[CR] ไทยากิ ที่ไม่ใช่ ไทยยากิ Kuriko-An กินง่ายๆ สบายกระเป๋า (เที่ยวญี่ปุ่นออนไลน์ไปก่อนช่วงนี้)

ช่วงนี้ออกไปข้างนอก คนก็จะซาๆ กันหน่อย ร้านก็ยังไม่ค่อยเปิดกันมากเท่าไหร่
เพราะสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่โตเกียวยังถือว่าไม่ปลอดภัยเท่าไหร่

วันนี้เรามากันแถวย่าน Kichijoji ที่ปกติ คนจะพลุกพล่านกันมากอีกแห่งหนึ่งในโตเกียว
จะเข้าไปกินในร้านก็กลัว วันนี้เราก็เลยเลือกร้านที่เป็นแบบซื้อแล้วยืนทานหรือ เอากลับบ้านกันได้เลย
เอาแบบเบาๆ ไม่หนักท้องก็ต้องนี่เลย "ขนมไทยากิ" เพื่อนๆ คงรู้จักขนมปังปิ้งรูปปลาชนิดนี้กันบ้างแล้ว เพราะก็เห็นมีขายในไทยหลายปีมาแล้วเหมือนกัน
ก่อนอื่น เอาเรื่องทางประวัติศาสตร์มาคุยให้ฟังกันซักหน่อย

ความเป็นมาของขนมไทยากินี้ เริ่มต้นเมื่อช่วงแรกของสมัยเมจิ สมัยนั้นยังไม่ได้ทำเป็นรูปปลากันเหมือนทุกวันนี้
ในปีเมจิ 42 (ค.ศ.1909) ได้มีร้านขนมในโตเกียวที่ชื่อ "Naniwaya" ซึ่งได้ย้ายถิ่นมาจากเมืองโอซาก้า (ชื่อเก่า เมืองนานิวะ) 
อยากจะทำขนมที่กินแบบร้อนๆ ชนิดหนึ่งขึ้นมาก็ได้เริ่มทำขนมที่ชื่อว่า "Imagawa-yaki" (อิมะกาวะยากิ) หรือ "Taiban-yaki" (ไทบังยากิ)
ที่มีรูปร่างเป็นทรงสูงกระบอกข้างในสอดใส้ถั่วแดงบด


(* "Imagawa-yaki" (อิมะกาวะยากิ) หรือ "Taiban-yaki" (ไทบังยากิ) ที่ตอนนี้ก็เป็นขนมปังปิ้งอีกชนิดหนึ่งที่ยังมีขายทั่วไปในญี่ปุ่น)

แต่ในตอนนั้นขายไม่ได้เลยแม้แต่น้อยไม่เป็นที่นิยม หลังจากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนแม่พิมพ์มาเป็นรูปเต่า (Kame-yaki) ก็ยังทำรายได้ไม่ดีเท่าที่ควร 
จนกระทั่งได้เปลี่ยนแม่พิมพ์มาเป็นรูปปลาที่ชือว่า "ไท" (ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับประเทศไทยใดๆ ทั้งสิ้น แค่เป็นคำพ้องเสียง) และถ้าแปลเป็นภาษาไทย ก็คือ "ปลากระพง" นั่นเอง

ในภาษาญี่ปุ่นว่าคำว่า "ไท" ไปพ้องกับคำว่า "เมะเดะไท" ซึ่งแปลว่า "น่ายินดีปรีดา" ปลาไทก็เลยเป็นสัญญาลักษณ์ของความเป็นมงคล
ทำให้ขนมปังปิ้งรูปปลานี้ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอย่างล้นหลามเลยทีเดียว
อีกทั้งในสมัยนั้นปลาไทถือว่าเป็นปลาราคาแพง ยากนักที่สามัญชนจะหามากินได้ง่ายๆ ดังนั้นทางร้านจึงออกแบบแม่พิมพ์ให้รูปร่างเป็นปลาไทให้สามัญชนได้กินกัน (อันนี้แอบน่าสงสารเหตุผล กินปลาปลอม) 

และที่น่าตกใจก็คือร้านที่ริเริ่มทำนี้ ทุกวันนี้ "Naniwa-ya" ก็ยังดำเนินกิจการอยู่ด้วย (ยังขายดีเหมือนเดิม)
แต่ที่เราจะพาไปนี้ไม่ใช่ร้านต้นตำหรับอะไรหรอกนะ แต่ก็อร่อยเหาะเหมือนกัน
ที่เห็นอยู่นี้คือร้าน Kuriko-An (คุริโกะอัน) เป็นร้านแฟรนไชส์ที่มีอยู่รอบๆ โตเกียว ไซตามะ คานากาว่า และชิบะ
ราคาก็ถนอมกระเป๋าได้ดีทีเดียว อันละไม่เกิน 200 เยน (ราคาไม่รวมภาษี)



ขนาดไซส์ก็มีให้เลือก 2 แบบคือ แบบปกติ และพิเศษ อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับร้านสาขาอะไรก็จะมีแตกต่างกันไป
แต่สาขาที่ผมได้ไปมา (Kichijoji)มีเป็น "Magikarp" หรือ "Koiking" (คอยคิง) ที่เป็นตัวการ์ตูนจากอนิเมะดังโปเกม่อนนั้นเอง (เพื่อนๆ จะรู้จักกันรึเปล่านะ?)

แต่ผมไม่ได้เป็นแฟนโปเกม่อนก็เลยไม่รู้จักซึ่งมีหน้าตาแบบนี้



และยังมีไทยากิแบบพิเศษอื่นๆ อีกแบบนี้



ไส้หลักๆ ก็จะมี ไส้ถั่วแดง, ไส้เมเปิล, ไส้มันม่วง, ไส้มัทฉะช็อกโก้, ไส้ครีม, ไส้นมช็อกโกแล็ต, ไส้คัสตาร์ด ฯลฯ
 


ร้านที่ทำทั้งหมดจะเป็นครัวแบบเปิด ที่จะทำให้ลูกค้าที่มาซื้อได้เห็นกรรมวิธีการปิ้ง การใส่ไส้ 
และแถมยังได้กลิ่นหอมของเนื้อแป้งตอนที่กำลังปิ้งชวนให้น้ำลายสอกันเป็นแถวเลยทีเดียว



อย่างที่เกริ่นไปในหัวข้อแล้วว่า ตรงขอบแป้งจะกรอบๆ พอกัดลงไปในเนื้อแป้งก็จะนุ่มละมุนลิ้นหน้าตาจะเป็นยังไงไปดูภาพประกอบกันเลย
นี่ไงปลาไท ไม่ใช่ ปลาไทย 555



พอกัดลงไป !! (ถั่วแดงไส้มาตรฐาน)



เห็นว่ามีไส้ตามฤดูกาล ก็เลยขอลองหน่อย "มัทฉะช็อกโก้" 

 

จะนั่งกินหน้าร้านก็ได้มี ม้ายาวให้นั่ง และบริการถังขยะพร้อม (แต่หน้าหนาวมันจะหนาวหน่อยๆ)
เป็นไงกันบ้างครับ ถ้ามีโอกาสได้มากันแล้วก็ลองแวะไปกินกันได้นะครับ ใกล้สาขาไหนไปที่นั่นได้เลยนะครับ
วันนี้ขอฉะแว้บไปหลับในบ้านก่อน ช่วงนี้ระวังสุขภาพกันด้วยนะครับ
ชื่อสินค้า:   kuriko-an
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่