"เขี้ยว" อาวุธอันตรายของสัตว์

อาวุธของเสือเขี้ยวดาบที่สามารถเจาะทะลุกระดูกได้



เสือเขี้ยวดาบ (Saber-toothed cat) ถือเป็นสัตว์ที่โดดเด่นในช่วงยุคน้ำแข็งหรือในสมัยไพลสโตซีนของทวีปอเมริกา โดยเสือเขี้ยวดาบจัดอยู่ในเชื้อสายสัตว์ตระกูลแมว (Felidae) ที่สูญพันธุ์ไปแล้วที่มีเขี้ยวบนยาวเหมือนใบมีด แต่เนื่องจากเขี้ยวที่ยาวมากนี้ทำให้เกิดปริศนาว่าพวกมันสามารถใช้อาวุธนี้ได้อย่างไร นักบรรพชีวินวิทยาบางคนเชื่อว่ามันไม่ใช่สัตว์ที่มีพลังในการกัดได้อย่างรุนแรงมากนัก และเขี้ยวของมันก็น่าจะเปราะบางและหักง่าย ซึ่งไม่เหมาะสมกับการล่าเหยื่อหรือเจาะกระดูก

งานวิจัยล่าสุดได้เปิดเผยการค้นพบรอยเจาะของหัวกะโหลกเสือเขี้ยวดาบสายพันธุ์ "Smilodon populator" ที่ค้นพบในประเทศอาร์เจนตินา จำนวน 2 หัว ปรากฏร่องรอยจากการบาดเจ็บจากการต่อสู้ เป็นไปได้ที่ลักษณะของกะโหลกที่แตกเป็นรูเจาะนี้อาจจะมาจากการโดนเตะโดยเหยื่อของพวกมัน (เช่นที่พบเห็นได้ในยีราฟหรือม้าลายปัจจุบัน) 

ถึงกระนั้นพวกเขาพบว่าเขี้ยวของสไมโลดอนมีขนาดเท่ากับรอยเจาะดังกล่าวบนกะโหลกศีรษะ และสามารถสวมเข้าไปได้พอดี จึงมีความเป็นได้ที่ร่องรอยการบาดเจ็บนี้อาจจะเกิดขึ้นมาจากการต่อสู้กันเองระหว่างเสือเขี้ยวดาบเพื่อเอาชนะกันมากกว่า
...............................................................
เครดิตรูปภาพและเอกสารอ้างอิง: Nicolás R. Chimento et al. Evidence of intraspecific agonistic interactions in Smilodon populator (Carnivora, Felidae), Comptes Rendus Palevol (2019). DOI: 10.1016/j.crpv.2019.02.006
Cr.https://www.facebook.com/218228675013635/photos/เขี้ยว-อาวุธของเสือเขี้ยวดาบที่สามารถเจาะทะลุกระดูกได้-อัพเดทการค้นพบเสือเขี้ยวด/1261667547336404/



อาวุธในการบดทำลายคู่ต่อสู้



ฮิปโปโปเตมัส หรือที่เรียกสั้นๆว่า ฮิปโป (Hippopotamus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกินพืชชนิดหนึ่ง ชื่อ “ฮิปโปโปเตมัส” มาจากภาษากรีกคำว่า หมายถึง “ม้าน้ำ” เนื่องจากมีส่วนหัวคล้ายม้ามาก โดยเฉพาะยามเมื่ออยู่ในน้ำ น้ำหนักตัวหนักมากได้ถึง 2–4 ตัน พบได้ทั้งแม่น้ำ, หนองน้ำ, ทะเลสาบ หรือปลักโคลน ว่ายน้ำและดำน้ำเก่งมาก อายุขัยเต็มที่ราว 45–70 ปี

ฮิปโปโปเตมัสเป็นสัตว์ที่มีอุปนิสัยดุร้ายฉุนเฉียวมาก มีการคาดการณ์ว่า ทุกๆ ปีมีคนตายด้วย “น้ำมือ” ของฮิปโปไม่ต่ำกว่าปีละ 300 คน ทำให้ฮิปโปขึ้นแท่นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ที่สุดในโลก  เหงื่อของฮิปโปโปเตมัส เป็นเมือกสีแดง เรียก กันว่า "เหงื่อเลือด"  สามารถป้องกันแมลงมากวนใจ และยังกันแดดด้วย 

เป็นสัตว์ที่อ้าปากได้กว้างที่สุดในโลกถึง 180 องศา ทำให้มีแรงกัดมากถึง 1,825 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว  วิ่งได้เร็ว 50 ก.ม. ต่อชั่วโมง  ภายในปากมีเขี้ยวที่มีความยาวถึง 40 – 50 ซม.  ยื่นออกมาจากด้านล่างของปาก มันใช้เขี้ยวในระหว่างการต่อสู้เพื่อการปกครองดินแดนและภัยคุกคามจากการเป็นนักล่า เขี้ยวนั้นได้รับการสนับสนุนโดยขากรรไกรทรงพลังที่สามารถสอดทุกอย่างออกเป็นสองส่วนได้ด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว



น้ำนมของฮิปโปมีสีชมพู เป็นน้ำนมสีขาว บวกกับเหงื่อเลือดหรือกรด“กรดฮิปโปซูดอริค” (Hipposudoric) และ “สารนอร์ฮิปโปซูดอริค”
(Norhipposudoric) จึงออกมาเป็นน้ำนมสีชมพู  ชื่อของกรดทั้งสองชนิดนี้มาจากคำว่า "ฮิปโปโปเตมัส" 

ในสมัยอียิปต์โบราณ ฮิปโปกับมนุษย์ต้องต่อสู้กันอยู่บ่อยครั้ง พวกฮิปโปมักขึ้นฝั่งขึ้นมาทำร้ายคนและทำลายข้าวของรวมถึงพื้นที่เพาะปลูกด้วย และเคยมีฟาโรห์องค์หนึ่งโดนฮิปโปกัดตายตอนออกไปล่าสัตว์ด้วย ทำให้ชาวอียิปต์โกรธแค้นพวกเขากวาดล้างฮิบโปจนสูญพันธ์จากแม่น้ำไนล์เลยทีเดียว จากนั้นฮิบโปก็ได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของเทพเซ็ธ เทพเจ้าแห่งการทำลายล้าง
Cr.https://www.flagfrog.com/hippo-not-cute/ โดย ManoshFiz
Cr.https://www.blockdit.com/articles/5e49f1d77e39de0cae549660




อาวุธในการเป็นผู้นำของฝูง



ลิงบาบูน (Ba boons) เป็นสกุลของลิงในวงศ์ลิงโลกเก่า (Cercopithecidae) สกุลหนึ่ง ใช้ชื่อสกุลว่า Papio จัดได้ว่าเป็นลิงขนาดใหญ่ และด้วยมีแขนและขายาวที่เท่ากัน ทำให้สามารถ เดินด้วยขาทั้ง 4 ข้างได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ส่วนหางสั้น และร่างกายที่กำยำแข็งแรง ทำ ให้วิ่งได้รวดเร็วพอๆ กับม้า ลักษณะเด่น คือมีใบหน้ายาวเหมือนสุนัข ขึ้นชื่อว่าเป็นลิงที่มีอุปนิสัยดุร้าย ก้าวร้าว เนื่องจากเป็นลิงที่กินเนื้อเป็นอาหารหลัก (ร่วมกับพวกผลไม้ พืช รากไม้) โดยอาจโจมตีทำร้ายมนุษย์ได้ด้วย 
 
ลิงบาบูนส่วนมากหากินและอาศัยบนพื้นดินมากกว่าขึ้นต้นไม้ อยู่ตามแถบที่โล่งกว้าง จะขึ้นต้นไม้เฉพาะตอนนอนเท่านั้น หากินในเวลากลางวัน มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ อาจถึง 200-300 ตัว มีตัวผู้ขนาดใหญ่เป็นจ่าฝูง หากินผลไม้ เมล็ดพืช ตลอดจนสัตว์ขนาดเล็กอย่างแมงป่องและแมงมุม  โดยการพลิกก้อนหินหา หรือแม้กระทั่งล้มสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ไก่ฟ้า หมูป่า หรือแอนทิโลปที่เป็นตัวลูกหรือตัวขนาดเล็กกินเป็นอาหารได้

มีฟันเขี้ยวแข็งแรงและยาวโง้งที่น่ากลัว พวกมันใช้เขี้ยวเพื่อล่าสัตว์ แต่เขี้ยวทำอีกหน้าที่ที่ใหญ่กว่าในการต่อสู้ปกป้องดินแดน ลิงบาบูนที่มีเขี้ยวที่ใหญ่ที่สุดจะได้อยู่ในฐานะผู้นำของฝูง เมื่อถูกคุกคามพวกมันจะพลิกริมฝีปากและเหงือกเผยให้เห็นฟันและเขี้ยวใหญ่ที่น่ากลัว  
Cr.https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_1442938
Cr.https://th.histoire-ucad.org/what-is-fang-which-animals-have-fangs




" เขี้ยว " ที่โดดเด่น



Gaboon Viper หรือ Bitis gabonica เป็นงูพิษสายพันธุ์หนึ่งที่พบมากในแอฟริกากลาง มันมีขนาดลำตัวยาวได้ถึง 170 เซนติเมตร และหนักได้ถึง 8.5 กิโลกรัม (บางรายงานแจ้งว่างูชนิดนี้สามารถหนักได้ถึง 16 กิโลกรัม)  อาศัยอยู่ตามป่าดงดิบหรือทะเลทราย โดยกินหนู นก กระต่าย เป็นอาหาร

สิ่งที่ทำให้งูกาบูนไวเปอร์โดดเด่นแตกต่างจากงูพิษสายพันธุ์อื่นคือมันมีนอขนาดใหญ่อยู่บนหัวของมัน งูกาบูนไวเปอร์มีเขี้ยวยาวถึง 2 นิ้ว ยาวเท่ากับเขี้ยวเสือดาว ลักษณะการทำงานของเขี้ยวพิษเวลางูฉกกัดจะดีดเขี้ยวพิษที่ยาวและเปิดปากกว้างพุ่งฉกเหยื่ออย่างรวดเร็ว คล้ายๆกับมีดพับ  ถ้าเขี้ยวหัก มันจะมีเขี้ยวสำรองเข้ามาแทน  และพวกมันยังใช้เขี้ยวในการพ่นพิษในระยะไกลด้วย 

เวลาพรางตัวมันจะนอนนิ่งในกองใบไม้แห้งรอให้เหยื่อผ่านมา เมื่อมีโอกาสมันจะฉกด้วยความเร็วสูง (ความเร็ว 2 เมตรต่อวินาที) พิษของมันมีฤทธิ์ทำลายระบบโลหิต โดยการกัดแต่ละครั้งมันจะปล่อยพิษออกมาเป็นจำนวนมาก และหลังจากนั้นก็จะรอให้เหยื่อค่อยๆ ตายลงอย่างช้าๆ ต่อมพิเศษในระบบหายใจ ช่วยให้มันได้กลิ่นที่เป็นละอองในอากาศด้วยการตวัดลิ้นและสัมผัสที่จมูก มันก็สามารถหาตัวเหยื่อได้
Cr.ที่มา wikipedia.org
Cr.https://wtfintheworld.com/13-gaboon-viper-78546/




ฟันที่มีความเจริญพร้อมกับผิวหนัง



ปลาฉลาม (Shark)  เป็นปลาในชั้นปลากระดูกอ่อนจำพวกหนึ่ง มีรูปร่างโดยรวมเพรียวยาว มีซี่กรองเหงือก 5 ซี่ ครีบทุกครีบแหลมคม ครีบหางเป็นแฉกเว้าลึก มีจุดเด่นคือ ส่วนหัวและจะงอยปากแหลมยาว ปากเว้าคล้ายพระจันทร์เสี้ยวภายในมีฟันแหลมคม  มักล่าสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ กินเป็นอาหาร
ฉลามหลายชนิดเป็นปลาที่ดุร้าย อาจทำร้ายมนุษย์หรือกินสิ่งต่าง ๆ แม้จะไม่ใช่อาหาร มีรูปร่างเพรียวยาว ว่ายน้ำได้ปราดเปรียว โดยอาจทำความเร็วได้ถึง 35 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ที่น่าสนใจและมีการศึกษากันมากก็คือฟันของปลาฉลาม ซึ่งจัดอยู่ในประเภทเขี้ยว เป็นส่วนที่มีการเจริญพร้อมกับผิวหนัง โดยเจริญมาจากกระดูกอ่อนบริเวณขากรรไกรมีกระบวนการสร้างคล้ายกับเกล็ด ฟันของปลาฉลามมีการผลัดหลุดออกไปเรื่อยๆ โดยตลอดชั่วอายุของปลาฉลามอาจมีฟันทั้งหมดถึง 35,000 ซี่

ฟันของปลาฉลามมีลักษณะคล้ายใบเลื่อยมีสารเคลือบฟัน ฟันใหม่จะเจริญมาจากด้านในรอมาแทนที่ฟันด้านนอกฉลามแต่ละชนิดจะมีจำนวนฟันในแต่ละแถวไม่เท่ากันรวมไปถึงระยะเวลาในการงอกทดแทนฟันซี่ที่หลุดหายไป นอกจากนั้นยังมีปลาอีกชนิดที่มีฟันน่าสนใจเช่นกันและแตกต่างจากปลาชนิดอื่นๆ ก็คือปลา Goliath Tiger Fish ปลานักล่าที่มีฟันขนาดใหญ่ แหลมยาว คล้ายกับจระเข้ พบในทวีปแอฟริกาโดยมีความดุร้ายพอๆกับปลาปิรันยาในทวีปอเมริกาใต้
Cr.https://board.postjung.com/874793 / โพสท์โดย GOVID
Cr.https://board.postjung.com/661004 / โพสท์โดย mata




" เขี้ยวคู่หน้า " ที่แหลมคม



ค้างคาวแวมไพร์ หรือ ค้างคาวดูดเลือด (Vampire bat) เป็นค้างคาวที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้และอเมริกากลาง มีพฤติกรรมดูดเลือดสัตว์ชนิดอื่นเป็นอาหาร เป็นที่มาของชื่อค้างคาวแวมไพร์  เหมือนแวมไพร์ ในความเชื่อของชาวยุโรปยุคกลาง

มักออกหากินในเวลากลางคืน สายตาของค้าวคาวแวมไพร์จะมองเห็นเป็นภาพอินฟาเรด จากความร้อนของอุณหภูมิในร่างกายของเหยื่อ จึงมองเห็นในที่มีแสงน้อยได้ดี โดยจะใช้ฟันคู่หน้าที่แหลมคมกัดและดูดกินเลือดของสัตว์เลือดอุ่นขนาดใหญ่กว่าเป็นอาหารเช่น หมู วัว เป็นต้น และบางชนิดจะกินนกเป็นอาหาร

ขณะที่ดูดเลือดอยู่นั้น ค้างคาวจะขับปัสสาวะไปด้วย เนื่องจากถ้าดูดเลือดในปริมาณที่มากจะทำให้ไม่สามารถบินได้  ซึ่งเลือดที่ไหลออกมานั้นจะไหลผ่านลิ้นของค้างคาวที่มีร่องพิเศษช่วยให้เลือดไหลผ่านหลอดเลือดฝอยได้โดยง่าย และในน้ำลายค้างคาวจะมีเอนไซม์ทำให้เลือดไม่แข็งตัว

นอกจากนี้ จุลินทรีย์ในลําไส้ค้างคาวแวมไพร์ยังมีลักษณะเฉพาะด้วย โดยพบว่าวิวัฒนาการนี้เกิดขึ้นไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของจีโนม อีกทั้งยังพบเชื้อแบคทีเรียกว่า 280 ชนิดในมูลของพวกมัน ซึ่งเป็นเชื้อที่อาจให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นล้มป่วยได้

ค้างคาวแวมไพร์เป็นสัตว์มีความผูกพันกับลูก พ่อและแม่ค้างคาวจะเลี้ยงดูลูกค้างคาวที่ยังบินไม่ได้นานถึง 9 เดือน โดยจะนำเลือดที่ดูดเหลือกลับมาฝาก และฝากไปยังค้างคาวตัวอื่น ๆ ในฝูงที่หากินได้ไม่อิ่มพอด้วย 
Cr.https://es-la.facebook.com/FreedomAlbum/photos/ ค้างคาวแวมไพร์-หรือ-ค้างคาวดูดเลือด-vampire-bat-เป็นค้างคาวกลุ่มหนึ่งที่มีถิ่นกำ/601467279968296/




เขี้ยวที่งอกยาวตลอดชีวิต



หมูป่า มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sus scrofa  เป็นสัตว์กีบเท้าคู่ที่มีแกนสันหลัง เลี้ยงลูกด้วยนม และเป็นต้นสายพันธุ์ของหมูบ้านในปัจจุบัน  แต่รูปร่างลักษณะของหมูป่าก็แตกต่างจากหมูบ้านอย่างเห็นได้ชัด มันมีเขี้ยว 4 เขี้ยวที่งอกยาวตลอดชีวิต มีขนตามลำตัวยาวกว่า เป็นขนหยาบสีดำ เทา หรือน้ำตาลเข้ม ขนบริเวณหัวชี้ยาวออกไปทางด้านหลัง เป็นแผงขนแข็งตามแนวสันหลัง  วิ่งได้เร็ว 48 ก.ม./ชั่วโมง
 
ในธรรมชาติหมูป่าชอบอาศัยในป่าชื้น ชอบตีแปลงและคลุกโคลน เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายและเพื่อป้องกันแมลงรบกวน บางครั้งอาจเกลือกปัสสาวะของตัวเองเพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย หมูป่าไวต่ออุณหภูมิแวดล้อมมาก อากาศที่ร้อนเกินไปอาจทำให้หมูป่าเป็นลมแดดได้

เขี้ยวเป็นอาวุธสำคัญที่หมูป่าใช้ป้องกันตัว ตัวผู้สามารถลับเขี้ยวให้คมด้วยการขบเขี้ยวบนกับเขี้ยวล่าง   หมูป่ามีฟันทั้งหมด 44 ซี่ เขี้ยวคือฟันหน้าด้านล่างที่ยาว แคบและยื่นออกไปข้างหน้า ทำหน้าที่คล้ายพลั่ว โดยเฉพาะในการ ขุดคุ้ยหาอาหารตามพื้นดินหรือตามโป่ง เขี้ยวของหมูป่าไม่มีรากฟัน โดยเฉพาะในตัวผู้ เขี้ยวจะค่อยๆ เพิ่มขนาดจากเล็กไปใหญ่ ฟันกรามซี่สุดท้ายจะมีขนาดเท่ากับฟันกรามซี่ที่ 1 และ 2 รวมกัน 
Cr.https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_1298187


(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่