▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ประเทศโคลอมเบีย
Backpack
เที่ยวต่างประเทศ
นักท่องเที่ยว
(2 สาวเพื่อนซี้) - จากเมืองสีๆแห่ง Cartagena สู่ป่าดงดิบ Amazon ณ Colombia
เราไปกันช่วง Christmas 2019 บินจาก Buenos Aires, Argentina ไปลงที่ Bogota, Colombia เที่ยวบินนี้เราบินกับ Avianca ค่ะ ถ้ามาจากไทยก็บินไปต่อไฟท์ตรงจากลอนดอนก็ได้ค่ะ หรือจะมาทางญี่ปุ่นกับอเมริกาก็ได้
ประเทศโคลอมเบียมีดีจริงๆนะ เราชอบ อาหารอร่อยสุดในอเมริกาใต้ เมืองเก่า เราก็ชอบของที่นี่ที่สุด เมืองหลวงก็อากาศเย็นตลอดปี ป่าอเมซอนก็พระอาทิตย์ตกอย่างสวย เหมือนได้ไปสงบจิตสงบใจ ตัดจากโลกภายนอกเลย
Bogota
เป็นเมืองหลวงที่อากาศดีมาก เย็นๆตลอดเลย ขนาดเราไปตอนหน้าร้อนนะ เราใช้เมืองนี้เป็น base พักที่ airport hotel ที่เดิมตลอด ไม่ได้นอนในเมืองเลย เพื่อที่จะได้สะดวกต่อการบินเที่ยวในประเทศ เราทิ้งกระเป๋าใหญ่ไว้ที่ รร ระหว่างไปเที่ยว Cartagena เสร็จก็บินกลับมานอน 1 คืน แพ็คใหม่แล้วก็บินออกไปเที่ยวป่า Amazon หลังจากนั้นก็บินกลับมานอนอีก 1 คืน ก่อนบินออกประเทศ
ถึงแม้จะไม่ได้ไปนอนในเมือง แต่เราก็เข้าเมืองไปกินข้าวกันตลอด Bogota มีร้านที่ติด Latin America’s Top 50 Restaurants อยู่หลายร้าน ไหนๆ มาแล้วก็ต้องไปลอง วันแรกเราไปลองร้าน Harry Sasson คนเยอะมาก เค้าหา reservation เราไม่เจอด้วย ดีที่ได้โต๊ะ ร้านนี้โอเคนะ ไม่ wow แต่ก็อร่อยดีแบบ classic
ส่วนร้านที่ชอบจะเป็นร้านที่ไปดินเนอร์หลังจากกลับมาจาก Cartagena ร้านชื่อ El Chato ร้านนี้ได้อันดับ 7 ใน Latin America อาหารอร่อย เป็นแบบ modern contemporary บางจานก็ทำให้นึกถึงร้านที่ลอนดอน ร้านนี้ cocktails ดีด้วยนะคะ
อีกร้านที่น่าลองชื่อว่า Leo แต่ร้านดันปิดตอนวันที่ 31 ธันวา ไม่งั้นคงได้ทานอะไรอร่อยๆ ต้อนรับปีใหม่ วันที่ 31 เราซื้ออาหารจากใน food court ที่สนามบินแล้วก็มีสั่ง room service ค่ะ อารมณ์เหนื่อยจากการอยู่ป่า + ไม่รู้จะไปไหนดี
Cartagena
เมืองท่า Cartagena de Indias ที่ติดชายฝั่งทะเล Caribbean เมืองนี้สีสันสวยงามมาก ตัวเมืองเก่าสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ตอนอยู่ภายใต้การปกครองของสเปน เมืองเก่ามีกำแพงหินร้อมรอบ วัง ตึกสีๆ และวิหารที่อยู่ด้านใน เราอยู่ที่นี่กันสองคืน อยู่กันแต่ในเมืองเก่านะคะ เพราะหาดด้านนอกไม่สวยเท่าไร
วันแรกที่ไปถึงก็บ่ายๆแล้ว พอเก็บของเข้าที่พักเสร็จก็ออกมาเดินเล่น ถ่ายรูป ก่อนที่จะไปต่อคิวกิน ceviche ร้านดังชื่อ La Cevicheria ร้านนี้ดังมากเพราะ Anthony Bourdain เคยมากินและถ่ายรายการ รสชาติใช้ได้ แต่ไม่ refine ถ้าใครไม่อยากต่อคิวก็มีร้านให้เลือกอีกเยอะเลยค่ะ เมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยว มีแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ แล้วก็ร้านขายของ/เสื้อผ้า
วันที่สอง เรานอนตื่นสายเลย เพราะกว่าจะได้นอนก็ดึก ข้างนอกเค้า party กันเสียงดังมากเนื่องจากเป็นวัน christmas พอดี คนเยอะสุดๆ วันนี้ไม่มีอะไรมาก อากาศร้อน เราออกมากินข้าว อาหาร Colombian Fusion ที่ร้าน Carmen ร้านบรรยากาศดี อาหารก็ใช้ได้ บางจานอร่อย บางจานเฉยๆ พอทานเสร็จพวกเราก็เดินได้อยู่แปปนึง แล้วก็ทนแดดไม่ไหว หนีกลับไปนอน siesta เมืองนี้ร้อนมากๆ สุดๆไปเลยค่ะ เราออกมาถ่ายรูปกันอีกทีตอนเย็นๆ พยายามจะถ่ายกับโบสถ์ แต่ก็ติดคนและรถเต็มไปหมด วันนั้นมีงานแต่งด้วย เลยคนเยอะไปกันใหญ่
หลังจากยอมแพ้กับการถ่ายรูป เราก็ไปทานอาหารที่ร้าน Moshi คราวนี้เป็น Japanese fusion อร่อยเลย ชอบร้านนี้สุดใน Cartagena ส่วนวันสุดท้ายเราก็ไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากดื่มกาแฟ แล้วก็กลับ Bogota ค่ะ โดยรวมเราชอบเมืองเก่าของ Cartagena ที่สุดในอเมริกาใต้แล้ว ฟีลมันได้มาก สีๆ ร้านอาหาร บาร์เยอะ เป็นเมืองที่สนุกสนานดี
Amazon
ไม่คิดเลยว่าจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะตอนถามทัวร์เค้าบอกว่ามีเน็ต ที่เค้าไม่ได้บอกคือ wifi ติดๆดับๆ ต่อติดวันละรอบก็เก่งแล้ว เราต้องใช้ความพยายามมากสุด ระหว่าง 3 คืนที่อยู่ที่นั้น
Day 1
วันแรกเราบินจาก Bogota ไปลงที่ Leticia แล้วต่อเรือไป Puerto Narino เรือก็เป็นเรือทั้วไป นั่งกับชาวบ้าน ไม่ได้มีความหรูหราอะไร แอบกลัวขับชนด้วย เพราะฝนตก มองไม่เห็นทางเลย กว่าจะถึง Puerto Narino ปาไป 2.5ชม นั่งกันเมื่อยเลย หมู่บ้านนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวป่าอเมซอน ที่หมู่บ้านก็ไม่มีอะไรมาก เล็กๆ มีที่พักไม่กี่ที่ แล้วก็ร้านอาหารนิดหน่อย ตอนเราไปมีงานประจำปีพอดี ก็จะเห็นการเต้นพื้นเมือง แล้วหมู่บ้านต่างๆ มาแข่งบอลก็ที่นี่ ชีวิตดูเรียบง่ายดีค่ะ พอตกเย็น กินข้าวเสร็จก็เข้าบ้านนอนกันหมด
ที่จริงวันแรก เรามีโปรแกรมเดินป่าตอนกลางคืน ไปดูแมลง/งู/กบ แต่เราเลือกที่จะไม่ไป คือเกลียดแมลงมาก เอาจริงๆนะ ช่วงทริปที่มาเที่ยว Amazon เป็นอะไรที่แบบมาเพราะต้องมา ทั้งคู่ไม่ได้ enjoy เลย ไม่ชอบความร้อนชื้น เกลียดแมลงและยุง นอนไม่มีแอร์อีก ต้องใช้ความอดทนมากจริงๆ แต่ก็คิดว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี ต้องมาสักครั้ง bucket list...been there, done that
Day 2
วันที่สองเราออกเรือไปทำกิจกรรม วันนี้อยู่บนเรือกันทั้งวัน ช่วงเช้าไปหาโลมา (pink and grey dolphins) ระหว่างทางก็ดูนก ลิง sloth ไปด้วย พอบ่ายหลังพักเที่ยงก็ออกมาใหม่เพื่อไปตกปลา piranha ที่ Lake Tarapoto ตัวมันเล็กกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ดูไม่น่าจะดุ แต่พวกนี้มันฉลาดนะ มากินๆเบ็ดแล้วก็ไป ก็จะได้ตัวหนึ่งตกกันไป 15 นาทีได้ ระหว่างนั่งตกก็โดนมดกัดกันไปบานเลยจ้า กลายเป็นยุงไม่โดน โดนแต่มด ยากันยุง ไม่กันมดสินะ
พอพระอาทิตย์เริ่มตกก็ได้เวลาไปตามหาจระเข้ caiman ไกด์ท้องถิ่นดีมาก นางเป็นทุกอย่างให้พวกเราแล้ว ทั้งขับเรือ ช่วยตกปลา มองหาสัตว์ ดูแลทุกอย่าง ไกด์ ผญ เป็นแค่ล้าม ล่องเรือไปไม่นานก็เจอ caiman ตัวเล็ก ไกด์ก็ ถอดเสื้อ แล้วปีนเอื้อมไปเอา คืออะไร!! ตกใจ!! ไม่กลัวว่าจะมีตัวใหญ่ๆ อยู่ใกล้ๆเหรอ เดี๋ยวก็โดนกินหรอก 😰
เราเอามาถ่ายรูปแปปนึงแล้วก็ปล่อยไป คนที่นี่เค้ากินนะ เอาไปทอด ก็ไม่ต่างกับที่ไทย เค้าก็บอกว่าเนื้อเหมือนไก่ ที่นี่กินทุกอย่างที่จับได้ แต่ไม่มีปลาช่อนอเมซอนนะ ผิดกฏหมาย ถ้าจะกิน ต้องไปเอาซื้อที่เลี้ยง ฝั่งบราซิลถึงจะมีแบบธรรมชาติให้กิน สัตว์แต่ละอย่างที่อยากเห็น ทั้งปลาช่อน งู anaconda ฝูง piranha แล้วก็นก toucan ไม่ได้เห็นเลย มันไม่ได้เจอง่ายขนาดนั้น ไกด์บอกต้องมาอยู่นานๆ แล้วก็ไปนอนในป่าลึก ซึ่งเราขอยอมแพ้ เราสองคนปกติลุยมากนะ แต่ป่าดิบๆเนี่ยไม่ไหวจริงๆ มื้อเย็นวันนั้น เราก็ได้กินปลา piranha ทอดสมใจ