แน่นอนว่าหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงแรง หุ้น TASCO มักจะถูกเลือกขึ้นมาเก็งกำไรเป็นอันดับแรกๆ ประเด็นนี้ทำให้แนวโน้มผลงานของ TASCO ในระยะยาวดูดีขึ้นมาอยู่เช่นกัน แต่ก็อาจต้องรอนานถึงครึ่งปีหลัง!
*** ราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ดันหุ้นพุ่งแรง
วันนี้ราคาหุ้น บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO บวกขึ้นมาแตะจุดสูงสุดรอบเช้าไปถึง 18.70 บาท ก่อนมาปิดตลาดรอบเช้าไปที่ 18.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 5.11% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้นถึง 273.67% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุหลักๆก็คือราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงแรง โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนพฤษภาคมที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดวันที่ 14 เม.ย.63 ไปที่ระดับ 20.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ -10.26% เป็นประเด็นส่งผลดีต่อต้นทุนวัตถุดิบของ TASCO
ซึ่งไทยออยล์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันดิบไว้ว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง หลังตลาดคาดว่าข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกราว 19.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยังไม่สามารถชดเชยอุปสงค์ที่ลดลงราว 30% จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ซาอุดิอาระเบียยังได้ออกมาประกาศว่าการลดกำลังการผลิตจะเริ่มขึ้นในเดือน พ.ค. ส่งผลให้อุปทานยังคงล้นตลาดในเดือนปัจจุบัน
นอกจากนี้สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) ยังเผยอีกว่า ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.1 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจะเพิ่มขึ้น 11.7 ล้านบาร์เรล โดยหากตัวเลขยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าคลังน้ำมันสหรัฐฯ จะเต็มภายในกลางเดือน พ.ค. เป็นประเด็นที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงอีก
*** จีนตลาดหลักของบริษัท เริ่มกลับมาสั่งซื้อยางมะตอยอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ TASCO ได้รับผลกระทบอย่างมากจากคำสั่งซื้อของจีนที่ลดลง เพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่ขณะนี้จีนเริ่มกลับมาสั่งซื้อสินค้าได้อีกครั้งแล้ว โดย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า ในเดือนก.พ.-มี.ค.63 TASCO ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดส่งออกไปจีนลดลงถึง 50% ซึ่งคิดเป็น 30 - 50% ของยอดส่งออกรวม ซึ่งยอดส่งออกมีสัดส่วนคิดเป็น 70 - 80% ของรายได้บริษัท
อย่างไรก็ดีขณะนี้จีนเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาอีกครั้งแล้ว และคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติตั้งแต่เดือนพ.ค.นี้เป็นต้นไป
บล.หยวนต้า ระบุว่า ยอดขายในมาเลเซียที่ได้รับผลกระทบจากการปิดประเทศนั้น ตามปกติแล้วในช่วง 7 เดือนแรกจะไม่ใช่ช่วงที่มีคำสั่งซื้อเข้ามามากนัก คิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของคำสั่งซื้อทั้งปี ซึ่งส่วนที่เหลือจะกระจุกตัวในช่วงที่เหลือของปีเป็นหลัก ดังนั้นหากสถานการณ์ฟื้นกลับมาจนเปิดประเทศเชื่อว่าผลกระทบจะไม่มีนัยสำคัญ
*** IMO2020 หนุนราคายางมะตอย
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า จากประเด็น IMO2020 โรงกลั่นหลายแห่งได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตทำให้ชัพพลายยางมะตอยลดลง ในปี 2562 S-Oil และ Hyundai ปรับปรุงทำให้ชัพลายยางมะตอยลดลง 0.9-1 ล้านตัน และ SK มีกำหนดเดือน เม.ย.-พ.ค. ปี 2563 จะทำให้ชัพลายยางมะตอยหายไป 0.8-0.9 ล้านตัน คาดจะช่วยหนุนให้ราคายางมะตอยสูงขึ้น และในระยะยาวคาดจะได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันดิบต่ำ ในช่วงที่เหลือของปีจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบปี 2563 และ เริ่มงบปี 2564ใน 4/63 ช่วยหนุนกำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัวเด่น
*** ไตรมาส 1/63 จุดต่ำสุดของปี แย่แค่ไหน ?
การเก็งกำไรจากประเด็นบวกข้างต้นดูจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่หากตลาดยังไม่ได้นับรวมผลประกอบการที่ย่ำแย่ในไตรมาส 1/63 เข้าไป ก็อาจทำราคาร่วงหนักหลังประกาศงบได้เหมือนกัน
ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/63 จะขาดทุนหนักราว 509 - 850 ล้านบาท สาเหตุหลักๆคือ 1.ยอดขายต่างประเทศลดลงอย่างมาก 2.ความต้องการใช้ในประเทศอ่อนแอจากงบประมาณปี 63 ที่ล่าช้า 3.การขาดทุนสต็อกจำนวนมาก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบลดลงเร็วเกินไปในช่วงที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาสนี้เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว
โดยนักวิเคราะห์แต่ละราย ประเมินผลประกอบการ Q1/63 ไว้ดังนี้
ประเด็นบวกทั้งหมดของ TASCO ล้วนจะส่งผลดีในครึ่งปีหลังทั้งนั้น ดังนั้นหากต้องการเก็งกำไรในช่วงนี้ก็ต้องจับตาให้ดีว่าตลาดยังตื่นตระหนกกับงบไตรมาส 1/63 ที่เป็นจุดต่ำสุดของปีอยู่หรือไม่ !
.
**อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่==>>
http://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?release=y&id=ZEtxMHl6TGtudUU9
--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่
Website :
https://www.efinancethai.com
Facebook :
https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/
Facebook :
https://www.facebook.com/efinanceThai/
lTwitter : @eFinanceThai
IG : @efinancethai_official
line : @efin
TASCO บวก!รับข่าวดี...ที่ต้องรอถึงครึ่งปีหลัง
แน่นอนว่าหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงแรง หุ้น TASCO มักจะถูกเลือกขึ้นมาเก็งกำไรเป็นอันดับแรกๆ ประเด็นนี้ทำให้แนวโน้มผลงานของ TASCO ในระยะยาวดูดีขึ้นมาอยู่เช่นกัน แต่ก็อาจต้องรอนานถึงครึ่งปีหลัง!
*** ราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ดันหุ้นพุ่งแรง
วันนี้ราคาหุ้น บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO บวกขึ้นมาแตะจุดสูงสุดรอบเช้าไปถึง 18.70 บาท ก่อนมาปิดตลาดรอบเช้าไปที่ 18.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 5.11% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้นถึง 273.67% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุหลักๆก็คือราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงแรง โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนพฤษภาคมที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดตลาดวันที่ 14 เม.ย.63 ไปที่ระดับ 20.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ -10.26% เป็นประเด็นส่งผลดีต่อต้นทุนวัตถุดิบของ TASCO
ซึ่งไทยออยล์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันดิบไว้ว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง หลังตลาดคาดว่าข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกราว 19.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยังไม่สามารถชดเชยอุปสงค์ที่ลดลงราว 30% จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ซาอุดิอาระเบียยังได้ออกมาประกาศว่าการลดกำลังการผลิตจะเริ่มขึ้นในเดือน พ.ค. ส่งผลให้อุปทานยังคงล้นตลาดในเดือนปัจจุบัน
นอกจากนี้สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) ยังเผยอีกว่า ตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.1 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าจะเพิ่มขึ้น 11.7 ล้านบาร์เรล โดยหากตัวเลขยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าคลังน้ำมันสหรัฐฯ จะเต็มภายในกลางเดือน พ.ค. เป็นประเด็นที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลงอีก
*** จีนตลาดหลักของบริษัท เริ่มกลับมาสั่งซื้อยางมะตอยอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ TASCO ได้รับผลกระทบอย่างมากจากคำสั่งซื้อของจีนที่ลดลง เพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่ขณะนี้จีนเริ่มกลับมาสั่งซื้อสินค้าได้อีกครั้งแล้ว โดย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า ในเดือนก.พ.-มี.ค.63 TASCO ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดส่งออกไปจีนลดลงถึง 50% ซึ่งคิดเป็น 30 - 50% ของยอดส่งออกรวม ซึ่งยอดส่งออกมีสัดส่วนคิดเป็น 70 - 80% ของรายได้บริษัท
อย่างไรก็ดีขณะนี้จีนเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาอีกครั้งแล้ว และคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติตั้งแต่เดือนพ.ค.นี้เป็นต้นไป
บล.หยวนต้า ระบุว่า ยอดขายในมาเลเซียที่ได้รับผลกระทบจากการปิดประเทศนั้น ตามปกติแล้วในช่วง 7 เดือนแรกจะไม่ใช่ช่วงที่มีคำสั่งซื้อเข้ามามากนัก คิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของคำสั่งซื้อทั้งปี ซึ่งส่วนที่เหลือจะกระจุกตัวในช่วงที่เหลือของปีเป็นหลัก ดังนั้นหากสถานการณ์ฟื้นกลับมาจนเปิดประเทศเชื่อว่าผลกระทบจะไม่มีนัยสำคัญ
*** IMO2020 หนุนราคายางมะตอย
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า จากประเด็น IMO2020 โรงกลั่นหลายแห่งได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตทำให้ชัพพลายยางมะตอยลดลง ในปี 2562 S-Oil และ Hyundai ปรับปรุงทำให้ชัพลายยางมะตอยลดลง 0.9-1 ล้านตัน และ SK มีกำหนดเดือน เม.ย.-พ.ค. ปี 2563 จะทำให้ชัพลายยางมะตอยหายไป 0.8-0.9 ล้านตัน คาดจะช่วยหนุนให้ราคายางมะตอยสูงขึ้น และในระยะยาวคาดจะได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันดิบต่ำ ในช่วงที่เหลือของปีจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบปี 2563 และ เริ่มงบปี 2564ใน 4/63 ช่วยหนุนกำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัวเด่น
*** ไตรมาส 1/63 จุดต่ำสุดของปี แย่แค่ไหน ?
การเก็งกำไรจากประเด็นบวกข้างต้นดูจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่หากตลาดยังไม่ได้นับรวมผลประกอบการที่ย่ำแย่ในไตรมาส 1/63 เข้าไป ก็อาจทำราคาร่วงหนักหลังประกาศงบได้เหมือนกัน
ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/63 จะขาดทุนหนักราว 509 - 850 ล้านบาท สาเหตุหลักๆคือ 1.ยอดขายต่างประเทศลดลงอย่างมาก 2.ความต้องการใช้ในประเทศอ่อนแอจากงบประมาณปี 63 ที่ล่าช้า 3.การขาดทุนสต็อกจำนวนมาก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบลดลงเร็วเกินไปในช่วงที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาสนี้เป็นจุดต่ำสุดของปีแล้ว
โดยนักวิเคราะห์แต่ละราย ประเมินผลประกอบการ Q1/63 ไว้ดังนี้
ประเด็นบวกทั้งหมดของ TASCO ล้วนจะส่งผลดีในครึ่งปีหลังทั้งนั้น ดังนั้นหากต้องการเก็งกำไรในช่วงนี้ก็ต้องจับตาให้ดีว่าตลาดยังตื่นตระหนกกับงบไตรมาส 1/63 ที่เป็นจุดต่ำสุดของปีอยู่หรือไม่ !
.
**อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่==>> http://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?release=y&id=ZEtxMHl6TGtudUU9
--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่
Website : https://www.efinancethai.com
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThai/
lTwitter : @eFinanceThai
IG : @efinancethai_official
line : @efin