เกาะที่มีเรื่องราวที่ยังคงเป็นปริศนา

เกาะปริศนาเคลื่อนที่ได้ 


ทีมสำรวจของ เซอร์จิโอ นิวสปิลเลิร์ม ผู้ผลิตและผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอาร์เจนตินา กำลังพยายามไขปริศนา หลังเขาได้พบเกาะเล็ก ๆ อันแปลกประหลาด ที่เขาตั้งชื่อให้ว่า The Eye หรือ ดวงตา โดยบังเอิญขณะสำรวจหาเซตติ้งการถ่ายทำหนัง  โดยจากปากคำบอกเล่าของชาวบ้านยังทำให้เขาได้ทราบว่า แถบพื้นที่บริเวณนี้มีเรื่องราวประหลาดเกิดขึ้นมากมาย แต่ยังไม่เคยมีใครได้เข้าไปสำรวจอย่างจริงจังเลย  เว็บไซต์มิเรอร์ เปิดเผยเรื่องราวเกาะประหลาดไว้ในรายงานในที่ 30 สิงหาคม 2559

เกาะที่โค้งกลมสมบูรณ์แบบนี้ตั้งอยู่บนสามเหลี่ยมพารานา ระหว่างเมืองแคมปานาและซาราเต ของนครบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่ในบึงรูปทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 118 เมตร ความกลมดิกของทั้งเกาะและบึง จนไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ
         
สำหรับจุดที่ตั้งของ The Eye นั้น หากมองจาก Google Maps จะอยู่ที่โลเคชั่น 34°15'07.8"S 58°49'47.4"W โดยภาพแรกสุดของมันที่ถูกมองเห็นได้ผ่าน Google Maps คือเมื่อเดือนกรกฎาคม 2547 ซึ่งนั่นทำให้เซอร์จิโอได้ค้นพบเรื่องราวอันแปลกประหลาด เพราะเมื่อเขาไล่เรียงดูภาพ The Eye ตามช่วงเวลาต่าง ๆ ก็ได้พบว่า เกาะกลม ๆ นี้หมุนเคลื่อนที่ได้ราวกับมีแกนของตัวเอง 
         
ในที่สุด เซอร์จิโอพร้อมทีมสำรวจก็ได้บุกลงสำรวจพื้นที่ที่ตั้งจริง ๆ ของ The Eye จากการเดินเท้าถึง 8 ชั่วโมง ฝ่าฟันกลางป่าเข้าไปพวกเขาก็ได้พบบึงและเกาะกลมรูปดวงตานั้นสมใจ และได้พบว่าน้ำในบึงที่ล้อมรอบเกาะ The Eye นั้น ทั้งใสและเย็นอย่างเหลื่อเชื่อ ไม่เหมือนสภาพแวดล้อมโดยรอบ หนำซ้ำดินในบึงก็แข็ง ช่างตรงกันข้ามกับสภาพแอ่งหนองบึงรอบ ๆ ส่วนเกาะที่อยู่ตรงกลาง มันลอยอยู่บนอะไรสักอย่างที่พวกเขาก็ไม่อาจตอบได้เหมือนกัน

ความแปลกประหลาดยากอธิบายของ The Eye ยังดึงดูดความสนใจของนักล่ายูเอฟโออย่าง สก็อต ซี วาร์ริ่ง ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ UFO Sightings Daily สก็อตเชื่อว่าสิ่งนี้คือประตูสู่ที่ตั้งฐานลับเอเลี่ยน ดูจากรูปทรงของ The Eye เอง ก็เห็นได้ว่าใหญ่พอจะให้ยานอวกาศขนาด 100 เมตร เข้าไปได้อย่างพอเหมาะพอเจาะเลยทีเดียว และอาจได้คำตอบมากกว่านี้ หากสามารถลงไปสำรวจในน้ำได้
 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

        
ทางด้านเซอร์จิโอเอง ก็กระหายใคร่รู้ที่จะไขปริศนาของเกาะแห่งนี้ให้ได้ไม่ต่างกัน ทั้งว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เกิดขึ้นนานแค่ไหนแล้ว เคลื่อนที่เองได้อย่างไร  ซึ่งทีมของเขาได้ตั้งขอรับระดมทุนขึ้นในเว็บไซต์ kickstarter เพื่อรวบรวมเงินสำหรับการสำรวจและวิจัยขั้นต่อไป โดยเซอร์จิโอวางแผนจะนำนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ยูเอฟโอ รวมไปถึงผู้มีความสามารถรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสพิเศษลงไปสำรวจ The Eye ด้วยกัน
ภาพจาก ufosightingsdaily, elojoproject
Cr.https://hilight.kapook.com/view/141579
Cr.http://hight3ch.com/this-lake-is-home-to-a-bizarre-floating-eye-island/

เกาะที่เต็มไปด้วย"ซากเรือและกระดูกมนุษย์"



เกาะ Skeleton Coast   เป็นเกาะที่ถูกค้นพบเมื่อหลายร้อยปีก่อน โดยนักเดินเรือชาวโปรตุเกสและพวกเขาตั้งฉายาให้เกาะแห่งนี้ว่า "ประตูสู่นรก" เนื่องจากมีเศษกระดูก และซากเรือร้างเป็นจำนวนมากมาเกยตื้นอยู่บริเวณรอบๆ เกาะ ถือเป็นแนวชายฝั่งที่อันตรายที่สุดในโลก  ที่มีน้ำทะเลปั่นป่วนคลื่นลมแรงและหมอกหนาทึบ ในจำนวนซากเรือเหล่านั้นมีเรือ  Edward Pollen อยู่ดวย

อุบัติเหตุทางเรือของ Edward Pollen เกิดขึ้นที่  Skeleton Coast ในนามิเบียในเดือนกันยายน พ.ศ. 2452   Edward Pollen เป็นเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่มีระวางบรรทุกรวมทั้งสิ้น 2,272 และความยาว 310 ฟุต  และยังคงอยู่บนชายฝั่งโครงกระดูกนี้มาเกือบ 100 ปีแล้ว

ที่มา: http://www.clipmass.com/story/97740
Cr. https://board.postjung.com/877613 / โพสท์โดย David Angle
Cr.https://news.gamme.com.tw/519584

หมู่เกาะลึกลับกลางทะเล


เกาะแซนดี้ ได้กลายเป็นเกาะลึกลับที่ถูกบันทึกว่า ไม่มีอยู่จริงมานานกว่าศตวรรษ มันเคยถูกบันทึกไว้ว่าตั้งอยู่ระหว่างหมู่เกาะเชสเตอร์ฟิลด์และแนวประการังเนรีอุส ทางตะวันออกของคอรัลซี ประเทศออสเตรเลีย

ในปี 1774 คนแรกที่ได้ทำการบันทึกเกาะแซนดี้ไว้ในแผนที่ก็คือ กัปตัน เจมส์ คุก นอกจากนั้นในปี 1876 มีรายงานการพบเห็นเกาะแซนดี้จากเรือล่าปลาวาฬลำหนึ่ง มีการบันทึกเกาะแซนดี้ไว้ในแผนที่ของเยอรมนีในปี 1881 และแผนที่ทหารเรืออังกฤษในปี 1895 โดยบริเวณที่ตั้งของเกาะแตกต่างกันเล็กน้อยจากการพบเห็นครั้งแรก
 
เกาะแห่งนี้ถูกบันทึกมานานหลายศตวรรษ โดยอยู่ในแผนที่มากมาย เรื่องที่น่าแปลกคือ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2012 เรือของทางคณะสำรวจชาวออสเตรเลียได้แล่นผ่านเกาะแซนดี้ แต่ปรากฏว่า ‘มันไม่มีอยู่จริง’ พื้นที่ดังกล่าวเป็นทะเลที่ว่างเปล่า จากการตรวจสอบความลึกของทะเลในบริเวณนั้นพบว่ามีความลึกไม่น้อยกว่า 1,300 เมตร หรือ 4,300 ฟุต ซึ่งมันไม่เคยตื้นกว่านี้มาก่อน

เกาะแซนดี้ ถูกลบออกจากแผนที่หลายๆแห่ง รวมไปถึงแหล่งข้อมูลที่มีชื่อเสียงอย่าง National Geographic Society และ Google Maps แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางทีมงาน Google ได้ตัดสินใจถ่ายภาพดาวเทียมลงไปอีกครั้งในบริเวณหมู่เกาะดังกล่าว พบว่าอาจเป็นเพียงแค่ ‘แนวปะการัง’ ที่ทอดตัวยาวจนมีลักษณะคล้ายหมู่เกาะบนภาพถ่าย 
ที่มา : wiki | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
Cr.https://wtfintheworld.com/sandy-island-74890/
Cr.https://petmaya.com/sandy-lost-island

ปริศนาลึกลับบนเกาะที่ห่างไกล


เกาะบูเวต เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีพื้นที่ราว 50 ตารางกิโลเมตร ที่อยู่ห่างจากแอนตาร์กติกาถึง 1,600 กิโลเมตร ห่างจากเกาะ Tristan da Cunha ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ถึง 2,250 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากแอฟริกาใต้ถึง 2,570 กิโลเมตร จึงทำให้ที่นี่เป็นเกาะที่อยู่ห่างไกลมากที่สุดในโลก

เดิมทีเกาะแห่งนี้ถูกค้นพบโดย ฌอง แบบติสต์ ชาร์ลส บูเวต เดอ โลเซียร์ นักสำรวจชาวนอร์เวย์ ตั้งแต่ปี 1739 โดยเป็นเกาะที่ว่างเปล่า มีแต่หินและน้ำแข็ง ไม่มีพืชใดๆ นอกจากตะไคร่น้ำ จนกระทั่งในปี 1929 มันกลายเป็นดินแดนของนอร์เวย์อย่างสมบูรณ์

ในปี 1950 รัฐบาลของแอฟริกาใต้ได้รับอนุญาตจากนอร์เวย์ ให้สามารถเข้าไปตรวจสอบบนเกาะแห่งนี้ เพื่อดูทำเลในการก่อสร้างสถานีเรือกำปั่น แต่สุดท้ายก็พอว่าสภาพภูมิประเทศไม่เหมาะที่จะทำการใดๆ

ส่วนเรื่องลึกลับที่สุด เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี 1964 เมื่อรัฐบาลแอฟริกาใต้ส่งคนกลับไปอีกครั้งเพื่อศึกษาส่วนที่ใหม่กว่าของเกาะ ก็พบว่ามีเรือลึกลับลำหนึ่งอยู่บนเกาะพร้อมกับไม้พายคู่หนึ่งที่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยหลา ถึงแม้จะพบหลักฐานว่ามีคนมากับเรือ แต่ไม่มีการพบศพมนุษย์ใดๆบนเกาะ บนเรือไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นเรือของใครและมาจากไหน
 
ด้วยระยะทางที่สั้นที่สุดจากแผ่นดินที่มีคนอาศัยอยู่ยังไกลมากกว่า 2,000 กิโลเมตร ซึ่งไม่น่าจะมีใครที่พายเรือด้วยไม้พายมาถึงที่นี่ได้เลย แล้วพวกเขาไปไหน หรือเกิดอะไรขึ้น นอกจากไม้พายแล้วก็ไม่พบอะไรอื่นอีก
ที่มา  coolinterestingstuff 
เรียบเรียงโดย เพชรมายา
Cr.https://petmaya.com/mystery-boat-bouvet-island

ปริศนาหลุมศพปลาโลมาบนเกาะเกิร์นซีย์


ผลการตรวจหาอายุ ซากโครงกระดูกปลาโลมา ที่ถูกฝังอย่างน่าพิศวง บนเกาะเกิร์นซีย์ ในช่องแคบอังกฤษ พบว่าอยู่ในยุคกลาง แต่สิ่งที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังงวยงง ไม่สามารถอธิบายได้ก็คือ เหตุใดสัตว์แห่งท้องทะเลชนิดนี้ จึงถูกนำไปฝังไว้ในหลุม คล้ายสุสานของมนุษย์ เมื่อ 600 ปีที่แล้ว

ดร.ฟิลิป เดอ เจอร์ซีย์ นักโบราณคดี เผยว่า ซากกระดูกปลาโลมาถูกพบในระหว่างการขุดค้นทางโบราณคดี บนเกาะชาแปลล์ ดอม ฮิว เกาะขนาดเล็กนอกชายฝั่งตะวันตกของเกาะใหญ่เกิร์นซีย์ เพื่อค้นหาอาคารเก่าแก่หลังหนึ่ง ที่เคยตั้งอยู่บนเกาะ เมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว 
การตรวจหาค่าอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี โดยห้องแล็ปผู้เชี่ยวชาญในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา บ่งชี้ว่า โลมาตัวนี้ถูกฝังระหว่างปี พ.ศ. 1959 - 2033 ซึ่งสอดคล้องกันพอดีกับประวัติศาสตร์โบราณคดีของเกาะชาแปลล์ ดอม ฮิว

ดร. เดอ เจอร์ซีย์ เชื่อว่า โลมาตัวนี้ถูกมนุษย์ฆ่า และแช่น้ำเกลือฝังไว้ใต้ดิน เพื่อเก็บรักษาไว้กินเป็นอาหาร ไม่ใช่การฝังตามพิธีกรรม โดยนักบวชคริสต์ที่วัดอยู่ใกล้เคียง เนื่องจากมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์เขียนจารึกไว้ว่า มีการบริโภคปลาโลมาเป็นอาหารในยุคกลาง โดยเฉพาะที่เกาะเกิร์นซีย์ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 และ 14 บันทึกยังเขียนไว้อีกว่า ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 และ 13 เกิดกรณีพิพาทขนานใหญ่นานนับเดือน เกี่ยวกับเนื้อปลาโลมา บนเกาะเกิร์นซีย์
Cr. https://www.newtv.co.th/news/24069

วัตถุปริศนาบนเกาะ


5 มี.ค.61 สื่อต่างประเทศรายงานอ้างเว็บไซต์ เดลี่เมล เผย ทีมตามล่าหาเอเลี่ยน ‘Secureteam10’ มั่นใจ วัตถุลึกลับที่ดูมีลักษณะเป็นกองขนาดใหญ่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ พบบนเกาะเซาท์จอร์เจีย อันไกลโพ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ทางตะวันออกของบราซิล คือ ยานลึกลับของเอเลี่ยนที่พังเสียหายหลังลงจอด ชี้จากการใช้กูเกิล เอิร์ธ ซูมเข้าไปดูใกล้ๆ วัตถุลึกลับดังกล่าวที่อยู่ใกล้กับภูเขา Paget ที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งบนเกาะเซาท์จอร์เจีย ทำให้เห็นว่าวัตถุปริศนานี้ คือ ยานของมนุษย์ต่างดาว
 
Secureteam10 เชื่อว่าร่องรอยของหิมะที่แยกออกเป็นแนวยาวอยู่เบื้องหลังวัตถุปริศนา แสดงให้เห็นว่า ยานลำนี้วิ่งไปบนหิมะได้ไกลเป็นระยะทางหลายไมล์ ก่อนจะหยุดลง โดย Secureteam10 ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นการพยายามสืบหาความจริงในเรื่องนี้ ผ่านทางยูทูบเมื่อวันเสาร์ที่ 3 มี.ค.2561  ซึ่งนำไปสู่ความมั่นใจว่าวัตถุลึกลับที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ คือยานมนุษย์ต่างดาวที่พังเสียหายหลังลงจอด ขณะที่คลิปดังกล่าวก็ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์อย่างมากมาย มีชาวเน็ตแห่เข้าไปดูกว่า 4 แสนครั้ง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อย่างไรก็ตาม เดลี่เมล รายงานด้วยว่ามีคนจำนวนมากเห็นแย้งว่า  สิ่งที่เห็นนี้คือก้อนหินก้อนหนึ่งที่ถูกผลักให้เคลื่อนที่จากธารน้ำแข็งที่อยู่ใกล้เคียงเท่านั้น
Cr.https://www.thairath.co.th/news/foreign/1220225

เกาะปริศนารูปร่างเหมือนเต่า


เขื่อนซานเสียต้าป้า เป็นเขื่อนแรกของจีนที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อเต็มในภาษาอังกฤษของโครงการก่อสร้างเขื่อนนี้ คือ “Three Gorges multipurpose water control project” มีประวัติการก่อสร้างยาวนาน ตั้งแต่สมัย ดร.ซุน ยัตเซ็น ในปี พ.ศ. 2462 และเริ่มศึกษาโครงการฯ เมื่อปี พ.ศ. 2473 สภาประชาชน ลงมติให้ก่อสร้างได้ในปี พ.ศ. 2535 ในสมัยรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีหลี่เผิง
        
ในทุกๆช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกๆปี จะมีเกาะเล็กๆที่โผล่ออกมาจากแม่น้ำ Muodaoxi และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ไดรับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกาะดังกล่าวนั้นมีรูปร่างคล้ายเต่า สัตว์มงคลนามซึ่งหมายถึงการมีอายุที่ยืนยาว โดยชาวบ้านในท้องถิ่นได้เรียกเกาะแห่งนี้ว่า "Spring Turtle Rising From Water" ซึ่งเกาะดังกล่าวจะปรากฏขึ้นเมื่อระดับน้ำลดลงไปอยู่ที่ 163-168 เมตร และหลังจากนั้นก็จะถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถมองเห็นตัวเกาะได้เลย
Cr. https://travel.thaiza.com/foreign/310299/

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่