JJNY : 4in1 เพจดังโวยงานเข้า/ชลน่านจี้เยียวยาแรงงานธุรกิจบันเทิง/วิโรจน์ปลื้มกห.ตัดงบฯ/ได้5พัน แต่เงินโอนไปบัญชีคนอื่น

เพจดังโวยงานเข้า หลังตร.แถลงล่าตัว ผิดพรบ.คอมพ์ คดีแฉตุนหน้ากาก
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_3918097
 

 
เพจดังแหม่มโพธิ์ดำ โวยงานเข้า หลังตร.แถลงจับกุมแก๊งกักตุนหน้ากาก แถมระบุล่าตัวฐานผิดพรบ.คอมพ์ ยันไม่เคยแชร์ไลฟ์ใดๆ ย้ำเป็นพลเมืองดี แต่ถูกกระทำเหมือนผู้ร้าย
 
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายหน้ากากอนามัย โดยจับกุมผู้กระทำผิด 328 ราย ยึดของกลางหน้ากากอนามัย 2,587,578 ชิ้น  เครื่องวัดอุณหภูมิ 2,764 เครื่อง เจลแอลกอฮอล์ 80,500 ลิตร ชุดเครื่องตรวจไวรัสโควิด 55,048 ชิ้น รวมมูลค่าทั้งหมด 71,959,665 บาท
 
รวมทั้งเครือข่าย นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ เสี่ยบอยมิดไนท์ ที่โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่ามีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ก่อนขยายผลจับกุมนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 2,826 ชิ้น พร้อมระบุเตรียมดำเนินคดีนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อแหม่มโพธิ์ดำ นำข้อมูลเท็จของเสี่ยบอยมาแชร์ต่อ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องการส่งต่อข้อมูลเท็จ โดยตำรวจกำลังสืบหาตัว
  
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์ข้อความระบุว่า 
 
“งานเข้ากูเฉยจ้า เห็นข่าวไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา บอกว่าวันนี้ พลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า ตำรวจกำลังเร่งสืบหาตัวตนเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” หลังแชร์คลิปการไลฟ์ขายหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ของเสี่ยบอย ซึ่งถือว่า เข้าข่ายความผิดนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ!!!! (กูไปแชร์มันตอนไหน มีแต่แคปสิ่งที่มันโพสต์มาลงในความคิดเห็น สิ่งที่ตำรวจพูดนี่เข้าข่ายเฟคนิวส์นะ)
 
กูออกมาช่วยสังคมตามหาหน้ากาก เพราะโรงพยาบาลทั่วประเทศรวมถึงประเทศไทย ไม่มีหน้ากากใช้ ไปไหนไม่รู้ หาไม่เจอ พอไอ้บอยโพสต์หลักฐาน ทั้งคลิปอวดหน้ากาก ทั้งโม้เย็บม้า หน้ากากกองเป็นลังๆ บัญชีต่างๆ เต็มไปหมด โพสต์โยงใยไปถึงคนในรัฐบาล กูก็นำมาลง เพื่อผลประโยชน์ของภาคประชาชน รัฐก็มาบิดๆให้ข้อมูลสื่อหาว่า กูได้ข้อมูลมาจากฝั่งล้มล้างรัฐบาล คือเป็นบ้าเหรอ มีหลักฐานอะไรบ้างที่กูเป็นคนแบบนั้น ทำเพจมาไม่เคยการเมืองสักครั้ง มีแค่เรื่องหน้ากาก เพราะมันเดือดร้อนกันทั้งแผ่นดิน ส่วนไอ้บอยมันจะมีหน้ากากกี่อัน มันคือหน้าที่ตำรวจไปสืบหา ไม่ใช่หาไม่เจอ ทั้งที่คลิป ทนโท่ กลายเป็นคนแจ้งผิด อีเ--ตะไล
 
พอมีลูกเพจถูกพันธ์ยศโกง กูก็นำมาลงเพจว่า มีสายข่าวแจ้งว่าพรรคภราดรภาพมีเอี่ยวนะ เอ๊ะอะไรยังไงไปตรวจสอบกันสิ กูคนเปิดชัดๆ ใครก็เห็น จนตอนนี้ตำรวจตามจับมันได้ ไม่ให้เครดิตกูไม่ว่าอะไร กูช่วยสังคมไม่หวังเอาหน้า ขอให้เป็นผลดีกับประเทศชาติจบ หน้ากากที่ผลิตในประเทศ จะได้ถูกแจกจ่ายไปให้เจ้าหน้าที่พยาบาลกันสักที
 
ประเทศไหนเขาก็ช่วยคุ้มครองพลเมืองดี คนที่หาหลักฐาน เพื่อตามจับคนร้าย แต่ประเทศไทยไอเลิฟยู จะล่อกบาลกูเสียแล้ว แถลงการณ์กันยิ่งใหญ่เหมือนกูคือผู้ก่อการร้าย นี่คือการตอบแทนความเสี่ยงกูเหรอ คือจะให้กูเป็นคนเ-ี้ยให้ได้ โคตรผิดหวังสั-ๆ จะมาตามหากูทำไม ไปตามหาคนที่โกงชาติ โกงแผ่นดิน อย่าเอากูไปอยู่ตรงกลางของเกมการเมืองอันสกปรกของพวกเลย
 
ขอบคุณที่มา แหม่มโพธิ์ดำ 
https://www.facebook.com/queentogetherisone/photos/a.883450645091438/2384660874970400/?type=3&theater
 

 
'หมอชลน่าน' จี้รัฐบาลเยียวยา 'แรงงานธุรกิจบันเทิง' ตกงานกว่า 1 ล้านคน
https://voicetv.co.th/read/djttaky4J
 
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตือนรัฐอย่าทิ้งแรงงานธุรกิจบันเทิง เผยตกงานทันทีมากกว่า 1 ล้านคน ซ้ำร้ายอดรับเงินเยียวยา
 
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากมาตรการปิดสถานบริการ ร้านอาหาร ผับ ทั่วประเทศ เพื่อหยุดการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคธุรกิจบันเทิง ทั้งนี้แรงงานในภาคธุรกิจบันเทิงมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ล้านคนต้องตกงานและขาดรายได้ ไม่น้อยกว่า 22 กลุ่มอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น วงดนตรี นักร้อง นักดนตรี ที่ทำงานตามสถานบันเทิงทั่วประเทศ
 
นอกจากนี้พนักงานในร้านที่ต้องตกงานไปด้วย รวมถึงวงดนตรีหมอลำ ลิเก และการแสดงทุกภาคของประเทศที่ถูกยกเลิกงาน แรงงานในกลุ่มดังกล่าวประสบปัญหาการใช้ชีวิตเพราะไม่มีรายได้ไปจุนเจือครอบครัว บางคนไม่มีเงินแม้จะกินข้าว จำต้องเดินทางกลับบ้านในต่างจังหวัดเพราะยังไงก็ไม่อดตาย แต่พอกลับบ้านก็กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงในที่สุด
 
ส่วนมาตรการเยียวยาคนละ 5,000 บาทในโครงการเราไม่ทิ้งกันของรัฐบาล ปรากฏว่าระบบ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ปฏิเสธการรับเงินเยียวยาของแรงงานในภาคธุรกิจบันเทิง คนกลุ่มนี้ไม่สามารถรับเงินเยียวยาจากรัฐได้ นอกจากนี้ยังมีการขู่จะจับดำเนินคดีในพ.ร.บ.คอมฯ อีกถือเป็นการดำเนินการที่เลวร้ายมากของรัฐบาล 
 
"รัฐไม่เหลียวแรงงานในภาคธุรกิจนี้ ทั้งที่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้เข้าประเทศ ในยามที่ประเทศปกติ แต่รัฐปล่อยให้หาทางรอดเอาเอง ทั้งนี้รัฐต้องเห็นความสำคัญกับแรงงานกลุ่มนี้ ต้องหางานให้เขาทำแม้จะมีรายได้ไม่มากแต่ก็ควรหาที่ยืนให้เขาสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ควรปล่อยให้เขารับกรรมที่ไม่ได้ก่อแต่มาจากมาตรรัฐที่สร้างผลกระทบกับรายได้ของคนกลุ่มนี้โดยตรง" นพ.ชลน่านกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่