**** กระทู้นี้จะวนการเที่ยว 3 ครั้งของ จขกท. เนื้อหาอาจซ้ำไปซ้ำมา ขออภัยนะคะ พอดีอยากเก็บความทรงจำ ****
** แต่ว่าเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแน่นอนค่ะ สำหรับคนตัดสินใจมาภูกระดึง **
สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ตามหัวข้อของเรา เนื่องด้วยไปลุยภูกระดึงมา 3 ครั้งถ้วนจะเขียนแยกก็หารูปยากแล้ว
มารวมแบบรวมฮิตแล้วกันนะคะ เพราะการเดินทางแต่ล่ะครั้ง เดินทางแบบเดิม แต่!!แตกต่างกันที่บรรยากาศบนภู
ครั้งแรกที่ไปภูกระดึงคือ ปี 2557 ตอนนั้นหาข้อมูลเยอะมาก จะเป็นไง จะเหนื่อยมากไหม ลำบากหรือเปล่า
ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2559 ครั้งนี้สบายๆ เพราะได้ประสบการณ์จากครั้งแรก
ครั้งที่ 3 ปี 2561 อย่าพูดเลย ลุยยยยยยย
ครั้งแรก 2557
เดินทางโดยรถทัว ของบ.นครชัยขนส่ง ราคาไม่เกินคนล่ะ 500 บาท ไปกลับก็ตีไป 1,000 บาท ( เหลือ )
ที่เลือกเดินทางโดยรถโดยสารคือ ถึงร้านเจ้กิม และ ขากลับไม่ต้องขับรถเอง
ไป....เมื่อเรานั่งรถมาถึงร้านเจ้กิม ตามรีวิว คำถามแรกในหัวคือ ไหน ภูกระดึงตรงไหนหน้อ
ที่ร้านเจ้กิมจะมีห้องน้ำให้บริการ ก็มุ่งตรงไปหลังร้าน เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ แต่งตัวเตรียมตัว
ออกมาทานข้าว จากนั้นเราก็ใช้บริการสองแถวเพื่อไปภูกระดึงกัน รถสองแถวสามารถนั่งได้ 10 คน หารกันแต่ถ้าไม่ถึง สามารถเหมาได้
ราคาเหมาก็ 300 บาท
และแล้วเราก็มาถึง เย้การเดินทางได้เริ่มขึ้นแล้ว
เดินไปนิดนึงขวามือจะเจอที่ฝากของให้ลูกหาบ หาบขึ้นไป ณ ตอนนั้น กิโลล่ะ 30 บาท ของมีค่าเราก็เอาติดตัวไป ส่วนเสื้อผ้าเราก็จ้างลูกหาบ
ค่าเสียหาย 300 บาท ตัวเบาๆ กับใจบางๆ
โห...คำอุทานหลังจากเห็น อะไรจะขนาดนี้
ทุกสิ่งอย่างหาบกันขึ้นไปจ้า
จขกท. ลุงคะ ปกติหาบได้สูงสุดคนกี่โลคะ
ลุง.60 โลก็เต็มที่แล้ว
จขกท. วันล่ะกี่รอบคะ
ลุง. 2-3 รอบต่อวัน
โหลุงแข็งแรงมากกกกกก
แห้งมากกกถึงมากที่สุด คนน้อย แห้ง ร้อน ตอนนั้นเดือน ก.พ.
เดินๆ ส่วนมากซำแฮกจะเหนื่อยสุด ระหว่างซำจะมีร้านค้าให้บริการ แนะนำ โค้กน้ำแข็งนะคะ โอ๊ยชื่นใจ
ไม่เคยกินโค้กแล้วอร่อยเท่านี้มาก่อน บอกก่อนนะคะ ราคาจะค่อนข้างสูง แต่เราแบกขึ้นไม่ไหวก็เรียกว่าคุ้มค่ะ
ช่วงนี้ร้านค้าค่อนข้างน้อย คนน้อย ถ้าอยากเดินป่าพักผ่อนกับธรรมชาติได้เต็มที่ แนะนำค่ะ เดือน ก.พ. แต่แห้งหน่อยเด้อ
ก่อนถึงหลังแป จะมีบันไดเป็นเหมือนแนวเกือบตั้งฉาก ลุงลูกหาบ ตะโกนหนู ขึ้นไปแล้ว อย่าหันมามองช้างหลังนะ
จขกท. เอ๊ะทำไมนะ หันจ้า ปรากฎว่าจะเป็นลมฮัฟ
มันหวิวไปเลยก็เลยตะโกนบอกเพื่อนว่า เดินไปก่อนนะ
( ไม่มีรูปนะคะ ใจหวิวอยู่ )
หลังจากผ่านซำแล้ว ซำเล่า ก็ถึงหลังแป
ต้นไม้นี้เหมือนเราต้องถ่ายอะไม่รู้ทำไม
เดินต่อทางเรียบนี้ไปอีก 3 กิโล แต่มันแลไกลมากเลยง่ะ
มาถึงที่ทำการ เราก็เจอต้นนี้ตอนรับข้างๆทาง
ต้นเมเปิ้ล ช่วงที่ จขกท. มาไม่เจอแล้วนะคะ ถ้าอยากเจอต้องมาช่วง ธ.ค. ค่ะ
ก็ติดต่อเรื่องเต๊น ถุงนอน อะไรให้เรียบร้อย ใครแรงเหลือสามารถเดินไปผาหมากดูก ไปดูพระอาทิตย์ตกได้นะคะ เดินอี๊กเด้อ
แต่ จขกท. ไม่ไหวค่ะ พักหาทานข้าว อย่าลืมพกเงินไปเด็ดขาดเลยนะคะ
พักผ่อน Zzzzzz
เช้าวันต่อมา เราก็ซื้อเสบียงอะไรให้เรียบร้อย ไปเอาแผนที่ที่ทำการ วันนี้เราเลือกที่จะเดินเลาะริมขอบหน้าผา จนไปถึงผาหล่มสัก
มาภูกระดึงก็ต้องไปผาหล่มสักแหละเนอะ ไปดูว่ามันเป็นไง ระหว่างทางจะมีร้านค้าเป็นจุดๆนะคะ แต่ไม่มากเท่าตอนเราเดินผ่านซำ
.......... 9 กิโล ผ่านไป ..........
ผาหล่มสักค่ะ ตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวแค่ไม่กี่คน นี่คือข้อดีของการมาเที่ยวช่วงคนน้อย
ผาในรูปที่เราเห็นว่าเล็กๆ แต่จริงๆแล้วมันกว้างมาเด้อ
นั่งพัก ดูความงามของป่าที่กว้างออกไปข้างหน้า รอชมพระอาทิตย์ตก
จขกท.เองค่ะ ไว้มาครั้งหน้าจะมานั่งห้อยขานะ
ประเด็นคือ เราต้องเดินกลับทางเดิมที่มันเริ่มมืดเรื่อยๆค่ะ
ตอนนั้น นักท่องเที่ยวทั้งหมด รวมของกลุ่มของ จขกท. รวม 9 คนค่ะ
กับความมืดระหว่างทาง มีแค่แสงจากไฟฉาย กับ ระยะทาง 9 กิโล
แนะนำนะคะ เวลาเดินกลับจากผาหล่มสักให้เดินทางหน้าผานะคะ ไปอีกทางนึงอันตรายมาก
ถ้าริมผาช้างจะไม่มาค่ะ เพราะเขากลัวตกหน้าผา
ทั้งหนาว ทั้งมืด เรา 9 คนก็เดินมาถึงที่พัก แยกย้ายกัน อาบน้ำพักผ่อน
Zzzzz
ตี 4 เจ้าหน้าที่จะประกาศพาเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น แต่ จขกท. ไม่ไปค่ะ อยากนอนต่อมากกว่า ตื่นมาเราก็เก็บของเตรียมตัวกลับ
ก็ไปขึ้นรถที่ร้านเจ้กิมเหมือนเดิม คิดไว้ว่าครั้งหน้าจะต้องมาซ่อม
และแล้ววันที่ซ่อมก็มาถึง
ครั้งที่ 2 ปี 2559
การเดินทางครั้งนี้ มี จขกท. คนเดียวที่เคยมา อีก 2 คนไม่เคย
ครั้งนี้เราตกลงกันแบบผิดแผน สมาชิกลดลงก่อนวันจะเดินทาง เหลือ 3 คนถ้วน
เช่นเดิมใช้บริการ นครชัยขนส่ง ครั้งนี้ร้านเจ้กิมเหมือนทำใหม่
ณ ภูกระดึง ทำไมคนเยอะแบบนี้เนี่ย และแล้วเสียงสวรรค์ดังขึ้น ขณะนี้ลูกหาบหมดนะครับ ให้นักท่องเที่ยวแบกของขึ้นกันเองนะครับ
มายยยกอตตต มาขึ้นก็ขึ้น ก่อนขึ้นต้องไปลงทะเบียนนะคะ ว่าเต๊นกี่เต๊น เดินทางมากี่คน พักค้างคืนกี่คืน
ดีนะ ที่พกเต๊นกันมาเอง ก่อนขึ้นแฉะภาพสักหน่อย
ทางเข้าก็จะมีลงชื่ออีกนะคะ
แตกต่างจากปีแรกมากกกก คนเยอะมากกกกถึงมากที่สุด
ไม่เหงาเลยค่ะ คนเยอะขนาดนี้
อย่ามาช่วงวันหยุดยาวนะคะ เจอแต่หัวคนตามภาพเลยค่ะ
ตรงนี้คุ้นไหมคะ เลื่อนไปข้างบน จะเห็นได้ว่าแตกต่างกัน อีกภาพนึงแห้ง อีกภาพเขียวฉ่ำ
เดินๆ ก่อนถึงซำสุดท้าย เจ้าหน้าที่ เปิดทางให้เดินอีกเส้นทางนึงซึ่งคราวที่แล้ว จขกท. ก็ไม่ได้มาทางนี้ซึ่งมันอ้อมนิดๆ
และแล้วเราก็ถึง หลังแป พักก่อนนนนน
ป้ายครั้งหนึ่งในชีวิตพิชิตภูกระดึง คนคือเยอะมาก เลยตกลงกันว่าจะมาถ่ายตอนขากลับ พักจนหายเหนื่อยเราก็ไปต่อ
มาถึงที่พักก็เช่นเคย แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนคือ
คนเยอะมากกกกกกกแบบที่ต้องต่อคิวกันเข้าห้องน้ำ ร้านข้าวก็เต็มไปด้วยคน
แยกย้ายกันพักค่ะ
Zzzz
ครั้งนี้เราเลือกที่จะไปแถวน้ำตกแล้ววนไปผาหล่มสัก เพราะจะไปดูใบเมเปิ้ล
เดินตามแผนที่ไป รูปอาจไม่เรียงตามสถานที่นะคะ
นี่ไง มีต้นเดียวต้นอื่นคือยังไม่เปลี่ยนสี
แวะน้ำตกไปเรื่อย แต่น้ำน้อยนะคะ
ตามที่นั่งพักก็เต็มไปด้วยคน แต่พอหาที่ได้นั่งและถ่ายรูปบ้าง
อย่าลืมแวะไหว้พระกันด้วยนะคะ
เดินไป คุยไป เล่นไป ร้องเพลงไป ถามว่าเหนื่อยไหม ไม่เล๊ยยยยย
และในที่สุดเราก็มาถึงผาหล่มสัก
ไม่มีที่ให้ถ่ายแบบ ปี 2557 นะคะ ไม่ได้เห็นหินยื่นออกมา เห็นแต่...
หัวค๊นนนนนนน ทุกค๊นนนนมารอพระอาทิตย์ตก มารอถ่ายรูป
เพื่อนร่วมทางของ จขกท. ก็ต้องผิดหวังไปไม่ได้ถ่ายกับหน้าผาตรงนั้น
คราวนี้ไม่เหงาแล้ว คนเยอะเดินกลับไม่น่ากลัว
หิวววอะ จบด้วยหมูกะทะ ตอนนั้นถ่ายไม่ทันหิวมากได้รูปมาแค่นี้
หมูกะทะชุดล่ะ 500 บาทนะคะ
จบไปอีก 1 วัน
เช้าวันรุ่งขึ้น ตี 4 ตามเคย พี่และเพื่อน จขกท. ไปดูพระอาทิตย์ค่ะ แต่ จขกท. ไม่ได้เหมือนเดิม ก็มันขี้เกียจตื่นอะ ทั้งหนาว ทั้งง่วง
ประมาณ 7 โมงเช้า เต๊นข้างๆ ก็เปิดเพลง ตื่นเถอะชาวไทย
ตื่นก็ได้จ้า ยอมแล้วจ้าาาาา
แล้วก็เตรียมตัวเดินทางกลับ
ไม่ลืมที่จะแวะถ่ายกับป้ายนี้
คนต่อคิวถ่ายแต่ไม่ได้เยอะมาก และแล้วเราก็ถึง
เย้ๆๆๆ ความดีใจนี้
ครั้งที่ 3 ปี 2561
รอบนี้สมาชิกเยอะกว่าเดิม ดูจากกระเป๋า
ระหว่างทางลงมาถ่ายรูปกับรถหน่อย
ครั้งล่าสุดนี้ ร้านเจ้กิมเปลี่ยนไปมาก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ พื้นที่พักเพิ่มมากขึ้นเยอะ และเราก็เดินทางด้วยสีหน้าสดชื่น
ดูซิ่ว่าเดินแล้วจะสดชื่นอยู่ไหม
ถ่ายรูปหมู่สักใบก่อนขึ้นภู
กระเป๋าแต่ล่ะคนนี่ 10 โลอัพเด้อ มีแต่คน สว ไม่เกรงใจอายุกันเลย
เดินบ้างพักบ้าง ใกล้ถึงซำแฮกแล้วค่ะ
แหม๋ เหนื่อยแหละดูออกนะ ยังยิ้มให้กล้องอยู่ได้
คุ้นไหมคะ รูปนี้ แบบนี้ ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ก้มหน้าก้มตาเดิน
เดิน เดิน แล้วก็เดิน
นี่ก็คือจุดจบสายเดิน ไม่ไหวล้าวววววว
ใกล้แล้วค่ะ ใกล้มาทุกที
และในที่สุด ก็ถึง ต้นไม้ต้นนี้อีกแล้ว
รวมฮิตเที่ยวภูกระดึง กี่ครั้งก็ไม่เบื่อ
** แต่ว่าเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยแน่นอนค่ะ สำหรับคนตัดสินใจมาภูกระดึง **
สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ตามหัวข้อของเรา เนื่องด้วยไปลุยภูกระดึงมา 3 ครั้งถ้วนจะเขียนแยกก็หารูปยากแล้ว
มารวมแบบรวมฮิตแล้วกันนะคะ เพราะการเดินทางแต่ล่ะครั้ง เดินทางแบบเดิม แต่!!แตกต่างกันที่บรรยากาศบนภู
ครั้งแรกที่ไปภูกระดึงคือ ปี 2557 ตอนนั้นหาข้อมูลเยอะมาก จะเป็นไง จะเหนื่อยมากไหม ลำบากหรือเปล่า
ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2559 ครั้งนี้สบายๆ เพราะได้ประสบการณ์จากครั้งแรก
ครั้งที่ 3 ปี 2561 อย่าพูดเลย ลุยยยยยยย
ครั้งแรก 2557
เดินทางโดยรถทัว ของบ.นครชัยขนส่ง ราคาไม่เกินคนล่ะ 500 บาท ไปกลับก็ตีไป 1,000 บาท ( เหลือ )
ที่เลือกเดินทางโดยรถโดยสารคือ ถึงร้านเจ้กิม และ ขากลับไม่ต้องขับรถเอง
ไป....เมื่อเรานั่งรถมาถึงร้านเจ้กิม ตามรีวิว คำถามแรกในหัวคือ ไหน ภูกระดึงตรงไหนหน้อ
ที่ร้านเจ้กิมจะมีห้องน้ำให้บริการ ก็มุ่งตรงไปหลังร้าน เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ แต่งตัวเตรียมตัว
ออกมาทานข้าว จากนั้นเราก็ใช้บริการสองแถวเพื่อไปภูกระดึงกัน รถสองแถวสามารถนั่งได้ 10 คน หารกันแต่ถ้าไม่ถึง สามารถเหมาได้
ราคาเหมาก็ 300 บาท
และแล้วเราก็มาถึง เย้การเดินทางได้เริ่มขึ้นแล้ว
เดินไปนิดนึงขวามือจะเจอที่ฝากของให้ลูกหาบ หาบขึ้นไป ณ ตอนนั้น กิโลล่ะ 30 บาท ของมีค่าเราก็เอาติดตัวไป ส่วนเสื้อผ้าเราก็จ้างลูกหาบ
ค่าเสียหาย 300 บาท ตัวเบาๆ กับใจบางๆ
โห...คำอุทานหลังจากเห็น อะไรจะขนาดนี้
ทุกสิ่งอย่างหาบกันขึ้นไปจ้า
จขกท. ลุงคะ ปกติหาบได้สูงสุดคนกี่โลคะ
ลุง.60 โลก็เต็มที่แล้ว
จขกท. วันล่ะกี่รอบคะ
ลุง. 2-3 รอบต่อวัน
โหลุงแข็งแรงมากกกกกก
แห้งมากกกถึงมากที่สุด คนน้อย แห้ง ร้อน ตอนนั้นเดือน ก.พ.
เดินๆ ส่วนมากซำแฮกจะเหนื่อยสุด ระหว่างซำจะมีร้านค้าให้บริการ แนะนำ โค้กน้ำแข็งนะคะ โอ๊ยชื่นใจ
ไม่เคยกินโค้กแล้วอร่อยเท่านี้มาก่อน บอกก่อนนะคะ ราคาจะค่อนข้างสูง แต่เราแบกขึ้นไม่ไหวก็เรียกว่าคุ้มค่ะ
ช่วงนี้ร้านค้าค่อนข้างน้อย คนน้อย ถ้าอยากเดินป่าพักผ่อนกับธรรมชาติได้เต็มที่ แนะนำค่ะ เดือน ก.พ. แต่แห้งหน่อยเด้อ
ก่อนถึงหลังแป จะมีบันไดเป็นเหมือนแนวเกือบตั้งฉาก ลุงลูกหาบ ตะโกนหนู ขึ้นไปแล้ว อย่าหันมามองช้างหลังนะ
จขกท. เอ๊ะทำไมนะ หันจ้า ปรากฎว่าจะเป็นลมฮัฟ มันหวิวไปเลยก็เลยตะโกนบอกเพื่อนว่า เดินไปก่อนนะ
( ไม่มีรูปนะคะ ใจหวิวอยู่ )
หลังจากผ่านซำแล้ว ซำเล่า ก็ถึงหลังแป
ต้นไม้นี้เหมือนเราต้องถ่ายอะไม่รู้ทำไม
เดินต่อทางเรียบนี้ไปอีก 3 กิโล แต่มันแลไกลมากเลยง่ะ
มาถึงที่ทำการ เราก็เจอต้นนี้ตอนรับข้างๆทาง
ต้นเมเปิ้ล ช่วงที่ จขกท. มาไม่เจอแล้วนะคะ ถ้าอยากเจอต้องมาช่วง ธ.ค. ค่ะ
ก็ติดต่อเรื่องเต๊น ถุงนอน อะไรให้เรียบร้อย ใครแรงเหลือสามารถเดินไปผาหมากดูก ไปดูพระอาทิตย์ตกได้นะคะ เดินอี๊กเด้อ
แต่ จขกท. ไม่ไหวค่ะ พักหาทานข้าว อย่าลืมพกเงินไปเด็ดขาดเลยนะคะ
พักผ่อน Zzzzzz
เช้าวันต่อมา เราก็ซื้อเสบียงอะไรให้เรียบร้อย ไปเอาแผนที่ที่ทำการ วันนี้เราเลือกที่จะเดินเลาะริมขอบหน้าผา จนไปถึงผาหล่มสัก
มาภูกระดึงก็ต้องไปผาหล่มสักแหละเนอะ ไปดูว่ามันเป็นไง ระหว่างทางจะมีร้านค้าเป็นจุดๆนะคะ แต่ไม่มากเท่าตอนเราเดินผ่านซำ
.......... 9 กิโล ผ่านไป ..........
ผาหล่มสักค่ะ ตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวแค่ไม่กี่คน นี่คือข้อดีของการมาเที่ยวช่วงคนน้อย
ผาในรูปที่เราเห็นว่าเล็กๆ แต่จริงๆแล้วมันกว้างมาเด้อ
นั่งพัก ดูความงามของป่าที่กว้างออกไปข้างหน้า รอชมพระอาทิตย์ตก
จขกท.เองค่ะ ไว้มาครั้งหน้าจะมานั่งห้อยขานะ
ประเด็นคือ เราต้องเดินกลับทางเดิมที่มันเริ่มมืดเรื่อยๆค่ะ
ตอนนั้น นักท่องเที่ยวทั้งหมด รวมของกลุ่มของ จขกท. รวม 9 คนค่ะ
กับความมืดระหว่างทาง มีแค่แสงจากไฟฉาย กับ ระยะทาง 9 กิโล
แนะนำนะคะ เวลาเดินกลับจากผาหล่มสักให้เดินทางหน้าผานะคะ ไปอีกทางนึงอันตรายมาก
ถ้าริมผาช้างจะไม่มาค่ะ เพราะเขากลัวตกหน้าผา
ทั้งหนาว ทั้งมืด เรา 9 คนก็เดินมาถึงที่พัก แยกย้ายกัน อาบน้ำพักผ่อน
Zzzzz
ตี 4 เจ้าหน้าที่จะประกาศพาเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น แต่ จขกท. ไม่ไปค่ะ อยากนอนต่อมากกว่า ตื่นมาเราก็เก็บของเตรียมตัวกลับ
ก็ไปขึ้นรถที่ร้านเจ้กิมเหมือนเดิม คิดไว้ว่าครั้งหน้าจะต้องมาซ่อม
และแล้ววันที่ซ่อมก็มาถึง
ครั้งที่ 2 ปี 2559
การเดินทางครั้งนี้ มี จขกท. คนเดียวที่เคยมา อีก 2 คนไม่เคย
ครั้งนี้เราตกลงกันแบบผิดแผน สมาชิกลดลงก่อนวันจะเดินทาง เหลือ 3 คนถ้วน
เช่นเดิมใช้บริการ นครชัยขนส่ง ครั้งนี้ร้านเจ้กิมเหมือนทำใหม่
ณ ภูกระดึง ทำไมคนเยอะแบบนี้เนี่ย และแล้วเสียงสวรรค์ดังขึ้น ขณะนี้ลูกหาบหมดนะครับ ให้นักท่องเที่ยวแบกของขึ้นกันเองนะครับ
มายยยกอตตต มาขึ้นก็ขึ้น ก่อนขึ้นต้องไปลงทะเบียนนะคะ ว่าเต๊นกี่เต๊น เดินทางมากี่คน พักค้างคืนกี่คืน
ดีนะ ที่พกเต๊นกันมาเอง ก่อนขึ้นแฉะภาพสักหน่อย
ทางเข้าก็จะมีลงชื่ออีกนะคะ
แตกต่างจากปีแรกมากกกก คนเยอะมากกกกถึงมากที่สุด
ไม่เหงาเลยค่ะ คนเยอะขนาดนี้
อย่ามาช่วงวันหยุดยาวนะคะ เจอแต่หัวคนตามภาพเลยค่ะ
ตรงนี้คุ้นไหมคะ เลื่อนไปข้างบน จะเห็นได้ว่าแตกต่างกัน อีกภาพนึงแห้ง อีกภาพเขียวฉ่ำ
เดินๆ ก่อนถึงซำสุดท้าย เจ้าหน้าที่ เปิดทางให้เดินอีกเส้นทางนึงซึ่งคราวที่แล้ว จขกท. ก็ไม่ได้มาทางนี้ซึ่งมันอ้อมนิดๆ
และแล้วเราก็ถึง หลังแป พักก่อนนนนน
ป้ายครั้งหนึ่งในชีวิตพิชิตภูกระดึง คนคือเยอะมาก เลยตกลงกันว่าจะมาถ่ายตอนขากลับ พักจนหายเหนื่อยเราก็ไปต่อ
มาถึงที่พักก็เช่นเคย แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนคือ
คนเยอะมากกกกกกกแบบที่ต้องต่อคิวกันเข้าห้องน้ำ ร้านข้าวก็เต็มไปด้วยคน
แยกย้ายกันพักค่ะ
Zzzz
ครั้งนี้เราเลือกที่จะไปแถวน้ำตกแล้ววนไปผาหล่มสัก เพราะจะไปดูใบเมเปิ้ล
เดินตามแผนที่ไป รูปอาจไม่เรียงตามสถานที่นะคะ
นี่ไง มีต้นเดียวต้นอื่นคือยังไม่เปลี่ยนสี
แวะน้ำตกไปเรื่อย แต่น้ำน้อยนะคะ
ตามที่นั่งพักก็เต็มไปด้วยคน แต่พอหาที่ได้นั่งและถ่ายรูปบ้าง
อย่าลืมแวะไหว้พระกันด้วยนะคะ
เดินไป คุยไป เล่นไป ร้องเพลงไป ถามว่าเหนื่อยไหม ไม่เล๊ยยยยย
และในที่สุดเราก็มาถึงผาหล่มสัก
ไม่มีที่ให้ถ่ายแบบ ปี 2557 นะคะ ไม่ได้เห็นหินยื่นออกมา เห็นแต่...
หัวค๊นนนนนนน ทุกค๊นนนนมารอพระอาทิตย์ตก มารอถ่ายรูป
เพื่อนร่วมทางของ จขกท. ก็ต้องผิดหวังไปไม่ได้ถ่ายกับหน้าผาตรงนั้น
คราวนี้ไม่เหงาแล้ว คนเยอะเดินกลับไม่น่ากลัว
หิวววอะ จบด้วยหมูกะทะ ตอนนั้นถ่ายไม่ทันหิวมากได้รูปมาแค่นี้
หมูกะทะชุดล่ะ 500 บาทนะคะ
จบไปอีก 1 วัน
เช้าวันรุ่งขึ้น ตี 4 ตามเคย พี่และเพื่อน จขกท. ไปดูพระอาทิตย์ค่ะ แต่ จขกท. ไม่ได้เหมือนเดิม ก็มันขี้เกียจตื่นอะ ทั้งหนาว ทั้งง่วง
ประมาณ 7 โมงเช้า เต๊นข้างๆ ก็เปิดเพลง ตื่นเถอะชาวไทย
ตื่นก็ได้จ้า ยอมแล้วจ้าาาาา
แล้วก็เตรียมตัวเดินทางกลับ
ไม่ลืมที่จะแวะถ่ายกับป้ายนี้
คนต่อคิวถ่ายแต่ไม่ได้เยอะมาก และแล้วเราก็ถึง
เย้ๆๆๆ ความดีใจนี้
ครั้งที่ 3 ปี 2561
รอบนี้สมาชิกเยอะกว่าเดิม ดูจากกระเป๋า
ระหว่างทางลงมาถ่ายรูปกับรถหน่อย
ครั้งล่าสุดนี้ ร้านเจ้กิมเปลี่ยนไปมาก ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ พื้นที่พักเพิ่มมากขึ้นเยอะ และเราก็เดินทางด้วยสีหน้าสดชื่น
ดูซิ่ว่าเดินแล้วจะสดชื่นอยู่ไหม
ถ่ายรูปหมู่สักใบก่อนขึ้นภู
กระเป๋าแต่ล่ะคนนี่ 10 โลอัพเด้อ มีแต่คน สว ไม่เกรงใจอายุกันเลย
เดินบ้างพักบ้าง ใกล้ถึงซำแฮกแล้วค่ะ
แหม๋ เหนื่อยแหละดูออกนะ ยังยิ้มให้กล้องอยู่ได้
คุ้นไหมคะ รูปนี้ แบบนี้ ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ก้มหน้าก้มตาเดิน
เดิน เดิน แล้วก็เดิน
นี่ก็คือจุดจบสายเดิน ไม่ไหวล้าวววววว
ใกล้แล้วค่ะ ใกล้มาทุกที
และในที่สุด ก็ถึง ต้นไม้ต้นนี้อีกแล้ว