ด่วน!!กพท. ออกประกาศห้ามทุกแอร์ไลน์บินเข้าไทย 4-6 เม.ย.นี้ ส่วนที่ออกจากต้นทางมาแล้วต้องถูกกักตัว 14 วัน
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (3 เม.ย. 2563) ตนได้ลงนามออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันไม่ให้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รุนแรงมากยิ่งขึ้นและเพื่อสนับสนุนการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวให้ยุติลงโดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497
สำหรับคำสั่งในประกาศดังกล่าวนั้น ระบุว่า 1.ห้ามอากาศยานขนส่งคนโดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. 2563 เวลา 00.01 น. จนถึงวันที่ 6 เม.ย. 2563 เวลา 23.59 น. โดยไม่รวมถึงอากาศยาน ดังต่อไปนี้ อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร, อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน, อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิคโดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง
นอกจากนี้ ยังรวมถึงอากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือการขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19, อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับภูมิลำเนา และอากาศยานขนส่งสินค้า ขณะเดียวกัน การอนุญาตการบินที่ กพท. ได้ออกให้แก่อากาศยานขนส่งคนโดยสารสำหรับการบินเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงระยะเวลาตามที่ประกาศกำหนดนั้น ให้เป็นอันยกเลิก
ในส่วนของผู้โดยสารบนอากาศยาน ที่ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานต้นทางก่อนประกาศนี้ใช้บังคับ อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อและข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยต้องได้รับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
https://www.thaipost.net/main/detail/61986
ผู้โดยสารคนไทยป่วนสุวรรณภูมิปฎิเสธกักตัว14 วันตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
3 เม.ย.63-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นที่ผ่านมาบรรยากาศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น หลังจากมีเที่ยวบินผู้โดยสารจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผู้โดยสารรวมแล้วกว่า 100 คน จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน หรือ กพท. โดยจะต้องนำผู้โดยสารเหล่านี้ ไปกักตัวในสถานที่ ที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานด้านความมั่นคงเตรียมไว้
อย่างไรก็ตามผู้โดยสารกลุ่มนี้ได้ปฏิเสธ ที่จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว และเกิดโต้เถียงกันยืดเยื้อนานกว่า 4 ชั่วโมง ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และเกิดความตึงเครียดขึ้น โดยกลุ่มผู้โดยสารระบุว่าไม่ทราบประกาศเรื่องของการกักตัวผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงประเทศไทยทุกเที่ยวบิน
ล่าสุด มีผู้โดยสารบางส่วนได้ เดินทางออกไปจากสนามบินได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอยู่ระหว่างตามตัวให้ผู้โดยสารเหล่านี้กลับมาเข้าสู่กระบวนการกักตัว เพราะไม่เช่นนั้นก็จะทำให้ผู้โดยสารกลุ่มอื่น ที่เดินทางมาในวันนี้ และต้องยอมรับมาตรการการกักตัวที่ภาครัฐประกาศไว้ เหมือนได้รับการเลือกปฏิบัติ ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขก็มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID 19
ล่าสุดปัญหาดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเตรียมหารือด่วนวันพรุ่งนี้ หลังกระทรวงการต่างประเทศฝ่าฝืนคำสั่งออกเอกสารให้คนเดินทางเข้าประเทศ และผู้โดยสาร บางกลุ่มดื้อแพ่งไม่ยอมกักตัว
ทั้งนี้การดำเนินการตามมาตรการให้กัก ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกประเทศ เป็นไปตามแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีคำสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศ ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ตั้งแต่ 2เมษายน จนถึง 15 เมษายน นี้ แต่ปรากฎว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยังคงออกเอกสารรับรองให้คนไทย และคนต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทย ตามปกติ และเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 3เมย. ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนไทยมากกว่า 100 คนเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และปฏิเสธที่จะเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล ซึ่งจัดสถานที่ไว้รอรับที่ อ.สัตหีบ และ โรงแรม อีก 2แห่ง ในกรุงเทพมหานคร โดยอ้างว่า ไม่ทราบว่ามีมาตรการดังกล่าว
กลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงสุวรรณภูมิ เรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจง และทำท่าจะลุกลามเป็นการชุมนุมต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารระดับพลตรี ได้เข้ามาคุมสถานการณ์ และเปิดการเจรจากับผู้เดินทาง ประมาณ 20 นาที ก่อนจะอนุญาตให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านได้ โดยกำชับให้ทุกคนต้องกักตัวเอง 14 วัน แม้ว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข จะคัดค้าน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้เดินทางทั้งหมดได้
ทั้งนี้ การเดินทางมาจากต่างประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจาก เมื่อกลับมาแล้วไ่ม่ยอมกักตัว และเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ จนเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งให้มีการชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะเป็นคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ยังมีหน่วยราชการ ฝ่าฝืนคำสั่งและไม่ปฏิบัติตาม
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุด หลังจากที่มีการละเมิดคำสั่งทั้งคำสั่งชะลอการเดินทางเข้าประเทศ และการไม่ยอมรับการกักตัวในสถานที่รัฐกำหนด นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการด่วน ในวันที่ 4 เม.ย.นี้เวลา 9.00 น.
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติม จากกระทรวงสาธารณสุขว่าผู้โดยสารที่ออกไป มีบางคนเป็นไข้ ที่ถูกกักไว้ 3 คน อาศัยจังหวะชุลมุน หลบหนีการกักตัวออกจากสนามบินไปด้วย
(ทราบข่าวจากช่องเนชั่นว่าเจอตัวแล้วค่ะ)
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) ว่า จากปัญหาความวุ่นวายที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วไม่ยอมถูกกักตัว 14 วัน ตามประกาศของ กพท. และตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายดังนั้นทาง กพท. จะประกาศห้ามเครื่องบินจากทุกประเทศและผู้โดยสารเข้าประเทศไทยจำนวน 3 วันโดยมีผลตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันทาง กพท. ได้มีการประสานงาน ยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานงานไปยังแต่ละประเทศว่าประเทศไทยจะมีการออกประกาศดังกล่าวห้ามไม่ให้สายการบินนำผู้โดยสารและเครื่องบินเข้าประเทศไทย
ขณะเดียวกันทาง กพท.จะมีการรวบรวมว่าในช่วงนี้มีสายการบินอะไรบ้างที่แจ้งว่าจะทำการบินเข้าประเทศไทย กี่เที่ยวบินแล้วจะมีผู้โดยสารจำนวนเท่าไหร่เพื่อรวบรวม ข้อมูล อย่างไรก็ตามทาง กพท. จะออกแระกาศ ภายคืนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกันจากปัญหาที่เกิดขึ้นที่สนามบินที่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยไม่ยอมกักตัวตามคำแจ้งของเจ้าหน้าที่นั้น
ในทางปฏิบัติขณะนี้ ทางฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจ จะมีการไปเชิญตัวผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยในวันนี้กลับมากักตัวตามที่สามที่ราชการกำหนดซึ่งจะเป็นที่สัตหีบและกำแพงแสน รวมถึงโรงแรมต่างๆที่เข้าร่วมโครงการกับรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.thaipost.net/main/detail/61983
เผยมี 163 คนหลุดจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่สนกักตัว สาธารณสุขได้แต่แจ้งความ
เผยจำนวนผู้โดยสารที่ก่อความวุ่นวายไม่ยอมกักตัว หลุดออกจากสุวรรณภูมิ มี 163 คน สาธารณสุขเตรียมแจ้งความ ส่งชื่อไปจังหวัดต่างๆ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งกักตัวเรียบร้อยแล้ว แบ่งไปตามโรงแรมใน กทม. และ สัตหีบ
จากกรณีที่เกิดความวุ่นวายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเย็นวันที่ 3 เม.ย. เมื่อผู้โดยสารรวมตัวกันแสดงความไม่พอใจและปฏิเสธที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว เพื่อสังเกตอาการในสถานที่ที่กำหนด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ ประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) เพื่อแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 พยายามกดดันเจ้าหน้าที่ เรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจง กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ทหารยศ “พลตรี” รายหนึ่ง เข้าเจรจา และสุดท้ายอนุญาตให้ผู้โดยสารเหล่านี้กลับบ้านได้ แม้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข จะคัดค้านก็ตาม นอกจากนี้ พบว่า ผู้โดยสารบางคนที่ถูกกักตัวไว้ เนื่องจากมีไข้ อาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไปได้ 3 คน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (4 เม.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้โดยสารที่กดดันเจ้าหน้าที่ กระทั่งถูกปล่อยตัวให้กลับบ้านได้ มีจำนวนทั้งสิ้น 163 คน มาจากเส้นทางญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ตัดสินใจเตรียมที่จะแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากผู้โดยสารเหล่านี้ไม่ให้ความร่วมมือ ขณะนี้มีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว ต่อไปจะใช้วิธีคัดรายชื่อทั้งหมดส่งไปยังจังหวัดภูมิลำเนา เพื่อติดตามตัวมารายงานตัว และเข้าสู่กระบวนการกักตัวตามที่กำหนดต่อไป
ส่วนผู้โดยสารอีกกลุ่มหนึ่ง ถูกส่งไปกักตัวตามสถานที่ ซึ่งทางภาครัฐจัดเตรียมไว้เพื่อกักตัวสังเกตอาการ ได้แก่ กิจการอาคารรับรองสัตหีบ กองทัพเรือ และ โรงแรมในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะไม่มีเที่ยวบินขาเข้าตามมาอีก เนื่องจากมีคำสั่ง กทพ. ห้ามเครื่องบินขนส่งเดินทางเข้าประเทศชั่วคราว ถึงวันที่ 6 เม.ย. เวลา 23.59 น. โดยพบว่า..
ขณะนี้แต่ละสายการบินได้แจ้งยกเลิกเที่ยวบินขาเข้ามายัง
ประเทศไทยทุกเที่ยวบินแล้ว
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000034632
หวังว่าเช้านี้คงเรียบร้อยนะคะ...ให้กำลังใจคนทำงานค่ะ
🔮มาลาริน/ต้องย้อนไปไล่เบี้ยกรณีคนไม่กักตัวด้วยค่ะ..กพท.ประกาศห้ามบินเข้าไทย4-6เม.ย.นี้ ที่ออกมาแล้วต้องถูกกักตัว14 วัน
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (3 เม.ย. 2563) ตนได้ลงนามออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันไม่ให้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รุนแรงมากยิ่งขึ้นและเพื่อสนับสนุนการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวให้ยุติลงโดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497
สำหรับคำสั่งในประกาศดังกล่าวนั้น ระบุว่า 1.ห้ามอากาศยานขนส่งคนโดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. 2563 เวลา 00.01 น. จนถึงวันที่ 6 เม.ย. 2563 เวลา 23.59 น. โดยไม่รวมถึงอากาศยาน ดังต่อไปนี้ อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร, อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน, อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิคโดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง
นอกจากนี้ ยังรวมถึงอากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือการขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19, อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับภูมิลำเนา และอากาศยานขนส่งสินค้า ขณะเดียวกัน การอนุญาตการบินที่ กพท. ได้ออกให้แก่อากาศยานขนส่งคนโดยสารสำหรับการบินเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงระยะเวลาตามที่ประกาศกำหนดนั้น ให้เป็นอันยกเลิก
ในส่วนของผู้โดยสารบนอากาศยาน ที่ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานต้นทางก่อนประกาศนี้ใช้บังคับ อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อและข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 โดยต้องได้รับการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
https://www.thaipost.net/main/detail/61986
ผู้โดยสารคนไทยป่วนสุวรรณภูมิปฎิเสธกักตัว14 วันตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
3 เม.ย.63-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นที่ผ่านมาบรรยากาศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น หลังจากมีเที่ยวบินผู้โดยสารจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผู้โดยสารรวมแล้วกว่า 100 คน จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน หรือ กพท. โดยจะต้องนำผู้โดยสารเหล่านี้ ไปกักตัวในสถานที่ ที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานด้านความมั่นคงเตรียมไว้
อย่างไรก็ตามผู้โดยสารกลุ่มนี้ได้ปฏิเสธ ที่จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว และเกิดโต้เถียงกันยืดเยื้อนานกว่า 4 ชั่วโมง ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป และเกิดความตึงเครียดขึ้น โดยกลุ่มผู้โดยสารระบุว่าไม่ทราบประกาศเรื่องของการกักตัวผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงประเทศไทยทุกเที่ยวบิน
ล่าสุด มีผู้โดยสารบางส่วนได้ เดินทางออกไปจากสนามบินได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอยู่ระหว่างตามตัวให้ผู้โดยสารเหล่านี้กลับมาเข้าสู่กระบวนการกักตัว เพราะไม่เช่นนั้นก็จะทำให้ผู้โดยสารกลุ่มอื่น ที่เดินทางมาในวันนี้ และต้องยอมรับมาตรการการกักตัวที่ภาครัฐประกาศไว้ เหมือนได้รับการเลือกปฏิบัติ ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขก็มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID 19
ล่าสุดปัญหาดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเตรียมหารือด่วนวันพรุ่งนี้ หลังกระทรวงการต่างประเทศฝ่าฝืนคำสั่งออกเอกสารให้คนเดินทางเข้าประเทศ และผู้โดยสาร บางกลุ่มดื้อแพ่งไม่ยอมกักตัว
ทั้งนี้การดำเนินการตามมาตรการให้กัก ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกประเทศ เป็นไปตามแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีคำสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศ ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ตั้งแต่ 2เมษายน จนถึง 15 เมษายน นี้ แต่ปรากฎว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยังคงออกเอกสารรับรองให้คนไทย และคนต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทย ตามปกติ และเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 3เมย. ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนไทยมากกว่า 100 คนเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และปฏิเสธที่จะเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล ซึ่งจัดสถานที่ไว้รอรับที่ อ.สัตหีบ และ โรงแรม อีก 2แห่ง ในกรุงเทพมหานคร โดยอ้างว่า ไม่ทราบว่ามีมาตรการดังกล่าว
กลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงสุวรรณภูมิ เรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจง และทำท่าจะลุกลามเป็นการชุมนุมต่อต้านเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารระดับพลตรี ได้เข้ามาคุมสถานการณ์ และเปิดการเจรจากับผู้เดินทาง ประมาณ 20 นาที ก่อนจะอนุญาตให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านได้ โดยกำชับให้ทุกคนต้องกักตัวเอง 14 วัน แม้ว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข จะคัดค้าน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้เดินทางทั้งหมดได้
ทั้งนี้ การเดินทางมาจากต่างประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจาก เมื่อกลับมาแล้วไ่ม่ยอมกักตัว และเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ จนเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งให้มีการชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะเป็นคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ยังมีหน่วยราชการ ฝ่าฝืนคำสั่งและไม่ปฏิบัติตาม
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุด หลังจากที่มีการละเมิดคำสั่งทั้งคำสั่งชะลอการเดินทางเข้าประเทศ และการไม่ยอมรับการกักตัวในสถานที่รัฐกำหนด นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการด่วน ในวันที่ 4 เม.ย.นี้เวลา 9.00 น.
ล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติม จากกระทรวงสาธารณสุขว่าผู้โดยสารที่ออกไป มีบางคนเป็นไข้ ที่ถูกกักไว้ 3 คน อาศัยจังหวะชุลมุน หลบหนีการกักตัวออกจากสนามบินไปด้วย
(ทราบข่าวจากช่องเนชั่นว่าเจอตัวแล้วค่ะ)
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) ว่า จากปัญหาความวุ่นวายที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วไม่ยอมถูกกักตัว 14 วัน ตามประกาศของ กพท. และตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินนั้น ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายดังนั้นทาง กพท. จะประกาศห้ามเครื่องบินจากทุกประเทศและผู้โดยสารเข้าประเทศไทยจำนวน 3 วันโดยมีผลตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันทาง กพท. ได้มีการประสานงาน ยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานงานไปยังแต่ละประเทศว่าประเทศไทยจะมีการออกประกาศดังกล่าวห้ามไม่ให้สายการบินนำผู้โดยสารและเครื่องบินเข้าประเทศไทย
ขณะเดียวกันทาง กพท.จะมีการรวบรวมว่าในช่วงนี้มีสายการบินอะไรบ้างที่แจ้งว่าจะทำการบินเข้าประเทศไทย กี่เที่ยวบินแล้วจะมีผู้โดยสารจำนวนเท่าไหร่เพื่อรวบรวม ข้อมูล อย่างไรก็ตามทาง กพท. จะออกแระกาศ ภายคืนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกันจากปัญหาที่เกิดขึ้นที่สนามบินที่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยไม่ยอมกักตัวตามคำแจ้งของเจ้าหน้าที่นั้น
ในทางปฏิบัติขณะนี้ ทางฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจ จะมีการไปเชิญตัวผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยในวันนี้กลับมากักตัวตามที่สามที่ราชการกำหนดซึ่งจะเป็นที่สัตหีบและกำแพงแสน รวมถึงโรงแรมต่างๆที่เข้าร่วมโครงการกับรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.thaipost.net/main/detail/61983
เผยมี 163 คนหลุดจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่สนกักตัว สาธารณสุขได้แต่แจ้งความ
เผยจำนวนผู้โดยสารที่ก่อความวุ่นวายไม่ยอมกักตัว หลุดออกจากสุวรรณภูมิ มี 163 คน สาธารณสุขเตรียมแจ้งความ ส่งชื่อไปจังหวัดต่างๆ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งกักตัวเรียบร้อยแล้ว แบ่งไปตามโรงแรมใน กทม. และ สัตหีบ
จากกรณีที่เกิดความวุ่นวายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเย็นวันที่ 3 เม.ย. เมื่อผู้โดยสารรวมตัวกันแสดงความไม่พอใจและปฏิเสธที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัว เพื่อสังเกตอาการในสถานที่ที่กำหนด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ ประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) เพื่อแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อจากไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 พยายามกดดันเจ้าหน้าที่ เรียกร้องให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจง กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ทหารยศ “พลตรี” รายหนึ่ง เข้าเจรจา และสุดท้ายอนุญาตให้ผู้โดยสารเหล่านี้กลับบ้านได้ แม้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข จะคัดค้านก็ตาม นอกจากนี้ พบว่า ผู้โดยสารบางคนที่ถูกกักตัวไว้ เนื่องจากมีไข้ อาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไปได้ 3 คน ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (4 เม.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้โดยสารที่กดดันเจ้าหน้าที่ กระทั่งถูกปล่อยตัวให้กลับบ้านได้ มีจำนวนทั้งสิ้น 163 คน มาจากเส้นทางญี่ปุ่น และ สิงคโปร์ ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ตัดสินใจเตรียมที่จะแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากผู้โดยสารเหล่านี้ไม่ให้ความร่วมมือ ขณะนี้มีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว ต่อไปจะใช้วิธีคัดรายชื่อทั้งหมดส่งไปยังจังหวัดภูมิลำเนา เพื่อติดตามตัวมารายงานตัว และเข้าสู่กระบวนการกักตัวตามที่กำหนดต่อไป
ส่วนผู้โดยสารอีกกลุ่มหนึ่ง ถูกส่งไปกักตัวตามสถานที่ ซึ่งทางภาครัฐจัดเตรียมไว้เพื่อกักตัวสังเกตอาการ ได้แก่ กิจการอาคารรับรองสัตหีบ กองทัพเรือ และ โรงแรมในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะไม่มีเที่ยวบินขาเข้าตามมาอีก เนื่องจากมีคำสั่ง กทพ. ห้ามเครื่องบินขนส่งเดินทางเข้าประเทศชั่วคราว ถึงวันที่ 6 เม.ย. เวลา 23.59 น. โดยพบว่า..
ขณะนี้แต่ละสายการบินได้แจ้งยกเลิกเที่ยวบินขาเข้ามายังประเทศไทยทุกเที่ยวบินแล้ว
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000034632
หวังว่าเช้านี้คงเรียบร้อยนะคะ...ให้กำลังใจคนทำงานค่ะ