ม.1
ผมเป็นเด็กผู้ชายคนนึงที่ งงๆ ว่าสอบติดโรงเรียน ชายล้วนนี้ได้ยังไง
อ่อ ลืมบอกไป ผมชื่อ “หนึ่ง” ครับ
ก่อนสอบติดโรงเรียนนี้ ผมเป็นเด็ก เกเร ครับ ติดเพื่อน ติดเที่ยว
หน้าตาผมก็ไม่ได้แย่นะครับ แต่ผมก็ยังไม่มีแฟนสักที อาจจะเป็นเพราะติดเพื่อนด้วยแหล่ะ
แต่ดูสิ เพื่อนผมแถวบ้าน แต่ละคนมีแฟนกันหมดแล้ว เดินจูงมือกัน จู๋จี๋กัน
ผมเห็นละก็อิจฉานะ เคยคิดอยากมีบ้าง แต่... ยังไม่มีอารมณ์แบบนั้น
ด้วยเหตุนี้แหล่ะครับ ที่บรรดาเพื่อนแถวบ้านผมมีแฟนกัน
แม่ผม ก็เกิดกลัวว่าผม จะไปทำผู้หญิงท้อง
เห้ยยยยยย แม่!!!!!
นี่เด็กอายุ 12
จะไปทำอะไรได้
แม่ผมก็เลยลากมาสอบ รร. ชายล้วนนี่ ผมก็ใช้มันสมองผมที่ร่ำเรียนมา
สรุปคือ ... สอบติด อันดับที่ 5 ใน 300 คน เป็นไปได้ไง หรือว่า ฟลุ๊ค!!!
แต่นั่นละครับ ผมก็เลยได้เรียน
ที่นี่ ม.1 ทั้งหมดมี 7 ห้อง เรียงตามความเก่งเลยครับ วัดจากเกรดเฉลี่ยเดิม
1 2 3 4 5 6 7
ผมอยู่ ห้อง 3 กลางๆ เลย ไม่เก่ง แต่ก็ไม่โง่
กรี้งงงงงงงงงงง (เสียงออด)
เสียงกรึ่งดังละ ต้องไป เข้าแถวเคารพธงชาติ คงต้องใช้เวลานี้แหล่ะ ทำความรู้จักเพื่อนใหม่
ระหว่างเข้าแถว ผมก็ทักเพื่อนใหม่ไปหลายคน แต่ก็มีคนนึง หล่อเชียว
แต่ก็คงหล่อพอๆ กะผมแหล่ะ มันเดินเข้ามาทักผม
“หวัดดี เราชื่อ วันนะ”
“หวัดดีๆ”
“แล้วนายชื่อไร”
“ชื่อ หนึ่ง”
“เห้ย จริงดิ ชื่อเหมือนกันเลย”
เหมือนกันยังไงว้าาาา วัน กูหนึ่ง งงแท้
“ก็ หนึ่ง ภาษาไทย เราวัน ภาษาอังกฤษไง”
“อ้อ วันหมายถึง 1 ว่างั้น 55”
มันเข้าใจเปรียบเทียบนะ แต่มันนิสัยดีกว่าที่คิดแหะ หน้านิ่งๆ ดูหยิ่งมาก
แต่พอคุยแล้ว โอเคเลย คุยถูกคอ
หลังจากที่หาเพื่อนใหม่ ผมก็ได้เพื่อนทั้งแก๊งรวมกัน 7 คน มีผม วัน เกม เฟริส ไบร์ท โอ แซม
เรา 7 คน เข้าขั้นสนิทกันมาก ต้องบอกว่า เกม เฟริส ไบร์ท โอ แซม เนี้ย มันรู้จักกันมาอยู่แล้ว
ตอนประถมมันเรียนที่เดียวกัน เรื่องบางเรื่องที่มันคุยกัน บางทีผมก็ไม่เข้าใจมันหรอก
จะให้สนิทมากจริงๆ ก็ไอ่วันนี่แหล่ะ เพราะเราทั้งคู่ต่างไม่รู้จักไครเลย
“อ้าวนักเรียน..เดี๋ยวครูให้จับคู่ทำรายงานนะคะ เอาไว้ส่งตอนปลายภาค”
เสียงครูวันกลางคน เปล่งออกมา ฟังจากน้ำเสียงดูใจดีมากกกก
มันทำให้รู้สึก อยากเรียนวิชานี้ไปนานๆ
“หนึ่ง... คู่กะกูดิ”
เสียงไอ่วัน พูดมา
“เอาดิ” ผมตอบกลับ
แล้วไอ่วัน มันก็ยิ้มอ่อนๆ เหมือนมีความสุขอะไรบางอย่าง
“ยิ้มไร วัน”
“ป่าว กูแค่ดีใจที่คู่กู กูนึกว่าจะไปหาสาวมาคู่ทำรายงานสะละ”
“โธ่ กูก็ต้องคู่เพื่อนดิ เรื่องหญิงไว้ก่อน”
หลังจากนั้น ชีวิตผมก็สนิทแต่ไอ่วันนี่แหล่ะ คนที่คุยอะไรแล้วเข้าใจก็มันนี่แหล่ะ
เราทั้งคู่กลับบ้านทางเดียวกันด้วยมั้ง ได้คุยกันทู้กกกกกวัน
ขึ้นรถไฟฟ้า นั่งรถเมล์ ด้วยกัน เป็นงี้มาตลอด
“เห้ย.. ไปเดินสยามกันดีกว่า” ไอ่เฟิส พูดขึ้น ด้วยท่าทางว้อนอยากไปมากๆ
“เออๆ ไปๆ” คนอื่นๆ ตอบตกลง
ระหว่างนั้น ผมมัวแต่คิดว่าจะไปดีไหม เพราะไม่เคยไปเลย
ปกติ อยู่แต่แถวบ้าน ไปไหนก็ไปกับครอบครัวตลอด
“ไปป่าว ไอ่วัน ไอ่หนึ่ง” ไอ้เฟิสถาม
“ไปป่าว” ไอ้วันมันถาม พลางเอาศอกมาสะกิด
“ไม่ค่อยอยากไปวะ” ที่ผมตอบแบบนี้อ่า คือกลัว ไม่เคยเดินสักที ฮ่าๆ
“มันไม่ไป กูคงไม่ไปว่ะ” ไอ้วันตอบเพื่อนๆ
“โห่ ต้องตัวติดกันตลอดเลยไง” ไอ้เฟิสถาม
“ป่าววววว กลับบ้านทางเดียวกัน มันไม่ไปกูก็กลับบ้านคนเดียวดิ”
ผมได้ยินไอ่วันมันบอกแบบนั้น ผมเลยเกรงใจมัน
“ไปก็ได้ ไปกันหมดสนุกดี” ผมพูดไปแล้วมองหน้าไอ้วัน
“ยิ้มอะไรอีกละ” คือผมมองหน้ามัน แล้วมันก็ยิ้มอ่อนๆ เหมือนคิดอะไรอยู่
ละมันก็ไม่ตอบอะไรผม
ไปสยาม ปะสาเด็ก มอ 1 ไม่มีไรหรอกครับ ดูงานเกม ไปซื้อหนังสือการ์ตูน
สำหรับผม ผมชอบอ่านนะ เพราะถ้าเป็นการ์ตูนที่เราชอบบางทีดูอนิเมะมันช้า อ่านมังงะไปเลย
“ขอบคุณนะที่พากูมา” ไอ้วันมันพูดพร้อมมองมาที่ผม
“อะไร” ผม งงๆ กับคำพูดของมัน
“กูรู้ว่าไม่อยากมา”
“รู้ได้ไง”
“กูดูออกน่า”
“เอ้ออออออ” ผมเขินๆ โดนรู้ทัน
ผมได้นารูโตะ กลับบ้านมาเล่มนึง เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จจะมาอ่าน
ระหว่างที่ถอดเสื้อนั้น ก็มีเฟสคอลมา
หืมไอ้วัน
“ไง ถึงบ้านยัง”
“ถึงละดิ กูกำลังจะอาบน้ำพอดี”
แต่ไอ่วันมันยิ้มแปลกๆ อีกละ
“ยิ้มอะไรอีก” ผมถาม
“กูขอโทด กูเพิ่งเห็นถอดเสื้อ ไปๆ ไปอาบน้ำได้ละ วันันทร์เจอกัน”
“เคๆ เจอกัน”
ผม งงๆ ว่ามันจะยิ้มทำไม แค่ถอดเสื้อ แต่ก็ไม่คิดอะไร ขอตัวอาบน้ำอ่านนารูโตะก่อนละกัน
จะสอบปลายภาคแล้ววววววววววว
รายงานที่ครูสั่ง สำเร็จไปด้วยดี
จริงๆ ส่วนมาก ไอ้วันมันจะทำ ผมทำส่วนน้อย ไอ้วันมันไม่ค่อยให้ผมทำเท่าไหร่
แต่ดีละ สบายยยยย มีเพื่อนอย่างมันนี่ดีจริงๆ
พอส่งงานครูเรียบร้อย เคลียงานทุกอย่าง เราทุกคนต่างใช้เวลาหลังเลิกเรียนเพื่อ เรียนพิเศษ
ยอมรับครับว่าเหนื่อยสำหรับเด็ก มอ 1
แต่หลังจากสอบปลายภาค คะแนนออก ก็หายเหนื่อย
สถานีต่อไป ปิดเทอมมมมม นอนอยู่บ้าน ผมขอแม่ไม่เรียนพิเศษ แม่ก็ตามใจ
สบายยยบยยย
ผ่านไปเกือบ 2 เดือน
ไกล้เปิดเทอมแล้วสิ มอ2 รอเราอยู่
ในใจแอบตื่นเต้น เพราะต้องเรียนห้องใหม่ อาจารย์คนใหม่ ตื่นเต้นๆๆๆๆ
มอ 2
เปิดเทอมวันแรก ผมตื่นแต่เช้า เพื่อนๆ คนอื่นอาจจะไม่อยากไปเรียนนะ
แต่สำหรับผม เป็นวันที่รอคอยเลยล่ะ อยู่บ้านเหงามากกกก
ไม่ได้เจอเพื่อนเลย แต่ละคนบ้านไม่ได้ไกล้กันเลย จะนัดกันเที่ยวก็ไกลเกิน
ถึงอยากออกไป แม่ก็ไม่ให้ไปอยู่ดี แม่เป็นห่วง คงยังเด็กอยู่ ไปไหนมาไหน อันตราย
แต่ก็มีคนพอให้หายเหงาก็คงเป็นไอ้วันนี่แหล่ะ คุยกันตลอด คุยจนรำคาญ
บางทีไม่ว่างคุย ก็มีงอลด้วยนะ เอาใจยากชะมัด
แต่ปีนึงที่เป็นเพื่อนกับมันมา ก็พิสูจน์ได้ละ ว่ามันไส่ใจความรู้สึกมากๆ
เพื่อนแบบนี้แหล่ะ ต้องคบไว้นานๆ
หลังจากเปิดเทอมมาได้ไม่นาน ก็ถึงวันที่นักกีฬาทุกคนรอคอย
นั่นคืองานกีฬาสีของโรงเรียน
ตอนอยู่ ม.1 ไม่ได้เล่นกีฬาอะไรเลยตอนกีฬาสี เพราะบรรดารุ่นพี่แย่งลงแข่งหมด
มีทั้งเก่งจริง และพวกลงแข่งเพื่ออวดหญิง ฝีมือนี่กาก มากกกกก
แต่ปีนี้ ถือว่าเป็นโอกาส โควต้านักบอลมอต้นของสีเรายังไม่เต็ม
ว่าจะลองไปคัดตัวสะหน่อย
ถึงวันคัดตัว เราไปคัดตัวกันยกแกงค์
“พวกต้องพยายามมากๆนะเว้ย แสดงฝีมือให้พี่ๆ เค้าเห็น” ไอ้เฟริสพูดด้วยท่าทางมันใจ
“ได้ข่าวว่ามาคัดตัวเพื่ออวดหญิงนะ” ไอ้แซมตอกกลับ
“เห้ย อย่าพูดแบบนั้น กูก็พอมีฝีมือบ้าง”
เราต่างขำ ในความมั่นใจของไอ้เฟริส
อยู่ๆ ไอ้วันมันก็แอบมากระซิบข้างหูผมว่า
“ชอบเตะบอลไหม”
เห้ย ชอบดิ” ผมตอบด้วยความมั่นใจ
“หรอ”
“เป็นนักบอล
เท่นะเว้ย กูชอบ”
“หรอ” ไอ้วันพูดจบรอยยิ้มแปลกๆ ที่ไม่ได้เห็นมานาน ก็กลับมาอีกครั้ง
“อะไร ยิ้มอะไร”
“ป่าว”
“ป่าว อะไร”
“ป่าว กูแค่จะเป็นนักบอลให้ได้”
“เออ เป็นให้ได้ละกัน เพื่อตัวเอง”
“ไม่ไช่เพื่อกู.....เพื่อต่างหาก”
หืมมมมมมมมม คราวนี้ไม่ได้แค่รอยยิ้มแปลกๆ แล้วครับ คำพูดแปลกๆ ก็มา
“อะ อะ เออออ เพื่อไครก็ได้ทั้งนั้นแหล่ะ ได้เป็นนักบอลกูก็ดีใจ”
วันนั้นคัดตัวนักบอล ปรากฏว่า รุ่นพี่ ม. 3 เอาไป-ครับ
แต่เรื่องไม่คาดฝันก็คือ ไอ้วัน ติดเป็นนักกีฬากับเค้าด้วย
เอาว่ะ เราไม่ได้ไม่เป็นไร ไงเพื่อนเราก็ได้ เป็นตัวแทนให้พวกกูด้วยนะไอ้วัน
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ไอ้วันต้องซ้อมแข่ง
ซวยละ ต้องกลับบ้านคนเดียวหรอว่ะ เหงาเลย ตั้งแต่เรียนที่นี่ ไม่เคยกลับคนเดียวเลย
กลับพร้อมไอ้วันตลอด
“อยู่เป็นเพื่อนหน่อยดิ รอกูซ้อมเสร็จเดี๋ยวกลับพร้อมกัน” ไอ้วันบอกผม
“หะ”
“นะๆ อยู่เป็นเพื่อนหน่อย กลับบ้านคนเดียวเหงา”
“อะๆ ได้ๆ” ในใจก็คิดนะ กูกลับบ้านคนเดียวกูก็เหงาเหมือนกัน
“ทุกวันเลยนะ”
“เออออออ เดะรอเป็นเพื่อน ไม่ดึกมากนะซ้อมอ่า”
“ไม่ดึกหรอก”
“เค”
หลังจากนั้น ผมก็อยู่รอมันซ้อมบอลทุกวัน เพิ่งรู้ว่ามันเตะบอลเก่งขนาดนี้ ฝีเท้ามันไม่ไช่เล่นๆ
จากที่คิดว่ามันคงได้เป็นแค่ตัวสำรอง แต่นี่ พวกพี่ๆ ให้มันเป็นตัวจริง ให้อยู่กองหน้าเลยด้วย
เอาวะ เพื่อนกู แจ้งเกิดก็คราวนี้ สาวติดแน่ๆ
ถ้าชนะ คงเป็นคนดังชั่วข้ามคืนแน่ๆ
หลังจากที่ซ้อมมาทุกวัน เวลาร่วมเดือน ก็ถึงวันแข่งจริง
รอบแรก สีของผมชนะอย่างสบายๆ แน่นอนครับ เป็นไครไม่ได้ ที่แบกทีม
ไอ้วันนั่นเอง ไม่เสียแรงที่อยู่รอมันซ้อมมาตลอด
วันแข่งรอบชิง บรรยากาศเริ่มตึงเครียด เพราะฝีมือฝั่งตรงข้ามคือร้ายกาจมาก
คือถ้าไม่ได้ตั้งใจเล่นคงชนะไม่ได้
“ให้กำลังใจกูหน่อยดิ เดี๋ยวจะลงแข่งแล้ว” ไอ้วันเดินมาตรงหน้าแล้วบอกผม
“ต้องชนะ กูเชื่อในตัว” พอผมพูดเสร็จ มันก็มาอีกแล้วครับรอยยิ้มแปลกๆ
แบบมีเลศนัยของมัน ยิ้มเสร็จมันก็ไปเข้าแถวเพื่อเตรียมตัวลงแข่ง
หลังจากพิธีประกาศรายชื่อนักกีฬาเสร็จ การแข่งขันก็เริ่มขึ้น
การแข่งขันสูสีมาก จบครึ่งแรก สีผม ตามอยู่ด้วยสกอร์ 2-3
ครึ่งหลังสีผมตามมาตีเสมอได้ ด้วยฝีมือรุ่นพี่ในทีม
อีก 5 นาทีสุท้าย ไอ้วัน แทบไม่ได้ครองบอลเลยก่อนหน้านี้ เพราะ ทีมคู่แข่งประกบไอ้วันตลอด
แต่ด้วยคู่แข่งคงเหนื่อยตามแล้ว ทำให้ไอ้วันได้บอล และเข้าไปยิง จน สกอร์ เป็น 4-3 สีเราชนะ!!!
เสียงเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ทุกคนในสีลุกขึ้นมาส่งเสียงกรี้ดกันถ้วนหน้า
ผมกับเพื่อนๆ รีบวิ่งเข้าไปให้กำลังใจไอ้วัน
ผมเข้าไปกอดไอ้วันอย่างดีใจ ทั้งๆ ที่ตัวมันเปียกเหงื่อ แต่ความดีใจนั้น ผมหยุดไม่ได้จริงๆ
ในขณะเดียวกัน ไอ้วันมันก็กอดผมแน่น
“กูทำได้แล้วนะ”
“เออ โคตรเก่งเลย สมแล้วที่กูอยู่เป็นเพื่อนซ้อมตลอด”
“กูมีความสุขนะที่เห็นยิ้ม”
คำพูดที่ดูจริงใจนี้มันอะไรกันผมเริ่ม งง ครับ ความรู้สึกแปลกๆ นี้มันคืออะไร
แต่ขณะ ที่ผมกำลัง งง กับความรู้สึกนั้น รุ่นพี่ ฝั่งคู่แข่ง ก็เข้ามาหาไอ่วัน
“เก่งจังนะน้องชาย” รุ่นพี่มอ 3 พูดขึ้น
“ขอบคุณครับ” ไอ้วันตอบกลับไป
ผมรู้สึกว่า เขาไม่น่าเข้ามาด้วยความหวังดีนะผมรู้สึกได้ พูดเสร็จรุ่นพี่ก็เดินจากไป
มอ 3>>> เร็วๆ นี้
One for One (นิยายวาย)
ผมเป็นเด็กผู้ชายคนนึงที่ งงๆ ว่าสอบติดโรงเรียน ชายล้วนนี้ได้ยังไง
อ่อ ลืมบอกไป ผมชื่อ “หนึ่ง” ครับ
ก่อนสอบติดโรงเรียนนี้ ผมเป็นเด็ก เกเร ครับ ติดเพื่อน ติดเที่ยว
หน้าตาผมก็ไม่ได้แย่นะครับ แต่ผมก็ยังไม่มีแฟนสักที อาจจะเป็นเพราะติดเพื่อนด้วยแหล่ะ
แต่ดูสิ เพื่อนผมแถวบ้าน แต่ละคนมีแฟนกันหมดแล้ว เดินจูงมือกัน จู๋จี๋กัน
ผมเห็นละก็อิจฉานะ เคยคิดอยากมีบ้าง แต่... ยังไม่มีอารมณ์แบบนั้น
ด้วยเหตุนี้แหล่ะครับ ที่บรรดาเพื่อนแถวบ้านผมมีแฟนกัน
แม่ผม ก็เกิดกลัวว่าผม จะไปทำผู้หญิงท้อง
เห้ยยยยยย แม่!!!!!
นี่เด็กอายุ 12
จะไปทำอะไรได้
แม่ผมก็เลยลากมาสอบ รร. ชายล้วนนี่ ผมก็ใช้มันสมองผมที่ร่ำเรียนมา
สรุปคือ ... สอบติด อันดับที่ 5 ใน 300 คน เป็นไปได้ไง หรือว่า ฟลุ๊ค!!!
แต่นั่นละครับ ผมก็เลยได้เรียน
ที่นี่ ม.1 ทั้งหมดมี 7 ห้อง เรียงตามความเก่งเลยครับ วัดจากเกรดเฉลี่ยเดิม
1 2 3 4 5 6 7
ผมอยู่ ห้อง 3 กลางๆ เลย ไม่เก่ง แต่ก็ไม่โง่
กรี้งงงงงงงงงงง (เสียงออด)
เสียงกรึ่งดังละ ต้องไป เข้าแถวเคารพธงชาติ คงต้องใช้เวลานี้แหล่ะ ทำความรู้จักเพื่อนใหม่
ระหว่างเข้าแถว ผมก็ทักเพื่อนใหม่ไปหลายคน แต่ก็มีคนนึง หล่อเชียว
แต่ก็คงหล่อพอๆ กะผมแหล่ะ มันเดินเข้ามาทักผม
“หวัดดี เราชื่อ วันนะ”
“หวัดดีๆ”
“แล้วนายชื่อไร”
“ชื่อ หนึ่ง”
“เห้ย จริงดิ ชื่อเหมือนกันเลย”
เหมือนกันยังไงว้าาาา วัน กูหนึ่ง งงแท้
“ก็ หนึ่ง ภาษาไทย เราวัน ภาษาอังกฤษไง”
“อ้อ วันหมายถึง 1 ว่างั้น 55”
มันเข้าใจเปรียบเทียบนะ แต่มันนิสัยดีกว่าที่คิดแหะ หน้านิ่งๆ ดูหยิ่งมาก
แต่พอคุยแล้ว โอเคเลย คุยถูกคอ
หลังจากที่หาเพื่อนใหม่ ผมก็ได้เพื่อนทั้งแก๊งรวมกัน 7 คน มีผม วัน เกม เฟริส ไบร์ท โอ แซม
เรา 7 คน เข้าขั้นสนิทกันมาก ต้องบอกว่า เกม เฟริส ไบร์ท โอ แซม เนี้ย มันรู้จักกันมาอยู่แล้ว
ตอนประถมมันเรียนที่เดียวกัน เรื่องบางเรื่องที่มันคุยกัน บางทีผมก็ไม่เข้าใจมันหรอก
จะให้สนิทมากจริงๆ ก็ไอ่วันนี่แหล่ะ เพราะเราทั้งคู่ต่างไม่รู้จักไครเลย
“อ้าวนักเรียน..เดี๋ยวครูให้จับคู่ทำรายงานนะคะ เอาไว้ส่งตอนปลายภาค”
เสียงครูวันกลางคน เปล่งออกมา ฟังจากน้ำเสียงดูใจดีมากกกก
มันทำให้รู้สึก อยากเรียนวิชานี้ไปนานๆ
“หนึ่ง... คู่กะกูดิ”
เสียงไอ่วัน พูดมา
“เอาดิ” ผมตอบกลับ
แล้วไอ่วัน มันก็ยิ้มอ่อนๆ เหมือนมีความสุขอะไรบางอย่าง
“ยิ้มไร วัน”
“ป่าว กูแค่ดีใจที่คู่กู กูนึกว่าจะไปหาสาวมาคู่ทำรายงานสะละ”
“โธ่ กูก็ต้องคู่เพื่อนดิ เรื่องหญิงไว้ก่อน”
หลังจากนั้น ชีวิตผมก็สนิทแต่ไอ่วันนี่แหล่ะ คนที่คุยอะไรแล้วเข้าใจก็มันนี่แหล่ะ
เราทั้งคู่กลับบ้านทางเดียวกันด้วยมั้ง ได้คุยกันทู้กกกกกวัน
ขึ้นรถไฟฟ้า นั่งรถเมล์ ด้วยกัน เป็นงี้มาตลอด
“เห้ย.. ไปเดินสยามกันดีกว่า” ไอ่เฟิส พูดขึ้น ด้วยท่าทางว้อนอยากไปมากๆ
“เออๆ ไปๆ” คนอื่นๆ ตอบตกลง
ระหว่างนั้น ผมมัวแต่คิดว่าจะไปดีไหม เพราะไม่เคยไปเลย
ปกติ อยู่แต่แถวบ้าน ไปไหนก็ไปกับครอบครัวตลอด
“ไปป่าว ไอ่วัน ไอ่หนึ่ง” ไอ้เฟิสถาม
“ไปป่าว” ไอ้วันมันถาม พลางเอาศอกมาสะกิด
“ไม่ค่อยอยากไปวะ” ที่ผมตอบแบบนี้อ่า คือกลัว ไม่เคยเดินสักที ฮ่าๆ
“มันไม่ไป กูคงไม่ไปว่ะ” ไอ้วันตอบเพื่อนๆ
“โห่ ต้องตัวติดกันตลอดเลยไง” ไอ้เฟิสถาม
“ป่าววววว กลับบ้านทางเดียวกัน มันไม่ไปกูก็กลับบ้านคนเดียวดิ”
ผมได้ยินไอ่วันมันบอกแบบนั้น ผมเลยเกรงใจมัน
“ไปก็ได้ ไปกันหมดสนุกดี” ผมพูดไปแล้วมองหน้าไอ้วัน
“ยิ้มอะไรอีกละ” คือผมมองหน้ามัน แล้วมันก็ยิ้มอ่อนๆ เหมือนคิดอะไรอยู่
ละมันก็ไม่ตอบอะไรผม
ไปสยาม ปะสาเด็ก มอ 1 ไม่มีไรหรอกครับ ดูงานเกม ไปซื้อหนังสือการ์ตูน
สำหรับผม ผมชอบอ่านนะ เพราะถ้าเป็นการ์ตูนที่เราชอบบางทีดูอนิเมะมันช้า อ่านมังงะไปเลย
“ขอบคุณนะที่พากูมา” ไอ้วันมันพูดพร้อมมองมาที่ผม
“อะไร” ผม งงๆ กับคำพูดของมัน
“กูรู้ว่าไม่อยากมา”
“รู้ได้ไง”
“กูดูออกน่า”
“เอ้ออออออ” ผมเขินๆ โดนรู้ทัน
ผมได้นารูโตะ กลับบ้านมาเล่มนึง เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จจะมาอ่าน
ระหว่างที่ถอดเสื้อนั้น ก็มีเฟสคอลมา
หืมไอ้วัน
“ไง ถึงบ้านยัง”
“ถึงละดิ กูกำลังจะอาบน้ำพอดี”
แต่ไอ่วันมันยิ้มแปลกๆ อีกละ
“ยิ้มอะไรอีก” ผมถาม
“กูขอโทด กูเพิ่งเห็นถอดเสื้อ ไปๆ ไปอาบน้ำได้ละ วันันทร์เจอกัน”
“เคๆ เจอกัน”
ผม งงๆ ว่ามันจะยิ้มทำไม แค่ถอดเสื้อ แต่ก็ไม่คิดอะไร ขอตัวอาบน้ำอ่านนารูโตะก่อนละกัน
จะสอบปลายภาคแล้ววววววววววว
รายงานที่ครูสั่ง สำเร็จไปด้วยดี
จริงๆ ส่วนมาก ไอ้วันมันจะทำ ผมทำส่วนน้อย ไอ้วันมันไม่ค่อยให้ผมทำเท่าไหร่
แต่ดีละ สบายยยยย มีเพื่อนอย่างมันนี่ดีจริงๆ
พอส่งงานครูเรียบร้อย เคลียงานทุกอย่าง เราทุกคนต่างใช้เวลาหลังเลิกเรียนเพื่อ เรียนพิเศษ
ยอมรับครับว่าเหนื่อยสำหรับเด็ก มอ 1
แต่หลังจากสอบปลายภาค คะแนนออก ก็หายเหนื่อย
สถานีต่อไป ปิดเทอมมมมม นอนอยู่บ้าน ผมขอแม่ไม่เรียนพิเศษ แม่ก็ตามใจ
สบายยยบยยย
ผ่านไปเกือบ 2 เดือน
ไกล้เปิดเทอมแล้วสิ มอ2 รอเราอยู่
ในใจแอบตื่นเต้น เพราะต้องเรียนห้องใหม่ อาจารย์คนใหม่ ตื่นเต้นๆๆๆๆ
มอ 2
เปิดเทอมวันแรก ผมตื่นแต่เช้า เพื่อนๆ คนอื่นอาจจะไม่อยากไปเรียนนะ
แต่สำหรับผม เป็นวันที่รอคอยเลยล่ะ อยู่บ้านเหงามากกกก
ไม่ได้เจอเพื่อนเลย แต่ละคนบ้านไม่ได้ไกล้กันเลย จะนัดกันเที่ยวก็ไกลเกิน
ถึงอยากออกไป แม่ก็ไม่ให้ไปอยู่ดี แม่เป็นห่วง คงยังเด็กอยู่ ไปไหนมาไหน อันตราย
แต่ก็มีคนพอให้หายเหงาก็คงเป็นไอ้วันนี่แหล่ะ คุยกันตลอด คุยจนรำคาญ
บางทีไม่ว่างคุย ก็มีงอลด้วยนะ เอาใจยากชะมัด
แต่ปีนึงที่เป็นเพื่อนกับมันมา ก็พิสูจน์ได้ละ ว่ามันไส่ใจความรู้สึกมากๆ
เพื่อนแบบนี้แหล่ะ ต้องคบไว้นานๆ
หลังจากเปิดเทอมมาได้ไม่นาน ก็ถึงวันที่นักกีฬาทุกคนรอคอย
นั่นคืองานกีฬาสีของโรงเรียน
ตอนอยู่ ม.1 ไม่ได้เล่นกีฬาอะไรเลยตอนกีฬาสี เพราะบรรดารุ่นพี่แย่งลงแข่งหมด
มีทั้งเก่งจริง และพวกลงแข่งเพื่ออวดหญิง ฝีมือนี่กาก มากกกกก
แต่ปีนี้ ถือว่าเป็นโอกาส โควต้านักบอลมอต้นของสีเรายังไม่เต็ม
ว่าจะลองไปคัดตัวสะหน่อย
ถึงวันคัดตัว เราไปคัดตัวกันยกแกงค์
“พวกต้องพยายามมากๆนะเว้ย แสดงฝีมือให้พี่ๆ เค้าเห็น” ไอ้เฟริสพูดด้วยท่าทางมันใจ
“ได้ข่าวว่ามาคัดตัวเพื่ออวดหญิงนะ” ไอ้แซมตอกกลับ
“เห้ย อย่าพูดแบบนั้น กูก็พอมีฝีมือบ้าง”
เราต่างขำ ในความมั่นใจของไอ้เฟริส
อยู่ๆ ไอ้วันมันก็แอบมากระซิบข้างหูผมว่า
“ชอบเตะบอลไหม”
เห้ย ชอบดิ” ผมตอบด้วยความมั่นใจ
“หรอ”
“เป็นนักบอล เท่นะเว้ย กูชอบ”
“หรอ” ไอ้วันพูดจบรอยยิ้มแปลกๆ ที่ไม่ได้เห็นมานาน ก็กลับมาอีกครั้ง
“อะไร ยิ้มอะไร”
“ป่าว”
“ป่าว อะไร”
“ป่าว กูแค่จะเป็นนักบอลให้ได้”
“เออ เป็นให้ได้ละกัน เพื่อตัวเอง”
“ไม่ไช่เพื่อกู.....เพื่อต่างหาก”
หืมมมมมมมมม คราวนี้ไม่ได้แค่รอยยิ้มแปลกๆ แล้วครับ คำพูดแปลกๆ ก็มา
“อะ อะ เออออ เพื่อไครก็ได้ทั้งนั้นแหล่ะ ได้เป็นนักบอลกูก็ดีใจ”
วันนั้นคัดตัวนักบอล ปรากฏว่า รุ่นพี่ ม. 3 เอาไป-ครับ
แต่เรื่องไม่คาดฝันก็คือ ไอ้วัน ติดเป็นนักกีฬากับเค้าด้วย
เอาว่ะ เราไม่ได้ไม่เป็นไร ไงเพื่อนเราก็ได้ เป็นตัวแทนให้พวกกูด้วยนะไอ้วัน
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ไอ้วันต้องซ้อมแข่ง
ซวยละ ต้องกลับบ้านคนเดียวหรอว่ะ เหงาเลย ตั้งแต่เรียนที่นี่ ไม่เคยกลับคนเดียวเลย
กลับพร้อมไอ้วันตลอด
“อยู่เป็นเพื่อนหน่อยดิ รอกูซ้อมเสร็จเดี๋ยวกลับพร้อมกัน” ไอ้วันบอกผม
“หะ”
“นะๆ อยู่เป็นเพื่อนหน่อย กลับบ้านคนเดียวเหงา”
“อะๆ ได้ๆ” ในใจก็คิดนะ กูกลับบ้านคนเดียวกูก็เหงาเหมือนกัน
“ทุกวันเลยนะ”
“เออออออ เดะรอเป็นเพื่อน ไม่ดึกมากนะซ้อมอ่า”
“ไม่ดึกหรอก”
“เค”
หลังจากนั้น ผมก็อยู่รอมันซ้อมบอลทุกวัน เพิ่งรู้ว่ามันเตะบอลเก่งขนาดนี้ ฝีเท้ามันไม่ไช่เล่นๆ
จากที่คิดว่ามันคงได้เป็นแค่ตัวสำรอง แต่นี่ พวกพี่ๆ ให้มันเป็นตัวจริง ให้อยู่กองหน้าเลยด้วย
เอาวะ เพื่อนกู แจ้งเกิดก็คราวนี้ สาวติดแน่ๆ
ถ้าชนะ คงเป็นคนดังชั่วข้ามคืนแน่ๆ
หลังจากที่ซ้อมมาทุกวัน เวลาร่วมเดือน ก็ถึงวันแข่งจริง
รอบแรก สีของผมชนะอย่างสบายๆ แน่นอนครับ เป็นไครไม่ได้ ที่แบกทีม
ไอ้วันนั่นเอง ไม่เสียแรงที่อยู่รอมันซ้อมมาตลอด
วันแข่งรอบชิง บรรยากาศเริ่มตึงเครียด เพราะฝีมือฝั่งตรงข้ามคือร้ายกาจมาก
คือถ้าไม่ได้ตั้งใจเล่นคงชนะไม่ได้
“ให้กำลังใจกูหน่อยดิ เดี๋ยวจะลงแข่งแล้ว” ไอ้วันเดินมาตรงหน้าแล้วบอกผม
“ต้องชนะ กูเชื่อในตัว” พอผมพูดเสร็จ มันก็มาอีกแล้วครับรอยยิ้มแปลกๆ
แบบมีเลศนัยของมัน ยิ้มเสร็จมันก็ไปเข้าแถวเพื่อเตรียมตัวลงแข่ง
หลังจากพิธีประกาศรายชื่อนักกีฬาเสร็จ การแข่งขันก็เริ่มขึ้น
การแข่งขันสูสีมาก จบครึ่งแรก สีผม ตามอยู่ด้วยสกอร์ 2-3
ครึ่งหลังสีผมตามมาตีเสมอได้ ด้วยฝีมือรุ่นพี่ในทีม
อีก 5 นาทีสุท้าย ไอ้วัน แทบไม่ได้ครองบอลเลยก่อนหน้านี้ เพราะ ทีมคู่แข่งประกบไอ้วันตลอด
แต่ด้วยคู่แข่งคงเหนื่อยตามแล้ว ทำให้ไอ้วันได้บอล และเข้าไปยิง จน สกอร์ เป็น 4-3 สีเราชนะ!!!
เสียงเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ทุกคนในสีลุกขึ้นมาส่งเสียงกรี้ดกันถ้วนหน้า
ผมกับเพื่อนๆ รีบวิ่งเข้าไปให้กำลังใจไอ้วัน
ผมเข้าไปกอดไอ้วันอย่างดีใจ ทั้งๆ ที่ตัวมันเปียกเหงื่อ แต่ความดีใจนั้น ผมหยุดไม่ได้จริงๆ
ในขณะเดียวกัน ไอ้วันมันก็กอดผมแน่น
“กูทำได้แล้วนะ”
“เออ โคตรเก่งเลย สมแล้วที่กูอยู่เป็นเพื่อนซ้อมตลอด”
“กูมีความสุขนะที่เห็นยิ้ม”
คำพูดที่ดูจริงใจนี้มันอะไรกันผมเริ่ม งง ครับ ความรู้สึกแปลกๆ นี้มันคืออะไร
แต่ขณะ ที่ผมกำลัง งง กับความรู้สึกนั้น รุ่นพี่ ฝั่งคู่แข่ง ก็เข้ามาหาไอ่วัน
“เก่งจังนะน้องชาย” รุ่นพี่มอ 3 พูดขึ้น
“ขอบคุณครับ” ไอ้วันตอบกลับไป
ผมรู้สึกว่า เขาไม่น่าเข้ามาด้วยความหวังดีนะผมรู้สึกได้ พูดเสร็จรุ่นพี่ก็เดินจากไป
มอ 3>>> เร็วๆ นี้