Harpy Eagles
เป็นนกประจำถิ่นในแถบอเมริกา อินทรีนักล่าเหยื่อ ด้วยรูปร่างขนาดใหญ่ความสูงกว่า 90 เซนติเมตร ระยะปลายปีกทั้งสองข้างวัดยาวถึง 2 เมตร มีเล็บอันแหลมคมที่งอกออกมายาวกว่า 13 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 9-10 กิโลกรัม ถูกยกย่องว่าเป็นนกที่มีพละกำลังมากที่สุดในทวีปอเมริกา และมีขนาดใหญ่ที่สุดที่ในบรรดาสายพันธุ์อินทรีย์ที่ยังมีอยู่ในโลก
ด้วยรูปร่างสูงขนาดใหญ่ปีกกว้าง แววตาดุดัน ลำตัวสีดำสลับขาว จะงอยปากสีดำสนิทดูน่าเกรงขาม เล็บอันแหลมคม ทำให้นักสำรวจยุคแรกๆ ต้องประหลาดใจกับเจ้านกอินทรียักษ์ตัวนี้ จึงตั้งชื่อตามตำนานของชาวกรีกว่า “ฮาร์ปี้” ซึ่งเป็นสัตว์ครึ่งผู้หญิงครึ่งนก
อาวุธลับที่น่ากลัวที่สุดของนกอินทรีฮาร์ปี้คือ กรงเล็บที่แข็งแกร่งมีขนาดใหญ่เท่ากับอุ้งตีนหมี เล็บยาวกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับกรงเล็บของนกอินทรีหัวขาว วารสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ทูเดย์ พูดถึงความมหัศจรรย์ของนกอินทรีฮาร์ปี้ว่าสามารถขยุ้มลิง สลอท หรือเหยื่อตัวอื่นๆ ให้กระดูกแหลกได้เลย ความรวดเร็วดั่งสายลมกว่า 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้มันบินโฉบลงมาจับเหยื่ออย่างรวดเร็ว โดยไร้เสียงจนแทบจับตัวได้ยาก หากบินผ่านศีรษะไปเราอาจมองไม่เห็นมันด้วยซ้ำ
Cr.
http://www.americanbuff.com//นกอินทรีฮาร์ปี้-ราชา/ By Admin
Giant anteater
ตัวกินมดยักษ์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กินแมลงเป็นอาหาร (กินมดกินปลวก) เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างใหญ่ มีความยาวประมาณ 182 – 217 ซม. น้ำหนักประมาณ 33 – 41 กิโลกรัม ใช้เวลานอนประมาณ 15 ชั่วโมงต่อวัน ถึงแม้ความสามารถด้านการมองเห็นและการได้ยินจะไม่ดี แต่ถูกทดแทนโดยประสาทการรับกลิ่นที่ดีกว่ามนุษย์ถึง 40 เท่า และอีกหนึ่งลักษณะเด่นคือ ลิ้นยาว 60 ซม. สามารถยืดหดได้ถึง 150 ครั้ง/นาที มีอายุขัยเฉลี่ย 26 ปี
กรงเล็บบนอุ้งมือห้านิ้วมีความคมชัดอย่างเหลือเชื่อ กรงเล็บมีความยาวได้ถึง 10 ซม และไม่ถอยกลับซึ่งเป็นสาเหตุที่ตัวกินมดต้องงออุ้งมือเอนไปด้านหลัง ปกติมันใช้กรงเล็บในการขุด เพื่อทำลายเนินเขาและเนินมดรวมทั้งการป้องกันตัวเอง ในเวลานอนพวกมันจะใช้ หางยาวที่มีขนหนาม้วนปกคลุมร่างกายเหมือนผ้าห่ม
ด้วยลักษณะนิสัยที่รักสันโดษมาก ทำให้เวลาโจมตีหรือป้องกันตัว จะรุนแรงและก้าวร้าวจนน่าตกใจ หลายปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากการถูก ตัวกินมดยักษ์ ทำร้ายหลายราย จากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่าร่างกายของผู้เสียชีวิตมีรอยฟกช้ำอยู่เป็นจำนวนมาก และมีเส้นเลือดฉีกขาดหลายแห่ง เนื่องจากพวกมันใช้ กรงเล็บทั้ง 5 นิ้วตะปบเข้าส่วนต่าง ๆ ของเหยื่อ
Cr.
https://www.flagfrog.com/giant-anteater/ โดย ManoshFiz
Polar Bear
เป็นนักล่าแห่งดินแดนขั้วโลกเหนือที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพชีวิตกลางน้ำแข็ง ธรรมชาติสร้างให้หมีขาวแตกต่างจากหมีพันธุ์อื่น คือ มีขนคลุมอุ้งเท้า นิ้วเท้าสั้น เล็บโค้งงอเพื่อ ให้ยึดน้ำแข็งได้อย่างมั่นคง ในขณะเดียวกันก็มีท่อนขาขนาดใหญ่เพื่อเฉลี่ยน้ำหนักมหาศาล เพื่อสามารถเดินบนน้ำแข็งบางๆ ได้ กรงเล็บของพวกมันอาจยาวได้ถึง 12 - 15 เซนติเมตรหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับขนาดตัว
ปัจจุบันหมีขั้วโลกมีจำนวนประมาณ 22,000-27,000 ตัว อยู่ในแคนาดามากที่สุดคือราว 15,000 ตัว ซึ่งการดำรงชีวิตให้อยู่รอดในแถบอาร์กติกที่มีอุณหภูมิหนาวเย็น ทำให้สัตว์หลายๆ ชนิดใช้เวลายาวนานในการวิวัฒนาการจนมีขนสีขาว หรือเปลี่ยนสีขนในฤดูหนาวจนกลมกลืนกับหิมะ ซึ่งเป็นการพรางตัวที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และหาอาหาร โดยเฉพาะหมีขั้วโลก (polar bear) ที่ใช้เวลาประมาณ 2 แสนปี พัฒนา และมีวิวัฒนาการจากหมีสีน้ำตาลมาเป็นหมีขาวในทุกวันนี้
หมีขั้วโลกครองสถิติเท้าใหญ่ ที่สุดในบรรดาตระกูลหมีทั้งหมด อุ้งเท้าขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบมาพิเศษสำหรับน้ำแข็งโดยเฉพาะ เท้าของมันปกคลุมไปด้วยปุ่มคล้ายนิ้วที่เรียกว่า “พาพิเล” ซึ่งช่วยทำให้ฝ่าเท้ามีลักษณะเหมือนกระดาษทราย ทำให้มีแรงฝืดบนน้ำแข็งอันแสนลื่นได้ เท้ากึ่งพังผืดทำให้สามารถว่ายน้ำได้อย่างง่ายดาย
อุ้งเท้าหนาทำหน้าที่เปรียบเสมือนไม้พาย ผลักดันร่างกายอันใหญ่โตผ่านน้ำ ฝ่าเท้าหลังบังคับทิศทางเสมือนหางเสือกรงเล็บจะจิกลงไปบนแผ่นน้ำแข็งช่วยให้ มันยกตัวขึ้นจากน้ำได้ พวกมันไม่มีปัญหาในการเกาะแพน้ำแข็งเพื่อเดินเช่นกัน เท้าใหญ่ของมันจะช่วยในการกระจายน้ำหนักเหนือแผ่นน้ำแข็งบางๆ และถ้าหากน้ำแข็งบางเกินไป พวกมันจะนอนราบไปบนพื้นน้ำแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแตกหัก
มี่มา
http://th.wikipedia.org
Cr. ภาพ
https://www.btwinmylife.com/
Cr.
http://karn.tv/กิจกรรม/สัตว์เลี้ยงสัตว์ป่า/116
เสือโคร่ง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ Panthera tigris เป็นสัตว์ที่สามารถหดและกางกรงเล็บได้ โดยใช้หลักการทำงานร่วมกันของอวัยวะหลายส่วน ซึ่งจะมีเส้นเอ็นที่มีลักษณะพิเศษทำหน้าที่ควบคุมการหดและกางเล็บซึ่งจะต้องรักษาสภาพสมดุลและความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน รวมทั้งกล้ามเนื้อซึ่งจะทำหน้าที่ป้องกันเป็นปลอกหุ้มเล็บไว้ภายใน
กลไกโดยทั่วไปคือเสือจะใช้กล้ามเนื้อบริเวณขาหน้า ทำหน้าที่บังคับดึงหรือคลายเส้นเอ็น ซึ่งจะยึดกระดูกเท้าทุก ๆ นิ้วให้หดหรือกางเล็บตามต้องการ กลุ่มของเส้นเอ็นนี้จะถูกหุ้มด้วยหนังพังผืดแผ่นหนึ่งตรงบริเวณข้อเท้า ทำให้เมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้หดตัวดึงเส้นเอ็น เส้นเอ็นจะเคลื่อนไหวได้โดยไม่เลื่อนหลุดออกจากข้อเท้า
อุ้งเท้าของเสือในเวลาปกติจะหดเล็บไว้ในปลอกเนื้อ ซึ่งจะติดอยู่กับกระดูกนิ้วชิ้นปลาย (กระดูกนิ้วของเสือมี 3 ชิ้น คือ ชิ้นปลายซึ่งจะมีเล็บติดอยู่ ชิ้นกลางและชิ้นโคน) ในสภาพเช่นนี้กล้ามเนื้อจะไม่ได้หดตัวจึงไม่มีเส้นเอ็นใดถูกดึง แต่แผ่นพังผืดที่หุ้มเอ็นตรงบริเวณข้อเท้าจะเหนี่ยวรั้งเอ็นเอาไว้ ทำให้กระดูกนิ้วชิ้นปลายเลื่อนมาอยู่ที่ข้างกระดูกนิ้วชิ้นกลาง และเล็บที่ปลายนิ้วก็จะเข้ามาซ่อนอยู่ใบริเวณปลอกเนื้อ ซึ่งการที่เสือหดเล็บนี้ รอยเท้าของเสือจึงไม่ปรากฏรอยเล็บให้เห็นบนดินเวลามันเดิน ส่วนรอยเท้าเสือก็คือรอยของอุ้งนิ้วซึ่งจะรองรับข้อต่อของกระดูกระหว่างกระดูกชิ้นปลายและกระดูกชิ้นกลาง
เมื่อกล้ามเนื้อหดตัวจะดึงเอาเส้นเอ็นบนและล่างของกระดูก ทำให้ข้อต่อระหว่างกระดูกชิ้นต่าง ๆ เคลื่อนไหวและจะกางเล็บออกพร้อมใช้งาน ซึ่งก็คือการหดตัวของกล้ามเนื้อ เอกซ์เทนเซอร์ (Extensor) จะดึงกระดูกนิ้วชิ้นกลางโดยผ่านทางเส้นเอ็นบน ทำให้นิ้วเท้าของเสือเหยียดออกแต่เล็บจะยังคงไม่กาง เพราะเส้นเอ็นด้านบนนี้ไม่ได้ดึงเอากระดูกนิ้วชิ้นปลายโดยตรง
ซึ่งหน้าที่ที่จะทำให้เล็บของเสือกางออกนั้นต้องอาศัยกล้ามเนื้อเฟล็กซอ (Flexo) หดตัวดีงเอาเส้นเอ็นส่วนล่างทำให้กระดูกนิ้วชิ้นปลายดีดตัวออกมา ผลลัพธ์สุดท้ายของกลไกลนี้ก็คือกรงเล็บที่กางออกมาจากปลอกเนื้อบริเวณอุ้งเท้าของเสือ จะกางออกเต็มที่พร้อมตะปบเหยื่อในการล่า กรงเล็บนี้คมและยาวได้ถึง 12 เซนติเมตร
ที่มา :
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD
Cr.
https://sites.google.com/a/longwittaya.ac.th/i-love-tiger-khn-rak-seux/laksna-thang-kaywiphakh/krng-leb
Komodo dragon
เป็นสัตว์เลื้อยคลานในอันดับกิ้งก่าชนิดหนึ่ง ลำตัวมีสีเทาออกดำ มีถิ่นอาศัยอยู่บนเกาะโกโมโด, รินจา, ฟลอเรส และกีลีโมตังในประเทศอินโดนีเซีย อยู่ในวงศ์และสกุลเดียวกับ
(Varanidae) จัดเป็น
ชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ ตัวโตเต็มวัยมีขนาดความยาวโดยเฉลี่ย 2-3 เมตร (6.6 ถึง 9.8 ฟุต) และมีน้ำหนักประมาณ 90 กิโลกรัม (150ปอนด์) มันมีกรงเล็บที่สามารถยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร มันใช้กรงเล็บเป็นอาวุธ เพื่อเคลื่อนที่บนพื้นผิวเพื่อโจมตีและป้องกัน
มีอุปนิสัยดุร้าย ชอบอยู่เป็นฝูง มังกรโกโมโดเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร จะวิ่งล่าเหยื่อด้วยการซุ่มจู่โจมกัดเหยื่อด้วยฟันที่คม แต่มันจะวิ่งไล่ได้เพียงครั้งเดียว ถ้าหากมันจับเหยื่อไม่ได้ มันจะต้องหยุดนิ่งเพื่อชาร์จพลังสำหรับการวิ่งครั้งใหม่ มังกรโกโมโดเป็นสัตว์ไม่มีพิษแต่ก็เสมือนว่ามีพิษ เนื่องจากในน้ำลายของมันมีเชื้อแบคทีเรียอยู่มากกว่าถึง 50 ชนิด เหยื่อที่ถูกกัดจะเกิดอาการโลหิตเป็นพิษ และจะถึงแก่ความตายในเวลาไม่เกิน 3 วัน
มังกรโกโมโดสามารถวิ่งได้เร็ว 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง แต่มันจะวิ่งได้ระยะสั้นแล้วต้องหยุดพักเพราะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่
ที่มา
http://th.wikipedia.org
Cr.
https://athidtiya1995.wordpress.com/537-2/
นกแคสโซแวรี
(ขาของ นกแคสโซแวรี ทางใต้ นก โดยเป็นนกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองมาจากนกกระจอกเทศ และนกอีมู มีความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร หรือสูงกว่านั้น ตัวเมียโดยปกติจะใหญ่กว่าตัวผู้ ซึ่งอาจจะสูงได้ถึง 2 เมตร)
ข้อมูลจากเวบไซต์สวนสัตว์ซานดิเอโก ระบุว่านกแคสโซแวรี เป็นสัตว์พื้นถิ่นออสเตรเลียและนิวกินี บินไม่ได้และมีขนาดใหญ่มีโครงสร้างแบบนกยุคก่อนประวัติศาสตร์ ลักษณะคล้ายกับนกอีมู เมื่อยืดตัวเต็มที่ อาจสูงถึง 1.8 เมตร หนักได้ถึง 60 ก.ก. ขนลำตัวเป็นสีดำ สีฟ้าแต้มคอและหัว กระโดดได้สูง 7 ฟุต และวิ่งด้วยความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นับเป็นนกที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก อันตรายของมันอยู่ที่นิ้วตีน 3 นิ้ว ที่มีกรงเล็บแหลมคมราวกับกริช โดยเฉพาะนิ้วกลาง ความยาวถึง 10 ซ.ม. ที่อาจฉีกร่างของผู้ล่าหรือเหยื่อ หรือกระโดดถีบเหยื่ออย่างแรงและเร็ว ด้วยความแรง 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีมนุษย์ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตมาแล้ว
Cr.cr. data : google, khaosod
Cr.
https://www.komchadluek.net/news/foreign/368783
Wolverine
วูล์ฟเวอรีน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gulo gulo เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์เพียงพอน พบได้มากในซีกโลกเหนือและทางตอนเหนือของทวีปอเมริกา โตเต็มวัยจะมีขนาดเท่าสุนัขขนาดกลาง จนคล้ายกับหมีขนาดเล็ก สามารถหนักได้ถึง 31 กิโลกรัม เป็นสัตว์ที่ดุร้ายเป็นอย่างมาก มักล่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ เช่น กวางเรนเดียร์ หมีดำ กวางมูส บางครั้งพวกมันก็สู้กับหมาป่าเพื่อแย่งชิงอาหาร
ความยาวของร่างกายมีตั้งแต่ 70 ถึง 105 ซม. อุ้งเท้ามีขนาดไม่ใหญ่นัก โดยความยาวของเท้าหลังที่ไม่มีกรงเล็บอยู่ที่ประมาณ 14-16 ซม. น้ำหนักเฉลี่ยของสัตว์ตัวนี้คือ 10-12 กก. กรงเล็บของ Wolverine เป็นกรงเล็บที่แหลมคม เป็นอาวุธหลักในการหาอาหาร โดยใช้ในการตะปบเหยื่อ
ร่างกายนั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันทรงพลัง และถึงจะมีขนหนาแต่ขนของพวกมันเป็นขนที่ไม่อุ้มน้ำ ทำให้พวกมันทนหนาวได้ดีและเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งพวกมันยังมีฟันกรามชนิดพิเศษในช่องปากด้านบน ที่ทำให้พวกมันสามารถง้างปากเป็นมุมตั้งฉาก 90 องศา เพื่อใช้ในการกัดและบดขยี้เหยื่อได้อย่างง่ายดาย
อีกหนึ่งความสามารถพิเศษคือ พวกมันสามารถปล่อยกลิ่นที่เหม็นมาก เหมือนตัวสกั๊งค์ออกมาได้ ทำให้มันมีชื่อเล่นว่า “หมีนักตด” หรือ “แมวเหม็น” อีกด้วย
Cr.
https://www.flagfrog.com/wolverine-real-animal / โดย ManoshFiz
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
กรงเล็บอันทรงพลังของนักล่า
เป็นนกประจำถิ่นในแถบอเมริกา อินทรีนักล่าเหยื่อ ด้วยรูปร่างขนาดใหญ่ความสูงกว่า 90 เซนติเมตร ระยะปลายปีกทั้งสองข้างวัดยาวถึง 2 เมตร มีเล็บอันแหลมคมที่งอกออกมายาวกว่า 13 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 9-10 กิโลกรัม ถูกยกย่องว่าเป็นนกที่มีพละกำลังมากที่สุดในทวีปอเมริกา และมีขนาดใหญ่ที่สุดที่ในบรรดาสายพันธุ์อินทรีย์ที่ยังมีอยู่ในโลก
ด้วยรูปร่างสูงขนาดใหญ่ปีกกว้าง แววตาดุดัน ลำตัวสีดำสลับขาว จะงอยปากสีดำสนิทดูน่าเกรงขาม เล็บอันแหลมคม ทำให้นักสำรวจยุคแรกๆ ต้องประหลาดใจกับเจ้านกอินทรียักษ์ตัวนี้ จึงตั้งชื่อตามตำนานของชาวกรีกว่า “ฮาร์ปี้” ซึ่งเป็นสัตว์ครึ่งผู้หญิงครึ่งนก
อาวุธลับที่น่ากลัวที่สุดของนกอินทรีฮาร์ปี้คือ กรงเล็บที่แข็งแกร่งมีขนาดใหญ่เท่ากับอุ้งตีนหมี เล็บยาวกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับกรงเล็บของนกอินทรีหัวขาว วารสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ทูเดย์ พูดถึงความมหัศจรรย์ของนกอินทรีฮาร์ปี้ว่าสามารถขยุ้มลิง สลอท หรือเหยื่อตัวอื่นๆ ให้กระดูกแหลกได้เลย ความรวดเร็วดั่งสายลมกว่า 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้มันบินโฉบลงมาจับเหยื่ออย่างรวดเร็ว โดยไร้เสียงจนแทบจับตัวได้ยาก หากบินผ่านศีรษะไปเราอาจมองไม่เห็นมันด้วยซ้ำ
Cr.http://www.americanbuff.com//นกอินทรีฮาร์ปี้-ราชา/ By Admin
Giant anteater
ตัวกินมดยักษ์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กินแมลงเป็นอาหาร (กินมดกินปลวก) เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างใหญ่ มีความยาวประมาณ 182 – 217 ซม. น้ำหนักประมาณ 33 – 41 กิโลกรัม ใช้เวลานอนประมาณ 15 ชั่วโมงต่อวัน ถึงแม้ความสามารถด้านการมองเห็นและการได้ยินจะไม่ดี แต่ถูกทดแทนโดยประสาทการรับกลิ่นที่ดีกว่ามนุษย์ถึง 40 เท่า และอีกหนึ่งลักษณะเด่นคือ ลิ้นยาว 60 ซม. สามารถยืดหดได้ถึง 150 ครั้ง/นาที มีอายุขัยเฉลี่ย 26 ปี
กรงเล็บบนอุ้งมือห้านิ้วมีความคมชัดอย่างเหลือเชื่อ กรงเล็บมีความยาวได้ถึง 10 ซม และไม่ถอยกลับซึ่งเป็นสาเหตุที่ตัวกินมดต้องงออุ้งมือเอนไปด้านหลัง ปกติมันใช้กรงเล็บในการขุด เพื่อทำลายเนินเขาและเนินมดรวมทั้งการป้องกันตัวเอง ในเวลานอนพวกมันจะใช้ หางยาวที่มีขนหนาม้วนปกคลุมร่างกายเหมือนผ้าห่ม
ด้วยลักษณะนิสัยที่รักสันโดษมาก ทำให้เวลาโจมตีหรือป้องกันตัว จะรุนแรงและก้าวร้าวจนน่าตกใจ หลายปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากการถูก ตัวกินมดยักษ์ ทำร้ายหลายราย จากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่าร่างกายของผู้เสียชีวิตมีรอยฟกช้ำอยู่เป็นจำนวนมาก และมีเส้นเลือดฉีกขาดหลายแห่ง เนื่องจากพวกมันใช้ กรงเล็บทั้ง 5 นิ้วตะปบเข้าส่วนต่าง ๆ ของเหยื่อ
Cr.https://www.flagfrog.com/giant-anteater/ โดย ManoshFiz
Polar Bear
เป็นนักล่าแห่งดินแดนขั้วโลกเหนือที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพชีวิตกลางน้ำแข็ง ธรรมชาติสร้างให้หมีขาวแตกต่างจากหมีพันธุ์อื่น คือ มีขนคลุมอุ้งเท้า นิ้วเท้าสั้น เล็บโค้งงอเพื่อ ให้ยึดน้ำแข็งได้อย่างมั่นคง ในขณะเดียวกันก็มีท่อนขาขนาดใหญ่เพื่อเฉลี่ยน้ำหนักมหาศาล เพื่อสามารถเดินบนน้ำแข็งบางๆ ได้ กรงเล็บของพวกมันอาจยาวได้ถึง 12 - 15 เซนติเมตรหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับขนาดตัว
ปัจจุบันหมีขั้วโลกมีจำนวนประมาณ 22,000-27,000 ตัว อยู่ในแคนาดามากที่สุดคือราว 15,000 ตัว ซึ่งการดำรงชีวิตให้อยู่รอดในแถบอาร์กติกที่มีอุณหภูมิหนาวเย็น ทำให้สัตว์หลายๆ ชนิดใช้เวลายาวนานในการวิวัฒนาการจนมีขนสีขาว หรือเปลี่ยนสีขนในฤดูหนาวจนกลมกลืนกับหิมะ ซึ่งเป็นการพรางตัวที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และหาอาหาร โดยเฉพาะหมีขั้วโลก (polar bear) ที่ใช้เวลาประมาณ 2 แสนปี พัฒนา และมีวิวัฒนาการจากหมีสีน้ำตาลมาเป็นหมีขาวในทุกวันนี้
หมีขั้วโลกครองสถิติเท้าใหญ่ ที่สุดในบรรดาตระกูลหมีทั้งหมด อุ้งเท้าขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบมาพิเศษสำหรับน้ำแข็งโดยเฉพาะ เท้าของมันปกคลุมไปด้วยปุ่มคล้ายนิ้วที่เรียกว่า “พาพิเล” ซึ่งช่วยทำให้ฝ่าเท้ามีลักษณะเหมือนกระดาษทราย ทำให้มีแรงฝืดบนน้ำแข็งอันแสนลื่นได้ เท้ากึ่งพังผืดทำให้สามารถว่ายน้ำได้อย่างง่ายดาย
อุ้งเท้าหนาทำหน้าที่เปรียบเสมือนไม้พาย ผลักดันร่างกายอันใหญ่โตผ่านน้ำ ฝ่าเท้าหลังบังคับทิศทางเสมือนหางเสือกรงเล็บจะจิกลงไปบนแผ่นน้ำแข็งช่วยให้ มันยกตัวขึ้นจากน้ำได้ พวกมันไม่มีปัญหาในการเกาะแพน้ำแข็งเพื่อเดินเช่นกัน เท้าใหญ่ของมันจะช่วยในการกระจายน้ำหนักเหนือแผ่นน้ำแข็งบางๆ และถ้าหากน้ำแข็งบางเกินไป พวกมันจะนอนราบไปบนพื้นน้ำแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแตกหัก
มี่มา http://th.wikipedia.org
Cr. ภาพ https://www.btwinmylife.com/
Cr.http://karn.tv/กิจกรรม/สัตว์เลี้ยงสัตว์ป่า/116
เสือโคร่ง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ Panthera tigris เป็นสัตว์ที่สามารถหดและกางกรงเล็บได้ โดยใช้หลักการทำงานร่วมกันของอวัยวะหลายส่วน ซึ่งจะมีเส้นเอ็นที่มีลักษณะพิเศษทำหน้าที่ควบคุมการหดและกางเล็บซึ่งจะต้องรักษาสภาพสมดุลและความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน รวมทั้งกล้ามเนื้อซึ่งจะทำหน้าที่ป้องกันเป็นปลอกหุ้มเล็บไว้ภายใน
กลไกโดยทั่วไปคือเสือจะใช้กล้ามเนื้อบริเวณขาหน้า ทำหน้าที่บังคับดึงหรือคลายเส้นเอ็น ซึ่งจะยึดกระดูกเท้าทุก ๆ นิ้วให้หดหรือกางเล็บตามต้องการ กลุ่มของเส้นเอ็นนี้จะถูกหุ้มด้วยหนังพังผืดแผ่นหนึ่งตรงบริเวณข้อเท้า ทำให้เมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้หดตัวดึงเส้นเอ็น เส้นเอ็นจะเคลื่อนไหวได้โดยไม่เลื่อนหลุดออกจากข้อเท้า
อุ้งเท้าของเสือในเวลาปกติจะหดเล็บไว้ในปลอกเนื้อ ซึ่งจะติดอยู่กับกระดูกนิ้วชิ้นปลาย (กระดูกนิ้วของเสือมี 3 ชิ้น คือ ชิ้นปลายซึ่งจะมีเล็บติดอยู่ ชิ้นกลางและชิ้นโคน) ในสภาพเช่นนี้กล้ามเนื้อจะไม่ได้หดตัวจึงไม่มีเส้นเอ็นใดถูกดึง แต่แผ่นพังผืดที่หุ้มเอ็นตรงบริเวณข้อเท้าจะเหนี่ยวรั้งเอ็นเอาไว้ ทำให้กระดูกนิ้วชิ้นปลายเลื่อนมาอยู่ที่ข้างกระดูกนิ้วชิ้นกลาง และเล็บที่ปลายนิ้วก็จะเข้ามาซ่อนอยู่ใบริเวณปลอกเนื้อ ซึ่งการที่เสือหดเล็บนี้ รอยเท้าของเสือจึงไม่ปรากฏรอยเล็บให้เห็นบนดินเวลามันเดิน ส่วนรอยเท้าเสือก็คือรอยของอุ้งนิ้วซึ่งจะรองรับข้อต่อของกระดูกระหว่างกระดูกชิ้นปลายและกระดูกชิ้นกลาง
เมื่อกล้ามเนื้อหดตัวจะดึงเอาเส้นเอ็นบนและล่างของกระดูก ทำให้ข้อต่อระหว่างกระดูกชิ้นต่าง ๆ เคลื่อนไหวและจะกางเล็บออกพร้อมใช้งาน ซึ่งก็คือการหดตัวของกล้ามเนื้อ เอกซ์เทนเซอร์ (Extensor) จะดึงกระดูกนิ้วชิ้นกลางโดยผ่านทางเส้นเอ็นบน ทำให้นิ้วเท้าของเสือเหยียดออกแต่เล็บจะยังคงไม่กาง เพราะเส้นเอ็นด้านบนนี้ไม่ได้ดึงเอากระดูกนิ้วชิ้นปลายโดยตรง
ซึ่งหน้าที่ที่จะทำให้เล็บของเสือกางออกนั้นต้องอาศัยกล้ามเนื้อเฟล็กซอ (Flexo) หดตัวดีงเอาเส้นเอ็นส่วนล่างทำให้กระดูกนิ้วชิ้นปลายดีดตัวออกมา ผลลัพธ์สุดท้ายของกลไกลนี้ก็คือกรงเล็บที่กางออกมาจากปลอกเนื้อบริเวณอุ้งเท้าของเสือ จะกางออกเต็มที่พร้อมตะปบเหยื่อในการล่า กรงเล็บนี้คมและยาวได้ถึง 12 เซนติเมตร
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD
Cr.https://sites.google.com/a/longwittaya.ac.th/i-love-tiger-khn-rak-seux/laksna-thang-kaywiphakh/krng-leb
Komodo dragon
เป็นสัตว์เลื้อยคลานในอันดับกิ้งก่าชนิดหนึ่ง ลำตัวมีสีเทาออกดำ มีถิ่นอาศัยอยู่บนเกาะโกโมโด, รินจา, ฟลอเรส และกีลีโมตังในประเทศอินโดนีเซีย อยู่ในวงศ์และสกุลเดียวกับ (Varanidae) จัดเป็น ชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังสืบเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ ตัวโตเต็มวัยมีขนาดความยาวโดยเฉลี่ย 2-3 เมตร (6.6 ถึง 9.8 ฟุต) และมีน้ำหนักประมาณ 90 กิโลกรัม (150ปอนด์) มันมีกรงเล็บที่สามารถยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร มันใช้กรงเล็บเป็นอาวุธ เพื่อเคลื่อนที่บนพื้นผิวเพื่อโจมตีและป้องกัน
มีอุปนิสัยดุร้าย ชอบอยู่เป็นฝูง มังกรโกโมโดเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร จะวิ่งล่าเหยื่อด้วยการซุ่มจู่โจมกัดเหยื่อด้วยฟันที่คม แต่มันจะวิ่งไล่ได้เพียงครั้งเดียว ถ้าหากมันจับเหยื่อไม่ได้ มันจะต้องหยุดนิ่งเพื่อชาร์จพลังสำหรับการวิ่งครั้งใหม่ มังกรโกโมโดเป็นสัตว์ไม่มีพิษแต่ก็เสมือนว่ามีพิษ เนื่องจากในน้ำลายของมันมีเชื้อแบคทีเรียอยู่มากกว่าถึง 50 ชนิด เหยื่อที่ถูกกัดจะเกิดอาการโลหิตเป็นพิษ และจะถึงแก่ความตายในเวลาไม่เกิน 3 วัน
มังกรโกโมโดสามารถวิ่งได้เร็ว 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง แต่มันจะวิ่งได้ระยะสั้นแล้วต้องหยุดพักเพราะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่
ที่มา http://th.wikipedia.org
Cr.https://athidtiya1995.wordpress.com/537-2/
นกแคสโซแวรี
(ขาของ นกแคสโซแวรี ทางใต้ นก โดยเป็นนกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองมาจากนกกระจอกเทศ และนกอีมู มีความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร หรือสูงกว่านั้น ตัวเมียโดยปกติจะใหญ่กว่าตัวผู้ ซึ่งอาจจะสูงได้ถึง 2 เมตร)
ข้อมูลจากเวบไซต์สวนสัตว์ซานดิเอโก ระบุว่านกแคสโซแวรี เป็นสัตว์พื้นถิ่นออสเตรเลียและนิวกินี บินไม่ได้และมีขนาดใหญ่มีโครงสร้างแบบนกยุคก่อนประวัติศาสตร์ ลักษณะคล้ายกับนกอีมู เมื่อยืดตัวเต็มที่ อาจสูงถึง 1.8 เมตร หนักได้ถึง 60 ก.ก. ขนลำตัวเป็นสีดำ สีฟ้าแต้มคอและหัว กระโดดได้สูง 7 ฟุต และวิ่งด้วยความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นับเป็นนกที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก อันตรายของมันอยู่ที่นิ้วตีน 3 นิ้ว ที่มีกรงเล็บแหลมคมราวกับกริช โดยเฉพาะนิ้วกลาง ความยาวถึง 10 ซ.ม. ที่อาจฉีกร่างของผู้ล่าหรือเหยื่อ หรือกระโดดถีบเหยื่ออย่างแรงและเร็ว ด้วยความแรง 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีมนุษย์ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตมาแล้ว
Cr.cr. data : google, khaosod
Cr.https://www.komchadluek.net/news/foreign/368783
Wolverine
วูล์ฟเวอรีน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gulo gulo เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์เพียงพอน พบได้มากในซีกโลกเหนือและทางตอนเหนือของทวีปอเมริกา โตเต็มวัยจะมีขนาดเท่าสุนัขขนาดกลาง จนคล้ายกับหมีขนาดเล็ก สามารถหนักได้ถึง 31 กิโลกรัม เป็นสัตว์ที่ดุร้ายเป็นอย่างมาก มักล่าเหยื่อที่มีขนาดใหญ่ เช่น กวางเรนเดียร์ หมีดำ กวางมูส บางครั้งพวกมันก็สู้กับหมาป่าเพื่อแย่งชิงอาหาร
ความยาวของร่างกายมีตั้งแต่ 70 ถึง 105 ซม. อุ้งเท้ามีขนาดไม่ใหญ่นัก โดยความยาวของเท้าหลังที่ไม่มีกรงเล็บอยู่ที่ประมาณ 14-16 ซม. น้ำหนักเฉลี่ยของสัตว์ตัวนี้คือ 10-12 กก. กรงเล็บของ Wolverine เป็นกรงเล็บที่แหลมคม เป็นอาวุธหลักในการหาอาหาร โดยใช้ในการตะปบเหยื่อ
ร่างกายนั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันทรงพลัง และถึงจะมีขนหนาแต่ขนของพวกมันเป็นขนที่ไม่อุ้มน้ำ ทำให้พวกมันทนหนาวได้ดีและเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งพวกมันยังมีฟันกรามชนิดพิเศษในช่องปากด้านบน ที่ทำให้พวกมันสามารถง้างปากเป็นมุมตั้งฉาก 90 องศา เพื่อใช้ในการกัดและบดขยี้เหยื่อได้อย่างง่ายดาย
อีกหนึ่งความสามารถพิเศษคือ พวกมันสามารถปล่อยกลิ่นที่เหม็นมาก เหมือนตัวสกั๊งค์ออกมาได้ ทำให้มันมีชื่อเล่นว่า “หมีนักตด” หรือ “แมวเหม็น” อีกด้วย
Cr. https://www.flagfrog.com/wolverine-real-animal / โดย ManoshFiz
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)