เราควรทำยังไงดี? หากมีแม่ที่ต้องคอยเชื่อฟังรับใช้คนสูงวัยในบ้านโดยที่ไม่สามารถขัดคำสั่งหรือตัดสินใจด้วยตนเองได้

สวัสดีทุกคน วันนี้เรามีเรื่องอยากจะมาปรึกษาถามความเห็นจากเพื่อนๆว่ามีใครเคยพบเจอหรือประสบปัญหาที่ตนเอง พ่อ แม่หรือใครสักคนที่เรารักมากๆ ต้องมาคอยรับใช้คำสั่งต่างๆจากผู้สูงวัยในบ้าน เราก็ไม่แน่ใจหรอกนะคะว่าสิ่งที่แม่เราทำอยู่มันเรียกว่าการเอาใจ การตามใจ หรืออะไร ขอเล่าสภาพปัญหาในบ้านคร่าวๆก่อนนะคะ คือเมื่อก่อนตอนเราเด็กๆเราก็มีครอบครัวที่ดีครอบครัวนึงมีพ่อแม่และพี่น้อง3คน ด้วยการตัดสินใจของแม่ที่อยากย้ายมาดูแลผู้สูงวัย2คน(ยายและน้องของยาย)เลยสร้างบ้านอยู่ติดกันมีทางเชื่อมติดกันแรกๆก็อยู่ปกติเรื่อยๆ เพราะตอนนั้นยังเด็กเราเลยไม่รู้อะไรมาก ทุกครั้งที่ลูกๆดื้อพ่อกับแม่เรามีโอกาสในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนได้น้อยมาก จนมาเมื่อไม่นานมานี้พ่อจึงตัดสินใจแยกทางกับแม่เนื่องด้วยแม่เลือกจะอยู่กับ2ยาย เหตุผลที่พ่อเราแยกไปเราเข้าใจค่ะว่าพ่ออึดอัด พ่อรับไม่ได้ที่จะทำอะไรก็จะต้องอยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอด จะสอนลูกเองก็ไม่ได้จะมี2ยายเดินมาแจมด้วยตลอด ง่ายๆคือครอบครัวเราจะตกอยู่เป้าสายตาของ2ยายตลอดเวลา พอพ่อกับแม่เรามีปัญหากัน(พ่อเราไม่มีการใช้กำลังทำร้ายร่างกายนะเป็นคนเงียบๆพูดน้อยมักจะพูดในสิ่งที่สำคัญเท่านั้น)2ยายก็มักจะเดินมาอารมณ์เหมือนพ่อแม่มาห้ามลูกทะเลาะกันอ่ะ แต่เราว่ามันไม่ใช่ เนื่องด้วยช่วงที่พ่อกับแม่แยกทางกันเราเรียนอยู่ต่างจังหวัดจึงได้ทราบข่าวคราวจากน้องสาว คือตอนนั้นวุ่นวายมากพ่อตัดสินใจแยกทางกับแม่เหตุความเห็นที่ต่างกันพ่ออดทนมานานกับสิ่งเหล่านี้ ประเด็นคืออยู่ที่แม่ แม่เป็นคนใจดี มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลอผู้อื่นจนตัวเองลำบาก ชอบให้ เวลา2ยายอยากได้ไรก็คือใช้แต่แม่ แม่คือไม่มีโอกาสได้เลือกเส้นทางของตัวเองเลยยอมผู้ใหญ่ตลอดไม่หือไม่อือไม่เถียงไม่อยากมีปัญหาเลยทำให้ตอนนั้นแม่2จิต2ใจมากกับพ่อก็อยากจะไปกับยายก็อยากจะอยู่ แต่ผลสุดท้ายก็เลือกที่จะอยู่กับ2ยาย เราเคยนั่งจับเข่าคุยกับแม่นะว่าทำไมแม่ถึงทำแบบนี้ทิ้งความถูกต้องทิ้งสิ่งที่ตัวเองรักจนทำให้ตนเองเสียศูนย์อ่ะ แม่ตอบว่าไรรู้ไหม แม่ตอบว่าถ้าแม่ไม่ทำแล้วใครจะทำ เนี้ยแม่ตอบแบบนี้เราเลยไม่รู้จะพูดไงต่อเลย เราบอกแม่หลายครั้งแล้วว่าบางอย่างปล่อยวางได้สู้เพื่อตัวเองบ้างแต่แม่ก็ยังคล้อยตามรับคำสั่งของ2ยายอย่างกับคนใช้ เมื่อเรากับน้องปฏิเสธการช่วยเหลือของ2ยาย เค้าก็ชอบแซะเรากับน้องมากเรื่องพ่อแซะแนวแบบทำไมไม่ไปอยู่กับพ่อหล่ะ ใช่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ คือตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไงแล้วอ่ะ เรารู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจของแม่ แต่เค้าเป็นแม่เราอ่ะ อายุก็มากแล้วยังมาต้องรับใช้ทำนู่นไปนี่แทนให้อีกอ่ะ ล่าสุดเลยช่วงนี้COVID19 เค้าให้อยู่แต่บ้านให้ออกไปหาของกินอย่างเดียวใช่ป่ะ2ยายยังไม่หยุดจ้า เกิดมีน้ำใจใช้น้องใช้เราไปเอาของให้บ้านนู้นที ส่งของให้บ้านนั้นที ไปซื้ออันนี้ให้ที คือใช้เก่งมาก 2ยายก็ค่อนข้างรู้ดีว่าช่วงนี้เหตุการณ์มันเป็นยังไงฟังข่าวทุกวันแต่ก็ไม่ยอมหยุดพฤติกรรมแบบนี้ คือเราปวดหัวมาก เรามักพูดทุกครั้งว่าเค้าไม่ให้ออก 2 ยายก็บ่นประมาณว่าใช้ไม่ได้เลยแล้วพอถึงหูแม่ แม่ก็ทำไงแม่ออกจากบ้านเพื่อไปทำธุระที่ไร้สาระของ2ยาย พูดเลยว่าไร้สาระจริงๆนะ แบบเอานมเปรี้ยวไปส่งให้บ้านเด็กกำพร้า เอ้าเกิดอยากจะทำบุญช่วงนี้โดยใช้แม่เราให้ไปส่ง แม่ก็ไม่ปฏิเสธอะไรเลย ทำอย่างเดียว แม่พูดด้วยนะว่าฉันก็จะทำแบบนี้จนกว่าจะตายไปข้าง แล้วนี่บอกแม่นะว่าแม่เลือกได้ว่าจะทำไม่หรือไม่ทำ คือเรากับน้องคือเหนื่อยที่จะพูดแล้วก็สงสารแม่ด้วยที่ต้องคอยทำอะไรแบบนี้ให้อ่ะ เพื่อนๆคนไหนมีวิธีให้เราเลิกกังวลจากเรื่องพวกนี้ไหมคะ คือช่วงอยู่บ้านเราก็ยังต้องเห็นเจอเหตุการแบบนี้อยู่ อยากmove onอ่ะ อยากเปลี่ยนmindset ของตัวเองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนๆว่าเราควรทำยังไงดี เราเหนื่อยอ่ะ เรารักนะ รักแม่ รักยายทั้ง2คน แต่พฤติกรรมและความคิดของเค้าไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่จริงๆ ขนาดพี่น้องของแม่ยังมาๆไปๆบ้านยายเลยอ่ะ เช่นน้องสาวของแม่ฐานะบ้านเค้าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่(ครอบครัวเราก็พออยู่พอกินแต่ยายกับน้องของยายค่อยข้างมีตังค์) ก็ชอบมาหายายเพื่อขอเงินแล้วก็ไปบ่อยมากที่เป็นแบบนี้ แต่เราไม่เข้าใจแม่เลยว่าทำไมต้องยอมให้ชีวิตครอบครัวขอตัวเองพังทลายลงเพราะผู้สูงอายุด้วย เราวางแผนชีวิตของตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่อยู่ที่นี่ แต่ก็มีจิตสำนึกเรื่องความกตัญญูอยู่เลยรู้สึกไม่กล้าที่จะทิ้งแม่ตัวเองไว้กับเหตุการณ์แบบนี้ และยังเชื่ออีกว่าแม่ก็ไม่ยอมทิ้ง2ยายไปแน่นอน เราไม่อยากเห็นแก่ตัวแต่เราเป็นคนที่จิตใจอ่อนแอเคยมีภาวะซึมเศร้าหนักมากจากเหตุการณ์พ่อแม่แยกทางกันเพราะปัญหาของผู้สูงวัยในบ้านเลยไม่อยากให้ตัวเองมาเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำรอยกับชีวิตของตัวเองอีก เลยอยากไปใช้ชีวิตคนเดียวแต่ก็อดเป็นห่วงแม่ไม่ได้ เราดูเห็นแก่ตัวหรืออกตัญญูไปหรือป่าว เราอยากmove onอ่ะ อยากเปลี่ยนmindset ของตัวเองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากเปลี่ยนความคิดของตัวเองให้เลิกสนใจเรื่องของแม่ เรื่องที่แม่ตัดสินใจเองแต่เราเห็นแล้วเจ็บปวดแทน เราต้องทำยังไงดี?
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะคะ
ที่อ่านๆมา พี่ชอบตรงจุดที่ น้องบอกว่า น้องได้จับเข่าพูดคุยกับคุณแม่
คือจะบอกว่า ไม่ว่าเรื่องราวปัญหาอะไรก็ตาม มันจะไม่ถูกระบาย และค้างคาใจเรา
หากเราไม่ได้พูดเปิดเผยทำความเข้าใจกับอีกฝ่ายค่ะ

ตอนนี้ น้องน่าจะอึดอัดใจกับพฤติกรรมของคุณแม่มากกว่า เหมือนไม่เป็นไปตามที่เราต้องการเลย ทำไมเป็นอย่างนี้
ส่วนเรื่องคุณยายและน้องคุณยาย พี่คิดว่า น้องมีวิธีการที่จะอยู่ห่าง หรือเลี่ยงได้ ด้วยคำพูดและการกระทำ อย่างนุ่มนวล
สำหรับคุณแม่ ก็คงมีความรู้สึกเหมือนน้อง ที่ไม่อยากทิ้งคนที่เราเคารพรัก
แต่น้องก็พูดคุยกับคุณแม่ได้นี่คะ พูดให้เข้าใจความรู้สึกของเรา แล้วลองฟังความคิดเห็นของคุณแม่นะคะ ว่าคุณแม่คิดอย่างไร ต้องการอะไร
ทำไมคุณแม่คิดไม่เหมือนหนูหล่ะ คุณแม่มีอะไรติดค้างคาใจไหม

ทุกครอบครัวมีปัญหากันหมดนะคะ อยู่ที่เราจะพูดคุยกันหรือเปล่า
แล้วเราก็ปรับจูนให้ตรงกันค่ะ
จากนั้น เราก็จะ...โล่งใจมากกกก เลยนะคะที่ได้พูด ได้ฟัง ได้ระบายแล้ว

ลองคิดเล่นๆว่า ในอนาคต เราก็ต้องดูแลคุณแม่ หากเรามีลูกเล็กๆ เราก็ต้องมารับมือกับเหตุการณ์คล้ายๆคลึงกันเช่นกันค่ะ

อย่าเพิ่งนั่งคิดอะไรไปก่อนเลยค่ะ ทุกปัญหามีทางแก้นะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่