ในช่วงที่โรคระบาด ได้ระบาดไปทั่วทุกมุมโลก มันทำให้เรามองเห็นถึงการบริหารจัดการของผู้นำของประเทศทั่วโลก ในรับมือกับกาการระบาดของโลก
ในฐานะประชนคนธรรมดาคนนึง อยากจะเป็นส่วนนึงของเสียงสะท้อน ที่ส่งถึงท่านนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ถึงมุมมองของโครงการเราไม่ทิ้งกัน ในการช่วยเหลือเยียวยาอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดในครั้งนี้
อยากให้ท่านนายก มองประชนในประเทศ เหมือนลูกหลานท่าน ในช่วงที่ทุกคนกำลังต้องการซึ่งที่พึ่งและกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ แต่การทำงานของพวกท่านช่างล่าช้าเหลือเกิน การตรวจสอบ ควรทำให้ไวและรัดกุมมากขึ้น เพราะยิ่งเวลาผ่านพ้นไป ในแต่ละวัน เท่ากับความเป็นอยู่ของประชาชนก็เริ่มวิกฤตมากขึ้น ถ้าพูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนเหตุการณ์เด็ก 13คน ติดถ้ำที่จังหวัดเชียงราย ทุกวินาที มันสำคัญกับพวกเค้ามาก เพราะระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ความหวัง กำลังใจเริ่มน้อยลงทุกวัน
ในวันนี้ประชาชนในประเทศก็เช่นกัน ทุกคนรอคอยอย่างมีความหวัง กับเงิน 5000 บาท ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนเยอะมาก สำหรับกลุ่มคนใช้แรงงาน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ในประเทศ การแจกจ่ายเงิน ควรเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อช่วยต่อลมหายใจของประชนให้สามารถยิ้มได้ และต่อสู้กับวิกฤตในครั้งนี้อีกครั้ง
ไม่ต่างกับครอบครัวของตัวดิฉันเอง ดิฉันลงทะเบียนให้พ่อกับแม่ในอาชีพค้าขาย ภายในระยะเวลา 3 วัน คุณพ่อขัยรถมอเตอร์ไซด์เข้าไปในตัวอำเภอหลายต่อหลายครั้ง เพื่อเชคเงินที่รอคอยจากรัฐบาล ซึ่งทำให้ตัวดิฉันเองในฐานะลูก ต่อให้ไม่มีใช้หรืออดแค่ไหน ก็จะไม่ยอมให้พ่อกับแม่ลำบาก ตัวดิฉันเอง ก็รอคอยเงินจำนวนนี้ ในการประทังชีวิต ในช่วงทร่ไม่สามารถหาเงินได้เลย และยิ่งมาออกจากงาน เลยทำให้ทุกอย่างดูมืดมนไปหมด
ดิฉันเป็นคนนึงที่ไม่เคยย่อท้อต่อโชคชะตา พยายามมาโดยตลอด แต่จากสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่า มันเป็นวิกฤตมาก เพราะไม่สามารถหาช่องทางการสร้างรายได้ในช่วงวิกฤตได้เลย
สำหรับท่านที่อ่านกระทู้นี้ หากท่านอยู่ในสภาวะเดียวกับดิฉัน อยากให้ทุกท่านสู้ๆค่ะ และทำจิตใจให้เข้มแข็ง เชื่อว่าเราจะผ่านมันไผได้ สำหรับท่านที่มีฐานะดี หรือพอมี ก็อย่าลืมแบ่งปันเผื่อแผ่ให้คนรอบข้างนะคะ เพราะในยามวิกฤตแบบนี้ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ
รัฐบาลใช้AI จนลืมไปว่าควรเอาหัวใจแก้ปัญหาให้ประชาชน
ในฐานะประชนคนธรรมดาคนนึง อยากจะเป็นส่วนนึงของเสียงสะท้อน ที่ส่งถึงท่านนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ถึงมุมมองของโครงการเราไม่ทิ้งกัน ในการช่วยเหลือเยียวยาอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดในครั้งนี้
อยากให้ท่านนายก มองประชนในประเทศ เหมือนลูกหลานท่าน ในช่วงที่ทุกคนกำลังต้องการซึ่งที่พึ่งและกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ แต่การทำงานของพวกท่านช่างล่าช้าเหลือเกิน การตรวจสอบ ควรทำให้ไวและรัดกุมมากขึ้น เพราะยิ่งเวลาผ่านพ้นไป ในแต่ละวัน เท่ากับความเป็นอยู่ของประชาชนก็เริ่มวิกฤตมากขึ้น ถ้าพูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็เหมือนเหตุการณ์เด็ก 13คน ติดถ้ำที่จังหวัดเชียงราย ทุกวินาที มันสำคัญกับพวกเค้ามาก เพราะระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ความหวัง กำลังใจเริ่มน้อยลงทุกวัน
ในวันนี้ประชาชนในประเทศก็เช่นกัน ทุกคนรอคอยอย่างมีความหวัง กับเงิน 5000 บาท ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนเยอะมาก สำหรับกลุ่มคนใช้แรงงาน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ในประเทศ การแจกจ่ายเงิน ควรเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อช่วยต่อลมหายใจของประชนให้สามารถยิ้มได้ และต่อสู้กับวิกฤตในครั้งนี้อีกครั้ง
ไม่ต่างกับครอบครัวของตัวดิฉันเอง ดิฉันลงทะเบียนให้พ่อกับแม่ในอาชีพค้าขาย ภายในระยะเวลา 3 วัน คุณพ่อขัยรถมอเตอร์ไซด์เข้าไปในตัวอำเภอหลายต่อหลายครั้ง เพื่อเชคเงินที่รอคอยจากรัฐบาล ซึ่งทำให้ตัวดิฉันเองในฐานะลูก ต่อให้ไม่มีใช้หรืออดแค่ไหน ก็จะไม่ยอมให้พ่อกับแม่ลำบาก ตัวดิฉันเอง ก็รอคอยเงินจำนวนนี้ ในการประทังชีวิต ในช่วงทร่ไม่สามารถหาเงินได้เลย และยิ่งมาออกจากงาน เลยทำให้ทุกอย่างดูมืดมนไปหมด
ดิฉันเป็นคนนึงที่ไม่เคยย่อท้อต่อโชคชะตา พยายามมาโดยตลอด แต่จากสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่า มันเป็นวิกฤตมาก เพราะไม่สามารถหาช่องทางการสร้างรายได้ในช่วงวิกฤตได้เลย
สำหรับท่านที่อ่านกระทู้นี้ หากท่านอยู่ในสภาวะเดียวกับดิฉัน อยากให้ทุกท่านสู้ๆค่ะ และทำจิตใจให้เข้มแข็ง เชื่อว่าเราจะผ่านมันไผได้ สำหรับท่านที่มีฐานะดี หรือพอมี ก็อย่าลืมแบ่งปันเผื่อแผ่ให้คนรอบข้างนะคะ เพราะในยามวิกฤตแบบนี้ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ