เท่าไร ก็ไม่พอ กับชุด PPE และหน้ากาก N95 เพราะใช้แล้วต้องทิ้ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เรา “การ์ดตก” ไม่ได้ การบริจาคยังต้องไปต่อ!
ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้นโดยพบผู้ติดเชื้อลดจำนวนลงในแต่ละวัน หากแต่ยังมีผู้ป่วยที่ยังต้องเฝ้าดูอาการ และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นจำนวนเกือบ 1,000 คน แพทย์ พยาบาล รวมถึง บุคลากรด้านสาธารณสุข ยังคงต้องทำงานอย่างหนัก ในขณะที่รัฐบาลก็ยังคงขอให้พวกเรา “การ์ดอย่าตก”
เมื่อหมอและพยาบาลยังคงต้องทำงานเป็นด่านหน้าต่อสู้กับโรค เครื่องมือในการปกป้องตัวเองให้ปลอดภัยที่สุด จึงยังเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้ และด้วยเหตุว่าอุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ใช้แล้วทิ้ง จำนวนการใช้อุปกรณ์ต่อวันจึงสูงมาก โรงพยาบาลใหญ่ของรัฐ อาทิ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬา และโรงพยาบาลรามาธิบดี ต้องใช้ชุด PPE กว่า 200 ชุดต่อวันเพื่อดูแลผู้ป่วยหนัก ไม่นับรวมโรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ชุด PPE เช่นกัน ชุด PPE จึงเป็นอุปกรณ์ที่มีมากเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ จำเป็นต้องหามาใช้เพิ่มเรื่อย ๆ ในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ เช่นเดียวกับหน้ากาก N95 ถือเป็นสิ่งจำเป็นไม่ต่างกัน หากคาดการณ์จากจำนวนผู้ป่วย 1,000 ราย บุคลากรทางการแพทย์ จำเป็นต้องใช้หน้ากาก N95 มากถึง 1,700 ชิ้นต่อวัน
สถานการณ์ในเดือนที่ผ่านมาโรงพยาบาลจึงขาดแคลนทั้งชุดและหน้ากากอย่างหนัก อย่างที่เราได้เห็นภาพคุณหมอบางคนทำการผ่าตัดด้วยชุดกันฝนแทนชุด PPE หรือการใช้ Face Shield ทีผลิตกันเองจากแผ่นพลาสติก แม้ไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ แต่จำเป็นต้องใช้ไปก่อนในสถานการณ์ขาดแคลนเพราะยังดีกว่าไม่ป้องกันอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่ยืนยันแล้วว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เกินกว่า 90 รายแล้ว (ณ วันที่ 11 เมษายน 2563) ซึ่งหากยังขาดแคลนอุปกรณ์สำคัญในการปกป้องอยู่ หมอ พยาบาล และบุคลากรด้านสาธารณสุข ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับบุคคลสำคัญที่คอยปกป้องดูแลเรา
ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง สิ่งที่เราทำได้เพื่อ #ปกป้องคุณหมอ นอกจากการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติแล้ว คือ การช่วยกันจัดหาหรือบริจาคอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะเมื่อพวกเขายังต้องไปต่อ แล้วเราจะหยุดให้ความช่วยเหลือได้หรือ?
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึงของการบริจาค คือ คุณภาพของของที่เราส่งต่อให้บุคลากรทางการแพทย์ด้วย แม้ว่าทุกๆคนจะมีความตั้งใจดี แต่ในช่วงนี้ เรามักได้ยินข่าวที่โรงพยาบาลไม่สามารถนำของที่ได้มาไปใช้ได้จริง เนื่องจากไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ วันนี้ เราจึงอยากแนะนำหนึ่งโครงการดีๆ “ส่งเกราะให้หมอกัน” โดยเป็นบริษัทภาคเอกชน ที่มีเครือข่ายและสำนักงานในประเทศจีน ซึ่งสามารถช่วยจัดหาชุดPPE มาตรฐานระดับ 2 EN14126:2003 (Type 6-B) และหน้ากาก N95 ตามมาตรฐานทางการแพทย์ที่เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยปกป้องชีวิตหมอและพยาบาลได้มากที่สุด หากใครกำลังมองหาวิธีการที่จะช่วยปกป้องคุณหมอ ผ่านพลังเล็กๆของเราแต่ส่งผลที่ยิ่งใหญ่ ลองเข้าไปดูข้อมูลของโครงการนี้ได้ที่
http://www.protectdoctor.in.th/th ส่วนวิธีการบริจาค ก็เพียงแค่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และโอนเงินเข้าบัญชี
ธนาคารกรุงศรี บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 0010183574 แค่นี้ก็ถือว่าเราได้ร่วมกันปกป้องคุณหมอแล้ว
อย่าลืมว่า การปกป้องครั้งนี้ ยังต้องไปต่อ...และพวกเราคนไทยทั้งประเทศจะสู้ไปด้วยกัน
เท่าไหร่ ก็ไม่พอ กับชุด PPE และหน้ากาก N95 เพราะใช้แล้วต้องทิ้ง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เรา “การ์ดตก” ไม่ได้
ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้นโดยพบผู้ติดเชื้อลดจำนวนลงในแต่ละวัน หากแต่ยังมีผู้ป่วยที่ยังต้องเฝ้าดูอาการ และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นจำนวนเกือบ 1,000 คน แพทย์ พยาบาล รวมถึง บุคลากรด้านสาธารณสุข ยังคงต้องทำงานอย่างหนัก ในขณะที่รัฐบาลก็ยังคงขอให้พวกเรา “การ์ดอย่าตก”
เมื่อหมอและพยาบาลยังคงต้องทำงานเป็นด่านหน้าต่อสู้กับโรค เครื่องมือในการปกป้องตัวเองให้ปลอดภัยที่สุด จึงยังเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้ และด้วยเหตุว่าอุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ใช้แล้วทิ้ง จำนวนการใช้อุปกรณ์ต่อวันจึงสูงมาก โรงพยาบาลใหญ่ของรัฐ อาทิ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬา และโรงพยาบาลรามาธิบดี ต้องใช้ชุด PPE กว่า 200 ชุดต่อวันเพื่อดูแลผู้ป่วยหนัก ไม่นับรวมโรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ชุด PPE เช่นกัน ชุด PPE จึงเป็นอุปกรณ์ที่มีมากเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ จำเป็นต้องหามาใช้เพิ่มเรื่อย ๆ ในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ เช่นเดียวกับหน้ากาก N95 ถือเป็นสิ่งจำเป็นไม่ต่างกัน หากคาดการณ์จากจำนวนผู้ป่วย 1,000 ราย บุคลากรทางการแพทย์ จำเป็นต้องใช้หน้ากาก N95 มากถึง 1,700 ชิ้นต่อวัน
สถานการณ์ในเดือนที่ผ่านมาโรงพยาบาลจึงขาดแคลนทั้งชุดและหน้ากากอย่างหนัก อย่างที่เราได้เห็นภาพคุณหมอบางคนทำการผ่าตัดด้วยชุดกันฝนแทนชุด PPE หรือการใช้ Face Shield ทีผลิตกันเองจากแผ่นพลาสติก แม้ไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ แต่จำเป็นต้องใช้ไปก่อนในสถานการณ์ขาดแคลนเพราะยังดีกว่าไม่ป้องกันอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่ยืนยันแล้วว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เกินกว่า 90 รายแล้ว (ณ วันที่ 11 เมษายน 2563) ซึ่งหากยังขาดแคลนอุปกรณ์สำคัญในการปกป้องอยู่ หมอ พยาบาล และบุคลากรด้านสาธารณสุข ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับบุคคลสำคัญที่คอยปกป้องดูแลเรา
ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง สิ่งที่เราทำได้เพื่อ #ปกป้องคุณหมอ นอกจากการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติแล้ว คือ การช่วยกันจัดหาหรือบริจาคอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะเมื่อพวกเขายังต้องไปต่อ แล้วเราจะหยุดให้ความช่วยเหลือได้หรือ?
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึงของการบริจาค คือ คุณภาพของของที่เราส่งต่อให้บุคลากรทางการแพทย์ด้วย แม้ว่าทุกๆคนจะมีความตั้งใจดี แต่ในช่วงนี้ เรามักได้ยินข่าวที่โรงพยาบาลไม่สามารถนำของที่ได้มาไปใช้ได้จริง เนื่องจากไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ วันนี้ เราจึงอยากแนะนำหนึ่งโครงการดีๆ “ส่งเกราะให้หมอกัน” โดยเป็นบริษัทภาคเอกชน ที่มีเครือข่ายและสำนักงานในประเทศจีน ซึ่งสามารถช่วยจัดหาชุดPPE มาตรฐานระดับ 2 EN14126:2003 (Type 6-B) และหน้ากาก N95 ตามมาตรฐานทางการแพทย์ที่เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยปกป้องชีวิตหมอและพยาบาลได้มากที่สุด หากใครกำลังมองหาวิธีการที่จะช่วยปกป้องคุณหมอ ผ่านพลังเล็กๆของเราแต่ส่งผลที่ยิ่งใหญ่ ลองเข้าไปดูข้อมูลของโครงการนี้ได้ที่ http://www.protectdoctor.in.th/th ส่วนวิธีการบริจาค ก็เพียงแค่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงศรี บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 0010183574 แค่นี้ก็ถือว่าเราได้ร่วมกันปกป้องคุณหมอแล้ว
อย่าลืมว่า การปกป้องครั้งนี้ ยังต้องไปต่อ...และพวกเราคนไทยทั้งประเทศจะสู้ไปด้วยกัน