คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จากประสบการณ์ พี่ชายผมก็มีหนี้แบบเดียวกันครับ โดยหลักการคือหนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้ส่วนบุคคล ไม่ต่อเนื่องถึงทายาท ดังนั้น ถ้ามีมรดก เช่น มูลค่า 5 แสนบาท ก็ถือว่ามรดกนั้นเป็นส่วนที่เจ้าหนี้ควรได้ไปก่อน ถ้าหักหนี้แล้วเหลือทายาทจึงได้รับต่อไป แต่ถ้าไม่มีมรดก ทายาทก็ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ
วิธีการคือ ให้แจ้งเรื่องการเสียชีวิตไปที่บัตรเครดิตแต่ละราย บางรายเขาจะขอมรณบัตร เป็นหลักฐาน แล้วก็จบไป บางบริษัทก็ดำเนินการฟ้องศาล เขาแจ้งว่าต้องทำตามขั้นตอน ก็ปล่อยเขาทำไป ผ่านไปจนศาลมีหมายเรียกทายาท ก็ไปศาล และแจ้งศาลไปว่าเสียชีวิตแล้ว ศาลถามว่ามีมรดกรึเปล่า พอตอบว่าไม่มี ก็จบ ที่เหลือเขาจะไปสืบทรัพย์สินต่อก็เรื่องของเขาแล้ว (ส่วนใหญ่เขาไปสืบมาก่อนแล้ว) ถ้าเขาสืบเจอว่ามีทรัพย์สินที่คุณไม่รู้ เขาก็เอาไปแจ้งศาล เพื่อขออำนาจศาลยึดทรัพย์ ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับคุณอยู่ดี สบายใจได้ครับ
วิธีการคือ ให้แจ้งเรื่องการเสียชีวิตไปที่บัตรเครดิตแต่ละราย บางรายเขาจะขอมรณบัตร เป็นหลักฐาน แล้วก็จบไป บางบริษัทก็ดำเนินการฟ้องศาล เขาแจ้งว่าต้องทำตามขั้นตอน ก็ปล่อยเขาทำไป ผ่านไปจนศาลมีหมายเรียกทายาท ก็ไปศาล และแจ้งศาลไปว่าเสียชีวิตแล้ว ศาลถามว่ามีมรดกรึเปล่า พอตอบว่าไม่มี ก็จบ ที่เหลือเขาจะไปสืบทรัพย์สินต่อก็เรื่องของเขาแล้ว (ส่วนใหญ่เขาไปสืบมาก่อนแล้ว) ถ้าเขาสืบเจอว่ามีทรัพย์สินที่คุณไม่รู้ เขาก็เอาไปแจ้งศาล เพื่อขออำนาจศาลยึดทรัพย์ ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับคุณอยู่ดี สบายใจได้ครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/is-debt-inherited.html
คุณและแม่ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้สิ่งใดๆทั้งสิ้นเนื่องจากคุณมิได้รับมรดก เว้นเสียแต่ว่าคุณหรือแม่ไปลงนามรับสภาพหนี้เอาไว้ หรือคุณหรือแม่คุณไปลงนามค้ำประกันหนี้ไว้
ดังนั้นถ้ามีคนมาทวงหนี้ก็ไม่ควรจะลงนามในเอกสารใดๆทั้งสิ้น
คุณและแม่ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้สิ่งใดๆทั้งสิ้นเนื่องจากคุณมิได้รับมรดก เว้นเสียแต่ว่าคุณหรือแม่ไปลงนามรับสภาพหนี้เอาไว้ หรือคุณหรือแม่คุณไปลงนามค้ำประกันหนี้ไว้
ดังนั้นถ้ามีคนมาทวงหนี้ก็ไม่ควรจะลงนามในเอกสารใดๆทั้งสิ้น
แสดงความคิดเห็น
พึ่งทราบว่าพ่อมีหนี้บัตรเครดิตเป็นล้าน แต่พ่อเสียมีหลายคำถามช่วยหน่อยครับ
ขอบคุณมากนะครับ