สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบใจอ้าย
ระหว่าง คนสองคน ต้องแยกให้ออกนะว่า ใครกำลังทำ และรู้สึกอย่างไร
ยิ่ง คนสองคน ที่ไม่ได้มี cheer อะไรเกี่ยวพันกันเลย ก็ยิ่งต้องแยก อารมณ์และความรู้สึกต่างๆออกจากกัน
อย่างเรื่องของ ตัวป่วน ที่เคยป่วนชาวบ้าน
ถ้าเขาแค่ป่วน แล้ว ไม่มาวุ่นวายกับเรา
เขาก็ทำไป เราก็เสพไปเท่าที่มี
ถึงเราจะอ่านที่เขาโพส หรือเขาจะโพสถึงเรา
มันก็คือเรื่องราว ที่จบไปตรงนั้น ขณะนั้น
มันไม่มีอะไรต่อเนื่องมาถึงตอนนี้สักนิด
เห็นไหม มันว่างเปล่า (ไม่ต้องสงสัยนะ ว่า ว่างแล้วจะเห็นได้อย่างไร 😂😂😂)
จน..... เมื่อตัวป่วนตัวหนึ่งเรียกเรา ตัดสินเรา ให้ค่าเราเป็นผู้เนรคุณคน
ความมันไม่จบ ความมันยาว เพราะจนถึงตอนนี้ นางยังไม่ถอนคำพูด และเรายังสงสัย
แม้เราจะไม่ได้เป็นอย่างที่นางบอก หรือ ไม่มีใครคิดอย่างนาง แต่ เราไม่จบ
ที่ไม่จบ เพราะถึงตอนนี้ เราก็ยังคิดว่า นางมีสิทธิอะไรมาตัดสินเราด้วยความคิดและจริตของนาง
ดังนั้น เราจึงต้อง สืบสานเอาเรื่อง ให้ถึงที่สุด
อย่างที่รู้ๆ กัน
กับอีกเรื่อง ที่มีคนทำอะไรไว้กับเรา
เขาทำกับเรา เพราะเขาคิดแค้น คิดเอาชนะ คิดข่มขู่ คิดใช้สถานการณ์เลวร้ายของเราเพื่อเป็นประโยชน์ของเขา
แต่การกระทำของเขา มันทำให้ตัวเขาเองต้องได้รับโทษทัณฑ์ รับกรรมที่ตัวเองก่อ
ไฟที่เขาจุด มันเผาตัวเขาเอง
และเราเชื่อเสมอว่า คนจุดไฟ จำเป็นต้องดับไฟด้วยตัวเอง
สิ่งที่เราทำ คือ ไม่ได้ทำอะไร
เราไม่ได้อภัย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นยังไม่ได้รับคำอธิบาย
เราแค่ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะไม่รู้จะต้องมีความรู้สึกอะไรกับตรงไหน
แต่สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ คือ การเปิดโอกาส
ซึ่งเราไม่เรียกร้อง
เราแค่เปิดโอกาสให้คนที่จุดไฟ เข้ามาดับไฟด้วยตัวเอง
คำว่าอภัย มันไม่ใช่จู่ๆจะยกขึ้นมาได้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่า "ใคร" ทำ "อะไร" ไว้บ้าง
อีกอย่างนะ
สมมุตินะ สมมุติ
สมมุติ อ้ายทำสิ่งเลวทรามไว้ ครั้งหนึ่ง
เมื่อไม่มีใครสาวความ ก็ทำอีกซ้ำสอง
ไม่มีใครเอาความ ก็ทำอีกซ้ำสาม
ตะนี้ เจอสวนละ
อ้ายก็บอก เออ อ้ายผิด ที่ทำให้เอ็ง โกรธใน**ครั้งนี้**
หยุด!!!!!!!
มันไม่ใช่.......
ไม่ใช่แค่ครั้งนี้สิ
นี่มันครั้งที่สามละนะ
อ้ายจะมาโมเมว่า สองครั้งไม่เกี่ยวกัน เพราะไม่สาวความ มันไม่ใช่!!!!
อ้าย........
มันไม่ได้มีอะไรง่ายดายอย่างนั้นหรอก
เรารู้ว่า เราเป็นคนไม่ชัดเจน ในวัตถุประสงค์ เพราะ เราบอกออกมาตรงๆไม่ได้
แม้ว่า **มีเหตุผลเดียวที่ทำให้เกิดบทสรุป**
แต่มิใช่
แต่มิใช่มีเหตุผลเดียวประมวลเพื่อให้ได้ข้อสรุปออกมา
เหตุผล 108-1009 มันมีบทสรุปออกมา แค่จุดเดียว
เราเป็นประเภท ชอบเปิดโอกาส
จนบางที ก็มีคนเอาโอกาสเหล่านี้ มาเล่นงานเราอีก
เราก็ยังเชื่ออีกว่า การกระทำเหล่านั้น ย่อมเป็นการ *เผาตัวเอง* อีกเช่นกัน
การเปิดโอกาสในครั้งนี้ คนที่ได้โอกาส สามารถตัดสินใจได้สองทาง
ทางแรก หยุด ยกมือขึ้นเหนือศรีษะ แล้วบอกว่า ยอมแพ้
หรืออีกทาง เดินหน้า เรียนรู้ที่จะต่อสู้อย่างมีชั้นเชิง เพื่อที่จะกลับมาที่จุดเดิมเพื่อเริ่มต้นใหม่ โดยมีประสบการณ์มาช่วยอำนวยความสะดวก
เอาตรงๆเลยนะอ้าย
อย่าเพิ่งหวังสำนึกอะไรเลย
รู้ตัวกันหรือเปล่า ว่า มีคนสองคน ที่เป็นเจ้าทุกข์ ไม่ใช่คนเดียว
เอาจริง รู้จุดนี้กันไหม 😂😂😂😂
ระหว่าง คนสองคน ต้องแยกให้ออกนะว่า ใครกำลังทำ และรู้สึกอย่างไร
ยิ่ง คนสองคน ที่ไม่ได้มี cheer อะไรเกี่ยวพันกันเลย ก็ยิ่งต้องแยก อารมณ์และความรู้สึกต่างๆออกจากกัน
อย่างเรื่องของ ตัวป่วน ที่เคยป่วนชาวบ้าน
ถ้าเขาแค่ป่วน แล้ว ไม่มาวุ่นวายกับเรา
เขาก็ทำไป เราก็เสพไปเท่าที่มี
ถึงเราจะอ่านที่เขาโพส หรือเขาจะโพสถึงเรา
มันก็คือเรื่องราว ที่จบไปตรงนั้น ขณะนั้น
มันไม่มีอะไรต่อเนื่องมาถึงตอนนี้สักนิด
เห็นไหม มันว่างเปล่า (ไม่ต้องสงสัยนะ ว่า ว่างแล้วจะเห็นได้อย่างไร 😂😂😂)
จน..... เมื่อตัวป่วนตัวหนึ่งเรียกเรา ตัดสินเรา ให้ค่าเราเป็นผู้เนรคุณคน
ความมันไม่จบ ความมันยาว เพราะจนถึงตอนนี้ นางยังไม่ถอนคำพูด และเรายังสงสัย
แม้เราจะไม่ได้เป็นอย่างที่นางบอก หรือ ไม่มีใครคิดอย่างนาง แต่ เราไม่จบ
ที่ไม่จบ เพราะถึงตอนนี้ เราก็ยังคิดว่า นางมีสิทธิอะไรมาตัดสินเราด้วยความคิดและจริตของนาง
ดังนั้น เราจึงต้อง สืบสานเอาเรื่อง ให้ถึงที่สุด
อย่างที่รู้ๆ กัน
กับอีกเรื่อง ที่มีคนทำอะไรไว้กับเรา
เขาทำกับเรา เพราะเขาคิดแค้น คิดเอาชนะ คิดข่มขู่ คิดใช้สถานการณ์เลวร้ายของเราเพื่อเป็นประโยชน์ของเขา
แต่การกระทำของเขา มันทำให้ตัวเขาเองต้องได้รับโทษทัณฑ์ รับกรรมที่ตัวเองก่อ
ไฟที่เขาจุด มันเผาตัวเขาเอง
และเราเชื่อเสมอว่า คนจุดไฟ จำเป็นต้องดับไฟด้วยตัวเอง
สิ่งที่เราทำ คือ ไม่ได้ทำอะไร
เราไม่ได้อภัย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นยังไม่ได้รับคำอธิบาย
เราแค่ยังไม่ได้ทำอะไร เพราะไม่รู้จะต้องมีความรู้สึกอะไรกับตรงไหน
แต่สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ คือ การเปิดโอกาส
ซึ่งเราไม่เรียกร้อง
เราแค่เปิดโอกาสให้คนที่จุดไฟ เข้ามาดับไฟด้วยตัวเอง
คำว่าอภัย มันไม่ใช่จู่ๆจะยกขึ้นมาได้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่า "ใคร" ทำ "อะไร" ไว้บ้าง
อีกอย่างนะ
สมมุตินะ สมมุติ
สมมุติ อ้ายทำสิ่งเลวทรามไว้ ครั้งหนึ่ง
เมื่อไม่มีใครสาวความ ก็ทำอีกซ้ำสอง
ไม่มีใครเอาความ ก็ทำอีกซ้ำสาม
ตะนี้ เจอสวนละ
อ้ายก็บอก เออ อ้ายผิด ที่ทำให้เอ็ง โกรธใน**ครั้งนี้**
หยุด!!!!!!!
มันไม่ใช่.......
ไม่ใช่แค่ครั้งนี้สิ
นี่มันครั้งที่สามละนะ
อ้ายจะมาโมเมว่า สองครั้งไม่เกี่ยวกัน เพราะไม่สาวความ มันไม่ใช่!!!!
อ้าย........
มันไม่ได้มีอะไรง่ายดายอย่างนั้นหรอก
เรารู้ว่า เราเป็นคนไม่ชัดเจน ในวัตถุประสงค์ เพราะ เราบอกออกมาตรงๆไม่ได้
แม้ว่า **มีเหตุผลเดียวที่ทำให้เกิดบทสรุป**
แต่มิใช่
แต่มิใช่มีเหตุผลเดียวประมวลเพื่อให้ได้ข้อสรุปออกมา
เหตุผล 108-1009 มันมีบทสรุปออกมา แค่จุดเดียว
เราเป็นประเภท ชอบเปิดโอกาส
จนบางที ก็มีคนเอาโอกาสเหล่านี้ มาเล่นงานเราอีก
เราก็ยังเชื่ออีกว่า การกระทำเหล่านั้น ย่อมเป็นการ *เผาตัวเอง* อีกเช่นกัน
การเปิดโอกาสในครั้งนี้ คนที่ได้โอกาส สามารถตัดสินใจได้สองทาง
ทางแรก หยุด ยกมือขึ้นเหนือศรีษะ แล้วบอกว่า ยอมแพ้
หรืออีกทาง เดินหน้า เรียนรู้ที่จะต่อสู้อย่างมีชั้นเชิง เพื่อที่จะกลับมาที่จุดเดิมเพื่อเริ่มต้นใหม่ โดยมีประสบการณ์มาช่วยอำนวยความสะดวก
เอาตรงๆเลยนะอ้าย
อย่าเพิ่งหวังสำนึกอะไรเลย
รู้ตัวกันหรือเปล่า ว่า มีคนสองคน ที่เป็นเจ้าทุกข์ ไม่ใช่คนเดียว
เอาจริง รู้จุดนี้กันไหม 😂😂😂😂
แสดงความคิดเห็น
สิบปียังไม่สาย .................................................. โดย ตระกองขวัญ