KCE ฟื้นช้ากว่าเพื่อน...แต่ราคาพุ่งแซงพื้นฐานไปแล้ว!


หากนักลงทุนกำลังให้ความสนใจกับการลงทุนหุ้น KCE อาจจะพบว่าเสน่ห์ของหุ้นตัวนี้ก็คือ ราคาหุ้นยังฟื้นขึ้นไม่แรงเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นๆ บรรดากูรูถึงกับยกให้เป็นหุ้น Laggard แต่!จริงๆแล้วสาเหตุที่ราคาหุ้น KCE ฟื้นตัวช้าอาจไม่ใช่เพราะตลาดไม่เห็นคุณค่าเท่าหุ้นตัวอื่น แต่อาจเป็นเพราะแนวโน้มผลงานที่ย่ำแย่กว่านั่นเอง
*** ราคาหุ้นยังบวกได้ดี แต่กูรูบางรายกลับยกเป็นหุ้น"Laggard"
นับจากจุดต่ำสุดของวิกฤตโควิด-19 รอบนี้ (24 มี.ค.63) ราคาหุ้น บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 11.90 บาท แตะนิวโลว์รอบ 6 ปี 1 เดือน ขณะที่วานนี้(14 เม.ย.)ราคาหุ้นไต่ขึ้นมาต่อเนื่องปิดตลาดไปที่ 16 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 3.90% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 210.06 % เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า

ซึ่งหากคิดจากจุดต่ำสุดราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้วถึง 34.45% นับว่าสูงมากหากเทียบกับหุ้นบลูชิพอีกหลายตัวที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นมาไม่ถึง 25% อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางแห่งมีความเห็นที่แตกต่าง เพราะมองว่าราคาหุ้น KCE ยัง Laggard และรีบาวน์ได้น้อยกว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ เช่น ศูนย์การค้า, โรงแรมและค้าปลีก

*** ราคายัง Laggard หรือเพราะแนวโน้มยังมีปัญหาอยู่?
จากการสำรวจผลประกอบการของ KCE ถือว่าได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เข้าเต็มๆ เพราะมีรายได้จากการส่งออกแผงวงจรไปยังยุโรป และสหรัฐฯ ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อในกลุ่มประเทศดังกล่าวยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และลูกค้าของ KCE ยังเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังถูกปิดโรงงานอยู่ด้วย

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทิสโก้ ระบุว่า การฟื้นตัวของ KCE หลังวิกฤตโควิด-19 จะเป็นไปได้ช้ากว่าหุ้นอิเล็คทรอนิกส์รายอื่นๆ เพราะมีกลุ่มลูกค้า 70% เป็นผู้ผลิตรถยนต์และส่วนใหญ่สายการผลิตปิดตัวไปแล้ว ดังนั้นถือว่ารายได้จากยุโรปซึ่งคิดเป็น 50% ของรายได้รวมจะหายไปราว 6 เดือน อีกทั้งโรงงานแผงวงจรคู่แข่งในจีนยังสามารถกลับมาผลิตได้อีกครั้งแล้วจะทำให้อุปทานแผงวงจรเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก สวนทางกับคำสั่งซื้อรถยนต์ที่ชะลอตัวลง 

ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์ในเดือนมี.ค.63 ของเยอรมันหดตัวลง -38% และบล.เคทีบี คาดว่าจะหดตัวมากขึ้นในเดือน เม.ษ.63 ซึ่งส่งผลต่อคำสั่งซื้อที่ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ปัจจุบันบริษัทจะยืนยันว่ายอดคำสั่งซื้อถึงเดือนเม.ย.63 จะยังดีอยู่แต่เชื่อว่าความต้องการซื้อรถยนต์ที่ลดลงต่อเนื่อง ในที่สุดก็จะกระทบกับคำสั่งซื้อจาก KCE อย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะผู้ผลิตรถยังมีสินค้าสต็อกอยู่จำนวนมากตามการผลิตที่ลดลง

ส่วนด้านต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเพราะต้องหันไปสั่งซื้อสินค้าจากที่อื่น บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า จากการที่มาเลเซียซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบหลักของ KCE กำลังปิดประเทศ และมีวัตถุดิบพอใช้ได้ถึงกลางเดือนนี้ ทำให้บริษัทต้องหันไปซื้อสินค้าจาก ไต้หวัน จีน ฮ่องกง แทน แต่ก็อาจจะได้มาในราคาที่แพงขึ้นด้วย

*** ไตรมาส 1/63 จะดีที่สุดของปีนี้ เพราะคำสั่งซื้อในอดีต
คำสั่งซื้อที่เข้ามาช้าอย่างมีนัยสำคัญ เริ่มต้นขึ้นในเดือนมี.ค.63 ดังนั้นในเดือน ม.ค. -  ก.พ.63 ยังถือว่าดี ทั้งนี้ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ประเมินกำไรสุทธิในไตรมาส 1/63 ของ KCE ไว้ที่ 343 ล้านบาท โต 38% YoY +9% QoQ เพราะอุปสงค์สินค้าจากลูกค้าทางยุโรปในขณะนั้นยังแข็งแกร่ง อัตรากำไรขั้นต้นสูงที่ 23% จากการใช้กำลังการผลิตสูงและต้นทุนวัตถุดิบไม่แพง

*** เทรดเกินราคาเหมาะสมไปไกล ไม่มีนักวิเคราะห์รายไหนแนะนำ "ซื้อ"
จากการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนัก (หลังเดือนเม.ย.63) พบว่าไม่มีนักวิเคราะห์รายใดแนะนำให้ "ซื้อ" หุ้น KCE เลย และยังให้ราคาเหมาะสมไว้ต่ำเฉลี่ยเพียง 13.3 บาท เท่านั้นด้วย หากเทียบกับราคาปิดล่าสุด 16 บาทถือว่า เกินราคาเหมาะสมมาแล้วถึง 20.3%

และหากเทียบกับ P/E ที่เคยซื้อขายในช่วง 6 ปีย้อนหลัง ผ่านฟังก์ชั่น P/E & P/BV Zone Analysis ของโปรแกรม efin Stock Pick Up แล้วพบว่า KCE มักซื้อขายในช่วง P/E ที่ 13 - 20 เท่า ดังนั้นด้วย P/E ที่ 20.08 เท่า ในขณะนี้ ก็อาจมองได้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายในระดับกรอบบนของ P/E แล้ว

หากนักลงทุนจะเข้าเก็งกำไร KCE ด้วยผลประกอบการไตรมาสแรกที่จะประกาศเร็วๆนี้ ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะงบมีโอกาสจะออกมาดีมาก แต่ก็ต้องคำนึงไว้ด้วยว่าสถานการณ์ของลูกค้าในยุโรปและสหรัฐฯกำลังย่ำแย่ อาจจะกดดันผลงานไตรมาส 2 - 3/63 ออกมาไม่น่าดูนัก การซื้อหุ้นตอนนี้ซึ่งถือว่าราคาไม่ได้ถูกมาก เพื่อลงทุนระยะยาวอาจต้องพิจารณาให้หนักเลยทีเดียว!
.
**อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่==>> http://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?release=y&id=eXFiQnNFc1BDckE9

--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่ 
Website : https://www.efinancethai.com 
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/ 
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThai/ 
lTwitter : @eFinanceThai 
IG : @efinancethai_official 
line : @efin
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่