[CR] Te Amo Colombia...ครั้งหนึ่งในชีวิต ณ ประเทศโคลอมเบีย

สวัสดีเพื่อนๆค่ะ เราเป็นนักเรียนค่ะ มาเรียนที่ฟลอริดา ต้องขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านที่ให้โอกาสและผลักดันให้เราได้มาเรียนต่อที่นี่ เลยได้มีโอกาสเที่ยวด้วยเลย (อยู่ไทยไม่ค่อยได้เที่ยว ชอบอยู่บ้านประมาณนั้น) นี่เป็นครั้งแรกที่เราเขียนบทความเลยค่ะ อยากเขียนเพราะเป็นการเดินทางที่ประทับใจมากๆ และได้เรียนรู้หลายอย่างตั้งแต่การทำวีซ่าก่อนเดินทาง การวางแผนเที่ยว แล้วก็ได้เดินทางมากับเจ้าบ้านที่เป็นคนโคลอมเบียด้วย อยากรู้อะไรก็ถามได้ตลอด จึงคิดว่ามีข้อมูลพอที่จะเล่าให้ผู้ที่สนใจท่องเที่ยวในประเทศโคลอมเบีย น่าจะเป็นประโยชน์นอกจากเก็บประสบการณ์และความประทับใจไว้คนเดียว


เริ่มต้นการเดินทางก็ต้องซื้อตั๋วก่อนเลย เราเริ่มวางแผนกับเพื่อนตั้งแต่เดือนมกราคมเลยค่ะ วางแผนเที่ยวช่วงปิดเทอมเดือนธันวาคม มีช่วงพักประมาณ 3 อาทิตย์ (วางแผนล่วงหน้านานมาก) คุยกันมาเรื่อยๆ ว่าเราอยากเที่ยวไหนบ้าง ไปกี่วัน ค่าใช้จ่ายเท่าไร คือเราอยากมีข้อมูลคร่าวๆ เพื่อจะเชิญชวนเพื่อนคนไทยไปด้วยกัน ที่วางแผนไว้ตอนแรกคือ 9 วัน เมืองที่อยากไปคือ Bogota, Medellin, Cartagena จัดไปเมืองละ 3 วัน แต่พอเอาเข้าจริง ไม่มีใครไปด้วยเลยค่ะ แง่ๆๆ... เพื่อนเลยเปลี่ยนแผนให้ ลากเพื่อนๆเธอ น้องสาว พี่ชาย ไปเที่ยวด้วย และปรับระยะเวลาจาก 9 วัน เป็น 18 วัน (ตอนแรกเราว่าจะอยู่แค่ 9 วันแหละ แต่คุณเพื่อนถามว่าทำไมไม่อยู่ต่อ แล้วกลับพร้อมกัน เราเลยตกลงเลย 555 นี้ยืนยันได้ว่าคนโคลอมเบียเป็นคนใจดี ง่ายๆ สบายๆ จริงๆ) เมืองที่ไปเที่ยวก็ยังคงมี Bogota และ Cartagena ที่เพิ่มมาคือ Santa Marta, Nemacon, และ Zipaquira ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดประมาณ $1,000 (เป็นค่าเครื่องบิน $400 ค่าทัวร์เดินป่าและค่ากินอยู่ $600...สายการบินที่นั่งขาไป คือ Spirit ไม่ชอบอย่างแรงค่ะ มีปัญหาตอนเช็คอินด้วย ขากลับ Copa Airlines ดีงามค่ะ )

ค่าใช้จ่ายสำหรับ 1 คน (อัตราแลกเปลี่ยน $1=Colombia$2,800)
รายการ        
ค่าเครื่องบินไป-กลับ (Orlando-Bogota)                               $400    
ค่าโรงแรม                                                                      $15/night    
ค่าอาหาร                                                                     $5/meal (in general market)
                                                                                  $12/meal (in restaurant)    
ค่าเดินทาง        
          Transmilenio (Bogota)                                $0.72/trip    
          General bus (Bogota)                                $0.5-0.6/trip    Extra cost at night
          Bus between city                                          $0.82-1.50/trip    Extra cost at night

ในลำดับถัดมา เป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่แพ้ตั๋วเครื่องบิน ก็คือ วีซ่านั่นเอง
อันนี้บอกเลยปวดหัวมาก คือ พยายามหาข้อมูลว่า ถ้ามีวีซ่าสหรัฐอมริกา ต้องทำวีซ่าโคลอมเบียอีกมั๊ย ข้อมูลที่ได้มาคือ ถ้าไปสัมมนา หรือ ทำงาน แล้วมีวีซ่าสหรัฐฯ อยู่ น่าจะไม่ต้องทำวีซ่าโคลอมเบีย แต่ต้องมีหนังสือเชิญ หรือหนังสือที่แสดงว่า คุณได้รับเชิญไปที่นั่น ส่วนถ้าไปเที่ยวต้องมีชื่อคนในประเทศโคลอมเบีย (อันนี้ก็ถกกับเพื่อนอยู่ ถ้าอย่างนั้นคนประเทศอื่นที่ไม่รู้จักใครในโคลอมเบียก็ไปเที่ยวไม่ได้เลยเหรอ) และอีกปัญหาที่กวนใจเราสุดๆ คือ การติดต่อทำวีซ่าที่สถานทูตโคลอมเบียในสหรัฐฯ รายละเอียดค่อนข้างสับสน คือ คุณมีทางเลือก 2 ทาง 1)สมัครออนไลน์ หรือ 2)ไปสมัครที่สถานฑูตเลย ซึ่งเราเลือกวิธีแรก แต่เนื่องด้วยรายละเอียดขั้นตอนค่อนข้างสับสน (หรือเราอ่านไม่ละเอียดพอ) เราพลาดที่ไม่ได้นัดวันไปสัมภาษณ์วีซ่า เพราะอีเมลล์ที่ส่งมาจากสถานทูตตอนสมัครบอกแค่ว่าให้ไปรับวีซ่าภายใน 30 วัน และก่อนจะไปก็ให้เพื่อนอีเมลล์ไปถามรายละเอียดนะ แต่ไม่มีใครตอบ โทรไปก็ไม่มีคนรับ
และหลังจากที่เราสมัครออนไลน์ไปแล้ว และไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรยังไงต่อหรือไม่ เราก็เลยตัดสินใจนั่งรถไปสถานฑูตโคลอมเบียที่ Orlando เลย ซึ่งครั้งแรกนั้นไม่ประสบความสำเร็จ และต้องไปอีก 2 ครั้ง รวมๆแล้วเสียค่าเดินทางไปประมาณ $150 ค่าวีซ่าก็ประมาณ $130 แต่ก็คุ้มค่านะ เพราะเราประทับใจกับทริปนี้มากๆ ได้เรียนรู้หลายอย่าง ถ้าถอดใจตั้งแต่ขั้นทำวีซ่าก็คงไม่ได้มีเรื่องราวดีๆ มาบอกเล่าเพื่อนๆ ต่อ (สำหรับการทำวีซ่าโคลอมเบียในประเทศไทย เราอ่านเจอโพสต์ก่อนหน้าว่าสามารถทำได้ที่ พลาซ่าแอทธินี ถนนวิทยุ ไม่แน่ใจว่าปัจจุบันยังติดต่อที่นั่นได้รึเปล่านะคะ)

วันที่ 1: Santa Marta_Playa Grande Beach
จริงๆ มันมีหลายชายหาดเลยค่ะ คือ นั่งเรื่องจากหาดหลักในพื้นที่ Taganga ไปทะเลที่ไกลออกไป ก็จะเจอหลายๆหาด
ไม่ได้ตั้งใจจะนั่งเรื่องมานะ บังเอิญเจอคนขับเรือ เพื่อนเลยคุยกับเขา เลยได้รู้ว่านั่งเรื่อไปอีกเกาะได้ จ่ายกันคนละ $1.80 มีเวลาอยู่บนเกาะประมาณ 2 ชั่วโมง ไปถึงแล้วรู้สึกว่าคุ้มค่ามาก หาดนี้ล้อมด้วยภูเขาน่ะค่ะ แล้วภูเขาที่นี่อลังการมาก (ทั้งทวีปอมริกาเลยอ่ะ อันนี้ความเห็นส่วนตัว) ภูเขาใน Santa Marta ชื่อ Sirra Nevada ค่ะ รักมากอ่ะ ใหญ่ ซ้อนกันเว่อร์วัง อลัง ปลื้ม... (ที่เคยนั่งรถผ่านเวลาขึ้นไปเชียงใหม่ หรือ แถวกาญจนบุรี ก็มีเขาใหญ่ๆเนาะ แต่เหมือนจะไม่ซ้อนกันหลายชั้นแบบวีปอเมริกา กลับไทย ต้องไปเที่ยวเขาบ้านเราบ้างละ)


วันที่ 2-6: Santa Marta_Ciudad Perdida (The lost city)
ทริปนี้นำเสนอมากๆเลยค่ะ สำหรับใครที่ชอบเดินป่า เท่าที่ได้คุยกับคนอื่นๆ ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาที่กำลังจะจบ ป.ตรีแล้วชวนกันมาเที่ยวทริปนี้ เขาบอกว่านี้เป็นการเดินป่าแบบเต็มเหนี่ยวครั้งแรก ครั้งก่อนๆ ก็เป็นแค่เดิน trail 1 วัน แบบชมวิวธรรมชาติ (นี่ก็เป็นการเดินป่าจริงจังครั้งแรกของเราเหมือนกัน ก่อนหน้านั้นไปเดิน trail ที่ Grand Canyon, Yosemite, Zion แบบนั้นน่ะค่ะ) ก็คือต้อง Backpack ติดตัวตลอด 5 วัน (ของเราน้ำหนักเป้แค่ 3 kg แต่ช่วง 2 วันแรก เจ็บบ่ามาก น่าจะเพราะว่าตัวเล็ก..เตี้ยนั่นเอง) แต่ยังนี้ที่ทริปสำหรับมือสมัครเล่นเดินป่า คือ มี Tour Guide ซึ่งเป็นชาวเผ่าพื้นเมืองนำทางและดูแลพวกเราตลอด 5 วัน ค่าใช้จ่ายก็เหมาหมดทั้งค่า Guide ค่าอาหาร 3 มื้อ ตลอด 5 วัน 4 คืน มีที่นอนให้ด้วย (นึกถึงอารมณ์ตอนเข้าค่ายสมัยมัธยมน่ะค่ะ..นั่นเลย) ข้อแนะนำในการเดินป่าที่นี่ อย่างแรก ต้องเตรียมพร้อมเผชิญฝนตลอดเวลา (โชคดีว่าตลอด 5 วัน เราไม่เจอฝนหนัก มีแค่ปรอยๆ เย็นวันที่สาม) ควรเตรียมเสื้อกันฝน (ถ้าใครกลัวฝน กลัวหนาวแบบเรา) เตรียมพลาสติกคลุมกระเป๋า พลาสติกหุ้มเท้า (รองเท้าจะเปียกก็เปียกไป เท้าไม่เปียกจ่ะ) อย่างที่สอง ขีปนาวุธกันยุง จำพวก โลชั่นกันยุง สเปรย์ฉีดตัว สเปรย์ฉีดเสื้อผ้า ปัญหาของเราคือ เราไม่ได้ฉีดวัคซีนไข้เหลืองมา เพราะว่าเรียนยุ่งมากๆๆๆ จนลืม และพอนึกได้จะไปฉีดก็ไม่ทัน เพราะ วัคซีนต้องใช้เวลา 14 วัน ในการสร้าง Antibody ในร่างกาย เราเลยใช้ Bracelet กันยุงด้วยค่ะ ใส่ที่ข้อมือ ตอนกลางคืนก็ใส่ข้อเท้าด้วย (ที่นอนมีมุ้งให้ค่ะ) และแน่นอนเสื้อแขนยาว ขายาว และจากที่สังเกต เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ช่วยป้องกันยุงได้มาก เพราะคนอื่นที่ทาโลชั่น หรือ ใช้สเปรย์กันยุง แต่ ใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น แขนขาลายกันเป็นแถวเลยค่ะ แต่ถึงเราจะป้องกันถึงเพียงนั้น ก็ยังไม่วายโดนคุณยุงรุกราน กัดหู กัดหัว โอ๊ยย ตอนกลางคืนน่ะ แบบนั่งกินข้าวอยู่ ไม่ทันระวัง ก็โดนกันไป ... (ตอนนั้นก็กังวลว่าจะเป็นไรมั๊ย กลับจากทริป ลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต พบว่าระยะฟักตัวของเชื้อในร่างกาย 3-6 วัน กลับจากเดินป่าก็เฝ้าระวังโรคจากยุงอยู่อาทิตย์นึง มีแอบหวั่นๆ เหมือนกันนะ แต่คงป้องกันดีพอ และ โชคดีที่ยุงที่มากัดไม่มีเชื้อไวรัสก่อโรค เลยไม่เป็นไร โล่งกันไป...)


นี้รูปเทรลต่างๆ ค่ะ คือ มีทุกแบบ ดินโคลน ดินขาว ดินทราย หิน น้ำ โอ๊ะ...มันส์แท้

นี้รูป tour guide ค่ะ ชื่อ Canca น่ารักมากมาย
เดินวันนึงประมาณ 5 ชั่วโมง วันแรกนี่หนักมาก คือ ไม่ได้คิดว่าต้องเดินขึ้นเขาจริงจังขนาดนี้ วันที่ 2,3 นี่ ฟินมาก ก็ไม่เคยเดินป่า ไม่เคยเข้าไปอยู่ในหุบเขา แบบนี้เนาะ ทุกอย่างคือ ครั้งแรกที่ได้เห็น ประทับใจมาก พอได้เห็นภูเขาใกล้ๆ แบบนั้น แล้วมีความสุข ลืมความเหนื่อยล้าที่บ่าจากการแบกเป้ ความปวดน่องและต้นขาจากการเดินขึ้นเขา ได้ขึ้นไปถึงเป้าหมาย คือ Ciudad Perdida ในเย็นวันที่ 3 นั่นแล จากนั้นก็เดินกลับในวันที่  4,5

วันที่ 4,5 นี่หมดแรงจริงค่ะ เป็นขาลงน่ะ แต่เราไม่ค่อยมั่นใจเวลาลงเขา คือ กลัวพลาด และหลายๆจุด คือ เป็นพื้นหินลื่น แคบ และถัดจากนั้น ก็ เหว อ่ะนะ เอ่อ...กลัว เลยเดินแบบไม่เร็ว ถึงจะมีไม้ค้ำก็เดินช้า แบบรั้งท้าย...(แอบเม้าส์คุณเพื่อน คือ เธอขายาวน่ะค่ะ เธอก็เดินนำไปไหนต่อไหน ไม่สนใจใคร ดีว่ามีพี่ชายเธอและ Guide ปิดท้ายอยู่ ไม่งั้นนี่เราจะเคืองเธอมาก เฮ้อๆๆ)

จบทริปเดินป่าสุดแสนประทับใจ ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ได้ฝึกความแข็งแกร่งของจิตใจ ฝึกเจริญสติเวลาที่เท้าสัมผัสพื้นดินของเทือกเขาที่ลาดชัน อดทนกับความเหนื่อยล้า เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องเดินไป step-by-step ไปเรื่อยๆ ท้อแต่ไม่หยุดนั่ง...เดี๋ยวตามคนอื่นไม่ทัน 555 (เอามาใช้กับการเรียนได้ดีทีเดียวเชียวค่ะ) อีกทั้งความประทับใจจากการได้สัมผัสชีวิตชนเผ่าพื้นเมือง และที่สำคัญความประทับจากเพื่อนร่วมทางที่เป็นชาวโคลอมเบียทั้งหมด...ดูแลเราดีมากมาย ซาบซึ้งใจ จุ๊บๆๆ

ยังไม่จบนะเหลือ Cartagena, Bogota, Nemacon, และ Zipaquira ...เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ ^__^
ชื่อสินค้า:   Colombia
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่