สอบถามพี่ๆชาว พันทิพ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยนะครับ

ขออธิบายสถานะการณ์ที่เจอให้ฟังดังต่อไปนี้

ผมได้เช่าพื้นที่ห้างขายสินค้า ซึ่งไม่ใช่ของกินและของจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า
จึงจำเป็นต้องปิดตามกระกาศของ กรุงเทพมหานครตั่งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา

โดยที่ผมได้เช่าพื้นที่อยู่ทั้งหมด 8 ที่ ใน 6 ศูนย์การค้า เป็น คีออส หรือ พื้นที่ปล่าว
โดยแต่ละห้างก็จะมีมาตราการช่วยเหลือผู้เช่าที่แตกต่างกันออกไปตั่งแต่ไม่เก็บค่าบริการในช่วงเวลาที่ไม่ได้เปิดขาย
ช่วยลดค่าเช่าหลังจากที่หมดสถานะการณ์โควิท-19 แต่มีอยู่ 1 จากทั้งหมด 6 ห้างสรรพสินค้าที่ยังเรียกเก็บค่าเช่าอยู่

ต้องแจ้งเบื่องต้นก่อนว่าก่อนจะประกาศปิด ผมได้ทำหนังสือขอลดราคาค่าเช่าลง 30% เพราะสถานะการณ์โควิท
เมื่อกทมสั่งปิดทางห้างแจ้งว่าจะลดค่าเช่าลงให้ 30% ผมจึงถามไปว่าในกรณีสั่งปิดเราจำเป็นต้องจ่ายค่าเช่าไหม
ทางห้างให้คำตอบว่า ต้องจ่าย ผมจึงต่อรองขอไม่จ่ายเนื่องจากห้างอื่นๆเขาช่วยเหลือผู้เช่าด้วยการไม่เก็บค่าเช่า
หลังจากพนักงานรับเรื่องไปคุยกับทางผ่ายบริการ ก็แจ้งกลับมาว่า จะลดให้เป็น 40% แทน 30%
ผมก็ยังขอให้เขาไปช่วยต่อรองให้ว่าไม่จ่ายได้หรือไม่ แล้วจึงสอบถามไปว่าผมมีเงินมัดจำอยู่กับทางห้าง 2 เดือน
สามารถหักจากส่วนนั้นได้หรือไม่ เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะสามารถเปิดขายได้วันไหน
ทางห้างแจ้งว่าไม่สามารถทำได้ ยังไงก็ต้องจ่ายเงินค่าเช่า ในกรณีไม่จ่ายเงินค่าเช่าถือว่าผิดสัญญา
จะต้องถูกริบเงินประกัน 2 เดือนอีกทั้งยังต้องจ่ายเงินขอเดือน เมษายนอีกด้วย

ผมจึงหาข้อมูลแล้วเจอข้อมูลที่อาจารย์ มุนิน ของ มธ ชี้แจงเกียวกับข้อพิพาทเรื่องนี้ไว้ว่า

การสั่งปิดสถานที่ของเอกชนหลายแห่ง เช่น ตลาดหรือห้างสรรพสินค้า เป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่จำเป็น แต่ก็ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ที่ถูกปิดขาดรายได้ และอาจไม่สามารถชำระค่าเช่าได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ผู้เช่าไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องชำระค่าเช่าให้กับผู้ให้เช่า เพราะเมื่อผู้ให้เช่าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของตน คือ การทำให้ผู้เช่าได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่เช่าได้ตามสัญญาเช่า ดังนั้น ผู้เช่าจึงไม่มีหน้าที่ในการชำระค่าเช่าตอบแทนในระหว่างเวลาที่ไม่สามารถเข้าใช้พื้นที่ได้ ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักสัญญาต่างตอบแทนตามมาตรา 369 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แม้ว่าสัญญาเช่าจะกำหนดให้ผู้เช่าต้องชำระค่าเช่าต่อไปแม้จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่เช่าได้ก็ตาม ข้อสัญญาเช่นว่านี้ก็อาจจะบังคับไม่ได้หรือบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม หากสัญญาเช่านั้นมีลักษณะเป็นสัญญาระหว่างผู้ประกอบธุรกิจการค้ากับผู้บริโภคหรือสัญญาสำเร็จรูป และถึงแม้จะไม่ใช่สัญญาที่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมก็ตาม ผู้เขียนก็เห็นว่าข้อตกลงลักษณะดังกล่าวควรตกเป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนตามมาตรา 150 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต่อเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติและผู้เช่าสามารถเข้าใช้พื้นที่เช่าได้แล้ว ผู้เช่าจึงมีหน้าที่ชำระค่าเช่าต่อไปจนครบตามสัญญา
ผมจึงแจ้งห้างไปตามข้อความข้างต้นแล้วได้การตอบกลับมาว่า
1.  ตามประกาศกรุงเทพมหานคร ไม่ได้กำหนดให้ ผู้รับบริการ หยุดชำระค่าบริการ และไม่มีคำสั่งให้ ผู้ให้บริการ ระงับการเรียกเก็บ ค่าบริการจากผู้รับบริการ 
2.  ผู้รับบริการ มีหน้าที่ชำระค่าบริการแก่ผู้ให้บริการประจำเดือน ทุกเดือน จนกว่าจะครบกำหนดตามสัญญา
3.  ผู้ให้บริการ ยังคงให้บริการพื้นที่แก่ผู้รับบริการอยู่ ตามสัญญา เพียงแต่หากผู้รับบริการทำการเปิดร้านค้า ก็จะเป็นการผิดกฎหมาย หากเกิดค่าปรับ หรือ กรณีใดใด ผู้รับบริการ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด

ผมสามารถต่อรองยังไงได้บ้างครับ ณ ตอนนี้คือไม่รู้เลยว่าจะต้องทำยังไง แล้วทุกครั้งที่คุยทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์การค้าจะระบุท้ายอีเมลตลอดเลยว่า
ทั้งนี้จึงขอเรียนแจ้งเพื่อทราบ โดยหากติดขัดหรือข้อความใดไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งกลับได้ภายในวันนี้ ไม่เกินเวลา 18.00 น มิฉะนั้น ให้ถือว่า ไม่ติดขัดและรับทราบพร้อม ปฏิบัติ ตามที่แจ้งไปในรายละเอียด ข้างต้น ขอบคุณครับ

ส่งอีเมลให้ผม 17.20 น. ขอคำตอบก่อน 18.00 ตอบไม่ทันจริงๆ

คุยยังไงก็ไม่จบจะต้องจ่ายอย่างเดียวเลย แล้วก็จะบอกให้เราบอกเลิกสัญญาเพื่อยึดเงินมัดจำตลอดเลย