●● การอนุญาตขายเหล้า 3 พ.ค. - เร็วเกินไปหรือไม่ ●●

มีหลักฐานยืนยันจากการสอบสวนโรคในหลายกรณีว่ามีการแพร่กระจายเชื้อในสถานบันเทิง
และในการจับกลุ่มตั้งวงดื่มสุรา และเมื่อห้ามขายสุราจึงส่งผลให้การติดเชื้อลดน้อยลง

การอนุญาตให้ขายสุราได้...เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดคลื่นลูกที่สองของการระบาดมากขึ้นไปอีก
อันเป็นผลทั้งจากการรวมกลุ่ม และการขาดสติสัมปชัญญะของบางคน ที่สามารถกระทำทุกอย่างได้
แม้กระทั่งฆ่าพ่อแม่ตนเอง...

บางคนที่ร้องเรียนว่าไม่มีเงิน  จะอดตาย...
แต่อาจมีปัญญาหาสุรามาร่ำดื่มได้

มาตรการนี้มีประโยชน์อะไรในสถานการณ์โควิด
นึกไม่ออกเลยจริงๆ

ขอแสดงความไม่เห็นด้วยกับมาตรการผ่อนคลายนี้ครับ...

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

●● หมอติงรัฐอนุญาตขายเหล้า 3 พ.ค. เร็วเกินไป ●●
          ( Sat, 2020-05-02 16:01 -- hfocus team )



แพทย์-มูลนิธิเมาไม่ขับ-นักวิชาการ ติงรัฐบาลให้ขายสุราเร็วเกินไป ควรเป็นมาตรการผ่อนปรนท้ายสุด
แม้ให้ซื้อกลับบ้านหวังดื่มคนเดียว ซึ่งเป็นไปได้ยาก หวั่นโควิดระบาดระลอก 2

จากกรณีที่ รองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม ได้แถลงว่า สามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลับบ้านได้
เริ่มตั้งแต่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป

วันที่ 2 พ.ค. นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา และคณะกรรมการมูลนิธิแพทย์ชนบท
กล่าวว่า เข้าใจว่ารัฐบาลพยายามจะผ่อนคลายในหลายมาตรการ แต่การที่ให้เปิดกิจการต่างๆ พร้อมกับประกาศให้มี
วันหยุดยาว และคนแห่เดินทางข้ามจังหวัดเป็นอันมากแบบห้ามไม่ได้ พร้อมทั้งให้ขายสุราได้นั้น เป็นความเสี่ยงที่อันตรายอาจจะทำให้โควิดเวฟ2 มาเร็วกว่าที่คิดไว้ ทุกคนรู้ว่าการรักษาระยะห่างทางสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญ

แต่ส่วนที่ยังควบคุมไม่ได้คือการที่มีบางคนแอบไปตั้งวงดื่มสุรา แต่เมื่อห้ามขายสุราก็ลดคนตั้งวงดื่มได้
เพราะร้านค้าไม่กล้าขายกลัวถูกยึดใบอนุญาต แต่เมื่อมีการปลดล๊อคให้ขายสุราได้ แต่ขอความร่วมมือไม่ดื่ม
รวมกลุ่มหลายคน ถ้าใครไปแอบตั้งวงก๊ง ก็ไม่มีความผิด อย่างนี้เป็นมาตรการที่บังคับใช้ไม่ได้จริง


                                                                  นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์

“การที่ให้ซื้อกลับบ้านได้และหวังว่าคนจะซื้อไปดื่มคนเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะเหล้าดื่มเพื่อบรรยากาศ คนที่จะดื่ม
สุราคนเดียวก็คือคนที่ติดสุราเท่านั้น

แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยคุมการติดเชื้อโควิดได้จนเหลือ เลขหลักเดียวแล้ว แต่ยังมีผู้ติดเชื้อไม่มีอาการหรือมีอาการ
เล็กน้อย พร้อมที่จะเป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อได้ตลอดเวลา เหมือนระเบิดเวลาที่รอการจุดเชื้อเพลิง

ในขณะนี้ส่วนสำคัญคือภาคส่วนธุรกิจที่จะเดินหน้าไม่ควรนำเรื่องการดื่มสุรา ซึ่งเป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคลไป
ผูกไว้ด้วย ถ้าคิดว่าเกิดระบาดเพิ่มค่อยหยุดขายสุรา กลัวจะไม่ทันการณ์ ถ้าอยากผ่อนคลายให้ขายสุราได้ควรจะ
เป็นกลางเดือนพ.ค.น่าจะปลอดภัยกว่า”

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า เป็นการเร็วไปที่จะให้จำหน่ายสุราในขณะนี้ การจะให้
จำหน่ายสุราได้น่าจะเป็นมาตรการท้ายสุดที่จะมีการผ่อนปรนเพราะสุราไม่ใช่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต

ยืนยันได้ว่าในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาไม่มีรายงานทางการแพทย์ว่ามีผู้ใดลงแดงตายเพราะไม่ได้ดื่มสุราแม้ในผู้ที่
ติดสุราอย่างหนัก

ในทาง ตรงกันข้ามองค์การอนามัยโลกได้ออกคำเตือนว่าสุราทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด19มากขึ้น
จากการที่ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง

ถ้าภายใน7ถึง 14 วันข้างหน้าเกิดมีการติดเชื้อมากขึ้นแล้วต้องมีการปิดสถานที่ต่างๆที่ได้รับการผ่อนปรนในขณะนี้
จะทำให้ธุรกิจอื่นๆได้รับผลกระทบไปด้วย

การผ่อนผันให้จำหน่ายสุราได้เหมือนกับการผ่อนผันให้ว่าไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยได้แล้ว เป็นการลดการ์ดลง
แล้วเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้น็อคได้ตลอดเวลา ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาในอนาคต


                                                                 นพ.แท้จริง ศิริพานิช

นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลกได้ให้ความเห็นว่า

เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วที่มีการห้ามขายสุราทั้งประเทศในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้
ประเทศไทยสามารถควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดได้ดี

ดังที่มีหลักฐานยืนยันจากการสอบสวนโรคในหลายกรณีว่ามีการแพร่กระจายเชื้อในสถานบันเทิงและในการจับกลุ่ม
ตั้งวงดื่มสุรา เมื่อห้ามขายสุราจึงส่งผลให้การติดเชื้อลดน้อยลง

และจากการสำรวจโดยศูนย์วิจัยปัญหาสุราพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 90.5 ไม่ได้รับความเดือดร้อนจาก
มาตรการห้ามขายสุรา และร้อยละ 77.6 ทราบดีว่าการดื่มสุราทำลายภูมิต้านทานของร่างกายและทำให้ติดเชื้อ
โควิดได้ง่ายขึ้น ซึ่งแสดงว่าประชาชนส่วนใหญ่รับรู้และยินดีปฎิบัติตามมาตรการนี้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว มาตรการผ่อนคลายนั้นเป็นสิ่งที่ดี

แต่การผ่อนคลายให้ขายสุราได้ควรเป็นมาตรการสุดท้ายที่ผ่อนคลาย ไม่ควรเป็นเวลานี้ ไม่เช่นนั้นความพยายาม
ที่ทำมาทั้งหมดอาจจะพังลงได้

“การที่รัฐบาลโยนไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตัดสินใจห้ามขายสุรากันเองนั้น จะส่งผลให้มีการปฎิบัติที่แตกต่างกัน
 ทำให้แต่ละจังหวัดตัดสินใจลำบาก ไม่เป็นเอกภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนไม่ปฎิบัติตามและเดินทางข้ามจังหวัด
ไปซื้ออีกจังหวัดหนึ่ง เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อขึ้นมาใหม่ได้”นพ.วิทยากล่าว


                                                          นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย

Cr.   :  https://www.hfocus.org/content/2020/05/19200
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่