สวัสดีครับ !!!
จริง ๆ มีเรื่องที่จะมาเล่าและสอบถามผู้รู้มากกว่า เริ่มด้วย...📌
วันที่ 14 เม.ย. 63 ตั้งแต่เช้าตื่นมาพบกว่าตนเองมีไข้สูงตัวร้อน ปวดท้อง ท้องเสีย หายใจไม่อิ่ม หลังจากทานข้าวทานยาแล้วนอนพักผ่อน และทานยาทุก ๆ 4 ชม. ทั้งวันคือมีอุณหภูมิอยู่ที่ 37.6 - 39.2 องศา
ต่อมาช่วง 19:00 น. รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลแถวนวลจันทร์ เข้าห้องฉุกเฉินคุณหมอเริ่มตรวจและสอบถามอาการ เนื่องจากประกันผมเป็นแบบต้องนอนโรงพยาบาล จากนั้นให้ไปเอกซเรย์ปอดเพราะเรารู้สึกหายใจไม่เต็ม และนำเลือดไปตรวจ ก่อนไปพยาบาลมาแจ้งว่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 บาทนะคะ !!! ผมก็ตอบตกลงไป
หลังจากรอสัก 20 นาที ได้ยินคุณหมอกับคุณพยาบาลคุยกันเรื่องอะไร ฝ้า ๆ สักอย่าง ได้ยินไม่ถนัด สักพักคุณหมอเดินเข้ามาและบอกว่า ผลเอกซเรย์มีฝ้าที่ปอดข้างซ้ายจึงอยากให้ตรวจโควิดราคา 6,500 บาท ซึ่งผมก็ไม่ได้มีเงินขนาดนั้นไหนจะค่าตรวจโควิดค่ารักษาอีก ก็เลยบอกคุณหมอไปตามตรง ตอนนั้นคือผมลังเลคุณหมอก็บอกอยากให้ตรวจ ตรวจเถอะ พี่พยาบาลก็ช่วยพูด ทุกคนสู้ ๆ ✌🏻 มาก คุณหมอจึงไปขอโค้ดตรวจฟรีจาก ศบค. ให้เพราะหมอสงสัยและเรามีความเสี่ยงที่จะเป็น *และสุดท้ายคุณหมอสั่งตรวจ* หลังจากนั้นเราถูกเข็นเข้าไปในห้องเล็ก ๆ ประมาณห้องที่เอาไว้เจาะเลือด เวลาผ่านไปพี่พยาบาลเดินเข้ามาในห้องพร้อมชุดที่จัดเต็มมาก ๆ มีการเจาะเลือดอีกครั้ง *พร้อมการตรวจโควิดจากจมูกและคอ* และรอขึ้นห้องพัก !!! (สรุปต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรอผลตรวจโควิดซึ่งคุณหมอบอกต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน)
คุณพี่พยาบาลพูดขำกับผมว่า “รอนานหน่อยน่ะพอดีคนเข็นไปส่งเราเขาก็ต้องไปแต่งตัวเหมือนกัน” ผมก็ขำแล้วก็ตอบไปว่าครับบบ
ได้ห้องชั้น 11 ห้อง 11.... ซึ่งชั้นนี้คือชั้นกักกันโรค !!! คือกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดอยู่ที่นี่จ้าาา ในห้องมีแค่เตียงและทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ไม่มีเลย รวมถึงเก้าอี้ โซฟาต่าง ๆ ด้วย เพราะห้ามเยี่ยมและห้ามเฝ้า พยาบาลเข้าห้องไม่บ่อยติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ อาหารถูกส่งแต่หน้าประตูและใส่มาในกล่องพลาสติกที่ทิ้งได้เลย
ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน ที่น่าสงสารที่สุดคงเป็นแฟนผม เขาขับรถไม่เป็นและไม่สามารถหารถกลับห้องได้เพราะติดช่วงเวลาเคอร์ฟิว ต้องนอนอยู่ตรงหน้าห้องฉุกเฉินโดยความช่วยเหลือเรื่องผ้าห่มกับหมอนจากพี่พยาบาล (ขอบคุณครับบบ 🙏🏻)
เวลาที่คิดถึงกันผ่านไปถึงวันที่ 16 เม.ย. 63 คุณหมอเจ้าของไข้มาแจ้งผลตรวจประมาณ 10:00 น. ผลคือ...
ไม่ติดโควิดจ้าาาาาา
หลังจากนั้นย้ายห้องย้ายชั้น ไปอยู่ที่ชั้น 12 ห้อง 12....
อีก 1 คืนเพื่อรักษาในขั้นตอนอื่น ๆ ต่อไป
17 เม.ย. 63 ประมาณ 11:00 น. คุณหมอให้กลับบ้าน
แจ้งก่อนว่าประกันสุขภาพส่วนบุคคลมีความคุ้มครองดังนี้
ค่าห้องรวมทุกอย่าง 2,500 บาท/คืน
ค่ารักษา 30,000 บาท ถ้าเกินจ่ายอีก 80% แต่ไม่เกิน 400,000 บาท
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ 600 บาท/วัน ถ้าเกินจ่ายอีก 80% แต่ไม่เกิน 400,000 บาท
ค่ารักษาทั้งหมด 57,754 บาท
ประกันคุ้มครอง 41,808 บาท
ส่วนเกิน 15,946 บาท (ยังไม่รวมส่วนลด)
ลดแล้วที่ต้องจ่ายเองคือ 10,418 บาท**
ค่าห้องตก 3,500 บาท/คืน นอน 3 คืน จ่ายเพิ่ม 3,000 บาทอันนี้เข้าใจ
แต่ค่าที่ไม่เข้าใจคือ ??
ค่าหน้ากาก ค่าชุด ค่าถุงมือ ค่าถุงเท้า อีกกว่า 6,000++ บาท
ทำไมประกันถึงไม่คุ้มครอง ? มันคืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้ในการรักษาไม่ใช่หรอ
ผมเข้าใจว่าตอนเครมประกันน่าจะเครมด้วยโรคลำไส้อักเสบ ประกันอาจจะคิดว่าเป็นลำไส้อักเสบก็ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พวกนี้ แต่หมอไม่ได้ลงในรายการให้เห็นเลยหรอว่ามีการเอกซเรย์ปอด ผลเอกซเรย์ หรือการสั่งตรวจโควิด (ค่าตรวจโควิดไม่เสียค่าใช้จ่ายจริงน่ะครับ) ถ้าทางบริษัทประกันเห็นรายการพวกนี้ก็คงรู้ว่ามันคืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ใช่ไหมครับ
ข้อนี้อยากทราบมาก ๆ เลย คือ
1. ถ้าประกันไม่เห็นรายการพวกนี้ตั้งแต่แรก และเราส่งไปเครมทีหลังมีโอกาสที่จะได้คืนไหม ?
2. หรือโดยปกติประกันไม่คุ้มครองอุปกรณ์เหล่านี้อยู่แล้ว ต่อให้จำเป็นยังไงก็ไม่คุ้มครอง ?
รบกวนผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน แนะนำผมทีน่ะครับ
หากได้คืนบ้าง ผมจะได้ไปขอคัดประวัติจากโรงพยาบาล
กราบขอบพระคุณครับ
ประกันสุขภาพเอ็ทน่า กับ โรงพยาบาล และ การตรวจ Covid-19
จริง ๆ มีเรื่องที่จะมาเล่าและสอบถามผู้รู้มากกว่า เริ่มด้วย...📌
วันที่ 14 เม.ย. 63 ตั้งแต่เช้าตื่นมาพบกว่าตนเองมีไข้สูงตัวร้อน ปวดท้อง ท้องเสีย หายใจไม่อิ่ม หลังจากทานข้าวทานยาแล้วนอนพักผ่อน และทานยาทุก ๆ 4 ชม. ทั้งวันคือมีอุณหภูมิอยู่ที่ 37.6 - 39.2 องศา
ต่อมาช่วง 19:00 น. รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลแถวนวลจันทร์ เข้าห้องฉุกเฉินคุณหมอเริ่มตรวจและสอบถามอาการ เนื่องจากประกันผมเป็นแบบต้องนอนโรงพยาบาล จากนั้นให้ไปเอกซเรย์ปอดเพราะเรารู้สึกหายใจไม่เต็ม และนำเลือดไปตรวจ ก่อนไปพยาบาลมาแจ้งว่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 บาทนะคะ !!! ผมก็ตอบตกลงไป
หลังจากรอสัก 20 นาที ได้ยินคุณหมอกับคุณพยาบาลคุยกันเรื่องอะไร ฝ้า ๆ สักอย่าง ได้ยินไม่ถนัด สักพักคุณหมอเดินเข้ามาและบอกว่า ผลเอกซเรย์มีฝ้าที่ปอดข้างซ้ายจึงอยากให้ตรวจโควิดราคา 6,500 บาท ซึ่งผมก็ไม่ได้มีเงินขนาดนั้นไหนจะค่าตรวจโควิดค่ารักษาอีก ก็เลยบอกคุณหมอไปตามตรง ตอนนั้นคือผมลังเลคุณหมอก็บอกอยากให้ตรวจ ตรวจเถอะ พี่พยาบาลก็ช่วยพูด ทุกคนสู้ ๆ ✌🏻 มาก คุณหมอจึงไปขอโค้ดตรวจฟรีจาก ศบค. ให้เพราะหมอสงสัยและเรามีความเสี่ยงที่จะเป็น *และสุดท้ายคุณหมอสั่งตรวจ* หลังจากนั้นเราถูกเข็นเข้าไปในห้องเล็ก ๆ ประมาณห้องที่เอาไว้เจาะเลือด เวลาผ่านไปพี่พยาบาลเดินเข้ามาในห้องพร้อมชุดที่จัดเต็มมาก ๆ มีการเจาะเลือดอีกครั้ง *พร้อมการตรวจโควิดจากจมูกและคอ* และรอขึ้นห้องพัก !!! (สรุปต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรอผลตรวจโควิดซึ่งคุณหมอบอกต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน)
คุณพี่พยาบาลพูดขำกับผมว่า “รอนานหน่อยน่ะพอดีคนเข็นไปส่งเราเขาก็ต้องไปแต่งตัวเหมือนกัน” ผมก็ขำแล้วก็ตอบไปว่าครับบบ
ได้ห้องชั้น 11 ห้อง 11.... ซึ่งชั้นนี้คือชั้นกักกันโรค !!! คือกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดอยู่ที่นี่จ้าาา ในห้องมีแค่เตียงและทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ไม่มีเลย รวมถึงเก้าอี้ โซฟาต่าง ๆ ด้วย เพราะห้ามเยี่ยมและห้ามเฝ้า พยาบาลเข้าห้องไม่บ่อยติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ อาหารถูกส่งแต่หน้าประตูและใส่มาในกล่องพลาสติกที่ทิ้งได้เลย
ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืน ที่น่าสงสารที่สุดคงเป็นแฟนผม เขาขับรถไม่เป็นและไม่สามารถหารถกลับห้องได้เพราะติดช่วงเวลาเคอร์ฟิว ต้องนอนอยู่ตรงหน้าห้องฉุกเฉินโดยความช่วยเหลือเรื่องผ้าห่มกับหมอนจากพี่พยาบาล (ขอบคุณครับบบ 🙏🏻)
เวลาที่คิดถึงกันผ่านไปถึงวันที่ 16 เม.ย. 63 คุณหมอเจ้าของไข้มาแจ้งผลตรวจประมาณ 10:00 น. ผลคือ...
ไม่ติดโควิดจ้าาาาาา
หลังจากนั้นย้ายห้องย้ายชั้น ไปอยู่ที่ชั้น 12 ห้อง 12....
อีก 1 คืนเพื่อรักษาในขั้นตอนอื่น ๆ ต่อไป
17 เม.ย. 63 ประมาณ 11:00 น. คุณหมอให้กลับบ้าน
แจ้งก่อนว่าประกันสุขภาพส่วนบุคคลมีความคุ้มครองดังนี้
ค่าห้องรวมทุกอย่าง 2,500 บาท/คืน
ค่ารักษา 30,000 บาท ถ้าเกินจ่ายอีก 80% แต่ไม่เกิน 400,000 บาท
ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ 600 บาท/วัน ถ้าเกินจ่ายอีก 80% แต่ไม่เกิน 400,000 บาท
ค่ารักษาทั้งหมด 57,754 บาท
ประกันคุ้มครอง 41,808 บาท
ส่วนเกิน 15,946 บาท (ยังไม่รวมส่วนลด)
ลดแล้วที่ต้องจ่ายเองคือ 10,418 บาท**
ค่าห้องตก 3,500 บาท/คืน นอน 3 คืน จ่ายเพิ่ม 3,000 บาทอันนี้เข้าใจ
แต่ค่าที่ไม่เข้าใจคือ ??
ค่าหน้ากาก ค่าชุด ค่าถุงมือ ค่าถุงเท้า อีกกว่า 6,000++ บาท
ทำไมประกันถึงไม่คุ้มครอง ? มันคืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ต้องใช้ในการรักษาไม่ใช่หรอ
ผมเข้าใจว่าตอนเครมประกันน่าจะเครมด้วยโรคลำไส้อักเสบ ประกันอาจจะคิดว่าเป็นลำไส้อักเสบก็ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พวกนี้ แต่หมอไม่ได้ลงในรายการให้เห็นเลยหรอว่ามีการเอกซเรย์ปอด ผลเอกซเรย์ หรือการสั่งตรวจโควิด (ค่าตรวจโควิดไม่เสียค่าใช้จ่ายจริงน่ะครับ) ถ้าทางบริษัทประกันเห็นรายการพวกนี้ก็คงรู้ว่ามันคืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ใช่ไหมครับ
ข้อนี้อยากทราบมาก ๆ เลย คือ
1. ถ้าประกันไม่เห็นรายการพวกนี้ตั้งแต่แรก และเราส่งไปเครมทีหลังมีโอกาสที่จะได้คืนไหม ?
2. หรือโดยปกติประกันไม่คุ้มครองอุปกรณ์เหล่านี้อยู่แล้ว ต่อให้จำเป็นยังไงก็ไม่คุ้มครอง ?
รบกวนผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน แนะนำผมทีน่ะครับ
หากได้คืนบ้าง ผมจะได้ไปขอคัดประวัติจากโรงพยาบาล
กราบขอบพระคุณครับ