"...กลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางกลับเข้ามา ตามรายงานข่าว คือกลุ่มในช่วงรอยต่อ ซึ่งยังเดินทางขึ้นเครื่องเข้ามาได้
เพราะมีหนังสือรับรองและใบรับรองแพทย์ fit to fly อายุ 72 ชม. ที่ออกก่อนหน้าจะมีประกาศให้ชะลอการเดินทาง..."
" ส่วนเรื่องกักกันเฝ้าระวังโรค (quarantine) หลายสถานทูตฯ ได้ระบุในประกาศของสถานทูตด้วยแล้ว ว่า
หากกลับมาในช่วงนี้ จะถูกกักกันตัวในทุกกรณี ในสถานที่ที่หน่วยงานของรัฐกำหนด 14 วัน"
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
●● กต.ยันไม่ฝ่าฝืนคำสั่งหนังสือเดินทาง ●●
กระทรวงต่างประเทศ ปฏิเสธไม่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งนายกฯ ออกหนังสือเดินทางผู้โดยสารเข้าปท.
ระบุหยุดรับลงทะเบียนนานแล้ว
ส่วนที่เกิดปัญหาสุวรรณภูมิ เป็นกลุ่มช่วงรอยต่อ
- เผยบิ๊กตู่ เตรียมใช้กำลังทหาร-ตร. ตามตัวผู้โดยสาร 166 ราย 5 สายการบิน เข้ามาตรการกักตัว โดยไม่มีข้อยกเว้น
สืบเนื่องจากกรณีเกิดเหตุวุ่นวายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงค่ำวันที่ 4 เม.ย.2563 หลังจากมีเที่ยวบิน
ผู้โดยสารจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารจำนวนกว่า 100 คน
จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน หรือ กพท.
โดยจะต้องนำผู้โดยสารเหล่านี้ ไปกักตัวในสถานที่ ที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานด้านความมั่นคงเตรียมไว้
แต่ผู้โดยสารกลุ่มนี้ได้ปฏิเสธ และมีการปล่อยตัวผู้โดยสารเดินทางกลับบ้านไป ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า
กระทรวงการต่างประเทศ มีการฝ่าฝืนคำสั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการควบคุมป้องกัน
การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19
ล่าสุด นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาปฏิเสธว่า
กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งนายกฯ ในการออกเอกสารให้คนเดินทางเข้าประเทศ
หลังจากที่มีการประกาศการชะลอการเลื่อนการเข้าไทยไปถึง 15 เม.ย. 2563
"เมื่อมีประกาศให้ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทย เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ทางสถานเอกอัครราชทูตและ
สถานกงสุลใหญ่ของไทยได้หยุดรับลงทะเบียนออกหนังสือรับรองเพื่อเดินทางกลับทุกช่องทาง รวมทั้งปิดระบบ
ลงทะเบียนออนไลน์ของกระทรวงการต่างประเทศ
นอกจากนี้ ได้ขอให้คนไทยเคร่งครัดในการหาใบรับรองแพทย์ fit to fly ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทางกลับ
ตามข้อกำหนดที่ออกตาม พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่"
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังระบุด้วยว่า กลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางกลับเข้ามา ตามรายงานข่าว คือกลุ่ม
ในช่วงรอยต่อ ซึ่งยังเดินทางขึ้นเครื่องเข้ามาได้เพราะมีหนังสือรับรองและใบรับรองแพทย์ fit to fly อายุ 72 ชม.
ที่ออกก่อนหน้าจะมีประกาศให้ชะลอการเดินทาง
" ส่วนเรื่องกักกันเฝ้าระวังโรค (quarantine) หลายสถานทูตฯ ได้ระบุในประกาศของสถานทูตด้วยแล้ว ว่า
หากกลับมาในช่วงนี้ จะถูกกักกันตัวในทุกกรณี ในสถานที่ที่หน่วยงานของรัฐกำหนด 14 วัน
นอกจากนี้ ในแบบฟอร์มออนไลน์ขอหนังสือรับรองจากสถานทูต ก็ได้ระบุเตือนเรื่องนี้ไว้ด้วยแล้ว"
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ
สำหรับความคืบหน้าการเรียกประชุมด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรณี
เกิดเหตุวุ่นวายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดังกล่าว ในวันที่ 4 เม.ย.นี้
มีรายงานข่าวว่า นายกฯ จะสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ติดตามตัวผู้โดยสารจำนวน 166 คน ที่เดินทาง
เข้ามาประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ มากักตัว ตามมาตรการป้องกันโดยไม่มีข้อยกเว้น มีสายการบิน ดังนี้
TG 641 จากญี่ปุ่น 16 ราย
NH 847 จากญี่ปุ่น 19 ราย
JL 31 จากญี่ปุ่น 76 ราย
SQ 976 จากสิงคโปร์ 44 ราย
GR 832 จากกาตาร์ : 11 ราย
Cr. :
https://www.isranews.org/article/isranews/87228-news06-2.html
●● กต.ยันไม่ฝ่าฝืนคำสั่งหนังสือเดินทาง ●●
เพราะมีหนังสือรับรองและใบรับรองแพทย์ fit to fly อายุ 72 ชม. ที่ออกก่อนหน้าจะมีประกาศให้ชะลอการเดินทาง..."
" ส่วนเรื่องกักกันเฝ้าระวังโรค (quarantine) หลายสถานทูตฯ ได้ระบุในประกาศของสถานทูตด้วยแล้ว ว่า
หากกลับมาในช่วงนี้ จะถูกกักกันตัวในทุกกรณี ในสถานที่ที่หน่วยงานของรัฐกำหนด 14 วัน"
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
●● กต.ยันไม่ฝ่าฝืนคำสั่งหนังสือเดินทาง ●●
กระทรวงต่างประเทศ ปฏิเสธไม่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งนายกฯ ออกหนังสือเดินทางผู้โดยสารเข้าปท.
ระบุหยุดรับลงทะเบียนนานแล้ว
ส่วนที่เกิดปัญหาสุวรรณภูมิ เป็นกลุ่มช่วงรอยต่อ
- เผยบิ๊กตู่ เตรียมใช้กำลังทหาร-ตร. ตามตัวผู้โดยสาร 166 ราย 5 สายการบิน เข้ามาตรการกักตัว โดยไม่มีข้อยกเว้น
สืบเนื่องจากกรณีเกิดเหตุวุ่นวายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงค่ำวันที่ 4 เม.ย.2563 หลังจากมีเที่ยวบิน
ผู้โดยสารจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารจำนวนกว่า 100 คน
จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน หรือ กพท.
โดยจะต้องนำผู้โดยสารเหล่านี้ ไปกักตัวในสถานที่ ที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานด้านความมั่นคงเตรียมไว้
แต่ผู้โดยสารกลุ่มนี้ได้ปฏิเสธ และมีการปล่อยตัวผู้โดยสารเดินทางกลับบ้านไป ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า
กระทรวงการต่างประเทศ มีการฝ่าฝืนคำสั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการควบคุมป้องกัน
การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19
ล่าสุด นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาปฏิเสธว่า
กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งนายกฯ ในการออกเอกสารให้คนเดินทางเข้าประเทศ
หลังจากที่มีการประกาศการชะลอการเลื่อนการเข้าไทยไปถึง 15 เม.ย. 2563
"เมื่อมีประกาศให้ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทย เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ทางสถานเอกอัครราชทูตและ
สถานกงสุลใหญ่ของไทยได้หยุดรับลงทะเบียนออกหนังสือรับรองเพื่อเดินทางกลับทุกช่องทาง รวมทั้งปิดระบบ
ลงทะเบียนออนไลน์ของกระทรวงการต่างประเทศ
นอกจากนี้ ได้ขอให้คนไทยเคร่งครัดในการหาใบรับรองแพทย์ fit to fly ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทางกลับ
ตามข้อกำหนดที่ออกตาม พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่"
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังระบุด้วยว่า กลุ่มผู้โดยสารที่เดินทางกลับเข้ามา ตามรายงานข่าว คือกลุ่ม
ในช่วงรอยต่อ ซึ่งยังเดินทางขึ้นเครื่องเข้ามาได้เพราะมีหนังสือรับรองและใบรับรองแพทย์ fit to fly อายุ 72 ชม.
ที่ออกก่อนหน้าจะมีประกาศให้ชะลอการเดินทาง
" ส่วนเรื่องกักกันเฝ้าระวังโรค (quarantine) หลายสถานทูตฯ ได้ระบุในประกาศของสถานทูตด้วยแล้ว ว่า
หากกลับมาในช่วงนี้ จะถูกกักกันตัวในทุกกรณี ในสถานที่ที่หน่วยงานของรัฐกำหนด 14 วัน
นอกจากนี้ ในแบบฟอร์มออนไลน์ขอหนังสือรับรองจากสถานทูต ก็ได้ระบุเตือนเรื่องนี้ไว้ด้วยแล้ว"
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ
สำหรับความคืบหน้าการเรียกประชุมด่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงกรณี
เกิดเหตุวุ่นวายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดังกล่าว ในวันที่ 4 เม.ย.นี้
มีรายงานข่าวว่า นายกฯ จะสั่งใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ติดตามตัวผู้โดยสารจำนวน 166 คน ที่เดินทาง
เข้ามาประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ มากักตัว ตามมาตรการป้องกันโดยไม่มีข้อยกเว้น มีสายการบิน ดังนี้
TG 641 จากญี่ปุ่น 16 ราย
NH 847 จากญี่ปุ่น 19 ราย
JL 31 จากญี่ปุ่น 76 ราย
SQ 976 จากสิงคโปร์ 44 ราย
GR 832 จากกาตาร์ : 11 ราย
Cr. : https://www.isranews.org/article/isranews/87228-news06-2.html