รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 22 ทายาทคนใหม่

รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 22 ทายาทคนใหม่



ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
.......................................................................................................................

เดชศักดาเข่าอ่อนทรุดกับพื้น ความรู้สึกในขณะนี้เหมือนมีแรงดันอย่างมหาศาลพุ่งเข้ามาสุมประทุอยู่ตรงหน้าอกอย่างไม่ทันตั้งรับ
อารมณ์ของเขาค่อนข้างสับสน อีกใจหนึ่งรู้สึกดีใจเกี่ยวกับการปรากฏตัวของทายาทนิรนาม อีกใจหนึ่งยังไม่ได้เตรียมใจกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้

"แล้วมะรึงจะทำยังไงต่อไป?" หมอทรงทรัพย์สอบถามเพื่อนสนิท

"กูคงต้องจ้างนักสืบไปตามหาก่อน พอเจอตัวแล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอายังไง? เรื่องตรวจดีเอ็นเอ ต้องทำแน่นอนเพื่อความสบายใจของหลายๆฝ่าย คิดไม่ถึงว่าบุนตาจะท้องกับกูได้ ตอนรู้ว่าเพิ่งท้อง เขาน่าจะบอกให้กูรู้ตัวก่อน นี่อะไร ไปแล้วไปลับ พอติดต่อกลับมาอีกที ทุกอย่างก็สายเกินแก้" เดชศักดายังคงอยู่ในอาการมึนงง

"ค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละจุด อะไรที่กูช่วยได้ กูจะช่วยอย่างเต็มที่ ทางฝ่ายกูก็มีส่วนรับผิดชอบเหมือนกัน" หมอทรงทรัพย์ตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนสนิท

เดชศักดาจ้องมองดูเนื้อความในจดหมายอีกรอบ เมื่ออ่านชื่อลูกชายนิรนามของเขา ประสาทความทรงจำได้ทำหน้าของมันออกมาอย่างรู้การรู้งาน

"หนึ่งบุรุษ ชื่อมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ซ้ำใครแบบนี้ กูรู้สึกคุ้นๆเหมือนเพิ่งได้ยินมาไม่นานนี้ ชื่อใครนะ? “ เดชศักดาพึมพำ 

ขณะที่กำลังหันมาคุยกับหมอทรงทรัพย์ สายตาเดชศักดาทำมุมอยู่ในระดับเดียวกับสร้อยคอทองคำที่แขวนไว้บนคอของเพื่อนสนิท อย่างพอเหมาะพอดี มันเหมือนเป็นคำใบ้บ่งบอกโดยนัย

สร้อยคอทองคำเส้นที่ชายหนุ่มคนงานคอกม้าใส่ แรกเห็นเขารู้สึกคุ้นเคยกับสร้อยเส้นนั้นมาก แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน? 

ใช่แล้ว.. สร้อยคอทองคำหนัก 2บาท เส้นนั้น คือของขวัญวันเกิดที่เขาซื้อให้กับบุนตา นั่นเอง

อีกเหตุผลสนับสนุนความเป็นไปได้ให้มีน้ำหนักยิ่งขึ้นคือ ชายหนุ่มคนงานคอกม้าได้บอกว่า สร้อยเส้นเป็นมรดกชิ้นเดียวนั้นชีวิตที่มารดาของเขาได้มอบให้ 

ราวกับว่าทุกอย่างเบื้องบนช่างจัดสรรให้เกิดขึ้นอย่างลงตัวและประจวบเหมาะมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มันเหมือนจุดใต้ตำตอแท้ๆ

เดชศักดาได้เล่าเรื่องของชายหนุ่มคนงานคอกม้าให้เพื่อนสนิทฟัง ทั้งสองต่างปรึกษากันอยู่พักใหญ่ จึงตัดสินใจเรียกให้ชายหนุ่มคนดังกล่าวเข้ามาพบเป็นการส่วนตัวอย่างเร่งด่วน

………………………………………………………………………………...

หนึ่งบุรุษแปลกใจปนตกใจเล็กน้อย ที่จู่ๆโดนนายใหญ่เรียกเข้าไปพบอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

"ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมอยู่ข้างพี่เดียวเสมอ ถ้าคุณลุงเดชไล่พี่ออก ผมและครอบครัวไม่มีวันทิ้งพี่แน่นอน" มาร์ตี้ให้กำลังใจชายคนรัก

"รบกวนมาร์ตี้รออยู่ข้างนอกก่อนนะ ลุงมีเรื่องสำคัญมากอยากจะคุยกับนายเดียวเป็นการส่วนตัว" เดชศักดาบอกให้เด็กหนุ่มทราบ

บรรยากาศที่เงียบกริบภายในห้อง ทำให้หนึ่งบุรุษรู้สึกอึดใจเป็นอย่างมาก เขานั่งก้มหน้าก้มตาเพื่อเตรียมตัวตอบคำถามที่กำลังจะกระหน่ำเข้ามา

"ทำตัวตามสบายนะ ฉันแค่อยากจะถามเรื่องส่วนตัวของพ่อหนุ่มบางเรื่อง แม่ของพ่อหนุ่มชื่ออะไร?" เดชศักดาเปิดเกมส์รุกอย่างไม่รีรอ

"แม่ผมชื่อ บุนตา  ครับ" หนึ่งบุรุษตอบอย่างตรงไปตรงมา

คำตอบจากปากของชายหนุ่ม ทำเอาหัวใจของเดชศักดาแทบจะหยุดเต้นเลยทีเดียว มันเป็นคำตอบที่ตรงตัวชัดเจน สามารถไขปริศนาด่านแรกได้อย่างฉลุย

"พ่อหนุ่มเคยบวชเรียนที่วัดบ้านแฮะมาก่อนใช่ไหม?" 

"ครับ…. คุณท่านทราบได้อย่างไร?" หนึ่งบุรุษแปลกใจ

มาถึงจุดนี้ เดชศักดาค่อนข้างมั่นใจแล้วว่า ชายหนุ่มคนนี้คือสายเลือดที่แท้จริงของเขา   เขายื่นจดหมายฉบับนั้นให้หนึ่งบุรุษ แทนคำอธิบายทั้งหมด

หลังจากอ่านข้อความในจดหมาย หนึ่งบุรุษถึงกับช็อคทั้งล้มทั้งยืน เหมือนทุกสิ่งรอบด้านถาโถมพุ่งเข้ามาปะทะตัวเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว มันสับสนเวิ้งว้าง จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่สามารถแยกแยะได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือแค่ความฝัน

เขายืนนิ่งเงียบไม่มีปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น สีหน้าดูมึนงง ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

......................…………………………………………………………

"เมื่อตอนสาย คุณเดชเรียกประชุมทุกคนในครอบครัวเพื่อบอกเรื่องสำคัญ ยังดีที่ข้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เลยได้อานิสงฆ์รู้เรื่องเด็ดๆลับสุดยอดก่อนที่คุณเดชจะบอกให้พวกพนักงานรู้" เฉลียวศรีป่าวประกาศข่าวต่อหน้าพนักงานทุกคนที่กำลังนั่งกินข้าวและพักผ่อนอยู่ในโรงอาหาร

"มีข่าวอะไรที่มันแซ่บและลับสุดยอดอีกอา? คงไม่ใช่เรื่องงานแต่งของคุณทะเลกับคุณไบร์นี่? หรือเรื่องคุณเดชเคยเป็นกิ๊กเก่าของคุณซอนย่า? เรื่องพวกนั้นคนทั้งไร่เขารู้กันทั่วจนไม่มีใครสนใจอยากรู้อยากเห็นอีกแล้ว" ฉลองชัยทำหน้าเซ็งๆ

"ไอ้ข่าวพวกนั้น มันข่าวเก่าแล้วยะหล่อน ข่าวที่ข้ากำลังจะรายงานสดตอนนี้ เป็นข่าวใหม่ล่าสุด ไม่มีใครรู้เห็นหรือมีมูลมาก่อน ขนาดข้าเองฟังแล้วยังช็อคซีนีม่า ตะลึงสะพรึงไม่หาย คุณพระคุณเจ้า พุทธโธธัมโมสังโฆ...  ออกมาจากท้องพ่อท้องแม่เพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้ด้วย" เฉลียวศรีพล่าม

"มีอะไรรีบเล่ามา ณ บัดนาว เดี๋ยวนี้เลยอา" ฉลองชัยใคร่รู้

เฉลียวศรีเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ได้ประสบพบเห็นมาให้พนักงานทุกคนที่อยู่ในโรงอาหารฟังบรรดาพนักงานในโรงอาหารฟัง อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ เธอบรรยายเป็นฉากๆชนิดเห็นภาพโดยไม่ต้องใช้จินตนาการมาก

…………………………………………………………………………………………………..

นายจอมพลกับคุณหญิงทิพย์อาภารับขวัญหลานชายคนโต ด้วยความตื่นเต้นดีใจ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีหลานชายเพิ่มมาอีกคน จากวีรกรรมสุดแสบของลูกชายเพล์บอย

ถ้าเป็นเมื่อก่อน มันเป็นการยากมากสำหรับผู้หญิงที่มีหน้าตาฐานะทางสังคมชั้นสูงอย่างคุณหญิงทิพย์อาภา ที่จะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้ แต่ด้วยประสบการณ์ชีวิตช่วงหนึ่งที่ครอบครัวเจอพิษเศรษฐกิจจนถึงขั้นเกือบล้มละลาย ประกอบกับวัยวุฒิที่มากขึ้น ทำให้มุมมองและทัศนคติเปลี่ยนไปในทางที่ดี

"ได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันซะที ลูกมาทำงานในไร่นี้ มาอยู่ใกล้พ่อ ใกล้ปู่กับย่า โดยที่พวกเรากลับไม่รู้จักกันเลย จุดใต้ตำตอแท้ๆ โชคยังดีมีวาสนาต่อกัน เลยได้พบได้เจอกัน หมดทุกข์หมดโศกซะที บุญรักษานะลูกเอ๊ย" คุณหญิงทิพย์อาภามองหน้าหลานชายคนโตด้วยความเอ็นดู

"ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่ตึกใหญ่ ซะวันนี้เลยนะ ปู่สั่งให้คนไปจัดเตรียมห้องหับไว้ให้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ด้วย" นายจอมพลบอกหลานชายคนโต

"งานที่คอกม้า ถ้ามันหนักมันลำบากมาก ก็ไม่ต้องไปทำมัน ลูกอยากจะทำอะไรที่ตัวเองถนัดและชอบ หรืออยากไปเรียนต่อ บอกย่าได้นะ ย่าสนับสนุนเต็มที่" คุณหญิงทิพย์อาภาพยายามเติมเต็มส่วนที่ขาดหายให้หลานชายคนโต

"ผมดีใจมากที่ได้เจอคุณพ่อ คุณปู่ คุณหญิงย่า ผมซาบซึ้งในความเมตตากรุณาของทุกคนที่มีต่อผม ไม่ได้รังเกียจตัวผม ชาติตระกูลของแม่ผม ส่วนเรื่องอนาคตของผมนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้คิดวางแผนเลยครับ  แต่... ก่อนหน้านี้ ผมได้รับปากกับมาร์ตี้และครอบครัวไว้แล้วว่า หลังจากงานแต่งของคุณทะเล เออ.. น้องทะเล ผมจะไปทำงานที่เมืองนอกกับพวกเขาครับ ผมขอเวลาไปอยู่ที่โน่นก่อนเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจซักระยะหนึ่ง ไว้พร้อมเมื่อไหร่ ผมรีบจะกลับมาหาทุกคนที่นี่ทันที" หนึ่งบุรุษบ่งบอกเจตนารมณ์อันแน่วแน่

"ถ้าลูกต้องการแบบนั้น พ่อก็ไม่ขัดขวาง พ่อคนนี้ยินดีและสนับสนุนลูกเต็มที่" เดชศักดายอมรับการตัดสินใจของลูกชายคนโต

.....................................................................................................................

ทุกคนในครอบครัวของธานี รวมทั้งเรย์และหนึ่งบุรุษ นั่งคุยกันอยู่ที่ระเบียบกว้างหน้าเรือนพักรับรอง โดยมีหมอทรงทรัพย์และครอบครัวตามเข้ามาสมทบทีหลัง

"คุณเดชตอนหนุ่มๆท่าทางจะคาสโนว่าตัวพ่อ จู่ๆก็ได้พบลูกชายคนโตที่พลัดพราก โดยไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนมาก่อน บุญพาวาสนาส่งจริงๆ" ธานีพูดขึ้นกลางวงสนทนา

"ตัวพ่อยังน้อยไป ต้องตัวปู่ตัวทวดเลยค่ะ ถึงจะสมศักดิ์ศรี สมัยตอนหนุ่มๆวีรกรรมใช่ย่อยนะคะ เจอสาวๆสวยๆที่ไหนเป็นไม่ได้ค่ะ พ่อคุณฟาดเรียบหมด   ขนาดคุณฟ้าอุตส่าห์ตามมาเฝ้าถึงที่นี่ ยังเอาไม่อยู่ พ่อปลาไหลใส่สเก็ตตัวจริง" สินไหมแสดงความคิดเห็นอย่างดุเด็ด

หมอทรงทรัพย์ไอกระแอมเป็นการส่งสัญญาณปรามภรรยา

"ผมเป็นเพื่อนกับไอ้เดชตั้งแต่สมัยยังเด็ก โตมาด้วยกัน ถึงมันจะเจ้าชู้ไก่แจ้ แต่โดยเนื้อแท้แล้ว มันเป็นคนดีมีน้ำใจมากคนหนึ่ง ไม่ถือเนื้อถือตัว ติดดิน ลุยถึงไหนถึงกัน" หมอทรงทรัพย์แก้ต่างแทนเพื่อนสนิท

"ตั้งแต่เจอพ่อ ดูสดชื่นสดใสขึ้นมานะ เมื่อก่อนเห็นเงียบๆไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ หน้าตาก็ดูเศร้าสร้อย ต่อไปนี้ชีวิตของเราจะเจอแต่เรื่องดีๆแล้ว น้าดีใจมากที่เห็นเรามีความสุข" บัวซอนพูดกับคนรักของลูกชาย 

หนึ่งบุรุษยกมือไหว้ขอบคุณ

"ตาสวยปนเศร้าเหมือนบุญตาเลยเนอะ ส่วนความหล่อได้ทางคุณเดชไปเต็มๆ"  สินไหมกวาดสายตามาทางหนึ่งบุรุษ

"คุณน้าเคยเห็นแม่ผมด้วยหรือครับ?" หนึ่งบุรุษเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

"เคยซิจ๊ะ สมัยนั้นแม่เรามาซื้อของที่ร้านน้าบ่อย บุนตาเป็นผู้หญิงที่สวยคมมาก หนุ่มๆคนไหนเห็นต้องหลงรักทุกราย" สินไหมเล่าความหลัง

"แม่เราก็เคยมาอุดหนุนร้านก๋วยเตี๋ยวน้าเหมือนกัน เหมือนที่ป้าไหมบอกนั่นแหละ แม่เรานอกจากจะสวยแล้ว เท่าที่ได้เคยคุยกัน เขาเป็นคนที่มีจิตใจดีงามคนหนึ่ง ไม่เคยคิดร้ายไม่เคยนินทาว่าร้ายให้ใครเลย    เราจงภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกแม่บุนตา" บัวซอนสนับสนุนคำพูดของเพื่อนสนิท

"ตอนนี้ไม่ได้เป็นลูกชายคนโตของครอบครัวแล้วซิ เปลี่ยนตำแหน่งกลายเป็นลูกชายรอง ดีใจไหมเราที่จู่ๆได้พี่ชายมา?" หมอทรงทรัพย์พูดเล่นกับเรย์

"ดีใจและเซอร์ไพร์สมากที่รู้ว่ามีพี่ชายที่พลัดพรากจากกันและได้มาเจอกัน เหมือนในละครน้ำเน่าเลย ถึงพวกเราจะต่างแม่กัน แต่ก็เป็นลูกพ่อเหมือนกัน สายใยความเป็นพี่น้องยังไงมันก็เข้มข้นอยู่ในตัวแล้ว ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวศรีโยธาวัฒน์นะครับ พี่เดียว" เรย์ยกกระป๋องเบียร์ในมือขึ้นเพื่อเป็นการต้อนรับพี่ชาย

"ขอบใจมาก น้องทะเล" หนึ่งบุรุษตอบรับไมตรีจากน้องชาย

...……………………………………………………………………………………..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่