ทริปนี้เราไปเที่ยวแบบเน้นที่จังหวัดโอคายาม่า  6 วันค่ะ 

EP1 วันแรก    >> https://ppantip.com/topic/39789948 
EP2 วันที่สอง >> https://ppantip.com/topic/39793767
EP3 วันที่สาม >> https://ppantip.com/topic/39799297
EP4 วันที่สี่     >> https://ppantip.com/topic/39802720

คำเตือน : เนื่องจากเราขับรถไม่เป็นการเดินทางโดยรถสาธาระที่มีและ.. รถแท็กซี่ค่ะ ! แน่นอนว่าแท็กซี่ญี่ปุ่นค่อนข้างแพงแต่จุดประสงค์ที่มาเขียนเพราะว่าอยากจะแชร์สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโอคายาม่าให้เพื่อนๆเผื่อจะได้เอาไปเป็นไอเดียในการท่องเที่ยวค่ะ *หากขับรถเป็นแนะนำให้เช่ารถขับจะดีกว่าค่ะ*
วันที่สี่เราจะออกตามรอยโมโมทาโร่กันค่ะ สถานที่แรกที่จะไปคือศาลเจ้าคิบิตสึ สถานที่ที่ว่ากันว่าโมโมทาโร่ได้นำหัวยักษ์ที่ถูกตัดมาไว้ที่นี่ จากนั้นไปที่ปราสาทคิโนะโจที่ที่ยักษ์อาศัยอยู่และจบวันที่สี่ด้วยเมืองคุราชิกิ 

สวัสดีเช้าวันที่ 5 ณ เมืองคุราชิกิ จังหวัดโอคายาม่า วันนี้เราจะไปที่เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter) จากนั้นก็จะนั่งรถบัสไปตะลุยที่โคจิม่าเมืองแห่งยีนส์ กินฮะจิบังราเมนต้นตำรับของญี่ปุ่น ทำกางเกงยีนส์ในแบบฉบับของเราตัวเดียวในโลกที่ Betty Smith Jeans Museum & Village เดินเล่นเพลิดๆชมยีนส์ตามเสาไฟที่ถนนยีนส์ จากนั้นก็จะไปพักที่โรงแรมสุดหรู วิวอลังการที่ WASHU BLUE RESORT 


ก่อนที่จะเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม เราก็เดินไปที่เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter) อีกรอบ

 ระหว่างทางก็ก้มหาฝาท่อของเมืองคุราชิกิไปด้วย เก็บมาได้ 5 อัน >///<

ช่วงกลางวันบรรยากาศก็จะแตกต่างจากตอนค่ำค่ะ ร้านค้าเปิดครบ คึกคักมากๆ

ร้านที่มีอสูรน้อยคิทาโร่ยืนอยู่หน้าร้าน ด้านในขายยีนส์มีตั้งแต่เสื้อ กระเป๋า พวงกุญแจต่างๆ ลายของอสูรน้อยคิทาโร่

ชั้น 2 มีเป็นบ้านผีสิงธีมอสูรน้อยคิทาโร่ ค่าเข้าประมาณ 300 เยน ถ้าซื้อตั๋วก็จะได้รับของที่ระลึกเป็นที่รองแก้วยีนส์ลายคิทาโร่ด้วย 
ทางร้านจะให้แผนที่ร้านค้าในย่านนั้นมาด้วย ซึ่งหากซื้ออะไรก็ได้ในร้านที่อยู่ในลิสก็จะได้สะสมสแตมป์ และหากสะสมครบ 3 ดวง จะได้เสื้อ1 ตัว และ 5 ดวง ได้เสื้อ 2 ตัว   

ปล.2 บ้านผีสิงของคิทาโร่เป็นสแตมป์ดวงที่ 1 

ขึ้นไปจะมีโซนให้ถ่ายรูป มีชุดกับวิกให้แต่งตัวเป็นคิทาโร่


ร้านขายผ้าญี่ปุ่น (เป็นผ้าสารพัดประโยชน์เอาไว้เช็ดมือ ห่อของ ตกแต่ง อะไรก็ได้แล้วแต่เราเลย) อยู่ติดกับร้านคิทาโร่ ทางเข้าคนละประตู เหมือนจะเป็นร้านเดียวกันแต่จริงๆคนละร้านจ้า.. เข้าไปซื้อผ้ามา 1 ผืนได้สะสมมาเป็นดวงที่ 2


ซื้อเสร็จก็ไปเดินต่อเจอร้านกระเป๋ายีนส์ มีตุ๊กตาและของน่ารักๆเต็มเลย


ร้านขายร่ม ลายก็น่ารักน่าซื้อไปอี๊กกกก มีร่มแบบที่โดนน้ำแล้วถึงจะเห็นลายด้วย ถ้าแห้งๆก็จะเป็นเป็นสีธรรมดาๆ

ก่อนที่เราจะเสียสติ(จ่ายตัง)เพราะของน่ารักๆ เราก็รีบออกจากโซนร้านขายของไปตรงคลอง .. เดินถ่ายรูปดีกว่า 

สามารถนั่งเรือไปตามคลองชมวิวได้จ้า จุดซื้อตั๋วขึ้นเรือคือเป็นโต๊ะตั้งแบบนี้เลย ผู้ใหญ่ราคา 500 เยน เด็ก 250 เยน ลำหนึ่งสามารถนั่งได้ 6 คน 

นอกจากเรือก็มีรถลากที่ลากด้วยผู้ชาย.. แต่ด้วยน้ำหนักของตัวเรานั้นก็ไม่ได้เบาเลยไม่กล้านั่ง สงสารพี่เขา T^T

กล้องเราไม่มีเลนส์เปลี่ยนเลยถ่ายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกคือดีมากๆ เมืองนี้มาแล้วเหมือนได้ย้อนยุคกับไปสมัยก่อน

ที่คลองนี้ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็มีต้นซากุระเรียงตามคลองเลย

หลังจากพูดว่าไม่กล้าขึ้นรถลากเพราะหนัก เราก็มาเจอร้านน้ำผึ้ง มีขายทั้งน้ำผึ้งดิบ พุดดิ้งรสน้ำผึ้ง และไอศครีม

เราก็จัดมา 1 อัน น้ำผึ้งหอมมากกก ไอศครีมเนื้อละมุนสุดๆ ราคา(ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ) 600 เยนค่ะ 

ข้างๆร้านขายน้ำผึ้ง มีร้านขายพาร์เฟ่ต์และเครป มีรสพีชด้วย อยากกินแต่คิวยาวมาก..ข้าน้อยขอยอมแพ้และเดินจากไป

เดินเล่นมาเรื่อยๆจนสุด ก็เจอร้านขายผ้าม่านโนเรน ซึ่งอยู่ลิสเหมือนกันเราก็เลยซื้อมาอีก 1 ผืนก็เลยได้ แสตมป์ครบ 3 ดวงแล้ว


คุณยายคนขายก็ชี้ๆบอกว่าให้เดินข้ามถนนไปเลี้ยวซ้ายประมาณ 200 เมตร จะเจอร้าน Masking Tape ให้ไปแลกของรางวัลที่นั้น
(นี้คือรูปที่เราข้ามถนนมาแล้ว หันหน้าเข้าร้านคุณยายนะ)

เจอร้าน Masking Tape แล้วค่าชื่อร้านว่า Kurashiki Masking Tape Gallery

เอาแสตป์ที่สะสมครบ 3 ดวง มาแลกได้เป็นเสื้อเขียนว่าคุราชิกิมา 1 ตัว มูลค่า 1000 เยน
เลือกสีได้เราเอาสีชมพูอ่อนมา เนื้อผ้านุ่มไม่แข็งถือว่าคุ้มเลยเพราะแต่ละร้านที่ซื้อของมาก็ราคาไม่ได้แพง
ใครมีเวลาก็ลองขอแผนที่มาเก็บแสตมป์ดูนะคะ 

ส่วนในร้าน Masking Tape ชั้นแรกเป็นร้านขายของที่ระลึก

ชั้น 2 ขายเทปทั้งชั้นเลย ตกแต่งด้วยเทปทั้งหมด น่ารักมากกก ใครชอบทำงานประดิษฐ์บอกเลยว่าห้ามพลาด!

หลังจากที่เดินวนไปวนมาเราก็ได้ของที่ตามหาคือ.. พวงกุญแจมิกกี้ มินนี่ และชินจังเว่อร์ชั่นออกมาจากลูกท้อของจังหวัดโอคายาม่า
(เราจำไม่ได้ว่าซื้อมาจากร้านไหนนะคะ)

เดินเสร็จเราก็กลับไปเช็คเอาท์ เก็บกระเป๋า จุดต่อไปที่เราจะไปคือเมืองโคจิม่า เมืองแห่งยีนส์
การเดินทางเราจะขึ้นรถบัสจากหน้าสถานีคุราชิกิ ฝั่งประตูทางออกทิศเหนือ (ฝั่งโรงแรมที่เรานอนนั้นหละ)

เดินไปรอรถเมล์ที่ป้ายเบอร์ 6  รถจะออกตอน 13.40 น. (ต้องไปดูที่ป้ายอีกทีนะคะ)

ตรงประตูจะให้หยิบกระดาษ หยิบมาแล้วเก็บไว้อย่าให้หายนะคะ เราจะเก็บไว้ใช้ตอนจ่ายเงินตอนลง

นั่งไปประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงรถเมล์ก็มาจอดที่ป้ายสุดท้ายนั้นก็คือสถานีโคจิม่า(Kojima)นั้นเองค่า

หน้าสถานีมียีนส์แขวนด้วย .. สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเมืองแห่งยีนส์ เท่าที่เราหาข้อมูลมา เหตุผลที่โคจิม่าได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งยีนส์ก็เพราะว่าป็นเมืองที่ผลิตผ้ายีนส์ขึ้นที่แรกในประเทศญี่ปุ่นแล้วก็มีทำต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน

ในเข้ามาดูในสถานีก็มีความยีนส์เหมือนกันค่า บันไดลายยีนส์

ประตูกั้นยีนส์

มีกางเกงยีนส์โชว์ที่สถานี


Tourist information ก็มีรูปยีนส์

มาถึงที่สถานีโคจิม่าก็ประมาณ 14.35 น. แล้วยังไม่ได้กินข้าวเลย จากที่เราหาข้อมูลมา(โดยใช้กูเกิ้ลแมพ)ใกล้ๆสถานีโคจิม่า(Kojima) มีฮะจิบัง ราเมน วางแผนไว้ตั้งแต่ที่ไทยเลยว่าจะมากินมื้อกลางวันที่นี่ คือส่วนตัวเราชอบกินที่ไทยมากๆเลยอยากจะลองมากินที่ญี่ปุ่นแบบต้นฉบับดูสักครั้ง

เมนูมีความหลากหลายกว่าที่ไทยนิดหน่อย ที่ต่างคือจะมีเซ็ตที่บวกราเมนกับข้าว

สั่งมา 2 อย่างกินไม่หมดสักอย่างเยอะม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (ก.ไก่ล้านตัว)

รสชาติมีความเป็นญี่ปุ่นซุปอ่อนๆ เส้นจะใหญ่กว่าที่ไทยนิดหน่อย ผักหวานมาก สรุปอร่อยน้ำตาไหล >///<

มีโซนเก้าอี้สำหรับคนที่มากินคนเดียว

พนังงานที่ร้านใส่ผ้ากันเปื้อน หมวก เป็นเครื่องแบบที่ทำจากยีนส์ด้วย อยู่เมืองยีนส์ชีวิตต้องยีนส์!

จุดต่อไปที่เราจะไปก็คือ Betty Smith Jeans (https://www.okayama-japan.jp/th/spot/908) เป็นหมู่บ้านที่ทำยีนส์และมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ซึ่งที่นี้เราสามารถทำกางเกงยีนส์ของเราได้เองด้วย!!
 จากร้านฮะจิบังก็โบกแท็กซี่ประมาณ 2.8 กิโล นั่งไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงที่เลยค่ะ

ด้านในชั้นหนึ่งมีวางกางเกงยีนส์จัดแสดง


ชั้น 2 เป็นช็อปที่สามารถสั่งตัดสูท กางเกงยีนส์ได้ค่ะ 

ข้างๆ Betty Smith Jeans Museum เป็นโซนที่เราจะไปทำกางเกงยีนส์กัน

ประตูทางเข้าด้านหน้าเป็นรูป Betty และเขียนว่า DIY