoscowในเวลาที่มีประมาณ7ชั่วโมงและที่เที่ยวหรือกิจกรรมในMurmanskที่อยากไปในเวลาที่มี2วันเต็ม
- หาที่พัก3คืนที่Murmansk โดย2คืนแรกเราพักที่Congress Hotel Meridian ในDowntownห่างจากสนามบิน40นาที คืนที่3เราไปพักนอกเมืองที่AURORA VILLAGE MURMANSK ห่างจากสนามบินชั่วโมงนิดๆ
- หาทัวร์ มีหลายเจ้ามากๆ ลองทักไปถามพูดคุยถูกจริตกับเจ้าไหนก็เอาเจ้านั้นแหละ เราถามหลายที่มากและแต่ละที่ส่วนใหญ่คุยดี แต่เราเลือกเจ้านี้เพราะเลื่อนๆเจอเห็นว่าเป็นคนไทยน่าจะคุยกันง่ายกว่าแต่ว่าสามีชาวรัสเซียพูดภาษาอังกฤษได้เป็นคนไกด์ ลองเข้าไปค้นหาในPage Facebook : แสงเหนือ Murmansk Northern Lights สไตล์ ครอบครัว ลองคุยดูค่ะเขาจะจัดโปรแกรมตามความต้องการเรา อันไหนเป็นไปได้ไม่ได้เขาแนะนำได้ค่ะ ส่วนเรื่องราคาเราว่าทุกที่ราคาพอๆกันหมดจากที่สอบถามมาค่ะโดยเริ่มที่หลักพันบาท
- ค้นเสื้อผ้า รองเท้าที่มีออกมาจัดแจงแล้วก็ซื้อเพิ่มนิดหน่อย เคยไปหนาวสุดก็ติดลบต้นๆ แต่ครั้งนี้ก่อนเดินทางเดาๆไว้ว่าจะติดลบ30 ส่วนใครที่ไม่มีเสื้อผ้าสำหรับอุณภูมิขนาดนี้ก็ต้องซื้ออ่ะแหละ มีกระทู้แนะนำเยอะเลยลองหาอ่านดูค่ะ แต่ถ้าอยากได้คำแนะนำก็ถามได้นะ
- อาหารการกินอย่าให้พร่อง เรื่องกินเรื่องใหญ่ ฮาาา แล้วแต่ความชอบกันเลยค่ะ ทางเราเตรียมไปพอสมควรแต่ไม่ให้เยอะเกินไปจนต้องแบกกลับมาอีก
- รัสเซียใช้สกุลเงินRUB เราแลกเงินกับSuperRich(สีเขียว) โดยโทรไปจองล่วงหน้าวันนึงแล้วแจ้งว่าจะไปรับที่สาขาไหน Rateที่เราแลกคือ0.48 (คิดเป็นเงินไทยง่ายๆคือหาร2) ที่แลกจากไทยเพราะจะไม่ต้องยุ่งยากและเราไม่อยากไปหยิบเงินจำนวนเยอะๆที่นู้น เซฟตัวเองไว้ก่อนน่าจะปลอดภัยสุด
- Sim Card เราใช้ Sim To Fly ของAIS มีSimเดิมอยู่แล้ว เติมเงินไป800บาท ถ้าไปซื้อSimที่รัสเซียจะได้ถูกกว่านี้ แต่ที่เราหาข้อมูลมา ว่าจะใช้Lineไม่ได้ (ใครมีข้อมูลแนะนำเราได้เลย) เราเลยเลือกSim To Fly สะดวกสุด ส่วนสัญญาณใช้ได้ปกติ แต่ที่Murmanskบางพื้นที่ไม่มีสัญญาณ
- ปลั๊กไฟ เราพกหัวแปลงเที่ยวทั่วโลกไปอันเดียวจบไปได้ทุกประเทศ
ทริปนี้หากบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพและเสียงไปด้วยมันคงได้อรรถรสไม่น้อย เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ทั้งสนุก เครียด น้ำตาจะไหล ประทับใจเรียกได้ว่ามันครบรสจริงๆ จะทำยังไงหาก...
- เกิดไม่สบายก่อนการเดินทาง
- คอนแทคเลนส์ขาดจนบาดตาเลยต้องใส่แว่นฝ้าน้ำแข็งก็เกาะแว่นมองอะไรไม่เห็น
- หนาวจนร้องขอชีวิตไปหลายรอบ มือเท้าชาไปหมด เย็นถึงก้านสมองก็ว่าได้
- นั่งsnowmobileลากเลื่อน ซิ่งท้านรกยิ่งกว่ารถเมล์ไทยสาย8 โดนทิ้งไว้กลางป่าที่มืดมองอะไรไม่เห็นเลยเพื่อรอนั่งลากเลื่อนฮัสกี้
- ลากเลื่อนฮัสกี้ซิ่งจนเกือบทำเราคว่ำ
- จากPrivate Tour ต้องเปลี่ยนเป็น Group Tourกับพี่จีนเพราะรถไกด์มีปัญหา
- ตกเครื่องครั้งแรกในชีวิตเพราะพายุหิมะถล่มปิดถนน
- รถติดหล่มหิมะในขณะที่ต้องรีบไปสนามบินทำให้ต้องลงไปเข็ญท่ามกลางหมู่มวลดวงดาวนับล้านในความมืดมากและอากาศหนาวเย็น-28องศา
- พายุหิมะทำให้เราหิวข้าวทั้งวันเพราะเสบียงหมด
*หลากหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเราเรียกมันว่าประสบการณ์การเดินทาง ในความหรรษาของชีวิตกลับได้มิตรภาพใหม่ๆทั้งจากไกด์และเพื่อนใหม่ที่ร่วมชะตากรรมพายุหิมะอีกด้วย
ก่อนจะเริ่มเดินทางไปพร้อมกัน โปรดเข้าห้องเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำเตรียมรับความหนาวสุดขั้วจากMurmansk และออกล่าแสงเหนือไปด้วยกันคร่า
Welcome on board ใครมีเวลาน้อยแบบพวกเราก็สามารถปรับเปลี่ยนแพลนไปใช้ได้น๊าา...
- ถ้าใครมาCheck-in แล้วไม่อยากรอแถวนาน เพราะแถวยาวมากๆ ให้เลือกOnline Check-in แล้วมาเข้าช่องที่drop baggage สำหรับกระเป๋าที่โหลด
ถ้าที่นั่งชั้นธรรมดาสุด จะได้1ใบ น้ำหนัก23KG. ส่วนCarry-on baggage 1ใบ น้ำหนัก10KG.
- พวกเรามีเวลาน้อย เลยไปแค่3คืน โดยปลายทางอยู่ที่Murmansk ซื้อตั๋วล่วงหน้าประมาณเดือนนึง เราเลือกบินตรงโดยสายการบิน Aeroflot Russian Airlines สายการบินสัญชาติรัสเซีย เราเลือกเดินทางคือตอนกลางคืนFlight BKK 22.15 - SVO 04.30 เลยได้เป็น สายการบินRossiya airlines ที่ operated by Aeroflot Russian Airlines ตอนCheck-in ต้องไปที่RowของRossiya airlinesค่ะ
- อาหารบนเครื่องจะเป็น2มื้อ รสชาติทานได้ค่ะ แต่ขนมปังไม่ไหวไม่ใช่แนวจริงๆ ที่นั่งถือว่าดี เพื่อนเราตัวสูงใหญ่นั่งได้เข่าไม่ติดถือว่าผ่าน ส่วนปลั๊กเสียบก็ตามรูปค่ะ
ก่อนเดินทางดันป่วย เริ่มทริปด้วยความเพลีย เราเดินทางกันมาประมาณ10ชั่วโมง ก็ถึงMoscow ตอนตี4.30 เวลาที่รัสเซียค่ะ เวลาที่รัสเซียจะช้ากว่าที่ไทย4ชั่วโมง เนื่องจากบินตรงกับสายการบินสัญชาติรัสเซีย เขาจะมาลงที่สนามบิน SVO หรือ Sheremetyevo International Airport
เน้นย้ำขีดเส้นใต้ว่าสนามบิน ต้องดูให้ดีนะคะ ว่าสนามบินอะไรที่เครื่องลง เพราะมันมีสนามบินอื่นอีกด้วยนะคะ สำหรับใครที่มาแล้วลงสนามบินSVO เหมือนเรา ดูวิธีเข้าเมืองจากเราได้ค่ะ
เนื่องจากเราอยากมีเวลาเข้าเมือง ไปลุ้น Christmas market ที่ Moscow ว่าเก็บไปรึยัง แล้วก็อยากไป St. basil's cathedral ด้วย เลยซื้อตั๋วบินต่อไปMurmansk Flight17.50 (เราซื้อตั๋วแยกเป็น2booking ระหว่างประเทศและในประเทศ เพราะมันถูกกว่า แต่ไม่สามารถCheck Through ได้เพราะคนละสายการบินด้วยถึงแม้จะ operated โดย Aeroflot เราไม่แน่ใจว่าถ้าสายการบินเดียวกันทำการCheck Throughได้มั้ยนะคะ) ฉะนั้นเราจะไปDropกระเป๋าก่อนเข้าเมืองค่ะ
จากภาพเราลงที่Terminal D ระหว่างที่รอกระเป๋า ก็ทำการCheck-in Online SVO-MMK ก่อนเลย แล้วเราจะไปDrop กระเป๋าที่Terminal Bกัน ก่อนที่จะเข้าเมือง และจะมาขึ้นAero express แถวๆ Terminal E สำหรับใครที่กลัวจะงง ดูตามป้ายไปเรื่อยๆค่ะ ไม่ยาก จะมีป้ายบอกทางให้ไปขึ้นรถไฟในสนามบินเพื่อไปอีกTerminal จะใช้เวลาเดินสักหน่อย เราจะเสียเวลาตรงนี้กว่าจะได้เริ่มเข้าเมืองก็ 8 โมงแล้วค่ะ ดังนั้นเราจะมีเวลาในMoscow รวมการเดินทางไป-กลับในเมืองกับสนามบินประมาณ7ชั่วโมงค่ะ
ก่อนจะเริ่มเดินทาง เราอยากให้โหลด
App : Yandex.Metro ไว้ก่อนค่ะ เราสามารถดูเวลาเดินรถไฟ สามารถเลือกดูได้ว่าเราจะไปไหน สถานีอะไร ใช้เวลาเท่าไหร่ สำหรับคนมีเวลาน้อย เราอยากให้เดินทางโดยรถไฟมากกว่ารถแท็กซี่นะคะ กันความเสี่ยงไว้หน่อยเพราะเราไม่รู้รถจะติดแค่ไหน เด๋วจะกลับมาต่อเครื่องไม่ทันค่ะ
หลังจากDrop กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นรถไฟในสนามบินย้อนกลับมา เดินดูตามป้ายเลยค่ะ ก็จะมาถึงรถไฟที่จะพาเราเข้าเมือง มี3วิธีเลือกซื้อตั๋วตามนี้
- จากOnline ที่
https://aeroexpress.ru/en/aero.html
- counter จำหน่ายตั๋ว
- ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ (เราเลือกวิธีนี้ อยากลองกดเอง โดยตอนซื้อ เราเลือกได้เลยซื้อขาเดียว หรือไป-กลับ จะมีให้เลือกจำนวนผู้โดยสาร1คน 2คน และเป็นกรุ๊ปคือสูงสุด4คน เราไปกัน3คน คำนวณแล้วซื้อเป็นกรุ๊ปคุ้มกว่า)
- เนื่องจากได้ตั๋วมาใบเดียว วิธีการเข้าคือ คนแรกเข้าก่อนโดยสแกนQR Code ผ่านไปแล้วส่งตั๋วต่อให้คนต่อไปสแกนเข้าตามค่ะ หน้าตารถไฟAero Express เป็นแบบนี้ มี2ชั้นค่ะ
- จากสนามบินSVO สถานีD1 ดูจากภาพตามนะคะ เราจะมาลงที่สถานี Belorusskaya เพื่อต่อMetroไปแถวRed Square
- ได้ออกมาอยู่ด้านนอกแล้วถึงได้สัมผัสอากาศหนาวอย่างแท้จริง แต่นี่แค่เริ่มต้นของทริป ยังเบาๆอยู่จ้าอยู่ที่เลขตัวเดียว ถึงติดลบต้นๆ เอง
พระอาทิตย์ขึ้นช้าค่ะ ราว10-11 โมง หิมะปรอย ท้องฟ้าเลยดูอึมครึม หลังจากเดินออกจากสถานีแล้ว คือเดินตามทางเรื่อยๆเลี้ยวขวา แล้วข้ามสะพานที่อยู่ฝั่งเดียวกับที่เราออกมานั่นล่ะ ให้สังเกตุดูค่ะ จากภาพ เราออกมาจากทางขวา แต่ตอนเรากลับ เราจะขึ้นAero Expressฝั่งซ้ายนะคะ
- เดินไปเรื่อยๆพ้นสะพานให้มองหาตัว M สีแดง (หมายถึงMetro) ให้เลี้ยวเข้าเลยค่ะ เราเลือกซื้อบัตรแบบนี้ โดยซื้อเที่ยวไว้ในบัตร ลองคำนวณกันดูนะคะ ว่าจะใช้กี่เที่ยว เราสามารถใช้บัตรเดียวกันได้โดยแตะบัตรเข้าแล้วส่งต่อกันค่ะ พวกเราซื้อ12เที่ยว ราคารวมบัตรด้วย506RUB บัตรมีอายุการใช้งาน1ปี
- จะดูให้ง่ายให้ดูจากสีค่ะ ถ้าเข้าไปด้านในMetroแล้ว จะมีทางให้ไปหลายสาย ดูจากสีแล้วค่อยมาดูสถานีจะง่ายหน่อย ปกติแล้วเราเป็นประเภทชอบหลง มันแบบงงๆ ขนาดMRTที่ไทยยังหลงทิศ ที่อังกฤษยังหลงทาง #หลงเก่ง โชคดีครั้งนี้มีเพื่อนมาด้วย เลยไม่หลง ฮาา กลับเข้าเรื่องค่ะ เราไปสายสีเขียวนะคะ จากสถานีBelorusskaya ไปลงสถานีTeatralnaya
- จากสถานีTeatralnaya ออกมาจะเจอที่เขาประดับไฟอยู่ เราไม่รู้ชื่อสถานที่ตรงนี้เรียกว่าอะไร แต่ใจอ่ะชื้นขึ้นมาเลยว่า Christmas market ที่ใฝ่ฝัน มันต้องยังมีอยู่แน่เลย เราข้ามถนนจากตรงนี้มาจะเจอรูปปั้น Karl Marx Monument แล้วเดินต่อไปด้านหลังของรูปปั้น จะเจอตึกทอดยาวสีแดงๆ
เดินมาเรื่อยๆ ทางด้านซ้ายมือ เราจะเลี้ยวเข้าสู่โซน Red Square ทางด้านขวาของภาพคือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสต์ (State Historical Museum) วงกลมที่ยืนอยู่คือที่ตั้งของกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซียจ้า
+++ มีต่อที่Commentค่ะ +++
[CR] ติดลบ28องศา ล่าแสงเหนือที่Murmansk,Russia มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้(ไม่ต้องใช้วีซ่า)
เราเป็นคนนึงที่ชอบในGalaxyมากๆ ชอบนั่งมอง ชอบที่จะไปอยู่ท่ามกลางหมู่มวลดวงดาว ตื่นเต้นและดีใจทุกครั้งที่แหงนมองฟ้าแล้วเจอแสงดาวจ้องมองเราอยู่ แต่มีสิ่งนึงที่หาโอกาสสัมผัสได้ยาก ก็คืออยากเห็นเจ้าแสงสีเขียวๆเต้นระบำกับหมู่มวลดวงดาวต่อหน้าเราสักครั้งนึงในชีวิตได้แต่แอบเก็บมันไว้ในBucket Listอยู่เหมือนกัน เพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้ไปสัมผัสเมื่อไหร่ จนเมื่อเวลานั้นมาถึงจากฝันที่กลายเป็นมากกว่าฝัน ฝันกลายเป็นจริงขึ้นมา ก็1เดือนก่อนการเดินทางของพวกเรา เริ่มต้นที่มีเวลา3คืนจะไปเที่ยวไหนกันดี โดยเพื่อนเราอยากได้หนาวๆหิมะๆ แต่ป่าเขาก็อยากไป ปรับเปลี่ยนแพลนอยู่หลายที่ทั้งในไทยไปถึงหลายประเทศจนมาจบที่Murmansk,Russia ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการสุดในตอนนั้น
ทำไมต้องเป็นแสงเหนือประเทศรัสเซีย?
คืองี๊ประเทศที่สามารถเกิดAurora(Northern Lights หรือ Aurora Borealis) ได้เนี๊ยะต้องขอวีซ่าทั้งนั้นเลยมีประเทศ SWEDEN, ICELAND, FINLAND, ALASKA AMERICA, CANADA, NORWAY, GREENLAND, SCOTLAND, DENMARK แต่มีอยู่ประเทศนึงไม่ต้องใช้วีซ่า ตั้งอยู่ในเขตArctic Circle คาบสมุทรKola ชายแดนจะติดกับประเทศนอร์เวย์และฟินแลนด์เพียงขับรถไป2ชั่วโมง นั่นก็คือเมือง Murmansk ทางตอนเหนือของประเทศRUSSIA
*เอาง่ายๆไม่มีไรมากแค่ ประเทศรัสเซีย ได้รับการยกเว้นวีซ่าสำหรับคนที่ถือPassportไทย โดยอยู่ได้ถึง30วัน แต่!!! ตั้งใจอ่านให้ดี ถ้ามาเกิน 7 วัน เราต้องให้ทางโรงแรมหรือที่พักที่เราไปอยู่นั้น ลงทะเบียนวีซ่าให้ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในบางที่ ต้องลองเจรจากันดูจ้า ส่วนเราไปไม่ถึง7วัน ก็สบายๆไม่ยุ่งยากอะไรค่ะ
*ช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคมมีโอกาสเห็นแสงเหนือมากที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดวงค่ะ ฮาา ไม่ใช่ๆเนอะ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศต่างๆ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับดวงจริงๆนะไม่เชื่อลองดู
เมื่อได้ที่จะไปแล้วเราก็เริ่มวางแผนและเตรียมการ
- เช็คราคาตั๋วทุกวัน แพงขึ้นทุกวันด้วยจากที่ดูครั้งแรกประมาณ23,xxxบาท จนถึงวันที่ต้องตัดสินใจซื้อแล้วก่อนที่จะแพงไปมากกว่านี้คือจบที่31,xxxบาท (ราคาไปกลับBKK-SVO, SVO-MMK รวมค่าโหลดกระเป๋าและเลือกที่นั่ง)
- หาที่เที่ยวMoscowในเวลาที่มีประมาณ7ชั่วโมงและที่เที่ยวหรือกิจกรรมในMurmanskที่อยากไปในเวลาที่มี2วันเต็ม
- หาที่พัก3คืนที่Murmansk โดย2คืนแรกเราพักที่Congress Hotel Meridian ในDowntownห่างจากสนามบิน40นาที คืนที่3เราไปพักนอกเมืองที่AURORA VILLAGE MURMANSK ห่างจากสนามบินชั่วโมงนิดๆ
- หาทัวร์ มีหลายเจ้ามากๆ ลองทักไปถามพูดคุยถูกจริตกับเจ้าไหนก็เอาเจ้านั้นแหละ เราถามหลายที่มากและแต่ละที่ส่วนใหญ่คุยดี แต่เราเลือกเจ้านี้เพราะเลื่อนๆเจอเห็นว่าเป็นคนไทยน่าจะคุยกันง่ายกว่าแต่ว่าสามีชาวรัสเซียพูดภาษาอังกฤษได้เป็นคนไกด์ ลองเข้าไปค้นหาในPage Facebook : แสงเหนือ Murmansk Northern Lights สไตล์ ครอบครัว ลองคุยดูค่ะเขาจะจัดโปรแกรมตามความต้องการเรา อันไหนเป็นไปได้ไม่ได้เขาแนะนำได้ค่ะ ส่วนเรื่องราคาเราว่าทุกที่ราคาพอๆกันหมดจากที่สอบถามมาค่ะโดยเริ่มที่หลักพันบาท
- ค้นเสื้อผ้า รองเท้าที่มีออกมาจัดแจงแล้วก็ซื้อเพิ่มนิดหน่อย เคยไปหนาวสุดก็ติดลบต้นๆ แต่ครั้งนี้ก่อนเดินทางเดาๆไว้ว่าจะติดลบ30 ส่วนใครที่ไม่มีเสื้อผ้าสำหรับอุณภูมิขนาดนี้ก็ต้องซื้ออ่ะแหละ มีกระทู้แนะนำเยอะเลยลองหาอ่านดูค่ะ แต่ถ้าอยากได้คำแนะนำก็ถามได้นะ
- อาหารการกินอย่าให้พร่อง เรื่องกินเรื่องใหญ่ ฮาาา แล้วแต่ความชอบกันเลยค่ะ ทางเราเตรียมไปพอสมควรแต่ไม่ให้เยอะเกินไปจนต้องแบกกลับมาอีก
- รัสเซียใช้สกุลเงินRUB เราแลกเงินกับSuperRich(สีเขียว) โดยโทรไปจองล่วงหน้าวันนึงแล้วแจ้งว่าจะไปรับที่สาขาไหน Rateที่เราแลกคือ0.48 (คิดเป็นเงินไทยง่ายๆคือหาร2) ที่แลกจากไทยเพราะจะไม่ต้องยุ่งยากและเราไม่อยากไปหยิบเงินจำนวนเยอะๆที่นู้น เซฟตัวเองไว้ก่อนน่าจะปลอดภัยสุด
- Sim Card เราใช้ Sim To Fly ของAIS มีSimเดิมอยู่แล้ว เติมเงินไป800บาท ถ้าไปซื้อSimที่รัสเซียจะได้ถูกกว่านี้ แต่ที่เราหาข้อมูลมา ว่าจะใช้Lineไม่ได้ (ใครมีข้อมูลแนะนำเราได้เลย) เราเลยเลือกSim To Fly สะดวกสุด ส่วนสัญญาณใช้ได้ปกติ แต่ที่Murmanskบางพื้นที่ไม่มีสัญญาณ
- ปลั๊กไฟ เราพกหัวแปลงเที่ยวทั่วโลกไปอันเดียวจบไปได้ทุกประเทศ
ทริปนี้หากบอกเล่าเรื่องราวผ่านภาพและเสียงไปด้วยมันคงได้อรรถรสไม่น้อย เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ทั้งสนุก เครียด น้ำตาจะไหล ประทับใจเรียกได้ว่ามันครบรสจริงๆ จะทำยังไงหาก...
- เกิดไม่สบายก่อนการเดินทาง
- คอนแทคเลนส์ขาดจนบาดตาเลยต้องใส่แว่นฝ้าน้ำแข็งก็เกาะแว่นมองอะไรไม่เห็น
- หนาวจนร้องขอชีวิตไปหลายรอบ มือเท้าชาไปหมด เย็นถึงก้านสมองก็ว่าได้
- นั่งsnowmobileลากเลื่อน ซิ่งท้านรกยิ่งกว่ารถเมล์ไทยสาย8 โดนทิ้งไว้กลางป่าที่มืดมองอะไรไม่เห็นเลยเพื่อรอนั่งลากเลื่อนฮัสกี้
- ลากเลื่อนฮัสกี้ซิ่งจนเกือบทำเราคว่ำ
- จากPrivate Tour ต้องเปลี่ยนเป็น Group Tourกับพี่จีนเพราะรถไกด์มีปัญหา
- ตกเครื่องครั้งแรกในชีวิตเพราะพายุหิมะถล่มปิดถนน
- รถติดหล่มหิมะในขณะที่ต้องรีบไปสนามบินทำให้ต้องลงไปเข็ญท่ามกลางหมู่มวลดวงดาวนับล้านในความมืดมากและอากาศหนาวเย็น-28องศา
- พายุหิมะทำให้เราหิวข้าวทั้งวันเพราะเสบียงหมด
*หลากหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเราเรียกมันว่าประสบการณ์การเดินทาง ในความหรรษาของชีวิตกลับได้มิตรภาพใหม่ๆทั้งจากไกด์และเพื่อนใหม่ที่ร่วมชะตากรรมพายุหิมะอีกด้วย
ก่อนจะเริ่มเดินทางไปพร้อมกัน โปรดเข้าห้องเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำเตรียมรับความหนาวสุดขั้วจากMurmansk และออกล่าแสงเหนือไปด้วยกันคร่า
Welcome on board ใครมีเวลาน้อยแบบพวกเราก็สามารถปรับเปลี่ยนแพลนไปใช้ได้น๊าา...
- ถ้าใครมาCheck-in แล้วไม่อยากรอแถวนาน เพราะแถวยาวมากๆ ให้เลือกOnline Check-in แล้วมาเข้าช่องที่drop baggage สำหรับกระเป๋าที่โหลด
ถ้าที่นั่งชั้นธรรมดาสุด จะได้1ใบ น้ำหนัก23KG. ส่วนCarry-on baggage 1ใบ น้ำหนัก10KG.
- พวกเรามีเวลาน้อย เลยไปแค่3คืน โดยปลายทางอยู่ที่Murmansk ซื้อตั๋วล่วงหน้าประมาณเดือนนึง เราเลือกบินตรงโดยสายการบิน Aeroflot Russian Airlines สายการบินสัญชาติรัสเซีย เราเลือกเดินทางคือตอนกลางคืนFlight BKK 22.15 - SVO 04.30 เลยได้เป็น สายการบินRossiya airlines ที่ operated by Aeroflot Russian Airlines ตอนCheck-in ต้องไปที่RowของRossiya airlinesค่ะ
- อาหารบนเครื่องจะเป็น2มื้อ รสชาติทานได้ค่ะ แต่ขนมปังไม่ไหวไม่ใช่แนวจริงๆ ที่นั่งถือว่าดี เพื่อนเราตัวสูงใหญ่นั่งได้เข่าไม่ติดถือว่าผ่าน ส่วนปลั๊กเสียบก็ตามรูปค่ะ
ก่อนเดินทางดันป่วย เริ่มทริปด้วยความเพลีย เราเดินทางกันมาประมาณ10ชั่วโมง ก็ถึงMoscow ตอนตี4.30 เวลาที่รัสเซียค่ะ เวลาที่รัสเซียจะช้ากว่าที่ไทย4ชั่วโมง เนื่องจากบินตรงกับสายการบินสัญชาติรัสเซีย เขาจะมาลงที่สนามบิน SVO หรือ Sheremetyevo International Airport เน้นย้ำขีดเส้นใต้ว่าสนามบิน ต้องดูให้ดีนะคะ ว่าสนามบินอะไรที่เครื่องลง เพราะมันมีสนามบินอื่นอีกด้วยนะคะ สำหรับใครที่มาแล้วลงสนามบินSVO เหมือนเรา ดูวิธีเข้าเมืองจากเราได้ค่ะ
เนื่องจากเราอยากมีเวลาเข้าเมือง ไปลุ้น Christmas market ที่ Moscow ว่าเก็บไปรึยัง แล้วก็อยากไป St. basil's cathedral ด้วย เลยซื้อตั๋วบินต่อไปMurmansk Flight17.50 (เราซื้อตั๋วแยกเป็น2booking ระหว่างประเทศและในประเทศ เพราะมันถูกกว่า แต่ไม่สามารถCheck Through ได้เพราะคนละสายการบินด้วยถึงแม้จะ operated โดย Aeroflot เราไม่แน่ใจว่าถ้าสายการบินเดียวกันทำการCheck Throughได้มั้ยนะคะ) ฉะนั้นเราจะไปDropกระเป๋าก่อนเข้าเมืองค่ะ
จากภาพเราลงที่Terminal D ระหว่างที่รอกระเป๋า ก็ทำการCheck-in Online SVO-MMK ก่อนเลย แล้วเราจะไปDrop กระเป๋าที่Terminal Bกัน ก่อนที่จะเข้าเมือง และจะมาขึ้นAero express แถวๆ Terminal E สำหรับใครที่กลัวจะงง ดูตามป้ายไปเรื่อยๆค่ะ ไม่ยาก จะมีป้ายบอกทางให้ไปขึ้นรถไฟในสนามบินเพื่อไปอีกTerminal จะใช้เวลาเดินสักหน่อย เราจะเสียเวลาตรงนี้กว่าจะได้เริ่มเข้าเมืองก็ 8 โมงแล้วค่ะ ดังนั้นเราจะมีเวลาในMoscow รวมการเดินทางไป-กลับในเมืองกับสนามบินประมาณ7ชั่วโมงค่ะ
ก่อนจะเริ่มเดินทาง เราอยากให้โหลด App : Yandex.Metro ไว้ก่อนค่ะ เราสามารถดูเวลาเดินรถไฟ สามารถเลือกดูได้ว่าเราจะไปไหน สถานีอะไร ใช้เวลาเท่าไหร่ สำหรับคนมีเวลาน้อย เราอยากให้เดินทางโดยรถไฟมากกว่ารถแท็กซี่นะคะ กันความเสี่ยงไว้หน่อยเพราะเราไม่รู้รถจะติดแค่ไหน เด๋วจะกลับมาต่อเครื่องไม่ทันค่ะ
หลังจากDrop กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราก็ขึ้นรถไฟในสนามบินย้อนกลับมา เดินดูตามป้ายเลยค่ะ ก็จะมาถึงรถไฟที่จะพาเราเข้าเมือง มี3วิธีเลือกซื้อตั๋วตามนี้
- จากOnline ที่ https://aeroexpress.ru/en/aero.html
- counter จำหน่ายตั๋ว
- ตู้ซื้อตั๋วอัตโนมัติ (เราเลือกวิธีนี้ อยากลองกดเอง โดยตอนซื้อ เราเลือกได้เลยซื้อขาเดียว หรือไป-กลับ จะมีให้เลือกจำนวนผู้โดยสาร1คน 2คน และเป็นกรุ๊ปคือสูงสุด4คน เราไปกัน3คน คำนวณแล้วซื้อเป็นกรุ๊ปคุ้มกว่า)
- เนื่องจากได้ตั๋วมาใบเดียว วิธีการเข้าคือ คนแรกเข้าก่อนโดยสแกนQR Code ผ่านไปแล้วส่งตั๋วต่อให้คนต่อไปสแกนเข้าตามค่ะ หน้าตารถไฟAero Express เป็นแบบนี้ มี2ชั้นค่ะ
- จากสนามบินSVO สถานีD1 ดูจากภาพตามนะคะ เราจะมาลงที่สถานี Belorusskaya เพื่อต่อMetroไปแถวRed Square
- ได้ออกมาอยู่ด้านนอกแล้วถึงได้สัมผัสอากาศหนาวอย่างแท้จริง แต่นี่แค่เริ่มต้นของทริป ยังเบาๆอยู่จ้าอยู่ที่เลขตัวเดียว ถึงติดลบต้นๆ เอง
พระอาทิตย์ขึ้นช้าค่ะ ราว10-11 โมง หิมะปรอย ท้องฟ้าเลยดูอึมครึม หลังจากเดินออกจากสถานีแล้ว คือเดินตามทางเรื่อยๆเลี้ยวขวา แล้วข้ามสะพานที่อยู่ฝั่งเดียวกับที่เราออกมานั่นล่ะ ให้สังเกตุดูค่ะ จากภาพ เราออกมาจากทางขวา แต่ตอนเรากลับ เราจะขึ้นAero Expressฝั่งซ้ายนะคะ
- เดินไปเรื่อยๆพ้นสะพานให้มองหาตัว M สีแดง (หมายถึงMetro) ให้เลี้ยวเข้าเลยค่ะ เราเลือกซื้อบัตรแบบนี้ โดยซื้อเที่ยวไว้ในบัตร ลองคำนวณกันดูนะคะ ว่าจะใช้กี่เที่ยว เราสามารถใช้บัตรเดียวกันได้โดยแตะบัตรเข้าแล้วส่งต่อกันค่ะ พวกเราซื้อ12เที่ยว ราคารวมบัตรด้วย506RUB บัตรมีอายุการใช้งาน1ปี
- จะดูให้ง่ายให้ดูจากสีค่ะ ถ้าเข้าไปด้านในMetroแล้ว จะมีทางให้ไปหลายสาย ดูจากสีแล้วค่อยมาดูสถานีจะง่ายหน่อย ปกติแล้วเราเป็นประเภทชอบหลง มันแบบงงๆ ขนาดMRTที่ไทยยังหลงทิศ ที่อังกฤษยังหลงทาง #หลงเก่ง โชคดีครั้งนี้มีเพื่อนมาด้วย เลยไม่หลง ฮาา กลับเข้าเรื่องค่ะ เราไปสายสีเขียวนะคะ จากสถานีBelorusskaya ไปลงสถานีTeatralnaya
- จากสถานีTeatralnaya ออกมาจะเจอที่เขาประดับไฟอยู่ เราไม่รู้ชื่อสถานที่ตรงนี้เรียกว่าอะไร แต่ใจอ่ะชื้นขึ้นมาเลยว่า Christmas market ที่ใฝ่ฝัน มันต้องยังมีอยู่แน่เลย เราข้ามถนนจากตรงนี้มาจะเจอรูปปั้น Karl Marx Monument แล้วเดินต่อไปด้านหลังของรูปปั้น จะเจอตึกทอดยาวสีแดงๆ
เดินมาเรื่อยๆ ทางด้านซ้ายมือ เราจะเลี้ยวเข้าสู่โซน Red Square ทางด้านขวาของภาพคือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสต์ (State Historical Museum) วงกลมที่ยืนอยู่คือที่ตั้งของกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซียจ้า
+++ มีต่อที่Commentค่ะ +++
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้