[CR] คิดถึงบ้านแร่ะดูออก .. บ้านทุ่งละคร เชียงดาว by ป้าเกษ สูงวัยลุยไปทั่ว

ขออนุญาตรีวิวตอบแทนน้ำใจคนห้องชายคา สำหรับรางวัลที่ได้เข้ามาร่วมเกมส์ในห้องนี้ค่ะ  ..  หมวกสวยๆเอาไว้ไปใส่เดินถ่ายรูปค่ะ
โควิดไปยัง โควิดจบยัง

มักเป็นคำถามที่คิดเวลาดูข่าวตอนเช้าที่ไร ในใจนึกภาวนาให้สถานการณ์หยุดเชื้อเพื่อหมอดีขึ้น  เมื่อบุคลากรทางการแพทย์ไม่ป่วย ไม่ถูกกักตัวมากๆก็จะได้ออกมารักษาคนที่ติดเชื้อทั้งหลายให้หายไปจากประเทศไทยซะที  ชีวิตที่ปกติสุข ออกจากบ้านไปทำงานหาเลี้ยงชีพสำหรับตัวเองจะได้กลับคืนมาซะทีซักที

 ป้าเกษเป็นคนเชียงใหม่ เป็นสาวเหนื๋อเจ้า เป็นมาตลอด 63 ปี เพียงมาอาศัยอ่างทองเป็นที่ทำมาใช้ไปได้นานกว่าสิบปีแล้ว  โดยไม่คิดว่าวันหนึ่งาจะโดนพิษเจ้าไวรัสร้ายมันโจมตีซะจนต้องตั้งหลักเฝ้าค่ายอยู่ที่อ่างทองและโชดดีที่อ่างทองโควิดตีไม่แตก แต่ก็ยังคงต้องเฝ้าระแวงให้ถึงที่สุดถึงจะออกนอกค่ายได้  เพราะเจ้าโควิดนี่จะเผลอไม่ได้มันชอบซุ่ม รอตีช่องโหว่  ๕๕๕



เลยขออนุญาตนำภาพแถวๆบ้านป้าที่เชียงดาวมาลงเพื่อลดความคิดถึง และ เพื่อบันทึกไว้ว่า ..  ความคิดถึงบ้านของสูงวัยในยามที่ไม่ได้กลับนี่มันทรมานมากมายขนาดไหน นั่งดูภาพไป น้ำตาซึมไป .. นี่เราคิดถึงบ้านมากขนาดนี้เลยเหรอ

บ้านป้าหลังนี้ป้าเพิ่งเข้าไปอยู่ได้ซักสองปีกว่าเองค่ะ  เห็นบ้านครั้งแรกนี่ต๊กกะจายเหมือนกันเหมือนเข้าบ้านผิด มันเหมือนป้าไมยราพแห้งๆ แล้วมีบ้านเล็กเล๊กอยู่โดดเดียวในบริเวณพื้นที่ 170 ตรว. 1 หลัง  รั้วด้านหน้า ด้านข้างติดกะสวนลำไยยังเป็นรั้วลวดหนามอยู่เลย เพราะหลังจากที่ซื้อแล้วปลูกบ้านไว้ก็นานมากที่ไม่ได้กลับไปดูอีก จนต้องถามน้องสาวว่า เราเข้าบ้านถูกนะ  ในบ้านนี้ก็ยังไม่มีอะไร นอกจากที่นอนปิคนิคกันคนละผืนกะน้องสาว พวกเครื่องครัวนี่พอจะมีครบอยู่ แต่ยังไม่มีตู้เย็น ทีวี อะไรทั้งสิ้น ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าเดือดร้อนอะไรเพราะอยู่ 2-3 วัน 



หลังจากนั้นก็เริ่มทำสงครามกะต้นไมยราพก่อนจนศึกนี้ป้าชนะแต่ก็ยังไม่ชนะแบบราบคาบนะ ต้องค่อยปรามกันเป็นระยะๆ  ต่อมาก็เริ่มทำรั้วบ้านใช้ไม้ไผ่ แล้วเอาต้นไม้มาลง สองพี่น้องอายุคราวป้าสองคนมาอยู่ด้วยกันก็ต้องปรานีประนอมกัน คนหนึ่งชอบไม้ดอก คนหนึ่งชอบไม้แด-รก(ขอโทษนะคะ)คือทุกอย่างที่น้องสาวปลูกต้องมีผลประโยชน์ ถึก ทนและต้องกินได้  ส่วนป้าชอบอะไรที่มีสีสันหน่อยแม้จะต้องซื้อบ่อย ถอนทิ้งก็มาก กินก็ไม่ได้ ก็มีบ้างที่เป็นดอกไม้ที่แข็งแรง ยืนต้น แต่ต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะเห็นความสวยงาม



บ้านหลังเล็กๆอยู่กันสองคน มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่อเนกประสงค์ที่รวมครัวด้วย  แต่เวลาผัด ทอด ออกไปทำข้างนอกบ้านค่ะ คิดว่าก็คงค่อยๆเสริม ค่อยๆเติมกันเอาตามอัตภาพของเงินในกระเป๋า  จะไม่ทำอะไรที่ต้องกู้หนี้ยืคนอื่นมาเด็ดขาด  สูงวัยแล้วเดี๋ยวหมดแรงหาใช้คืนจะเป็นภาระให้ลูกหลานซะเปล่าๆ  

สิ่งที่ค่อยๆต่อเติมเข้ามาอีกคือ ทำกันสาดยื่นต่อจากหลังคาไปอีกเพราะแดดสายๆนี่ส่องเข้าหน้าบ้านเต็มๆเลย  เทพื้นด้านหน้าและข้าง เพราะหากไม่ทำดูล่ะ จะออกไปนั่งทำอะไรนี่ไม่สามารถเลย แต่ก็อย่างที่บอกทำตามกำลังงบที่มี ได้แค่ไหนเอาแค่นั้นก่อนจนกว่าจะไปไถนาหาเงินมาเติมอีก กระเบื้องปูกันสาดจึงยังไม่มีก็ใช้แสลนขึงไปก่อนก็พอได้อยู่ ๕๕๕



ความสุขในบ้านเล็กๆของเราในวันที่ได้กลับบ้านก็จะง่วนกะการทำกับข้าว ขุดดินปลูกต้นไม้ ย้ายมุม ย้ายของในบ้าน มีอะไรที่เก็บๆไว้ก็รื้อเอาออกมาแต่ง มาวาง จนตอนนี้ป้าคิดว่ามันเริ่มรกล่ะ  ๕๕๕ บางทีก็ออกไปหาซื้อไม้ดอกต่างๆที่มีสีสันมาแขวนๆให้บ้านมันดูมีชีวิตขึ้นอีกหน่อย 



วิถีชีวิตของคนที่บ้านทุ่งละคร เป็นหมู่บ้านในต.เชียงดาวนั้น  มีอาชีพเกษตรกร ทำนาข้าว ทำสวนลำไย  หากเป็นคนแก่หรือแม่บ้านที่ไม่ได้ไปไหนก็จะรับสานเข่งที่คนเหนือเรียก " ก๋วย " เพื่อเอาใส่ผัก จะมีคนที่ให้สานเอาพวกตอกไม้ไผ่ที่ทำมาเรียบร้อยมาส่งก็สานได้เลย ค่าสานใบละ 2 บาทเองมั้ง แต่คนสานเก่งๆวันหนึ่งเค้าก็ได้หลายใบหลายบาทอยู่ ก็ยังดีกว่านั่งอยู่เฉยๆนะ เฉาตายเลยชีวิต ..

บางทีเช้าๆหรือเย็นป้าก็ปั่นจักรยานออกไปถ่ายรูปแถวๆหลังวัดที่ไม่ไกลจากบ้านนั่นแร่ะ ซึ่งหากในวันที่ไม่มีหมอกจากควันไฟป่า ท้องฟ้าโปร่งจะเห็นดอยหลวงเชียงดาวสวยมาก แต่ถ้าอยากเก็บแสงตะวันยามเย็น เก็บรูปทุ่งนาสวยๆ ก็ไกลหน่อยจะขอให้น้องสาวขับรถไปส่ง



แต่ทุกๆเช้าป้าจะพยายามตื่นแต่เช้าเพื่อเก็บฟ้าสวยๆที่หน้าป้านี่แร่ะ เพราะแต่ละวันฟ้าสวยไม่เหมือนกซักวัน




แล้วจะไม่ให้ป้าคิดถึงบ้านในยามที่ชีวิตว่างเปล่าได้ไง เพราะกลับบ้านทีไรมันให้ความรู้สึกเรียบง่าย ไม่กังวล ไม่กลัวอด ไม่ต้องพึ่งเดลิเวอรี่ซึ่งเชียงดาวไม่มี(แต่ตอนนี้น่าจะมีล่ะ) ไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันอะไรกะใคร หุงข้าว ตำน้ำพริก เก็บผักริมรั้ว อิ่มท้อง สบายไป  

และมาปี 63 ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง กระเบื้องมุงกันสาดก็มุงเรียกร้อย ต้นไม้ต่างๆที่น้องสาวเอามาลงไว้ก็เริ่มให้ผล อย่างมะม่วงขึ้นงามมาก ออกลูกแล้วด้วยน่าจะพันธุ์แรด  ๕๕๕  ลำใยที่เหลือเพียงต้นเดียวปีที่ผ่านมาก็ได้กลับมาเก็บลูกกิน เห็นแล้วน่าชื่นใจมันเลยให้มีพลังที่จะออกไปทำงานหาเงินมาค่อยๆเติมเต็มบ้านของเราให้เปี่ยมสุขยิ่งๆขึ้นไปค่ะ



   





 
ขอบคุณที่เข้ามาดูรีวิวของป้าจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ 
ชื่อสินค้า:   เชียงดาว เชียงใหม่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่