ย่างยามสี่ยามสุดท้ายก่อนจะสาง
นอกหน้าต่างอรรธจันทราภากระแสง
เพียงคืบครึ่งพฤหัสห่างจางแจรง
อังคารเสาร์ห่อนกำแหงห่างออกไป
ในช่องว่างระหว่างมวลเทหวัตถุ
มองทะลุผ่านเลยเคยเห็นไหม
คือความมืดอนธกาลอับสารใด
ที่สายตาหาได้เห็นเป็นภาพจำ
แท้ความมืดอาจมีดาวอีกหมื่นล้าน
ส่องประสานเป็นแสงแรงสูงต่ำ
หากทุกแสงแรงเท่ากันจันทร์กระทำ
คงไร้คำจำแนกกันจันทร์และดาว
ไร้ช่องว่างกระจ่างทั่วทุกหัวหน
ไร้คืนคนได้พักกายเมื่อหน่ายหาว
ไร้บทกวีที่กล่อมใต้คืนดาราพราว
เพราะค่ำเช้าคงสว่างเหมือนเหมือนกัน
เป็นเช่นเดิมเช่นนี้คงดีกว่า
มีจันทราและดาวพร่างห่างเหหัน
มีความมืดเข้าแทรกแซงแบ่งคืนวัน
มีความฝันเมื่อมองคืนเมื่อหลับลง
แต่ก็ได้รู้อะไรเพิ่มเล็กน้อย
ดาวอีกร้อยไม่จ้างามตามประสงค์
แต่จงภูมิใจเถิดเจ้าโฉมยงค์
เจ้าได้ส่งอีกดวงสว่าง ต่างเท่าเทียม
เป็นช่องว่างระหว่างจันทร์และดาว
ความมืดราวถักทอเห็นเป็นมนเหลี่ยม
ดาวอับแสงจงใจดับอับใจเจียม
เป็นฐานเยี่ยมยิ่งโยชน์ประโยชน์คุณ
แสงสางกล้ำย้ำความยามสุดท้าย
ตัวเราคล้ายแสงใหญ่น้อยคอยเกื้อหนุน
ธรรมชาติคงสภาพธรรมกรรมค้ำจุน
กงล้อหมุนเพราะช่องว่างอย่างที่ควร.
ช่องว่างระหว่างดาวและพระจันทร์
นอกหน้าต่างอรรธจันทราภากระแสง
เพียงคืบครึ่งพฤหัสห่างจางแจรง
อังคารเสาร์ห่อนกำแหงห่างออกไป
ในช่องว่างระหว่างมวลเทหวัตถุ
มองทะลุผ่านเลยเคยเห็นไหม
คือความมืดอนธกาลอับสารใด
ที่สายตาหาได้เห็นเป็นภาพจำ
แท้ความมืดอาจมีดาวอีกหมื่นล้าน
ส่องประสานเป็นแสงแรงสูงต่ำ
หากทุกแสงแรงเท่ากันจันทร์กระทำ
คงไร้คำจำแนกกันจันทร์และดาว
ไร้ช่องว่างกระจ่างทั่วทุกหัวหน
ไร้คืนคนได้พักกายเมื่อหน่ายหาว
ไร้บทกวีที่กล่อมใต้คืนดาราพราว
เพราะค่ำเช้าคงสว่างเหมือนเหมือนกัน
เป็นเช่นเดิมเช่นนี้คงดีกว่า
มีจันทราและดาวพร่างห่างเหหัน
มีความมืดเข้าแทรกแซงแบ่งคืนวัน
มีความฝันเมื่อมองคืนเมื่อหลับลง
แต่ก็ได้รู้อะไรเพิ่มเล็กน้อย
ดาวอีกร้อยไม่จ้างามตามประสงค์
แต่จงภูมิใจเถิดเจ้าโฉมยงค์
เจ้าได้ส่งอีกดวงสว่าง ต่างเท่าเทียม
เป็นช่องว่างระหว่างจันทร์และดาว
ความมืดราวถักทอเห็นเป็นมนเหลี่ยม
ดาวอับแสงจงใจดับอับใจเจียม
เป็นฐานเยี่ยมยิ่งโยชน์ประโยชน์คุณ
แสงสางกล้ำย้ำความยามสุดท้าย
ตัวเราคล้ายแสงใหญ่น้อยคอยเกื้อหนุน
ธรรมชาติคงสภาพธรรมกรรมค้ำจุน
กงล้อหมุนเพราะช่องว่างอย่างที่ควร.