สวัสดีค่ะ เราชื่อ โมสต์ ปัจจุบันเป็นพนักงานร้านแบรนด์เนมแห่งหนึ่งในยุโรปค่ะ กฏเกณฑ์บางอย่างอาจจะไม่เหมือนที่ไทยนะคะ
ด้วยช่วงโควิดทำพิษทำให้โมสต์มีเวลามาแชร์เรื่องราว และประสบการณ์การทำงานที่นี่กัน
เผื่อใครอยากจะรู้เบื้องลึก เบื้องหลังของงานนี้ค่ะ
หลายคนในนี้น่าจะมีSAในร้านแบรนด์เนม เป็นคนดูแลประจำตัวแล้ว เคยสังเกตกันมั้ยคะ
ว่าทำไมพี่-น้องพนักงานถึงได้ประโคมแบรนด์เนมกันหัวจรดเท้าขนาดนั้น
แล้วเค้าเอามาจากไหน เพราะเงินเดือนสูงถึงซื้อได้? หรือเพราะบริษัทให้มาฟรีกันแน่?
จริงๆแล้วมันเป็นเพราะเราต้องดูแลภาพลักษณ์บริษัท และตัวเราเอง ที่มีต่อลูกค้า
ยิ่งเรามีอิทธิพลทางแฟชั่นที่น่าเชื่อถือมากเท่าไหร่ จะมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าเวลาที่เราเสนอสินค้ามากเท่านั้น
เอาล่ะค่ะมาเข้าเรื่องกัน อย่างโมสต์นี่ก็พอมีประดับบารมีบ้างค่ะ ไว้ใช้เวลาที่ต้องไปทานข้าวกับลูกค้า (เฉพาะลูกค้าระดับสูงๆเท่านั้น ที่บางทีเรามีจัดงานวันเกิด ส่งดอกไม้ และสิทธิพิเศษต่างๆ)
แต่ละใบก็ได้มาต่างกันค่ะ ลดราคาบ้าง บริษัทให้บ้าง ซื้อราคาเต็มบ้าง ไปดูกันค่ะ
ใบแรกนี้โมสต์ได้มาตอนทำงานอยู่ที่ Gucci Outlet ค่ะ ชื่อรุ่น GG Interlocking Mini
(ขอแทรกความรู้หน่อยนะคะ ถ้าใครเห็นโลโก้GGไขว้กันเป็นวงกลมแบบนี้ที่ไหน เรียกว่า GG Interlocking ได้เลยค่ะ)
ใบนี้ได้มาด้วยส่วนลดพนักงานค่ะ ลดจนซื้อได้แบบไม่ลำบากเลยค่ะ แต่ราคาที่ช็อปอยู่ที่ 600 ยูโรค่า
ใบต่อมาคือ GG Interlocking WOC ใบนี้ก็ Outlet มีอยู่ปีนึง ทางบริษัท ไม่มีของขวัญคริสมาสต์ให้พนักงาน
แต่ให้เป็นส่วนลด70% และมีลิมิตว่าซื้ออะไรได้บ้าง แล้วทางบริษัทก็นำเงินที่พนักงานซื้อไปบริจาคช่วยสังคมทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ
เลยรู้สึกว่า แม้จะต้องเสียเงินซื้อของขวัญให้ตัวเอง แต่ก็ดีมากๆที่ได้ทำบุญช่วยเหลือผู้คนค่ะ ตัวนี้ราคาในช็อป 390 ยูโรนะคะ
ส่วนใบนี้เป็นของขวัญใบแรกที่ได้จาก Gucci และเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกในชีวิตด้วยค่ะ
ใบนี้ได้มาตอนคริสมาสต์ที่ทำงานปีแรกเลย ทั่วยุโรปได้เหมือนกันหมดค่ะ ที่สำคัญคือ น้องเป็น รุ่น Limited Edition ที่ไม่ได้วางขายทั่วไปค่ะ
ที่เคยเห็นมีโชว์ก็คือที่ Gucci Garden เท่านั้น ยิ่งปลื้มเข้าไปใหญ่ค่ะ
ส่วนใบนี้ค่ะ ต้องบอกว่าโชคดีมาก เพราะได้มาตอนย้ายมาทำงานที่ Dior แล้วเป็นปีแรกๆที่ดิออร์ให้ของขวัญคริสมาสต์พนักงานค่ะ
ทั้งยังได้มาเป็นเซ็ท ทั้งกระเป๋าคลัช กระเป๋าใส่พาสปอร์ต Tag bag แล้วก็พวงกุญแจผึ้งน้อยที่เป็น Iconic of Dior ซะด้วย
ใบนี้ทนุถนอมมากค่ะ เพราะเป็นแคนวาสลาย oblique ด้วย ถ้าใครอยากได้ในช็อปมีค่ะ ออฟชั่นเสริมเยอะกว่านี้ ราคา 900+ ยูโรค่ะ
และนี่คือใบที่ภูมิใจนำเสนอ เพราะน้องมีความวิบวับ และดูไฮโซ ใส่เดินเข้าช็อปไหนใครก็ทัก
เพราะพนักงานจะรู้กันดีว่า ใครใส่รุ่นพวกเพชรๆ เว่อร์ๆ คือรุ่น Exclusive ที่แพงหูดับ ไม่สมขนาดกระเป๋าเอาซะเลย
ใบนี้ใส่อะไรไม่ได้เด้อ สะพายอวดชาวบ้านไปวันๆเท่านั้นแหละค่ะ 555+
แต่ก็นะ ตอนเป็นพนักงาน เรามีส่วนลด ก็สอยสิคะ ของมันต้องมี!!!
ใบต่อมา เป็น Belt Bag ซื้อด้วยเงินตัวเองและไม่มีส่วนลดพนักงาน แต่ซื้อตอนเค้ามีเซลล์หน้าหนาวที่ผ่านมานี้ แบรนด์ลูกของ Versaceค่ะ
ได้มาราคาไม่ถึงหมื่นบาทเลย ถือว่าถูกมากกกกก
และใบต่อไปนี้ ซื้อมาพร้อมส่วนลดพนักงาน Gucci Outlet อีกเช่นเคย เป็น Microguccisima WOC ค่ะ
แต่ราคาขายใบนี้ไม่แพงมากนะ 290ยูโร เท่านั้นค่ะ
สิ่งที่อยากให้สังเกตคือ ลาย GGที่ตัวเล็กๆแบบนี้ เห็นที่ไหนขาย แล้วบอกเป็นของคอลเล็คชั่นอย่ารีบเชื่อนะคะ
เพราะ90%ถ้าเป็นลายเล็กๆแบบนี้ มาจากGucci Outlet ค่ะ ดูราคากันให้ดีๆนะ
ส่วนใบนี้ค่ะ แม่ย่าให้มา แต่โมสต์ไม่ใช่แฟนหลุยส์เลยไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบราคาอี้ก ใครรู้จักน้องใบนี้ช่วยบอกทีค่ะ ว่าน้องชื่ออะไร
อยากรู้จักน้องมาก หากูเกิ้ลก็หาไม่เจอค่ะ ฮืออออ
อ่ะ เหนื่อยกันรึยังคะ ยังเหลืออีกเยอะ แต่วันนี้จะขออีกสัก 2ใบละกันนะ ถ้าชอบกันเดี๋ยวจะมาบ่อยๆค่า
มาต่อกันค่ะที่ใบนี้กับ Christian Dior แอบเห็นแม่ชมมีใบนี้เหมือนกัน ใบนี้ได้มาตอนเพื่อนที่ช็อปไปช่วยที่ช็อป Pop up ที่ อิบิซ่า
นางก็ติดไม้ติดมือมาฝากกันค่ะ
เพราะฉะนั้นก็คือ ฟรีอีกใบ แหะๆ ใบนี้ต้องซื้อBook Tote ที่ Pop Up Store เท่านั้น ถึงจะได้ค่ะ
ช็อปปกติจะไม่มีให้ แต่เห็นในเน็ตเอามาขายกันเป็นหมื่นเลย โมสต์เอาไว้ใช้เวลาไปยิม ไปทะเลค่ะ เพราะกันน้ำดีเว่อร์วังมาก
ใบนี้คือใบปิดท้ายที่ควรค่าแก่ฟินเนลเล่ในวันนี้ เพราะน้องมีความไฮโซขั้นสุด ถือใบนี้เดินเข้าร้านแบรนด์เนม ถ้าพนักงานไม่มอง ไม่รุม
ให้เอาโควิดมาติดโมสต์ได้เลยค่ะ แหะๆ
ใบนี้คือ Gucci DionySus Limited Edition ที่สวย และหนักประหนึ่งถือดัมเบลไปด้วยทุกที่ ใส่อะไรลงไปไม่ได้แล้วค่ะ แค่กระเป๋าและโซ่ก็
ทำให้กระดูกหลังคดแล้ว 555+ พวกกระเป๋ารุ่นที่มันแพงกระเป๋าฉีก ส่วนใหญ่มีไว้โชว์ค่ะ ไม่ได้มีไว้ใช้จริงๆ
แล้วทำไมโมสต์ถึงซื้อได้น่ะหรอ หึหึ โบกบัตรเครดิตไปมา พร้อมยื่นบัตรพนักงาน ขอส่วนลดหน่อยค่าาาาา
วันนี้ก็ประมาณนี้นะทุกคน ใครที่อยากดูเต็มๆแบบอัดแน่นความรู้
-วิธีแยก กระเป๋าในร้านปกติ กับร้านเอ้าเลท
-แล้วเอ้าเลทนี่แท้มั้ย
-ทำไมราคาถูกจัง
-ไปจนกระทั่งชื่อเรียกวัสดุต่างๆที่คนวงในเท่านั้นจะรู้
เชิญที่นี่เลยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=7L0xB6bxPYY&t=123s
กระทู้หลายคนคงได้คำตอบแล้ว ว่าเป็นพนักงานยาย ได้กระเป๋าฟรีมั้ย?
อยากให้โมสต์ทำเรื่องอะไรเกี่ยวกับพนักงานขายแบรนด์เนมอีกบอกได้นะคะ
และถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ โปรดแชร์ต่อเด้อค่ะ ขอบคุณค่าาาา
[CR] เผยความลับ พนักงานร้านแบรนด์เนม ได้ใช้กระเป๋าฟรี? ~~ จากปากSAเอง
ด้วยช่วงโควิดทำพิษทำให้โมสต์มีเวลามาแชร์เรื่องราว และประสบการณ์การทำงานที่นี่กัน
เผื่อใครอยากจะรู้เบื้องลึก เบื้องหลังของงานนี้ค่ะ
หลายคนในนี้น่าจะมีSAในร้านแบรนด์เนม เป็นคนดูแลประจำตัวแล้ว เคยสังเกตกันมั้ยคะ
ว่าทำไมพี่-น้องพนักงานถึงได้ประโคมแบรนด์เนมกันหัวจรดเท้าขนาดนั้น
แล้วเค้าเอามาจากไหน เพราะเงินเดือนสูงถึงซื้อได้? หรือเพราะบริษัทให้มาฟรีกันแน่?
จริงๆแล้วมันเป็นเพราะเราต้องดูแลภาพลักษณ์บริษัท และตัวเราเอง ที่มีต่อลูกค้า
ยิ่งเรามีอิทธิพลทางแฟชั่นที่น่าเชื่อถือมากเท่าไหร่ จะมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าเวลาที่เราเสนอสินค้ามากเท่านั้น
เอาล่ะค่ะมาเข้าเรื่องกัน อย่างโมสต์นี่ก็พอมีประดับบารมีบ้างค่ะ ไว้ใช้เวลาที่ต้องไปทานข้าวกับลูกค้า (เฉพาะลูกค้าระดับสูงๆเท่านั้น ที่บางทีเรามีจัดงานวันเกิด ส่งดอกไม้ และสิทธิพิเศษต่างๆ)
แต่ละใบก็ได้มาต่างกันค่ะ ลดราคาบ้าง บริษัทให้บ้าง ซื้อราคาเต็มบ้าง ไปดูกันค่ะ
ใบแรกนี้โมสต์ได้มาตอนทำงานอยู่ที่ Gucci Outlet ค่ะ ชื่อรุ่น GG Interlocking Mini
(ขอแทรกความรู้หน่อยนะคะ ถ้าใครเห็นโลโก้GGไขว้กันเป็นวงกลมแบบนี้ที่ไหน เรียกว่า GG Interlocking ได้เลยค่ะ)
ใบนี้ได้มาด้วยส่วนลดพนักงานค่ะ ลดจนซื้อได้แบบไม่ลำบากเลยค่ะ แต่ราคาที่ช็อปอยู่ที่ 600 ยูโรค่า
ใบต่อมาคือ GG Interlocking WOC ใบนี้ก็ Outlet มีอยู่ปีนึง ทางบริษัท ไม่มีของขวัญคริสมาสต์ให้พนักงาน
แต่ให้เป็นส่วนลด70% และมีลิมิตว่าซื้ออะไรได้บ้าง แล้วทางบริษัทก็นำเงินที่พนักงานซื้อไปบริจาคช่วยสังคมทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ
เลยรู้สึกว่า แม้จะต้องเสียเงินซื้อของขวัญให้ตัวเอง แต่ก็ดีมากๆที่ได้ทำบุญช่วยเหลือผู้คนค่ะ ตัวนี้ราคาในช็อป 390 ยูโรนะคะ
ส่วนใบนี้เป็นของขวัญใบแรกที่ได้จาก Gucci และเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกในชีวิตด้วยค่ะ
ใบนี้ได้มาตอนคริสมาสต์ที่ทำงานปีแรกเลย ทั่วยุโรปได้เหมือนกันหมดค่ะ ที่สำคัญคือ น้องเป็น รุ่น Limited Edition ที่ไม่ได้วางขายทั่วไปค่ะ
ที่เคยเห็นมีโชว์ก็คือที่ Gucci Garden เท่านั้น ยิ่งปลื้มเข้าไปใหญ่ค่ะ
ส่วนใบนี้ค่ะ ต้องบอกว่าโชคดีมาก เพราะได้มาตอนย้ายมาทำงานที่ Dior แล้วเป็นปีแรกๆที่ดิออร์ให้ของขวัญคริสมาสต์พนักงานค่ะ
ทั้งยังได้มาเป็นเซ็ท ทั้งกระเป๋าคลัช กระเป๋าใส่พาสปอร์ต Tag bag แล้วก็พวงกุญแจผึ้งน้อยที่เป็น Iconic of Dior ซะด้วย
ใบนี้ทนุถนอมมากค่ะ เพราะเป็นแคนวาสลาย oblique ด้วย ถ้าใครอยากได้ในช็อปมีค่ะ ออฟชั่นเสริมเยอะกว่านี้ ราคา 900+ ยูโรค่ะ
และนี่คือใบที่ภูมิใจนำเสนอ เพราะน้องมีความวิบวับ และดูไฮโซ ใส่เดินเข้าช็อปไหนใครก็ทัก
เพราะพนักงานจะรู้กันดีว่า ใครใส่รุ่นพวกเพชรๆ เว่อร์ๆ คือรุ่น Exclusive ที่แพงหูดับ ไม่สมขนาดกระเป๋าเอาซะเลย
ใบนี้ใส่อะไรไม่ได้เด้อ สะพายอวดชาวบ้านไปวันๆเท่านั้นแหละค่ะ 555+
แต่ก็นะ ตอนเป็นพนักงาน เรามีส่วนลด ก็สอยสิคะ ของมันต้องมี!!!
ใบต่อมา เป็น Belt Bag ซื้อด้วยเงินตัวเองและไม่มีส่วนลดพนักงาน แต่ซื้อตอนเค้ามีเซลล์หน้าหนาวที่ผ่านมานี้ แบรนด์ลูกของ Versaceค่ะ
ได้มาราคาไม่ถึงหมื่นบาทเลย ถือว่าถูกมากกกกก
และใบต่อไปนี้ ซื้อมาพร้อมส่วนลดพนักงาน Gucci Outlet อีกเช่นเคย เป็น Microguccisima WOC ค่ะ
แต่ราคาขายใบนี้ไม่แพงมากนะ 290ยูโร เท่านั้นค่ะ
สิ่งที่อยากให้สังเกตคือ ลาย GGที่ตัวเล็กๆแบบนี้ เห็นที่ไหนขาย แล้วบอกเป็นของคอลเล็คชั่นอย่ารีบเชื่อนะคะ
เพราะ90%ถ้าเป็นลายเล็กๆแบบนี้ มาจากGucci Outlet ค่ะ ดูราคากันให้ดีๆนะ
ส่วนใบนี้ค่ะ แม่ย่าให้มา แต่โมสต์ไม่ใช่แฟนหลุยส์เลยไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบราคาอี้ก ใครรู้จักน้องใบนี้ช่วยบอกทีค่ะ ว่าน้องชื่ออะไร
อยากรู้จักน้องมาก หากูเกิ้ลก็หาไม่เจอค่ะ ฮืออออ
อ่ะ เหนื่อยกันรึยังคะ ยังเหลืออีกเยอะ แต่วันนี้จะขออีกสัก 2ใบละกันนะ ถ้าชอบกันเดี๋ยวจะมาบ่อยๆค่า
มาต่อกันค่ะที่ใบนี้กับ Christian Dior แอบเห็นแม่ชมมีใบนี้เหมือนกัน ใบนี้ได้มาตอนเพื่อนที่ช็อปไปช่วยที่ช็อป Pop up ที่ อิบิซ่า
นางก็ติดไม้ติดมือมาฝากกันค่ะ
เพราะฉะนั้นก็คือ ฟรีอีกใบ แหะๆ ใบนี้ต้องซื้อBook Tote ที่ Pop Up Store เท่านั้น ถึงจะได้ค่ะ
ช็อปปกติจะไม่มีให้ แต่เห็นในเน็ตเอามาขายกันเป็นหมื่นเลย โมสต์เอาไว้ใช้เวลาไปยิม ไปทะเลค่ะ เพราะกันน้ำดีเว่อร์วังมาก
ใบนี้คือใบปิดท้ายที่ควรค่าแก่ฟินเนลเล่ในวันนี้ เพราะน้องมีความไฮโซขั้นสุด ถือใบนี้เดินเข้าร้านแบรนด์เนม ถ้าพนักงานไม่มอง ไม่รุม
ให้เอาโควิดมาติดโมสต์ได้เลยค่ะ แหะๆ
ใบนี้คือ Gucci DionySus Limited Edition ที่สวย และหนักประหนึ่งถือดัมเบลไปด้วยทุกที่ ใส่อะไรลงไปไม่ได้แล้วค่ะ แค่กระเป๋าและโซ่ก็
ทำให้กระดูกหลังคดแล้ว 555+ พวกกระเป๋ารุ่นที่มันแพงกระเป๋าฉีก ส่วนใหญ่มีไว้โชว์ค่ะ ไม่ได้มีไว้ใช้จริงๆ
แล้วทำไมโมสต์ถึงซื้อได้น่ะหรอ หึหึ โบกบัตรเครดิตไปมา พร้อมยื่นบัตรพนักงาน ขอส่วนลดหน่อยค่าาาาา
วันนี้ก็ประมาณนี้นะทุกคน ใครที่อยากดูเต็มๆแบบอัดแน่นความรู้
-วิธีแยก กระเป๋าในร้านปกติ กับร้านเอ้าเลท
-แล้วเอ้าเลทนี่แท้มั้ย
-ทำไมราคาถูกจัง
-ไปจนกระทั่งชื่อเรียกวัสดุต่างๆที่คนวงในเท่านั้นจะรู้
เชิญที่นี่เลยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=7L0xB6bxPYY&t=123s
กระทู้หลายคนคงได้คำตอบแล้ว ว่าเป็นพนักงานยาย ได้กระเป๋าฟรีมั้ย?
อยากให้โมสต์ทำเรื่องอะไรเกี่ยวกับพนักงานขายแบรนด์เนมอีกบอกได้นะคะ
และถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ โปรดแชร์ต่อเด้อค่ะ ขอบคุณค่าาาา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้