งงมากครับ เหตุเกิดวันที่ 25 เมษายน 2563 อยู่ดีๆ มีข้อความจากธนาคารว่าถูกหักเงินจากบริษัทประกัน Cigna Insurance Plc. ในยอดเงิน 2,700 บาท ทั้งนี้ ตัวผมเองไม่เคยมีการไปตกลงหรือให้ความยินยอมกับใครหรือเจ้าหน้าที่ของทางบริษัท Cigna เลยว่าจะทำประกัน คือยังไม่เคยมีความคิดที่จะทำประกันใดๆ หรืออยากจะทำประกัน ขนาดประกันโควิดผมยังไม่ได้ทำเลย ประเด็นเลยก็คือ ที่ผ่านๆ มาปกติก็มีเจ้าหน้าที่ทางบริษัทประกันโทรมาติดต่อขอเสนอให้ข้อมูลเกี่ยวกับประกันบ้าง ด้วยความเป็นคนที่ใจอ่อน ก็อยากให้เค้าทำหน้าที่ ลองฟังข้อมูลดูเผื่อจะสนใจ จริงๆ ส่วนใหญ๋ที่ฟังก็มีแต่ตอบว่าครับซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ไม่เคยที่จะตอบว่าโอเคครับ ผมยินดีทำครับ หรืออยากจะทำครับ ตกลงทำได้เลยนะครับ จะได้รับกรมธรรม์เมื่อไหร่ครับ ไม่มีคำพูดพวกนี้หรือลักษณะนี้อย่างแน่นอน
ด้วยเป็นคน Action เร็ว รีบดำเนินการอันดับแรกก็ติดต่อไปที่ธนาคารของเราก่อน 021111111 ธนาคาร กรุงไทย ก็สอบถามรายการเคลื่อนไหวทางบัญชี ให้เจ้าหน้าที่ทางธนาคารช่วยเช็คข้อมูลให้ปรากฎว่ารายการยอดเงิน 2,700 บาท เป็นรายการจากทาง Cigna Insurance Plc. ซึ่งผมงงเป็นไก่ตาแตกมากเพราะว่าด้วยความจำและความรู้สึกของเราทั้งหมดตั้งแต่เกิดมาบนโลกนี้นึกไม่ออกเลยว่าเคยไปตอบรับ หรือตกลงให้ความยินยอมการทำประกันกับบริษัท Cigna ตอนไหน ก็ตอบเจ้าหน้าที่เค้าไปว่า " จะขอยกเลิกรายการดังกล่าวได้หรือไม่เพราะว่ายืนยันว่าไม่ได้มีการทำรายการดังกล่าว ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารตอบกลับมาว่า ไม่ได้เนื่องจากต้องไปติดต่อบริษํท Cigna ให้ทำเรื่องคืนเงินให้ แต่สิ่งที่ทำได้คือการอายัดบัตร ATM ซึ่งเป็นบัตร VISA และทำเรื่องยกเลิกขอปฏิเสธรายการไป โดยจะต้องแจ้งอายัดบัตรดังกล่าว ส่งข้อมูลสำเนาบัตรเซ็นสำเนาถูกต้องและเขียนข้อความแนบท้ายว่า ไม่ได้ใช้บัตรดังกล่าวในรายการดังกล่าวยอดเงินดังกล่าวไปที่อีเมล์ disputegroup@ktb.co.th แล้วยังต้องไปแจ้งเรื่องกับธนาคารว่าขอยกเลิกบัตร ATM เอาออกจากระบบด้วย ที่ต้องทำทั้งหมดนี้เพราะเกรงว่าในอนาคตอาจจะเกิดขึ้นอีก ทำให้เสียหายต่อเวลาและทรัพย์สินอีก" ทางด้านบริษัท Cigna ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ให้บริการลูกค้าก็บอกให้ส่งข้อมูลรายละเอียดบัญชี ไปให้เค้าทางอีเมล์เพื่อที่จะส่งต่อให้ทาง Finance ของบริษัท Cigna ดำเนินการตรวจสอบอีกทีในวันเปิดทำการคือวันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2563 ที่จะถึง อีก เค้าบอกจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 วันทำการ ตอนนี้ผมเองก็ไม่นิ่งนอนใจหาข้อมูลต่างๆ เพื่อป้องกันตัวเราเองและอยากเป็นอุทธาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ ที่อาจจะเจอเหตุการณ์เดียวกัน หรือเคยเจอเหตุการณ์เดียวกันว่าจะทำอะไรอย่างไรได้บ้าง เบื้องต้นผมก็มีไปร้องเรียนออนไลน์กับทาง คปภ. เอาไว้ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เพราะรู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ ต่อเรื่องที่เราไม่ได้ สร้างความเสียหาย ทั้งนี้ได้มีการติดต่อไปกับ Facebook ของบริษัท ซิกน่า เจ้าหน้าที่ก็บอกมีการรับเรื่องแล้วจะมีการติดต่อชี้แจงกลับ ประเด็นคือผมไม่ต้องการคำชี้แจงใดๆ นอกจากการคืนเงินปฏิเสธในสิ่งที่ผมไม่ได้ตกลงหรือยินยอมทำครับ ตั้งปฏิญาณต่อตัวเองเอาไว้เลยต่อจากนี้ถ้ามีเสนอประกันจะบล็อคด่ากลับเลย ผมอ่านเคยหาเจอถึงขั้นว่าขนาดยังไม่ได้รับโทรศัพท์ยังโดนเรียกเก็บหักเงินกันได้เลย มันน่ากลัวจริงๆ นะครับ ที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเรารั่วไหลไปถึงพวกนี้ได้ เจตนาผมไม่ได้อยากจะกล่าวโทษบริษัท Cigna เพราะ ว่าหากคนที่ดำเนินการเป็นคนๆ เดียวที่ทำให้บริษัทเสื่อมเสีย ซึ่งไม่รู้คือใคร ไม่มีข้อมูลอะไรเลย มีแต่ข้อมูลการถูกหักเงินออกไปจากบัญชี และลงรายการว่าเป็นของ CIgna Insurance Plc. หากบริษัทรับผิดชอบโดยการคืนเงินให้กับผม ทางผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร
ใครมีวิธ๊การจัดการอย่างไร หรือเคยดำเนินการกันอย่างไรบ้าง จริงๆ ก็อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องใหม่อะไรแต่มันใหม่สำหรับผม และคนที่ยังไม่เคยเจอ อยากเป็นประสบการณ์และความรู้ให้กับคนที่ยังไม่เคยเจอด้วยนะครับหากเจอแล้วจะได้มีวิธีการจัดการมีวิธีการรับมือแก้ไขกัน ผมถือคติอย่าให้ใครมาเอาเปรียบเราครับเพราะ เราไม่เคยคิดที่จะไปฉ้อโกงหรือเอาเปรียบใครอยู่แล้ว ป้องกันตัวเองจากเรื่องพวกนี้ จากสิ่งที่มันไม่ถูกต้องครับ จริงๆ หากมีผู้ดำเนินการที่ต้องรับโทษด้วยก็ดี เพราะจะได้เป็นที่ตระหนักให้กับสังคมด้วยว่าไม่ควรจะทำอะไรแบบนี้ ไม่ควรจะทำให้เกิดความเสียหายกับคนอื่นๆ กับคนในสังคมแบบนี้ครับ
อยู่ดีๆ ถูกหักเงินจากบัญชีด้วยค่าประกันจากบริษัท Cigna
ด้วยเป็นคน Action เร็ว รีบดำเนินการอันดับแรกก็ติดต่อไปที่ธนาคารของเราก่อน 021111111 ธนาคาร กรุงไทย ก็สอบถามรายการเคลื่อนไหวทางบัญชี ให้เจ้าหน้าที่ทางธนาคารช่วยเช็คข้อมูลให้ปรากฎว่ารายการยอดเงิน 2,700 บาท เป็นรายการจากทาง Cigna Insurance Plc. ซึ่งผมงงเป็นไก่ตาแตกมากเพราะว่าด้วยความจำและความรู้สึกของเราทั้งหมดตั้งแต่เกิดมาบนโลกนี้นึกไม่ออกเลยว่าเคยไปตอบรับ หรือตกลงให้ความยินยอมการทำประกันกับบริษัท Cigna ตอนไหน ก็ตอบเจ้าหน้าที่เค้าไปว่า " จะขอยกเลิกรายการดังกล่าวได้หรือไม่เพราะว่ายืนยันว่าไม่ได้มีการทำรายการดังกล่าว ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารตอบกลับมาว่า ไม่ได้เนื่องจากต้องไปติดต่อบริษํท Cigna ให้ทำเรื่องคืนเงินให้ แต่สิ่งที่ทำได้คือการอายัดบัตร ATM ซึ่งเป็นบัตร VISA และทำเรื่องยกเลิกขอปฏิเสธรายการไป โดยจะต้องแจ้งอายัดบัตรดังกล่าว ส่งข้อมูลสำเนาบัตรเซ็นสำเนาถูกต้องและเขียนข้อความแนบท้ายว่า ไม่ได้ใช้บัตรดังกล่าวในรายการดังกล่าวยอดเงินดังกล่าวไปที่อีเมล์ disputegroup@ktb.co.th แล้วยังต้องไปแจ้งเรื่องกับธนาคารว่าขอยกเลิกบัตร ATM เอาออกจากระบบด้วย ที่ต้องทำทั้งหมดนี้เพราะเกรงว่าในอนาคตอาจจะเกิดขึ้นอีก ทำให้เสียหายต่อเวลาและทรัพย์สินอีก" ทางด้านบริษัท Cigna ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ให้บริการลูกค้าก็บอกให้ส่งข้อมูลรายละเอียดบัญชี ไปให้เค้าทางอีเมล์เพื่อที่จะส่งต่อให้ทาง Finance ของบริษัท Cigna ดำเนินการตรวจสอบอีกทีในวันเปิดทำการคือวันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2563 ที่จะถึง อีก เค้าบอกจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 วันทำการ ตอนนี้ผมเองก็ไม่นิ่งนอนใจหาข้อมูลต่างๆ เพื่อป้องกันตัวเราเองและอยากเป็นอุทธาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ ที่อาจจะเจอเหตุการณ์เดียวกัน หรือเคยเจอเหตุการณ์เดียวกันว่าจะทำอะไรอย่างไรได้บ้าง เบื้องต้นผมก็มีไปร้องเรียนออนไลน์กับทาง คปภ. เอาไว้ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เพราะรู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ ต่อเรื่องที่เราไม่ได้ สร้างความเสียหาย ทั้งนี้ได้มีการติดต่อไปกับ Facebook ของบริษัท ซิกน่า เจ้าหน้าที่ก็บอกมีการรับเรื่องแล้วจะมีการติดต่อชี้แจงกลับ ประเด็นคือผมไม่ต้องการคำชี้แจงใดๆ นอกจากการคืนเงินปฏิเสธในสิ่งที่ผมไม่ได้ตกลงหรือยินยอมทำครับ ตั้งปฏิญาณต่อตัวเองเอาไว้เลยต่อจากนี้ถ้ามีเสนอประกันจะบล็อคด่ากลับเลย ผมอ่านเคยหาเจอถึงขั้นว่าขนาดยังไม่ได้รับโทรศัพท์ยังโดนเรียกเก็บหักเงินกันได้เลย มันน่ากลัวจริงๆ นะครับ ที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเรารั่วไหลไปถึงพวกนี้ได้ เจตนาผมไม่ได้อยากจะกล่าวโทษบริษัท Cigna เพราะ ว่าหากคนที่ดำเนินการเป็นคนๆ เดียวที่ทำให้บริษัทเสื่อมเสีย ซึ่งไม่รู้คือใคร ไม่มีข้อมูลอะไรเลย มีแต่ข้อมูลการถูกหักเงินออกไปจากบัญชี และลงรายการว่าเป็นของ CIgna Insurance Plc. หากบริษัทรับผิดชอบโดยการคืนเงินให้กับผม ทางผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร
ใครมีวิธ๊การจัดการอย่างไร หรือเคยดำเนินการกันอย่างไรบ้าง จริงๆ ก็อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องใหม่อะไรแต่มันใหม่สำหรับผม และคนที่ยังไม่เคยเจอ อยากเป็นประสบการณ์และความรู้ให้กับคนที่ยังไม่เคยเจอด้วยนะครับหากเจอแล้วจะได้มีวิธีการจัดการมีวิธีการรับมือแก้ไขกัน ผมถือคติอย่าให้ใครมาเอาเปรียบเราครับเพราะ เราไม่เคยคิดที่จะไปฉ้อโกงหรือเอาเปรียบใครอยู่แล้ว ป้องกันตัวเองจากเรื่องพวกนี้ จากสิ่งที่มันไม่ถูกต้องครับ จริงๆ หากมีผู้ดำเนินการที่ต้องรับโทษด้วยก็ดี เพราะจะได้เป็นที่ตระหนักให้กับสังคมด้วยว่าไม่ควรจะทำอะไรแบบนี้ ไม่ควรจะทำให้เกิดความเสียหายกับคนอื่นๆ กับคนในสังคมแบบนี้ครับ