เรามักจะถูกถามบ่อยๆ จากคนรู้จักที่เริ่มมีเงินเก็บจากทํางานประจำ ว่าช่วงตลาดอ่อนแอแบบนี้ เหมาะไหมที่จะเริ่มลงทุนเพื่อการเกษียณ
.
คําตอบแรกของเรา คือ แน่นอน หากคุณยังไม่เกษียณอีกหลายสิบปี หุ้นเป็นหนทางที่ดีที่สุดจะทําให้การลงทุนงอกเงย อาจจะมีช่วงที่ตลาดดูยากมาก แต่ถ้าระยะเวลาการลงทุนของคุณเป็นทศวรรษ การถือเงินไม่ใช่เรื่องที่ฉลาด ไม่มีความจำเป็นที่จะเหนี่ยวไกที่ราคาใดราคาหนึ่ง เพราะไม่มีใครสามารถเอาชนะตลาดได้ตลอดไป
.
หากงานของคุณไม่เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น แค่กักส่วนหนึ่งของเงินเดือนมาลงทุนในหุ้น หากหุ้นถูก ก็ซื้อมากตัว หากหุ้นแพง ก็ซื้อหุ้นน้อยตัวลง อันนี้เป็นวิธี “cost averaging”
.
เนื่องจากคนส่วนมากจะเอาเงินที่ได้จากเงินเดือนแต่ละเดือนมาลงทุนในหุ้น ราคาหุ้นอาจจะแพงขึ้นเล็กน้อยในช่วงนั้น หากคุณสามารถกําหนดให้ลงทุนกลางเดือน (เช่น วันที่ 15 หรือ 2-3 วันหลังจากนั้น) หรือเมื่อไรที่ตลาดดูไม่คึกคัก คุณจะไม่เสียดายที่จะลงทุนช่วงนั้นหรอก
.
ต้นทุนเป็นตัวแปรที่สำคัญที่นักลงทุนเริ่มต้นสามารถทําให้เกิดความแตกต่าง ถ้าคุณซื้อ หุ้นปตท 1 หุ้น, หุ้น SCC 1 หุ้น, หุ้น BBL 2 หุ้น แต่ละเดือน (เหตุการณ์สมมตินะครับ) ต้นทุนต่อหุ้นจะสูงมาก ถ้ามีคนแนะนําให้ซื้อ Index ETF ที่ราคาหนึ่งๆ (flat fee) นั้นซะจะยังดีกว่า ลองช็อปรอบๆ หาดูตัวเลือกที่ดีที่สุด
.
หากคุณต้องการลงทุนด้วยตนเอง คุณรู้ว่าคุณต้องการซื้อหุ้นอะไรบ้าง (สมมุติอีกทีว่า ลิตส์นี้มีหุ้นอยู่ 20 ตัว) คุณควรเลือกลงทุนในหุ้น 4-5 ตัวในลิสต์นี้ และหมุนเวียนลงทุนแบบ random ในแต่ละเดือน จนกระทั่งครบทุกตัวที่ตั้งใจไว้ ถ้าคุณสามารถลดต้นทุนในการลงทุนรายเดือนได้เพียงเล็กน้อยก็เก่งมากแล้ว สิ่งสําคัญที่เราอยากเตือน คือ ระวังอย่าจ่ายค่าคอมบ่อยเกินไป อย่าปรับพอร์ตบ่อย ปรับเมื่อจําเป็นเท่านั้น อย่าซื้อหรือขายเพียงเพราะคุณคิดว่า คุณฉลาดกว่าคนอื่นๆ คุณเบื่อ หรือโบรกเกอร์มาเชียร์ให้คุณเทรด
.
ขั้นตอนต่อไปที่สําคัญ คือ Time the market ด้วยตนเอง ซึ่งนี่เป็นศิลปะมากกว่าวิทยาศาสตร์ การกระจายความเสี่ยงยังใช้ได้ดี มีผลการวิจัยทางการเงินได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณลงทุนในหุ้น 15 ตัวจะได้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงดีกว่า แค่ถือหุ้นไม่กี่ตัว” ถ้าคุณคิดว่า ก็แค่ลงทุนในดัชนีอย่าง SET หรือ MSCI Thailand เอง ไม่เห็นจะยาก จงพึงระวังไว้ว่า PTT Group มีสัดส่วนนํ้าหนักถึง 20% ของดัชนีเหล่านี้ เงินลงทุนของคุณอาจจะกระจุกในอุตสาหกรรมหนึ่งมากเกินไป และไม่กระจายเท่าที่ควร พูดง่ายๆ คือ เราชอบ Equal weighting มากกว่า Weighting by market cap
.
คร่าวๆ เราอาจใช้ ทฤษฎีของพฤติกรรมของหุ้นที่ทําให้เกิดผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนของตลาดเรียกว่า Factor Investment ที่ทําให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า (ค้นพบในปี 1993 Eugene Fama และ Kenneth French) กล่าวคือ
.
* หุ้น small cap (Market cap < 10,000 ล้านบาท) ทําผลงานดีกว่าหุ้น big cap (Market cap > 50,000 ล้านบาท)
* หุ้นคุณค่า (value stock) ดีกว่า หุ้นเติบโต (growth stock)
* หุ้นที่ไม่ผันผวนจะดีกว่า หรือ ยิ่งหุ้นที่น่าเบื่อ ผลตอบแทนยิ่งดี
* มีธรรมาภิบาล และรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
* มีความได้เปรียบในทางตลาด
* มีความรับผิดชอบต่อสังคม CSR (Corporate Social Responsibility) มีนโยบายที่เป็นธรรมและยั่งยืน
.
เราจะมาต่อในอาทิตย์หน้า เกี่ยวกับวิธีการจับเวลาในการลงทุน ทั้งเทคนิคอลและพื้นฐาน และ cycle theory รวมทั้งวิเคราะห์เพิ่มในสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น, ทอง และอสังหาริมทรัพย์ครับ
.
ฝากกดไลค์และแชร์เฟสบุ๊คด้วยครับ www.facebook.com/BarracudaStocks
มีอะไรถาม คอมเมนต์ได้เลยครับ ขอบคุณมากนะครับ
.
#การลงทุน
#การออมหุ้น
#costaveraging
#factorinvestment
#covid19
ควรจะรีบซื้อหุ้นตอนนี้ไหม หรือ ควรจะรอ ทําไมไม่ทําทั้ง 2 อย่าง (ตอนที่ 1)
เรามักจะถูกถามบ่อยๆ จากคนรู้จักที่เริ่มมีเงินเก็บจากทํางานประจำ ว่าช่วงตลาดอ่อนแอแบบนี้ เหมาะไหมที่จะเริ่มลงทุนเพื่อการเกษียณ
.
คําตอบแรกของเรา คือ แน่นอน หากคุณยังไม่เกษียณอีกหลายสิบปี หุ้นเป็นหนทางที่ดีที่สุดจะทําให้การลงทุนงอกเงย อาจจะมีช่วงที่ตลาดดูยากมาก แต่ถ้าระยะเวลาการลงทุนของคุณเป็นทศวรรษ การถือเงินไม่ใช่เรื่องที่ฉลาด ไม่มีความจำเป็นที่จะเหนี่ยวไกที่ราคาใดราคาหนึ่ง เพราะไม่มีใครสามารถเอาชนะตลาดได้ตลอดไป
.
หากงานของคุณไม่เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น แค่กักส่วนหนึ่งของเงินเดือนมาลงทุนในหุ้น หากหุ้นถูก ก็ซื้อมากตัว หากหุ้นแพง ก็ซื้อหุ้นน้อยตัวลง อันนี้เป็นวิธี “cost averaging”
.
เนื่องจากคนส่วนมากจะเอาเงินที่ได้จากเงินเดือนแต่ละเดือนมาลงทุนในหุ้น ราคาหุ้นอาจจะแพงขึ้นเล็กน้อยในช่วงนั้น หากคุณสามารถกําหนดให้ลงทุนกลางเดือน (เช่น วันที่ 15 หรือ 2-3 วันหลังจากนั้น) หรือเมื่อไรที่ตลาดดูไม่คึกคัก คุณจะไม่เสียดายที่จะลงทุนช่วงนั้นหรอก
.
ต้นทุนเป็นตัวแปรที่สำคัญที่นักลงทุนเริ่มต้นสามารถทําให้เกิดความแตกต่าง ถ้าคุณซื้อ หุ้นปตท 1 หุ้น, หุ้น SCC 1 หุ้น, หุ้น BBL 2 หุ้น แต่ละเดือน (เหตุการณ์สมมตินะครับ) ต้นทุนต่อหุ้นจะสูงมาก ถ้ามีคนแนะนําให้ซื้อ Index ETF ที่ราคาหนึ่งๆ (flat fee) นั้นซะจะยังดีกว่า ลองช็อปรอบๆ หาดูตัวเลือกที่ดีที่สุด
.
หากคุณต้องการลงทุนด้วยตนเอง คุณรู้ว่าคุณต้องการซื้อหุ้นอะไรบ้าง (สมมุติอีกทีว่า ลิตส์นี้มีหุ้นอยู่ 20 ตัว) คุณควรเลือกลงทุนในหุ้น 4-5 ตัวในลิสต์นี้ และหมุนเวียนลงทุนแบบ random ในแต่ละเดือน จนกระทั่งครบทุกตัวที่ตั้งใจไว้ ถ้าคุณสามารถลดต้นทุนในการลงทุนรายเดือนได้เพียงเล็กน้อยก็เก่งมากแล้ว สิ่งสําคัญที่เราอยากเตือน คือ ระวังอย่าจ่ายค่าคอมบ่อยเกินไป อย่าปรับพอร์ตบ่อย ปรับเมื่อจําเป็นเท่านั้น อย่าซื้อหรือขายเพียงเพราะคุณคิดว่า คุณฉลาดกว่าคนอื่นๆ คุณเบื่อ หรือโบรกเกอร์มาเชียร์ให้คุณเทรด
.
ขั้นตอนต่อไปที่สําคัญ คือ Time the market ด้วยตนเอง ซึ่งนี่เป็นศิลปะมากกว่าวิทยาศาสตร์ การกระจายความเสี่ยงยังใช้ได้ดี มีผลการวิจัยทางการเงินได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณลงทุนในหุ้น 15 ตัวจะได้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงดีกว่า แค่ถือหุ้นไม่กี่ตัว” ถ้าคุณคิดว่า ก็แค่ลงทุนในดัชนีอย่าง SET หรือ MSCI Thailand เอง ไม่เห็นจะยาก จงพึงระวังไว้ว่า PTT Group มีสัดส่วนนํ้าหนักถึง 20% ของดัชนีเหล่านี้ เงินลงทุนของคุณอาจจะกระจุกในอุตสาหกรรมหนึ่งมากเกินไป และไม่กระจายเท่าที่ควร พูดง่ายๆ คือ เราชอบ Equal weighting มากกว่า Weighting by market cap
.
คร่าวๆ เราอาจใช้ ทฤษฎีของพฤติกรรมของหุ้นที่ทําให้เกิดผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนของตลาดเรียกว่า Factor Investment ที่ทําให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า (ค้นพบในปี 1993 Eugene Fama และ Kenneth French) กล่าวคือ
.
* หุ้น small cap (Market cap < 10,000 ล้านบาท) ทําผลงานดีกว่าหุ้น big cap (Market cap > 50,000 ล้านบาท)
* หุ้นคุณค่า (value stock) ดีกว่า หุ้นเติบโต (growth stock)
* หุ้นที่ไม่ผันผวนจะดีกว่า หรือ ยิ่งหุ้นที่น่าเบื่อ ผลตอบแทนยิ่งดี
* มีธรรมาภิบาล และรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
* มีความได้เปรียบในทางตลาด
* มีความรับผิดชอบต่อสังคม CSR (Corporate Social Responsibility) มีนโยบายที่เป็นธรรมและยั่งยืน
.
เราจะมาต่อในอาทิตย์หน้า เกี่ยวกับวิธีการจับเวลาในการลงทุน ทั้งเทคนิคอลและพื้นฐาน และ cycle theory รวมทั้งวิเคราะห์เพิ่มในสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น, ทอง และอสังหาริมทรัพย์ครับ
.
ฝากกดไลค์และแชร์เฟสบุ๊คด้วยครับ www.facebook.com/BarracudaStocks
มีอะไรถาม คอมเมนต์ได้เลยครับ ขอบคุณมากนะครับ
.
#การลงทุน
#การออมหุ้น
#costaveraging
#factorinvestment
#covid19