เรากับแฟนคบกันมานาน แต่ก่อนรักกันดี ไม่มีปัญหาอะไร
จนเราตั้งท้องขึ้น เรื่องทั้งหมดจึงได้เกิดขึ้น
เริ่มจาก การแต่งงานที่เกิดขึ้นเพราะเราท้อง
จัดขึ้นแบบทุลักทุเล จะล่มแหล่มิล่มแหล่
ถูกพี่สาวสามีคอยจัดแจงยกเลิกงานแต่งงานตลอด ทั้งสถานที่ ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว
จนถึงขั้นบอกจะไม่ให้ญาติฝ่ายเขาไปร่วมงานเลยแม้แต่คนเดียว เพราะเขาว่างานแต่งไม่จำเป็น
เขาโกรธที่เราจะจัดงาน ทั้งที่เงินเราช่วยกันออกครึ่งนึงกับแฟน สินสอดไม่มี
ผ่านเรื่องนี้ไปแบบยากลำบาก นึกว่าแต่งงานแล้วเรื่องจะจบ แต่กลายเป็นว่า
พอแต่งแยกบ้านออกมา โทรตามแฟนเราทุกวันให้กลับบ้าน อ้างพ่อป่วยทั้งที่พี่สาวเป็นพยาบาล
โดยบอกว่า เวลามาไม่ต้องพาเราไปด้วย เพราะเราท้องอยู่ จะเป็นภาระแก่พวกเขา แค่ดูแลคนป่วยคนเดียวก้อพอแล้ว
เราต้องทยอยขนของเอง จัดบ้านใหม่เองคนเดียว
จนมีอาการเลือดออก เรากลัวเราจะแท้งรีบโทรตามสามีให้กลับมาพาไปโรงพยาบาล เราได้ยินเสียงพี่สาวกระซิบข้างๆเขาว่า อย่าไปเชื่อมัน มัน
พร้อมกับเสียงแฟนเราตอบกลับมาว่า ไปไม่ได้ ต้องดูพ่อ
เราไปโรงบาลคนเดียว และผ่านคืนนั้นไปเพียงคนเดียว ไร้วี่แววของเงาสามี
จนในที่สุดเราตัดสินใจปล่อยสามีคืนสู่อิสรภาพ
เดินออกมาจากชีวิตของเขา จนคลอดลูก
ลูกเราตัวเล็กบวกกับร่างกายเราไม่แข็งแรง ทำให้ต้องเข้าตู้อบ เราคลอดโรงบาลเอกชน
ค่าตู้อบพยาบาลแจ้งว่าจะคิดเป็นรายวันไป เรากลัวเงินเราไม่พอจ่าย เราโทรขอแฟนเรา ได้รับการปฏิเสธว่าไม่มี และไม่รู้จะช่วยยังไง
หลังจากนั้น ลูกเราก็กลายเป็นลูกค้าประจำของโรงบาลไปเลย ต้องเข้าออกเป็นว่าเล่น จนมีอยู่วันนึงทางโรงบาลต้องการข้อมูลของบิดา ซึ่งเรายืนยันว่าเราไม่มี ทางโรงบาลก็แนะนำให้เราติดต่อไปถาม เพื่อผลประโยชน์ทางการรักษา
สิ่งที่เราได้คำตอบกลับมา คือ ไม่รู้ และไม่อยากเสียเวลาไปตรวจให้ ไม่มีเวลา
ผ่านไปจนตอนนี้ลูกเรา 2 ขวบแล้ว เขากลับมาบอกเราว่า เขาขอโทษ ขอโอกาสแก้ตัว ให้อภัยได้ไหม ให้เราเห็นแก่ลูก
สิ่งที่เราเจอ สมควรแก่การให้อภัยไหม
จนเราตั้งท้องขึ้น เรื่องทั้งหมดจึงได้เกิดขึ้น
เริ่มจาก การแต่งงานที่เกิดขึ้นเพราะเราท้อง
จัดขึ้นแบบทุลักทุเล จะล่มแหล่มิล่มแหล่
ถูกพี่สาวสามีคอยจัดแจงยกเลิกงานแต่งงานตลอด ทั้งสถานที่ ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว
จนถึงขั้นบอกจะไม่ให้ญาติฝ่ายเขาไปร่วมงานเลยแม้แต่คนเดียว เพราะเขาว่างานแต่งไม่จำเป็น
เขาโกรธที่เราจะจัดงาน ทั้งที่เงินเราช่วยกันออกครึ่งนึงกับแฟน สินสอดไม่มี
ผ่านเรื่องนี้ไปแบบยากลำบาก นึกว่าแต่งงานแล้วเรื่องจะจบ แต่กลายเป็นว่า
พอแต่งแยกบ้านออกมา โทรตามแฟนเราทุกวันให้กลับบ้าน อ้างพ่อป่วยทั้งที่พี่สาวเป็นพยาบาล
โดยบอกว่า เวลามาไม่ต้องพาเราไปด้วย เพราะเราท้องอยู่ จะเป็นภาระแก่พวกเขา แค่ดูแลคนป่วยคนเดียวก้อพอแล้ว
เราต้องทยอยขนของเอง จัดบ้านใหม่เองคนเดียว
จนมีอาการเลือดออก เรากลัวเราจะแท้งรีบโทรตามสามีให้กลับมาพาไปโรงพยาบาล เราได้ยินเสียงพี่สาวกระซิบข้างๆเขาว่า อย่าไปเชื่อมัน มัน พร้อมกับเสียงแฟนเราตอบกลับมาว่า ไปไม่ได้ ต้องดูพ่อ
เราไปโรงบาลคนเดียว และผ่านคืนนั้นไปเพียงคนเดียว ไร้วี่แววของเงาสามี
จนในที่สุดเราตัดสินใจปล่อยสามีคืนสู่อิสรภาพ
เดินออกมาจากชีวิตของเขา จนคลอดลูก
ลูกเราตัวเล็กบวกกับร่างกายเราไม่แข็งแรง ทำให้ต้องเข้าตู้อบ เราคลอดโรงบาลเอกชน
ค่าตู้อบพยาบาลแจ้งว่าจะคิดเป็นรายวันไป เรากลัวเงินเราไม่พอจ่าย เราโทรขอแฟนเรา ได้รับการปฏิเสธว่าไม่มี และไม่รู้จะช่วยยังไง
หลังจากนั้น ลูกเราก็กลายเป็นลูกค้าประจำของโรงบาลไปเลย ต้องเข้าออกเป็นว่าเล่น จนมีอยู่วันนึงทางโรงบาลต้องการข้อมูลของบิดา ซึ่งเรายืนยันว่าเราไม่มี ทางโรงบาลก็แนะนำให้เราติดต่อไปถาม เพื่อผลประโยชน์ทางการรักษา
สิ่งที่เราได้คำตอบกลับมา คือ ไม่รู้ และไม่อยากเสียเวลาไปตรวจให้ ไม่มีเวลา
ผ่านไปจนตอนนี้ลูกเรา 2 ขวบแล้ว เขากลับมาบอกเราว่า เขาขอโทษ ขอโอกาสแก้ตัว ให้อภัยได้ไหม ให้เราเห็นแก่ลูก