สวัสดีค่า วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์คลอดลูกที่บ้านตัวเองค่ะ โดยมิดไวฟ์นะคะของลูกลูกทั้งสองคน ว่าเป็นยังไงบ้าง
เมื่อ สองปีที่แล้วเราไปแชร์ไปรอบนึงแล้วกับการกระทู้ คลอดลูกในน้ำที่บ้านตัวเอง https://ppantip.com/topic/38178692
คลอดลูกในน้ำที่บ้านตัวเอง (ใส่ลิงค์ถูกมั้ยเนี่ย) รอบนี้ท้องที่สองแล้วค่ะ ตั้งใจว่าจะคลอดในน้ำเหมือนคนแรกแต่ลงน้ำไม่ทัน เพราะน้องออกมาก่อน

ขั้นตอนแรกเจ็บเตือน - ของคนแรกคือเราเจ็บเตือน ตั้งแต่คืนวันจันทร์ จนกระทั้งถึงตอนคลอดคือ วันพุธตอนเช้า แต่คนที่สอง ค่อนข้างจะแตกต่างเป็นอย่างมาก คือ เจ็บเตือนวันเสารที่ 29 กุมภาพันธ์ 1 อาทิตย์ก่อนคลอด ตอนนั้นคุณสามีกำลังทาสีห้องน้ำอยู่ เราก็ส่งข้อความหานางบอกว่า เจ็บท้องนะเจ็บเตือนไปนอนเถอะ ประมานว่าเลิกทาสีได้แล้วจ้าาา แต่ก็แค่ครั้งเดียวแล้วก็ไม่มีอาการอะไรอีก วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม เจ็บเตือนอีกแล้วจ้า คราวนี้มาทั้งหมด 5 ครั้ง เราก็พยายามข่มตานอนเพราะรู้ว่าจะไม่ได้นอนอีกนาน สุดท้ายก็ไม่มีอาการอะไรเหมือนเดิม (เนี่ยแหละเค้าเรียกเจ็บท้องหลอก หลอก2 รอบละนะ) ส่วนวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม ไปพบมิดไวฟ์ตามนัด ได้มีการกระตุ้นคลอดโดยใช้นิ้วมือสอดเข้าไปนวด (เจ็บมาก) แล้ววันนั้นก็มีเลือดออกเล็กน้อยทั้งวัน แต่ไม่มีอาการเจ็บท้องใดใด

จนกระทั้งวันเสาร์ที่ 7 เวลา 4 ทุ่ม คือก่อนนอนนี่ล้ะ เรายังได้โพสในเฟสตัวเอง พูดไปว่า "ถ้าภายในอาทิตนี้ไม่คลอดนะ เราจะขอหมอผ่าแล้ว" 55 เพราะอึดอัดมากตอนนั้นคือ 39.5 สัปดาห์ กำหนดคลอดคือ 40 สัปดาห์

ต่อมา วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม ตื่นมาตอนเช้าทุกอย่างปกติ ตอนบ่าย 3 เดินเล่นแถวบ้าน ตอน 4 โมงยังทำความสะอาดบ้านเก็บของเล่นลูก คนโต 17 เดือน ใครมีลูกอายุประมานนี้จะเข้าใจดีกว่าบ้านจะเต็มไปด้วยของเล่น -*- 5-6 โมงเย็นก็ยังทานเข้า ป้อนข้าวลูก สามีกำลังทำกับข้าวเราลังแอบถ่ายคลิปเล่นอยู่เลย สักพัก กินขนมปังยังไม่ทันหมดชิ้น รู้สึกปวดท้องก็เลยโทรตามมิดไวฟ์ ปวดแล้วคลาย อยู่พักนึง หลังจากนั้นปวดท้องมากจริงๆคลายแค่ นาทีหรือหรือไม่ถึงนาทีเท่านั้น (จะไม่ให้เราพักเบรคเลยหรือไงเนี่ย -*- )

มิดไวฟ์มาทั้งหมด 4 คน 2 คนคือผู้ช่วย ผู้ช่วยจะทำหน้าที่เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ปูผ้า เตรียมของ ส่วนมิดไวฟ์สองคน จะคอยวัดไข้ คอยนวด หลัง นวดมือ คอยให้กำลังใจ คอยบอกตลอดว่า “จะได้เห็นหน้าลูกแล้ว” ตอนนี้อยู่ขั้นตอนไหนแล้วอีกนานแค่ไหน ตรงนี้เราจะได้ความรู้จากการเข้าคลาสเรียนค่ะ ไม่งั้นก็คงคุยกันไม่รุ้เรื่องเหมือนกันนะ

การคลอด - เมื่อลมเบ่งมาประมานครั้งที่ 2-3 หัวน้องก็ออกมา (เจ็บอ้ะ)ยังไม่ทันได้ลงอ่างอาบน้ำเลยลูกเอ้ย แล้วมิดไวฟ์ก็ทำความสะอาด ตรงหน้าตรงจมูก แล้วก็รอ ลมเบ่งมาครั้งต่อ เพื่อจะเบ่งตัวออกมา ตอนนี้ค่อนข้างดีใจ เพราะใกล้จะได้เห็นหน้าลูกแล้ว จะได้รู้สักทีว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย (คือคุณสามีอยากได้ผู้ชาย นางมีผู้หญิง สามคนล้ะ เราก็เลยไม่ตรวจสะเลยรอลุ้นวันคลอดเอา) ลมเบ่งมาครั้งที่สอง ตอนนี้เราตั้งใจว่าจะเบ่งออกมาทีเดียว แต่มิดไวฟ์บอกค่อยๆเบ่งนะ น้องตัวใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เกินที่จะคลอดธรรมชาติ เราพยายามเบ่ง ตอนนี้มิดไวฟ์เริ่มสังเกตได้ว่าเราไม่ฟังล้ะ นางเลยบอกว่าถ้าาเบ่งแรงแผลอาจจะฉีกนะ คราวนี้เราหยุดเลยจ้า กลัวแผลฉีก คลอดที่นี่ส่วนใหญ่ไม่กรีดนะคะเค้าจะปล่อยฉีก -*- ทีนี้มิดไวฟ์ก็จะคอยบอกเราตอนไหนเบ่งตอนไหนหยุดเบ่งช้าๆ เราสามารถรู้สึกได้ว่ามีมือคอยดันคอยประคองอยู่ บวกกับคุณสามีมาเล่าให้ฟังอีกที คือนางประคองไว้เพื่อให้มันขยาย และไม่ให้แผลฉีก สุดท้ายเจ้าตัวแสบก็ออกมา สิ่งแรกที่เราทำคือเปิดผ้าดูก่อนเลยจ้า
ผู้ชายยยยยยยยยยจ้าผู้ชายยยยยยยย!!!!!!!!

แล้วก็รอลมเบ่งอีกรอบเพื่อนเบ่งรกออกมา จากนั้นมิดไวฟ์ก็ทำการนวดๆและกดตรงหน้าท้องเพื่อนขับเลือดออกมา เลือดเยอะมากกก

หลังจากนั้นคุณสามีก็ทำการตัดสายสะดือ แล้วเราก็เอาลูกมาแนบอกได้เพื่อความอบอุ่น ☺️ จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนของการถ่ายรูป รัวๆเลยจ้า สักพักมิดไวฟ์ก็จะเอาน้องไปทำความสะอาด เช็ดไข เช็ดเลือด จากนั้นหลังจากที่ตัวเราเองรู้สึกดีขึ้นก็ไปอาบน้ำได้ค่ะ 

ตอนอาบน้ำคือมิดไวฟ์จะยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ เพื่อมั่นใจว่าเราโอเค คือจะคอยถามตลอดค่ะ กลัวเราเป็นลม😅 เสร็จจากการอาบน้ำสระผม แต่งตัว ก็กลับมาที่เดิม 

หลังจากที่มิดไวฟ์เช็คร่างกายน้อง ป้ายตา ชั่งน้ำหนัก เรียบร้อยแล้วก็เอาลูกกลับมาที่เรา ทำการให้นมน้อง ระหว่างนี้คือคุณสามีกลับมิดไวฟ์ก็จะทำเอกสารการขอใบเกิดของน้อง
จากนั้น มิดไวฟ์ก็จะสอนเรื่อง การดูแลตัวเองของคุณแม่อะไรทำได้อะไรห้าม จริงก็จะมีเอกสารมาให้ด้วยค่ะ ส่วนผู้ช่วยก็จะเริ่มทำความสะอาด เอาผ้าไปซัก เก็บของ ส่วนหน้าที่ของเราต่อจากนี้คือ ให้นมลูกทุก 2-3 ชั่วโมง แล้วตื่นเช้าของอีกวัน ให้โทรหามิดไวฟ์เพื่ออัพเดท 

ต่อมาอีก 24 ชั่วโมงมิดไวฟ์กลับมาใหม่เพื่อทำการเจาะเลือดน้อง เช็คร่างกายทั้งน้องและเราปั้มเท้าใส่กระดาษเป็นที่ระลึก แล้วก็ดูแลทั่วไป เช่นให้นมได้มั้ย วัดไข้ เจ็บแผลมั้ย เลือดออกเยอะมั้ย สอนการนับจำนวนฉี่ของลูก ประมานนี้ค่ะ

อันนี้เป็นประสบการณ์ที่เราอยากมาแชร์ค่ะ เราว่ามันน่าสนใจเพราะที่ไทยยังไม่มี(มั้ง) แต่ว่าเป็นที่นิยมในยุโรป อเมริกาและออสเตรเลีย อาจจะยาวหน่อยแต่ก็ขอขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ

มีลิงค์ในยูทูบมาด้วยเพราะภาพค่อนข้างเยอะ และสำหรับคนที่ไม่อยากอ่านนะคะ
https://youtu.be/o9IgRFPitdw