ขอเล่าประสบการณ์จริง เพื่อเตือนผู้ใช้บริการ กฟน. ให้ตรวจสอบก่อนจะถูกสวมสิทธิ์ และสะท้อนไปถึงผู้รับผิดชอบให้เข้มงวด และรีบหามาตรการอุดช่องโหว่ ก่อนจะเกิดความเสียหาย (เข้าใจว่าหลัง 31 มี.ค. นี้)
ตอนนี้ที่ทาง กฟน. (MEA) และ กฟภ. (PEA) เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืน และจะเริ่มทยอยคืนเงินให้ตามช่องทางต่าง ๆ เช่น Prompt Pay, บัญชีธนาคาร, เคาน์เตอร์เซอร์วิส ตั้งแต่ 25 มี.ค. โดยจะทยอยคืนให้ตั้งแต่ 31 มี.ค. เป็นต้นไปนั้น
ผมก็เป็นคนนึงที่เข้าไปลงทะเบียนจากหน้าเว็บ measy.mea.or.th ผมเพิ่งเข้าเว็บนี้ครั้งแรก เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) แต่พอใส่เลขประจำตัวประชาชนเสร็จ ระบบก็แจ้งว่า ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว พร้อมแสดงหมายเลขรับแจ้งเรื่อง โดยที่ไม่มีหน้าจอให้ผมเลือกช่องทางรับเงินคืนแต่อย่างใด แสดงว่ามีใครก็ไม่รู้มาลงทะเบียนแทนผมไปแล้ว ผมพยายามเช็คคนรอบตัวว่ามีใครหวังดีเข้าไปลงทะเบียนให้หรือเปล่า ก็ไม่มีใครจะใจดีทำให้ครับ
ผมจึงพยายามติดต่อ กฟน. ทุกช่องทาง เพื่ออยากทราบว่า ใครเป็นคนลงทะเบียน ใช้เบอร์โทรอะไรติดต่อ ขอคืนผ่านช่องทางใด โดยผมได้พยายามติดต่อ MEA ทั้ง โทร 1130 (ซึ่งโทรไม่ติดเลยตั้งแต่เช้าจนค่ำ) , แจ้งร้องเรียนผ่านหน้าเว็บ, แจ้งผ่าน Inbox Facebook, ผ่านทาง Line Official Account ซึ่งทั้ง 3 ช่องทางหลังนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบอะไรกลับมาแต่อย่างใด
จนกระทั่งเมื่อตอนเช้ามืดประมาณ 04.30 น. วันนี้ (27 มี.ค.) ผมโทรไป 1130 ติด และรอจนมีจนท.มารับสาย ผมจึงได้แจ้งสอบถามข้อมูลว่า ทราบหรือไม่ว่าใครเป็นผู้ลงทะเบียน และแจ้งขอรับเงินคืนทางช่องทางไหน ซึ่งปัจจุบันบนหน้าเว็บของ MEA ได้แจ้งช่องทางที่เราขอรับเงินคืนให้เห็นแล้ว พบว่าคนที่สวมสิทธิ์แทนผม แจ้งขอรับเงินคืนผ่านทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส ผมจึงแจ้งร้องเรียนผ่านทางจนท. call center เพื่อขอระงับการคืนเงิน และหากเปลี่ยนเป็น Prompt Pay ได้ ก็จะดีและยืนยันว่าเป็นตัวผมได้ดีกว่า จนท.ก็รับเรื่องและออกหมายเลขรับเรื่องให้ผมไว้ และจะประสานให้ผู้เกี่ยวข้องติดต่อกลับ ตอนนี้คือ รอ...
สรุปประเด็นที่อยากจะเตือนทุก ๆ ท่านที่ขอเงินคืน (หรือมีบัญชีผู้ใช้ไฟฟ้า แต่ยังไม่คิดจะขอเงินคืน) คือ
1. หน้าจอลงทะเบียนของ MEA นั้นง่าย แค่กรอกเลขบัตรประชาชน ก็เพียงพอ ไม่ต้องกรอกเลขมิเตอร์ หรือเลขบัญชีผู้ใช้ใด ๆ คุณจะเห็นมิเตอร์ทั้งหมดที่คุณเคยขอใช้ไฟฟ้ากับกฟน. โดยอัตโนมัติ
2. หน้าเว็บ MEA ให้ผู้ลงทะเบียนเลือกช่องทางรับเงินคืนได้ โดยระบุเลขที่บัญชีเองก็ได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าตรวจสอบว่าชื่อบัญชีต้องตรงกับชื่อบัญชีผู้ใช้ไฟฟ้าหรือไม่ เพราะผมไม่สามารถเข้าไปหน้านั้นได้แล้ว เนื่องจากผู้ที่สวมรอยได้ทำไปจนจบกระบวนการลงทะเบียนแล้ว
3. กรณีผม ผู้สวมรอยได้เลือกช่องทางรับคืนเงินทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส ซึ่งจนท. call center อธิบายว่า ตอนรับเงินคืนต้องแสดงบัตรประชาชน และมีการสแกนใบหน้าเก็บไว้
ความเห็นส่วนตัว ผมยังไม่เคยทำธุรกรรมแบบนี้กับเคาน์เตอร์เซอร์วิส แต่เข้าใจว่าพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เป็นผู้ดำเนินการ ความเข้มงวดมีมากแค่ไหน ถึงจะมีการสแกนใบหน้าไว้ แต่หากถูกสวมรอยรับเงินไปแล้ว จะติดตามคืนได้อย่างไร ผู้เสียหายต้องไปฟ้องร้อง แจ้งความเองอีกใช่หรือไม่
4. อยากให้ทาง MEA รีบตรวจสอบกระบวนการ และอุดช่องโหว่ ป้องกันการสวมสิทธิ์ให้รัดกุมกว่านี้ เพื่อป้องกันก่อนจะเกิดความเสียหายในวงกว้าง
5. อยากให้ผู้ที่มีบัญชีใช้ไฟฟ้า เข้าไปหน้าลงทะเบียน เพื่อดูว่าท่านไม่ได้ถูกสวมสิทธิ์ ท่านอาจไม่ได้อยากได้เงินคืนตอนนี้ แต่เมื่อท่านต้องการรับคืนเงิน ณ เวลานั้นอาจจะสายเกินไปแล้ว เมื่อมารู้ภายหลังว่าถูกใครก็ไม่ทราบมาสวมสิทธิ์ทำธุรกรรมรับเงินแทนท่านไป
6. จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังนึกอยู่ว่าผมเคยให้สำเนาบัตรประชาชนไปกับใครบ้าง ขอแค่คน ๆ นั้นรู้แค่เลขบัตรประชาชนของผม ก็สามารถทำธุรกรรมได้ และหากขั้นตอนการจ่ายเงินไม่รัดกุม ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ อีกเท่าไร
7. อยากให้ทาง MEA ช่วยตรวจสอบปัญหานี้ อยากทราบเบอร์โทรที่เขาใช้ลงทะเบียน เพื่อสาวไปถึงตัวผู้สวมสิทธิ์ และแจ้งกลับทางผมโดยเร็วด้วย เพราะติดต่อทาง MEA ยากมากๆๆๆๆ ไม่ง่ายเหมือนกรอกข้อมูลลงทะเบียน และผมก็กังวลใจมากกับกรณีนี้
*** อย่าลืมเข้าไปตรวจสอบกันด้วยนะครับ ก่อนจะโดนสวมสิทธิ์ ***
อ้างอิงกระทู้เดิมที่ผมเคยสอบถามใน pantip เนื่องจากติดต่อ MEA ไม่ได้ เมื่อวานนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/39746503
** เตือนภัย ** ระวังถูกสวมสิทธิ์ การรับคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ของการไฟฟ้านครหลวง (MEA)
ตอนนี้ที่ทาง กฟน. (MEA) และ กฟภ. (PEA) เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับเงินประกันการใช้ไฟฟ้าคืน และจะเริ่มทยอยคืนเงินให้ตามช่องทางต่าง ๆ เช่น Prompt Pay, บัญชีธนาคาร, เคาน์เตอร์เซอร์วิส ตั้งแต่ 25 มี.ค. โดยจะทยอยคืนให้ตั้งแต่ 31 มี.ค. เป็นต้นไปนั้น
ผมก็เป็นคนนึงที่เข้าไปลงทะเบียนจากหน้าเว็บ measy.mea.or.th ผมเพิ่งเข้าเว็บนี้ครั้งแรก เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) แต่พอใส่เลขประจำตัวประชาชนเสร็จ ระบบก็แจ้งว่า ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว พร้อมแสดงหมายเลขรับแจ้งเรื่อง โดยที่ไม่มีหน้าจอให้ผมเลือกช่องทางรับเงินคืนแต่อย่างใด แสดงว่ามีใครก็ไม่รู้มาลงทะเบียนแทนผมไปแล้ว ผมพยายามเช็คคนรอบตัวว่ามีใครหวังดีเข้าไปลงทะเบียนให้หรือเปล่า ก็ไม่มีใครจะใจดีทำให้ครับ
ผมจึงพยายามติดต่อ กฟน. ทุกช่องทาง เพื่ออยากทราบว่า ใครเป็นคนลงทะเบียน ใช้เบอร์โทรอะไรติดต่อ ขอคืนผ่านช่องทางใด โดยผมได้พยายามติดต่อ MEA ทั้ง โทร 1130 (ซึ่งโทรไม่ติดเลยตั้งแต่เช้าจนค่ำ) , แจ้งร้องเรียนผ่านหน้าเว็บ, แจ้งผ่าน Inbox Facebook, ผ่านทาง Line Official Account ซึ่งทั้ง 3 ช่องทางหลังนี้ จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบอะไรกลับมาแต่อย่างใด
จนกระทั่งเมื่อตอนเช้ามืดประมาณ 04.30 น. วันนี้ (27 มี.ค.) ผมโทรไป 1130 ติด และรอจนมีจนท.มารับสาย ผมจึงได้แจ้งสอบถามข้อมูลว่า ทราบหรือไม่ว่าใครเป็นผู้ลงทะเบียน และแจ้งขอรับเงินคืนทางช่องทางไหน ซึ่งปัจจุบันบนหน้าเว็บของ MEA ได้แจ้งช่องทางที่เราขอรับเงินคืนให้เห็นแล้ว พบว่าคนที่สวมสิทธิ์แทนผม แจ้งขอรับเงินคืนผ่านทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส ผมจึงแจ้งร้องเรียนผ่านทางจนท. call center เพื่อขอระงับการคืนเงิน และหากเปลี่ยนเป็น Prompt Pay ได้ ก็จะดีและยืนยันว่าเป็นตัวผมได้ดีกว่า จนท.ก็รับเรื่องและออกหมายเลขรับเรื่องให้ผมไว้ และจะประสานให้ผู้เกี่ยวข้องติดต่อกลับ ตอนนี้คือ รอ...
สรุปประเด็นที่อยากจะเตือนทุก ๆ ท่านที่ขอเงินคืน (หรือมีบัญชีผู้ใช้ไฟฟ้า แต่ยังไม่คิดจะขอเงินคืน) คือ
1. หน้าจอลงทะเบียนของ MEA นั้นง่าย แค่กรอกเลขบัตรประชาชน ก็เพียงพอ ไม่ต้องกรอกเลขมิเตอร์ หรือเลขบัญชีผู้ใช้ใด ๆ คุณจะเห็นมิเตอร์ทั้งหมดที่คุณเคยขอใช้ไฟฟ้ากับกฟน. โดยอัตโนมัติ
2. หน้าเว็บ MEA ให้ผู้ลงทะเบียนเลือกช่องทางรับเงินคืนได้ โดยระบุเลขที่บัญชีเองก็ได้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าตรวจสอบว่าชื่อบัญชีต้องตรงกับชื่อบัญชีผู้ใช้ไฟฟ้าหรือไม่ เพราะผมไม่สามารถเข้าไปหน้านั้นได้แล้ว เนื่องจากผู้ที่สวมรอยได้ทำไปจนจบกระบวนการลงทะเบียนแล้ว
3. กรณีผม ผู้สวมรอยได้เลือกช่องทางรับคืนเงินทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส ซึ่งจนท. call center อธิบายว่า ตอนรับเงินคืนต้องแสดงบัตรประชาชน และมีการสแกนใบหน้าเก็บไว้ ความเห็นส่วนตัว ผมยังไม่เคยทำธุรกรรมแบบนี้กับเคาน์เตอร์เซอร์วิส แต่เข้าใจว่าพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เป็นผู้ดำเนินการ ความเข้มงวดมีมากแค่ไหน ถึงจะมีการสแกนใบหน้าไว้ แต่หากถูกสวมรอยรับเงินไปแล้ว จะติดตามคืนได้อย่างไร ผู้เสียหายต้องไปฟ้องร้อง แจ้งความเองอีกใช่หรือไม่
4. อยากให้ทาง MEA รีบตรวจสอบกระบวนการ และอุดช่องโหว่ ป้องกันการสวมสิทธิ์ให้รัดกุมกว่านี้ เพื่อป้องกันก่อนจะเกิดความเสียหายในวงกว้าง
5. อยากให้ผู้ที่มีบัญชีใช้ไฟฟ้า เข้าไปหน้าลงทะเบียน เพื่อดูว่าท่านไม่ได้ถูกสวมสิทธิ์ ท่านอาจไม่ได้อยากได้เงินคืนตอนนี้ แต่เมื่อท่านต้องการรับคืนเงิน ณ เวลานั้นอาจจะสายเกินไปแล้ว เมื่อมารู้ภายหลังว่าถูกใครก็ไม่ทราบมาสวมสิทธิ์ทำธุรกรรมรับเงินแทนท่านไป
6. จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังนึกอยู่ว่าผมเคยให้สำเนาบัตรประชาชนไปกับใครบ้าง ขอแค่คน ๆ นั้นรู้แค่เลขบัตรประชาชนของผม ก็สามารถทำธุรกรรมได้ และหากขั้นตอนการจ่ายเงินไม่รัดกุม ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ อีกเท่าไร
7. อยากให้ทาง MEA ช่วยตรวจสอบปัญหานี้ อยากทราบเบอร์โทรที่เขาใช้ลงทะเบียน เพื่อสาวไปถึงตัวผู้สวมสิทธิ์ และแจ้งกลับทางผมโดยเร็วด้วย เพราะติดต่อทาง MEA ยากมากๆๆๆๆ ไม่ง่ายเหมือนกรอกข้อมูลลงทะเบียน และผมก็กังวลใจมากกับกรณีนี้
*** อย่าลืมเข้าไปตรวจสอบกันด้วยนะครับ ก่อนจะโดนสวมสิทธิ์ ***
อ้างอิงกระทู้เดิมที่ผมเคยสอบถามใน pantip เนื่องจากติดต่อ MEA ไม่ได้ เมื่อวานนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้