KOBE เมืองท่าอันแสนสงบที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมอันหลากหลาย ที่ได้รับจากการที่ได้เป็นเมืองท่าที่สำคัญที่มีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติมาโดยตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้เมือง KOBE ดูมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งเราจะสามารถเห็นสถาปัตยกรรมในหลายๆแห่งจะดูมีความเป็นตะวันตกมาก KOBE เป็นเมืองเล็กที่สามารถเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับได้ หากที่ท่องเที่ยวในภูมิภาค Kansai เราขอแนะเราให้ลองมาเที่ยว KOBE สักหนึ่งวันแล้วจะรู้ว่า KOBE ไม่ได้มีดีแค่เนื้อย่าง
เมือง KOBE เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพที่สวยงามและพิเศษกว่าเมืองอื่นๆนั่นก็คือ เราจะสามารถมองเห็นทั้งวิวของทะเล, ภูเขาและตัวเมืองได้ในคราวเดียวกัน เป็นเมืองเล็กที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนตากอากาศ ใครที่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวที่สงบๆแต่ยังอยู่ในเมืองที่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบครัน เราของแนะนำให้มาที่นี่เลย จะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันครับ
ที่แรกถ้าไม่มาก็คงไม่ได้เพราะถือว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ Kobe Port Tower เป็นอาคารชมวิวติดริมทะเล ตัวอาคารมีการออกแบบที่แปลกตาทำเป็นทรงเกลียวเลียนแบบรูปทรงของกลองยาวของญี่ปุ่น และยังเป็นอาคารแรกของโลกที่มีรูปทรงแบบท่อ
Kobe Port Tower มีความสูง 108 เมตร มีทั้งหมด 5 ชั้น ในรูปนี้ก็จะเป็นชั้น 5 เป็นจุดชมวิวเมืองโกเบที่สามารถมองได้ 360 องศาเลย ทั้งตัวเมืองโกเบ, บริเวณท่าเรือ, ภูเขา Rokko และอ่าวโอซาก้า ที่ชั้น 4 ก็เป็นจุดชมวิวเหมือนกัน ส่วนชั้น 2 และ 3 ก็จะเป็นร้านอาหาร และชั้น 1 ก็จะเป็นที่ขายตัวและของที่ระลึกต่างๆ
หลังจากชมวิวเสร็จแล้วเดินไปไม่ไกลก็จะเจอกับ Kobe maritime museum เป็นพิพิธภัณฑ์การเดินเรือ หาเจอแน่นอนเพราะตัวอาคารมีรูปร่างแปลกเด่นสะดุดมากที่สุดในย่านนั้นเลย ภายในอาคารจะประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์ 2 อย่าง คือพิพิธภัณฑ์ที่เกียวกับการเรือเดินทะเลของเมืองโกเบและพิพิธภัณฑ์คาวาซากิ
ในโซนแรกก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์เรือเดินทะเลจะแสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการเดินเรือของญี่ปุ่น รวมทั้งจะมีการจัดแสดงเรือขนาดเท่าของจริงและเรือโมเดลให้ชมด้วย ก็จะเล่าถึงประวัติตั้งแต่ยุคแรกที่ยังใช้เรือสำเภาในการเดินเรือ จนมาถึงในยุคปัจจุบันที่เรือได้นำเครื่องมืออันทันสมัยในการเดินเรือ
ในโซนที่สองก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ Kawazaki World ก็จะมีประวัติของบริษัคาวาซากิและสิ่งบริษัทเคยสร้างเอาไว้ขนาดเท่าของจริงมากมายเช่น มอเตอร์ไซต์ หัวรถไฟ รวมถึงหัวรถไฟชินคันเซนด้วย เฮลิคอปเตอร์ รวมทั้งหุ่นยนตร์ โซนนี้เด็กน่าจะชอบเพราะจะสามารถมีส่วนร่วมกับงานค่อยข้างเยอะ เค้าก็จะมีการจำลองห้องขับของยานพาหนะต่างๆให้เราได้ลองขับเหมือนกับว่าเราได้ขับยานพาหนะนั้นจริงๆ เราชอบโซนนี้สนุกดีไม่น่าเบื่อ
ด้วยตัวอาคารที่มีรูปทรงแปลกตาสวยงาม เราเลยออกมาหามุมสวยๆถ่ายรูปเล่นสักหน่อย
เมื่อเดินไปต่อไม่ไกลก็จะเจอกับ Meriken Park เป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวโกเบ เราจะเห็นชาวโกเบออกมานั่งปิกนิกในสวนและริมอ่าว หรือบางทีเราก็จะเห็นชาวโกเบนำครอบครัวมาทำกิจกรรมและพักผ่อนกันที่นี่ ความสวยงานของที่นี่ก็คงเป็นของวิวของอ่าวโกเบที่มีความสงบและสวยงาม
ในบริเวณนี้ก็จะมี Port of Kobe Earthquake Memorial Park เป็นอุทยานอนุสรณ์ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ถือว่าร้ายแรงที่สุดในรอบ 72 ปี ดูจากซากซากปรักหักพังกูรู้เลยว่ารุนแรงจริงๆ
ไปต่อที่ Kobe City Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโกเบเลยก็ว่าได้ โดยภายในนิทรรศการถาวรของพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงคอลเลกชั่นแผ่นที่ของภูมิภาค และยุคสมัยต่างๆของประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับการแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศ
นี่ก็เป็นบรรยากาศภายใน Kobe City Museum เสียค่าเข้าชม 200 เยน เปิดให้เข้าชมตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น หากใครที่ชอบเที่ยวชมศึกษาประวัติศาสตร์หรือชมวัตถุโบราณก็ลองแวะมาดูได้ครับรับรองได้ว่าเห็นอะไรแปลกใหม่แน่นอน
ตกเย็นก้เริ่มหิวแล้วไปหาของกินที่แห่งอาหารชื่อดังนั่นก็คือ Chinatown Kobe หรือที่คนท้องถิ่นมักจะเรียกกันว่า “ย่านนานกิ่งมะชิ” ก็จะเป็นย่านอาหารจีนที่ดังที่สุดในโกเบเลย คนมาเยอะมากดูคึกคักเป็นพิเศษ
แสงไฟจากโคมไฟส่องสว่างสวยงาม ร้านอาหารน่ากินหลายร้านมากจนเลือกไม่ถูก บางร้านคนต่อแถวยาวมากดูๆแล้วน่าจะอร่อยแต่บางทีแถวยาวเกินจนเราต้องยอมแพ้ไปกินร้านอื่น หรือใครที่อยากชิมหลายๆอย่างก็ไม่ต้องเข้าร้านใหญ่ๆก็ได้ ให้ซื้อแบบร้านที่ขายแบบห่อกลับบ้านแล้วเดินไปกินไปเรื่อยๆก็จะได้ก่อนเยอะหน่อย
กินอิ่มแล้วก็ไปเดินช้องปิ้งต่อที่ย่าน kobe motomachi shopping street ไปง่ายเพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟ เป็นซอยเล็กๆในร่มที่ยาวมากๆ ขนานไปกับทางรถไฟ มีร้านขายของยาวตลอด 2 ข้างทาง มีสินค้าหลากหลายประเภทตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า ของที่ระลึก เครื่องสำอางค์ คาเฟ่ เบอเกอรี่ ร้านอาหาร ร้านขนม และเสื้อผ้า
ถ้าเราเดินไปเรื่อยๆก็จะเชื่อมกับ Sannomiya Center Gai Shopping Street คือกะให้นักท่องเที่ยวช้อปกับแบบ non stop เดินกันขาลากกันเลยทีเดียว สายช้อปปิ้งน่าจะฟินเพราะสามารถเดินได้ยาวๆเพลินๆ
สามารถดูคลิปได้ตามลิ้งนี้เลย
EP.4 - Kobe
https://youtu.be/uYo4bH15EVY
EP.3 - Nara
https://youtu.be/4xqCM2yPops
EP.2 - Kyoto
https://youtu.be/Akcp3eTXlVw
EP.1 - Osaka
https://youtu.be/PxPIjwPF49w
สำหรับบทความตอนอื่นๆตามลิ้งค์นี้เลย
EP.4 - Kobe
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2847450905373894&id=2007915179327475
EP.3 - Nara
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2801293176656334&id=2007915179327475
EP.2 - Koyto
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2658235667628753&id=2007915179327475
EP.1 - Osaka
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2609656515820002&id=2007915179327475
ฝากกดติดตามเพจ One free day ด้วยนะครับ
Face book - One free day : เพจท่องเที่ยว
https://www.facebook.com/onefreedaytravel/
IG - tae_thanit
https://www.instagram.com/tae_thanit/?hl=th
You tube - One free day
https://youtu.be/qeSDkPRABhU
[CR] One free day : Japan EP.4 เที่ยวโกเบ (์Kobe)
เมือง KOBE เป็นเมืองที่มีทัศนียภาพที่สวยงามและพิเศษกว่าเมืองอื่นๆนั่นก็คือ เราจะสามารถมองเห็นทั้งวิวของทะเล, ภูเขาและตัวเมืองได้ในคราวเดียวกัน เป็นเมืองเล็กที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนตากอากาศ ใครที่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวที่สงบๆแต่ยังอยู่ในเมืองที่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆอย่างครบครัน เราของแนะนำให้มาที่นี่เลย จะมีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันครับ
ที่แรกถ้าไม่มาก็คงไม่ได้เพราะถือว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ Kobe Port Tower เป็นอาคารชมวิวติดริมทะเล ตัวอาคารมีการออกแบบที่แปลกตาทำเป็นทรงเกลียวเลียนแบบรูปทรงของกลองยาวของญี่ปุ่น และยังเป็นอาคารแรกของโลกที่มีรูปทรงแบบท่อ
Kobe Port Tower มีความสูง 108 เมตร มีทั้งหมด 5 ชั้น ในรูปนี้ก็จะเป็นชั้น 5 เป็นจุดชมวิวเมืองโกเบที่สามารถมองได้ 360 องศาเลย ทั้งตัวเมืองโกเบ, บริเวณท่าเรือ, ภูเขา Rokko และอ่าวโอซาก้า ที่ชั้น 4 ก็เป็นจุดชมวิวเหมือนกัน ส่วนชั้น 2 และ 3 ก็จะเป็นร้านอาหาร และชั้น 1 ก็จะเป็นที่ขายตัวและของที่ระลึกต่างๆ
หลังจากชมวิวเสร็จแล้วเดินไปไม่ไกลก็จะเจอกับ Kobe maritime museum เป็นพิพิธภัณฑ์การเดินเรือ หาเจอแน่นอนเพราะตัวอาคารมีรูปร่างแปลกเด่นสะดุดมากที่สุดในย่านนั้นเลย ภายในอาคารจะประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์ 2 อย่าง คือพิพิธภัณฑ์ที่เกียวกับการเรือเดินทะเลของเมืองโกเบและพิพิธภัณฑ์คาวาซากิ
ในโซนแรกก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์เรือเดินทะเลจะแสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการเดินเรือของญี่ปุ่น รวมทั้งจะมีการจัดแสดงเรือขนาดเท่าของจริงและเรือโมเดลให้ชมด้วย ก็จะเล่าถึงประวัติตั้งแต่ยุคแรกที่ยังใช้เรือสำเภาในการเดินเรือ จนมาถึงในยุคปัจจุบันที่เรือได้นำเครื่องมืออันทันสมัยในการเดินเรือ
ในโซนที่สองก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ Kawazaki World ก็จะมีประวัติของบริษัคาวาซากิและสิ่งบริษัทเคยสร้างเอาไว้ขนาดเท่าของจริงมากมายเช่น มอเตอร์ไซต์ หัวรถไฟ รวมถึงหัวรถไฟชินคันเซนด้วย เฮลิคอปเตอร์ รวมทั้งหุ่นยนตร์ โซนนี้เด็กน่าจะชอบเพราะจะสามารถมีส่วนร่วมกับงานค่อยข้างเยอะ เค้าก็จะมีการจำลองห้องขับของยานพาหนะต่างๆให้เราได้ลองขับเหมือนกับว่าเราได้ขับยานพาหนะนั้นจริงๆ เราชอบโซนนี้สนุกดีไม่น่าเบื่อ
ด้วยตัวอาคารที่มีรูปทรงแปลกตาสวยงาม เราเลยออกมาหามุมสวยๆถ่ายรูปเล่นสักหน่อย
เมื่อเดินไปต่อไม่ไกลก็จะเจอกับ Meriken Park เป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวโกเบ เราจะเห็นชาวโกเบออกมานั่งปิกนิกในสวนและริมอ่าว หรือบางทีเราก็จะเห็นชาวโกเบนำครอบครัวมาทำกิจกรรมและพักผ่อนกันที่นี่ ความสวยงานของที่นี่ก็คงเป็นของวิวของอ่าวโกเบที่มีความสงบและสวยงาม
ในบริเวณนี้ก็จะมี Port of Kobe Earthquake Memorial Park เป็นอุทยานอนุสรณ์ เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ถือว่าร้ายแรงที่สุดในรอบ 72 ปี ดูจากซากซากปรักหักพังกูรู้เลยว่ารุนแรงจริงๆ
ไปต่อที่ Kobe City Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโกเบเลยก็ว่าได้ โดยภายในนิทรรศการถาวรของพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงคอลเลกชั่นแผ่นที่ของภูมิภาค และยุคสมัยต่างๆของประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับการแลกเปลี่ยนจากต่างประเทศ
นี่ก็เป็นบรรยากาศภายใน Kobe City Museum เสียค่าเข้าชม 200 เยน เปิดให้เข้าชมตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น หากใครที่ชอบเที่ยวชมศึกษาประวัติศาสตร์หรือชมวัตถุโบราณก็ลองแวะมาดูได้ครับรับรองได้ว่าเห็นอะไรแปลกใหม่แน่นอน
ตกเย็นก้เริ่มหิวแล้วไปหาของกินที่แห่งอาหารชื่อดังนั่นก็คือ Chinatown Kobe หรือที่คนท้องถิ่นมักจะเรียกกันว่า “ย่านนานกิ่งมะชิ” ก็จะเป็นย่านอาหารจีนที่ดังที่สุดในโกเบเลย คนมาเยอะมากดูคึกคักเป็นพิเศษ
แสงไฟจากโคมไฟส่องสว่างสวยงาม ร้านอาหารน่ากินหลายร้านมากจนเลือกไม่ถูก บางร้านคนต่อแถวยาวมากดูๆแล้วน่าจะอร่อยแต่บางทีแถวยาวเกินจนเราต้องยอมแพ้ไปกินร้านอื่น หรือใครที่อยากชิมหลายๆอย่างก็ไม่ต้องเข้าร้านใหญ่ๆก็ได้ ให้ซื้อแบบร้านที่ขายแบบห่อกลับบ้านแล้วเดินไปกินไปเรื่อยๆก็จะได้ก่อนเยอะหน่อย
กินอิ่มแล้วก็ไปเดินช้องปิ้งต่อที่ย่าน kobe motomachi shopping street ไปง่ายเพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟ เป็นซอยเล็กๆในร่มที่ยาวมากๆ ขนานไปกับทางรถไฟ มีร้านขายของยาวตลอด 2 ข้างทาง มีสินค้าหลากหลายประเภทตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า ของที่ระลึก เครื่องสำอางค์ คาเฟ่ เบอเกอรี่ ร้านอาหาร ร้านขนม และเสื้อผ้า
ถ้าเราเดินไปเรื่อยๆก็จะเชื่อมกับ Sannomiya Center Gai Shopping Street คือกะให้นักท่องเที่ยวช้อปกับแบบ non stop เดินกันขาลากกันเลยทีเดียว สายช้อปปิ้งน่าจะฟินเพราะสามารถเดินได้ยาวๆเพลินๆ
สามารถดูคลิปได้ตามลิ้งนี้เลย
EP.4 - Kobe
https://youtu.be/uYo4bH15EVY
EP.3 - Nara
https://youtu.be/4xqCM2yPops
EP.2 - Kyoto
https://youtu.be/Akcp3eTXlVw
EP.1 - Osaka
https://youtu.be/PxPIjwPF49w
สำหรับบทความตอนอื่นๆตามลิ้งค์นี้เลย
EP.4 - Kobe
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2847450905373894&id=2007915179327475
EP.3 - Nara
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2801293176656334&id=2007915179327475
EP.2 - Koyto
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2658235667628753&id=2007915179327475
EP.1 - Osaka
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2609656515820002&id=2007915179327475
ฝากกดติดตามเพจ One free day ด้วยนะครับ
Face book - One free day : เพจท่องเที่ยว
https://www.facebook.com/onefreedaytravel/
IG - tae_thanit
https://www.instagram.com/tae_thanit/?hl=th
You tube - One free day
https://youtu.be/qeSDkPRABhU
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้