สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวพันทิป
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับการ #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ
ในเมื่ออยู่บ้านก็แล้ว WFH ก็แล้ว ไม่มีอะไรทำ ก็ได้เวลาขุดกรุ ทริปเก่าที่แพลนว่าจะทำรีวิวมาตั้งนานแล้วมาได้ลงจอกันสักที
จริงๆ ทริปนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ เดือน มิ.ย.ปีที่แล้วล่ะครับ แต่เริ่มแพลนทริปจริงๆ ก็ตั้งแต่ต้นปี 2019 เลยทีเดียว
รายละเอียด Trip Plan ต่างๆ ก็หามาจากหลายที่เลยครับ โดยเฉพาะจากในพันทิป แล้วก็มีอันนี้ครับที่ผมชอบอ่านมากๆ กะทัดรัด แถมมีเส้นทาง Treks ต่างๆ จากหลายจุดทั่วโลกเลยครับ แนะนำเลยครับ
https://www.earthtrekkers.com/destination-norway/
อีกอันก็คืออันนี้ครับ ข้อมูลแน่นเอี๊ยด
https://thefjords.no/
ผมแบ่งทริปนอร์เวย์นี้ออกเป็น 2 ส่วน ตาม Area ที่เราจะไปครับ ส่วนใหญ่ก็จะไปเดินป่า ปีนเขาตามเส้นทางเทรคที่มีธรรมชาติอันสวยงามของประเทศนี้ เนื่องจากเป็นการชอบส่วนตัวครับที่ได้เดินเล่นดูแลนด์สเคปสวยๆ ได้ถ่ายรูป ซึมซับอากาศบริสุทธิให้เต็มปอด ก่อนกลับมาสู้ความจริงกับชีวิตเมืองบ้านเรากันต่อไป
ส่วนแรกเราจะไปอยู่กันทางตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ครับ
เส้นทางเดินเขาที่เราจะไปมีอยู่ 3 จุดซึ่งเ ป็นเส้นทางอันโด่งดังครับ นั่นคือ Kjerag, Preikestolen และ Trolltunga โดยเราจะใช้เมือง Bergen, Stavanger และ Odda เป็นที่พักหลักในการเตรียมเดินเทรคครับ
ส่วนที่ 2 เราจะขึ้นเหนือไปยังหมู่เกาะ Lofoten ซึ่งก็จะไปเดินๆ ปีนป่ายกันต่ออีก 3 ที่คือ Reinebringen, Ryten และ Værøy
พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยครับ
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมรูทบินถึงเป็นแบบนี้นะครับ ช่วงนั้นที่บิน อัฟกานิสถานปิดน่านฟ้าครับ เราเลยต้องบินพุ่งขึ้นเหนืออย่างที่เห็น
การเดินทางของเรารอบนี้ เราเลือกบินกับ FINNAIR ครับ เนื่องจาก Bergen ไม่มีเครื่องบินตรง
ก็เลือกเอาตามสะดวกได้เลยนะครับ ว่าอยากจะไปเปลี่ยนเครื่องที่ไหน
ไม่ว่าจะเป็น Oslo, Copenhagen หรือ Stockholm มีบินต่อไป Bergen หมด แต่ผมเลือก Helsinki ครับ บินไม่ย้อนไปมาดี
ฟินแอร์ลูกเรือบริการดีมากๆเลยครับ ดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเจอพี่ลูกเรือที่รู้จักกัน วันนี้เลยได้ทาน Haagen-Daz ก่อนเข้านอน 😊
ที่ชอบมากอีกอย่างคือ Aminity Kit และผลิตภันฑ์อื่นๆ บนเครื่อง ใช้ Mariemekko ซึ่งเป็นแบรนด์ดังของฟินแลนด์เอง
อันนี้ดีมากครับ เพราะชอบเป็นการส่วนตัว 555
ถึง Helsinki แล้วเราก็เตรียมตัวเดินทางต่อไป Bergen ครับ โดยต้องบินไปแวะพักเครื่องสั้นๆ ที่ Stockholm อีก 1 รอบ
เป็นการแวะพักแบบสั้นมากๆ ไม่ถึง 45 นาที เราไม่ต้องลงจากเครื่องครับ คนที่จะลงป้ายนี้ก็ลงไป คนจะเดินทางต่อก็นั่งรอบนเครื่อง แล้วผู้โดยสารใหม่ที่จะเดินทางไป Bergen ก็ขึ้นมาสมทบ....อารมณ์คล้ายรถเมล์เลยครับ 555
ถึงสนามบิน Bergen แล้วครับ แต่เราจะอยู่แค่สนามบิน เดี๋ยวจะแวะกลับมาเที่ยว Bergen แบบเต็มๆก่อนที่จะไป Lofoten ครับ
เรารับรถที่จองไว้กับ Budget ที่สนามบินได้เลย ขั้นตอนง่ายมากๆ (แต่ค่าเช่ารถขับในนอร์เวย์คือแพงสุดๆ โดยเฉพาะที่ Lofoten T T) ถ้าอยากประหยัดเงินในกระเป๋าหน่อย Bergen เค้าเป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ จึงมีบริการรถบัสไปตามสถานที่เหล่านี้ทั้งหมดนะครับ
ปักหมุดเส้นทางเดินเขาที่จะไปเดินได้ตามนี้ครับ เราจะขับรถเรียงตามลำดับจากจุด A เวียนทวนเข็มนาฬิกากลับมาที่ Bergen ที่จุด E เลยครับ
ส่วนเส้นทางเทรคจะเริ่มที่จุด B คือ Kjerag, C คือ Preikestolen หรือที่หลายคนเรียก Pupit Rock ส่วนจุด D คือ Trolltunga ครับ
โดยจะเลือก Bergen หรือ Stavanger เป็นจุดเริ่มก็ได้นะครับ แล้วเลือกขับแบบทวนเข็มหรือตามเข็มนาฬิกา ส่วนผมเลือกเริ่มและจบที่ Bergen และขับทวนเข็มนาฬิกา เพราะอะไรเดี๋ยวจะมาบอกนะครับ 😉
พร้อมแล้วขับมุ่งลงใต้ไปเมือง Stavanger ที่พักคืนแรกบนแผ่นดินนอร์เวย์กันเลยครับ
ถนนในนอร์เวย์ ขับนอกเมืองปุ๊บเป็นเลนสวนปั๊บ แต่ถือว่าขับง่ายครับ คนขับดูมีวินัยขับตาม Speed Limit กันส่วนใหญ่
เนื่องจากภูมิประเทศเป็นทั้งภูเขา เกาะแก่ง ตลอดทาง ถนนจะมีทั้งอุโมงค์ สะพานหรือแม้แต่ Car Ferry ตลอดเส้นทางเลยครับ
เมื่อเราขับมาถึงจุดทีต้องลง Car Ferry จะมีช่องบอกให้จอดตามเลขและตามชนิดของรถหรือแม้แต่ตามจุดหมายปลายทาง
สักพักก็จะมีพนักงานมาเดินเก็บเงินครับ เงินสดก็ได้ บัตรเครดิตก็จะมีเครื่องรูดแบบมือถือพกมารูดกันตรงนั้นเลยครับ
สะดวก รวดเร็ว ง่ายและดูมีระเบียบดีมากเลยครับ
พอเรือมาก็ขับตามช่องของหมายเลขละไปจอดต่อๆ กันครับ บางพอร์ทก็แค่ 15 นาที บางพอร์ท ก็เกือบ ชม.เลยครับ
บนเรือมีอาหารจำหน่าย มีพวกอาหารเบาๆ พวกไส้กรอก แฮมเบอร์เกอร์
บ้างก็อาหารหนักแบบจานใหญ่โตมีเครื่องดื่ม ขนม ไอศกรีมจำหน่าย แล้วก็มีห้องน้ำให้บริการฟรีครับ
นอร์เวย์ก็เหมือนประเทศอื่นๆ ในยุโรปนะครับ ที่ห้องน้ำจะต้องเสียเงินเข้า เวลาเจอห้องน้ำฟรีที่ไหน เราเลยต้องรีบใช้สิทธิ์ก่อนครับ 😉
เวลาผ่านไม่นานเราก็ขับมาถึง Stavanger ละครับ
เย็นนี้เราพอมีเวลา ก็เลยชวนกันมาเดินในเมืองถ่ายรูปเล่นๆกัน
เอาจริงๆ นี่ก็กว่า 24 ชม. แล้วที่ยังไม่ได้นอนแบบจริงจัง หลังจากออกมาจากกรุงเทพฯ ครับ ถถถ
โทรล: สิ่งมีชีวิตลี้ลับในตำนานของชาวสแกนดิเนเวีย แต่ตอนนี้พบได้ทั่วไปในร้านขายของที่ระลึกครับ
เดินเล่นรอบๆ เขตเมืองเก่าใน Stavanger จนเริ่มง่วงละ
ก็พากันมาเช็คอินที่โรงแรม เตรียมตัวนอนเก็บแรงสำหรับเทรคแรกของนอร์เวย์ พรุ่งนี้เจอกันครับ Kjerag
วันที่ 3 ของการเดินทาง วันนี้จะได้ปีนเขานอร์เวย์จริงๆ สักที
เราตื่นแต่เช้ามาทำอาหาร แล้วรีบเช็คเอาท์จากโรงแรม
ใช้วิธีเดิมครับ ทำมื้อกลางวันใส่กล่องเอาไว้ทานระหว่างเทรคอันยาวนาน
น้ำ กล้วยหอม นม ช๊อคโกแลต กล่องอาหารกลางวัน กล้อง เลนส์ และ Trekking Pole ทั้งหมดอยุ่ในเป้ที่เราแบกบนหลังทุกวันและในทุกเทรคครับ!
จัดแจงทุกอย่างเสร็จ ก็เช็คเอ้าท์ออกจาก Stavanger ลัดเลาะป่า เขา ลำเนาไพร เพื่อที่จะไปประเดิมเขาแรกที่ Kjerag ไม่ใกล้ไม่ไกลครับ
จาก Google Map หา Kjerag Parking เลยนะครับ มันจะนำทางคุณไปสู่ตีนเขากันเลย
ขับรถชมนกชมไม้นอร์เวย์ไม่นาน เราก็มาถึงละครับ
จ่ายเงินค่าจอดรถ 200NK คูณ 4 เข้าไป ก็แพงอยู่ แต่สำหรับนอร์เวย์ ไม่มีที่ไหนถูกครับ!!
Fact About Kjerag: เดินไปกลับประมาณ 12 กม. ยกระดับความสูงประมาณ 600 เมตร ระยะเวลาเดินไปกลับ 7 ชม.
จากจุดจอดรถเริ่มต้นเดินคือชันและลื่นมากครับ เป็นโขดหินล้วนๆ
เริ่มกิโลเมตรแรกนี่วัดใจมากๆ เคลื่อนตัวได้ช้า หลายจุดมีโซ่ให้จับกันลื่นและให้ดึงตัวครับ
หลังโซ่คือหน้าผาซึ่งด้านล่างคือ Lysefjord ที่ลึกประมาณ 600 เมตรเองค้าบบบ !!!
ไต่ระดับกันไม่หยุด ที่คิดว่าน่าจะถึงยอดแล้ว เมื่อขึ้นมายังมีที่ให้ต้องไต่ต้องปีนต้องคลานกันต่อไปเรื่อยๆ T T
ในใจก็แอบคิดแต่ว่า นี่เทรคแรกจาก 6 อันที่แพลนเอาไว้เองนะ
หลังจากปีนป่าย เกาะโซ่ เกาะหินสักพักใหญ่ ก็มาถึงจุดที่ถ้าเป็นภูกระดึง ก็เรียกว่า หลังแป ก็คือทางราบ
เดินผ่าน เนินเล็กเนินน้อยไปเรื่อยๆ ชิลๆ เลยครับ
ป้ายบอกทางมีเห็นเป็นระยะกับจำนวนตัวเลขที่ลดลงเรื่อยๆ เหมือนการเค้าท์ดาวน์นับถอยหลังอย่างไรอย่างนั้น
ก้อนหินวัดใจแห่งนอร์เวย์ ใกล้ให้เราได้มาลองความกล้าละครับ
เจ้าก้อนหินก้อนนี้ Kjeragbolten เกิดขึ้นหลังจากที่ยุคนำ้แข็งละลายลง หินเจ้ากรรมก็พัดมาตามน้ำแข็งที่ละลาย
และมาติด ห้อยโตงเตงอยู่ตรงนี้เลยครับ
ขาสั่น ผับ ผับ ผับ ...
อื้อหือออ ยังไงละครับ สุดๆ ไปเลย วัดใจกันจริงๆ พอไปถึงหน้างาน เรากลัวกันมากกกกกกกก เพราะของจริงเสียวกว่าที่จิ้นไว้คูณ 10!!!
คือเราก็รู้แหละว่ามันน่ากลัว แต่ของจริงคือ น่ากลัวมากกกกก (ทุกวันนี้เวลานึกว่ายืนอยู่บนนั้นยังเสียวฝ่าเท้าอยู่เลย 555)
ก้อนหินหนึ่งก้อนที่มีพื้นที่ไม่น่าเกิน 3 ตรม. บนความสูง 600 เมตร!
ถ้าเกิดลื่นหรือหน้ามืดขณะนั้นคือ คุณก็จะได้ชื่อว่า คือผู้สิ้นชีพิตักษัยที่นอร์เวย์ได้ทันทีครับ
ด้านหลังก้อนหินด้านซ้ายจะมีโซ่สั้นๆ ให้คุณจับเพื่อเดินผ่านทางแคบ (ซึ่งก็แคบมากกก ซึ่งถ้าตกไปก็ม้วยมรณาเช่นกัน)
เพื่อ่ไปยังก้อน Kjeragbolten นี้ แถมยังมีป้ายติดตรงนั้นอีกว่า ระวังตกลงไปตาย เอออเนอะ ไม่บอกก็พอจะเดาออกค้าบบบบ 555!
ก่อนหน้าเราจะไปเราก็คิดว่าด้านล่างหินก้อนนั้น คงมีพื้นหรือไม่ก็ตาข่าย เพื่อความปลอดภัย แต่ของจริงคือ ไม่เลย! ไม่มีอะไรเลยยย ก้มลงไปมองก็คือ ดิ่งโล่งไปยังตลิ่งด้านล่างแล้วก็น้ำเลย
ด้านหลังและด้านล่างของเจ้าก้อน Kjeragbolten คือ Lysefjord ซึ่งพอหลังจากผ่านยุคน้ำแข็งบริเวณนี้ก็ละลายหมด เกิดขึ้นเป็นฟยอร์ดและเจ้าก้อนหินก้อนนี้ได้พัดมาละมาค้างเติ่งจนเกิดเป็นหินวัดใจของนอร์เวย์ให้เราได้ไปยืนแอคท่าถ่ายรูปลงไอจีสวยๆ กันครับ
ถ่ายรูปหนำใจก็เดินลงกลับทางเดิมครับ ชมวิวงามๆ เรื่อยเปื่อยเต็มที่ไปเลยครับ นี่แหล่ะครับข้อดีของการขับรถมาเอง
ลงมาถึงที่จอดรถหายเหนื่อยก็ขับลงรถเขา เพื่อไปขึ้น Car Ferry ที่ท่า Lysebotn ที่ต้องขับผ่านนี่เลยครับ
*ภาพนี้จากกูเกิ้ลครับ ถ่ายเองไม่ได้แบบนี้แน่นอน 555
มุมซ้ายบนคือที่จอดรถที่เราเพิ่งออกมาจาก Kjerag ขับผ่าน 28 ทางโค้งหักศอกลงมา สนุกและตื่นเต้นดีครับ
ด้านล่างเรามารอขึ้น Car Ferry เพื่อชมวิว Lysefjord ครับ
ท่าขึ้นเรือก็เหมือนๆ ทั่วไปในนอร์เวย์ จอดตามช่องตามเลน สักพักก็มีคนมาเดินเก็บเงินครับ
ป้ายบอกทาง จะเห็นได้ว่า Kjerag ที่เราเพิ่งลงมาแค่ 7 กม.เองครับ
******************เดี๋ยวมาต่อนะครับ*******************
Norway เสียวสุดใจ (Norwegian's Rock Stars and The Lofotens)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวพันทิป
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับการ #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ
ในเมื่ออยู่บ้านก็แล้ว WFH ก็แล้ว ไม่มีอะไรทำ ก็ได้เวลาขุดกรุ ทริปเก่าที่แพลนว่าจะทำรีวิวมาตั้งนานแล้วมาได้ลงจอกันสักที
จริงๆ ทริปนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ เดือน มิ.ย.ปีที่แล้วล่ะครับ แต่เริ่มแพลนทริปจริงๆ ก็ตั้งแต่ต้นปี 2019 เลยทีเดียว
รายละเอียด Trip Plan ต่างๆ ก็หามาจากหลายที่เลยครับ โดยเฉพาะจากในพันทิป แล้วก็มีอันนี้ครับที่ผมชอบอ่านมากๆ กะทัดรัด แถมมีเส้นทาง Treks ต่างๆ จากหลายจุดทั่วโลกเลยครับ แนะนำเลยครับ
https://www.earthtrekkers.com/destination-norway/
อีกอันก็คืออันนี้ครับ ข้อมูลแน่นเอี๊ยด
https://thefjords.no/
ผมแบ่งทริปนอร์เวย์นี้ออกเป็น 2 ส่วน ตาม Area ที่เราจะไปครับ ส่วนใหญ่ก็จะไปเดินป่า ปีนเขาตามเส้นทางเทรคที่มีธรรมชาติอันสวยงามของประเทศนี้ เนื่องจากเป็นการชอบส่วนตัวครับที่ได้เดินเล่นดูแลนด์สเคปสวยๆ ได้ถ่ายรูป ซึมซับอากาศบริสุทธิให้เต็มปอด ก่อนกลับมาสู้ความจริงกับชีวิตเมืองบ้านเรากันต่อไป
ส่วนแรกเราจะไปอยู่กันทางตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ครับ
เส้นทางเดินเขาที่เราจะไปมีอยู่ 3 จุดซึ่งเ ป็นเส้นทางอันโด่งดังครับ นั่นคือ Kjerag, Preikestolen และ Trolltunga โดยเราจะใช้เมือง Bergen, Stavanger และ Odda เป็นที่พักหลักในการเตรียมเดินเทรคครับ
ส่วนที่ 2 เราจะขึ้นเหนือไปยังหมู่เกาะ Lofoten ซึ่งก็จะไปเดินๆ ปีนป่ายกันต่ออีก 3 ที่คือ Reinebringen, Ryten และ Værøy
พร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยครับ
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมรูทบินถึงเป็นแบบนี้นะครับ ช่วงนั้นที่บิน อัฟกานิสถานปิดน่านฟ้าครับ เราเลยต้องบินพุ่งขึ้นเหนืออย่างที่เห็น
การเดินทางของเรารอบนี้ เราเลือกบินกับ FINNAIR ครับ เนื่องจาก Bergen ไม่มีเครื่องบินตรง
ก็เลือกเอาตามสะดวกได้เลยนะครับ ว่าอยากจะไปเปลี่ยนเครื่องที่ไหน
ไม่ว่าจะเป็น Oslo, Copenhagen หรือ Stockholm มีบินต่อไป Bergen หมด แต่ผมเลือก Helsinki ครับ บินไม่ย้อนไปมาดี
ฟินแอร์ลูกเรือบริการดีมากๆเลยครับ ดียิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเจอพี่ลูกเรือที่รู้จักกัน วันนี้เลยได้ทาน Haagen-Daz ก่อนเข้านอน 😊
ที่ชอบมากอีกอย่างคือ Aminity Kit และผลิตภันฑ์อื่นๆ บนเครื่อง ใช้ Mariemekko ซึ่งเป็นแบรนด์ดังของฟินแลนด์เอง
อันนี้ดีมากครับ เพราะชอบเป็นการส่วนตัว 555
ถึง Helsinki แล้วเราก็เตรียมตัวเดินทางต่อไป Bergen ครับ โดยต้องบินไปแวะพักเครื่องสั้นๆ ที่ Stockholm อีก 1 รอบ
เป็นการแวะพักแบบสั้นมากๆ ไม่ถึง 45 นาที เราไม่ต้องลงจากเครื่องครับ คนที่จะลงป้ายนี้ก็ลงไป คนจะเดินทางต่อก็นั่งรอบนเครื่อง แล้วผู้โดยสารใหม่ที่จะเดินทางไป Bergen ก็ขึ้นมาสมทบ....อารมณ์คล้ายรถเมล์เลยครับ 555
ถึงสนามบิน Bergen แล้วครับ แต่เราจะอยู่แค่สนามบิน เดี๋ยวจะแวะกลับมาเที่ยว Bergen แบบเต็มๆก่อนที่จะไป Lofoten ครับ
เรารับรถที่จองไว้กับ Budget ที่สนามบินได้เลย ขั้นตอนง่ายมากๆ (แต่ค่าเช่ารถขับในนอร์เวย์คือแพงสุดๆ โดยเฉพาะที่ Lofoten T T) ถ้าอยากประหยัดเงินในกระเป๋าหน่อย Bergen เค้าเป็นจุดศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ จึงมีบริการรถบัสไปตามสถานที่เหล่านี้ทั้งหมดนะครับ
ปักหมุดเส้นทางเดินเขาที่จะไปเดินได้ตามนี้ครับ เราจะขับรถเรียงตามลำดับจากจุด A เวียนทวนเข็มนาฬิกากลับมาที่ Bergen ที่จุด E เลยครับ
ส่วนเส้นทางเทรคจะเริ่มที่จุด B คือ Kjerag, C คือ Preikestolen หรือที่หลายคนเรียก Pupit Rock ส่วนจุด D คือ Trolltunga ครับ
โดยจะเลือก Bergen หรือ Stavanger เป็นจุดเริ่มก็ได้นะครับ แล้วเลือกขับแบบทวนเข็มหรือตามเข็มนาฬิกา ส่วนผมเลือกเริ่มและจบที่ Bergen และขับทวนเข็มนาฬิกา เพราะอะไรเดี๋ยวจะมาบอกนะครับ 😉
พร้อมแล้วขับมุ่งลงใต้ไปเมือง Stavanger ที่พักคืนแรกบนแผ่นดินนอร์เวย์กันเลยครับ
ถนนในนอร์เวย์ ขับนอกเมืองปุ๊บเป็นเลนสวนปั๊บ แต่ถือว่าขับง่ายครับ คนขับดูมีวินัยขับตาม Speed Limit กันส่วนใหญ่
เนื่องจากภูมิประเทศเป็นทั้งภูเขา เกาะแก่ง ตลอดทาง ถนนจะมีทั้งอุโมงค์ สะพานหรือแม้แต่ Car Ferry ตลอดเส้นทางเลยครับ
เมื่อเราขับมาถึงจุดทีต้องลง Car Ferry จะมีช่องบอกให้จอดตามเลขและตามชนิดของรถหรือแม้แต่ตามจุดหมายปลายทาง
สักพักก็จะมีพนักงานมาเดินเก็บเงินครับ เงินสดก็ได้ บัตรเครดิตก็จะมีเครื่องรูดแบบมือถือพกมารูดกันตรงนั้นเลยครับ
สะดวก รวดเร็ว ง่ายและดูมีระเบียบดีมากเลยครับ
พอเรือมาก็ขับตามช่องของหมายเลขละไปจอดต่อๆ กันครับ บางพอร์ทก็แค่ 15 นาที บางพอร์ท ก็เกือบ ชม.เลยครับ
บนเรือมีอาหารจำหน่าย มีพวกอาหารเบาๆ พวกไส้กรอก แฮมเบอร์เกอร์
บ้างก็อาหารหนักแบบจานใหญ่โตมีเครื่องดื่ม ขนม ไอศกรีมจำหน่าย แล้วก็มีห้องน้ำให้บริการฟรีครับ
นอร์เวย์ก็เหมือนประเทศอื่นๆ ในยุโรปนะครับ ที่ห้องน้ำจะต้องเสียเงินเข้า เวลาเจอห้องน้ำฟรีที่ไหน เราเลยต้องรีบใช้สิทธิ์ก่อนครับ 😉
เวลาผ่านไม่นานเราก็ขับมาถึง Stavanger ละครับ
เย็นนี้เราพอมีเวลา ก็เลยชวนกันมาเดินในเมืองถ่ายรูปเล่นๆกัน
เอาจริงๆ นี่ก็กว่า 24 ชม. แล้วที่ยังไม่ได้นอนแบบจริงจัง หลังจากออกมาจากกรุงเทพฯ ครับ ถถถ
โทรล: สิ่งมีชีวิตลี้ลับในตำนานของชาวสแกนดิเนเวีย แต่ตอนนี้พบได้ทั่วไปในร้านขายของที่ระลึกครับ
เดินเล่นรอบๆ เขตเมืองเก่าใน Stavanger จนเริ่มง่วงละ
ก็พากันมาเช็คอินที่โรงแรม เตรียมตัวนอนเก็บแรงสำหรับเทรคแรกของนอร์เวย์ พรุ่งนี้เจอกันครับ Kjerag
วันที่ 3 ของการเดินทาง วันนี้จะได้ปีนเขานอร์เวย์จริงๆ สักที
เราตื่นแต่เช้ามาทำอาหาร แล้วรีบเช็คเอาท์จากโรงแรม
ใช้วิธีเดิมครับ ทำมื้อกลางวันใส่กล่องเอาไว้ทานระหว่างเทรคอันยาวนาน
น้ำ กล้วยหอม นม ช๊อคโกแลต กล่องอาหารกลางวัน กล้อง เลนส์ และ Trekking Pole ทั้งหมดอยุ่ในเป้ที่เราแบกบนหลังทุกวันและในทุกเทรคครับ!
จัดแจงทุกอย่างเสร็จ ก็เช็คเอ้าท์ออกจาก Stavanger ลัดเลาะป่า เขา ลำเนาไพร เพื่อที่จะไปประเดิมเขาแรกที่ Kjerag ไม่ใกล้ไม่ไกลครับ
จาก Google Map หา Kjerag Parking เลยนะครับ มันจะนำทางคุณไปสู่ตีนเขากันเลย
ขับรถชมนกชมไม้นอร์เวย์ไม่นาน เราก็มาถึงละครับ
จ่ายเงินค่าจอดรถ 200NK คูณ 4 เข้าไป ก็แพงอยู่ แต่สำหรับนอร์เวย์ ไม่มีที่ไหนถูกครับ!!
Fact About Kjerag: เดินไปกลับประมาณ 12 กม. ยกระดับความสูงประมาณ 600 เมตร ระยะเวลาเดินไปกลับ 7 ชม.
จากจุดจอดรถเริ่มต้นเดินคือชันและลื่นมากครับ เป็นโขดหินล้วนๆ
เริ่มกิโลเมตรแรกนี่วัดใจมากๆ เคลื่อนตัวได้ช้า หลายจุดมีโซ่ให้จับกันลื่นและให้ดึงตัวครับ
หลังโซ่คือหน้าผาซึ่งด้านล่างคือ Lysefjord ที่ลึกประมาณ 600 เมตรเองค้าบบบ !!!
ไต่ระดับกันไม่หยุด ที่คิดว่าน่าจะถึงยอดแล้ว เมื่อขึ้นมายังมีที่ให้ต้องไต่ต้องปีนต้องคลานกันต่อไปเรื่อยๆ T T
ในใจก็แอบคิดแต่ว่า นี่เทรคแรกจาก 6 อันที่แพลนเอาไว้เองนะ
หลังจากปีนป่าย เกาะโซ่ เกาะหินสักพักใหญ่ ก็มาถึงจุดที่ถ้าเป็นภูกระดึง ก็เรียกว่า หลังแป ก็คือทางราบ
เดินผ่าน เนินเล็กเนินน้อยไปเรื่อยๆ ชิลๆ เลยครับ
ป้ายบอกทางมีเห็นเป็นระยะกับจำนวนตัวเลขที่ลดลงเรื่อยๆ เหมือนการเค้าท์ดาวน์นับถอยหลังอย่างไรอย่างนั้น
ก้อนหินวัดใจแห่งนอร์เวย์ ใกล้ให้เราได้มาลองความกล้าละครับ
เจ้าก้อนหินก้อนนี้ Kjeragbolten เกิดขึ้นหลังจากที่ยุคนำ้แข็งละลายลง หินเจ้ากรรมก็พัดมาตามน้ำแข็งที่ละลาย
และมาติด ห้อยโตงเตงอยู่ตรงนี้เลยครับ
ขาสั่น ผับ ผับ ผับ ...
อื้อหือออ ยังไงละครับ สุดๆ ไปเลย วัดใจกันจริงๆ พอไปถึงหน้างาน เรากลัวกันมากกกกกกกก เพราะของจริงเสียวกว่าที่จิ้นไว้คูณ 10!!!
คือเราก็รู้แหละว่ามันน่ากลัว แต่ของจริงคือ น่ากลัวมากกกกก (ทุกวันนี้เวลานึกว่ายืนอยู่บนนั้นยังเสียวฝ่าเท้าอยู่เลย 555)
ก้อนหินหนึ่งก้อนที่มีพื้นที่ไม่น่าเกิน 3 ตรม. บนความสูง 600 เมตร!
ถ้าเกิดลื่นหรือหน้ามืดขณะนั้นคือ คุณก็จะได้ชื่อว่า คือผู้สิ้นชีพิตักษัยที่นอร์เวย์ได้ทันทีครับ
ด้านหลังก้อนหินด้านซ้ายจะมีโซ่สั้นๆ ให้คุณจับเพื่อเดินผ่านทางแคบ (ซึ่งก็แคบมากกก ซึ่งถ้าตกไปก็ม้วยมรณาเช่นกัน)
เพื่อ่ไปยังก้อน Kjeragbolten นี้ แถมยังมีป้ายติดตรงนั้นอีกว่า ระวังตกลงไปตาย เอออเนอะ ไม่บอกก็พอจะเดาออกค้าบบบบ 555!
ก่อนหน้าเราจะไปเราก็คิดว่าด้านล่างหินก้อนนั้น คงมีพื้นหรือไม่ก็ตาข่าย เพื่อความปลอดภัย แต่ของจริงคือ ไม่เลย! ไม่มีอะไรเลยยย ก้มลงไปมองก็คือ ดิ่งโล่งไปยังตลิ่งด้านล่างแล้วก็น้ำเลย
ด้านหลังและด้านล่างของเจ้าก้อน Kjeragbolten คือ Lysefjord ซึ่งพอหลังจากผ่านยุคน้ำแข็งบริเวณนี้ก็ละลายหมด เกิดขึ้นเป็นฟยอร์ดและเจ้าก้อนหินก้อนนี้ได้พัดมาละมาค้างเติ่งจนเกิดเป็นหินวัดใจของนอร์เวย์ให้เราได้ไปยืนแอคท่าถ่ายรูปลงไอจีสวยๆ กันครับ
ถ่ายรูปหนำใจก็เดินลงกลับทางเดิมครับ ชมวิวงามๆ เรื่อยเปื่อยเต็มที่ไปเลยครับ นี่แหล่ะครับข้อดีของการขับรถมาเอง
ลงมาถึงที่จอดรถหายเหนื่อยก็ขับลงรถเขา เพื่อไปขึ้น Car Ferry ที่ท่า Lysebotn ที่ต้องขับผ่านนี่เลยครับ
*ภาพนี้จากกูเกิ้ลครับ ถ่ายเองไม่ได้แบบนี้แน่นอน 555
มุมซ้ายบนคือที่จอดรถที่เราเพิ่งออกมาจาก Kjerag ขับผ่าน 28 ทางโค้งหักศอกลงมา สนุกและตื่นเต้นดีครับ
ด้านล่างเรามารอขึ้น Car Ferry เพื่อชมวิว Lysefjord ครับ
ท่าขึ้นเรือก็เหมือนๆ ทั่วไปในนอร์เวย์ จอดตามช่องตามเลน สักพักก็มีคนมาเดินเก็บเงินครับ
ป้ายบอกทาง จะเห็นได้ว่า Kjerag ที่เราเพิ่งลงมาแค่ 7 กม.เองครับ
******************เดี๋ยวมาต่อนะครับ*******************