แชร์ประสบการณ์ และวิธีรักษา อาการปวดหลังเรื้อรังให้หายขาดครับ

สวัสดีพี่น้องและเพื่อน ๆ Pantip และชาวปวดหลังเรื้อรังทุกท่านครับ
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ในการรักษาอาการปวดหลังเรื้อรังของผมครับ

คิดว่าน่าจะพอเป็นประโยชน์และกำลังใจสำหรับเพื่อนๆพี่ๆที่ต้องกำลังต่อสู้กับอาการนะครับ

ช่วงที่ผมมีอาการปวดหลัง เรื้อรังอย่างหนัก ผมเข้าใจเลยว่า มันรบกวนอาการทำงานและชีวิตประจำวันของเรามากๆ ทั้งยังบีบให้สุขภาพจิตเราหงุดหงิด และค่อยๆแย่ลงทุกๆวัน และเราจะมาพร้อมกับคำถาม ที่ถามตัวเองทุกวันว่าจะหายขาดได้ไหม (ถ้าไม่เป็นเรื้อรังจะไม่เข้าใจเลย) ช่วงนั้นผม Search หาข้อมูลในทั้ง Pantip เว็ปอื่นๆในไทย และ ต่างประเทศ ตลอดเวลาครับเวลาว่าง แต่แล้วในกระทู้ก็ เจอแต่คำตอบเดิมๆ เช่น ให้ยืดกล้ามเนื้อมั่ง ให้กายภาพมั่ง ให้ระวังท่าทางในการใช้ชีวิตระหว่างวันบ้าง แต่ไม่มีกระทู้ไหนที่จะมา แชร์วิธีในการรักษาและขั้นตอนอย่างจริงจัง และอย่างละเอียดเลย ผมเลยคิดว่าถ้าผมสามารถรักษาหายขาดได้ ผมอยากจะตั้งกระทู้ ที่ผมอยากจะ search เจอในช่วงผมกำลังหลงทางและหมดหวังกับการรักษาครับ และอยากจะแชร์เพื่อนๆเผื่อว่าอาจจะประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการรักษา ให้เรื้อรังได้น้อยที่สุดครับ
 
ก่อนอื่นผมขอออกตัวก่อนเลยนะ ว่าผมไม่ใช่หมอ ไม่ใช่นักกายภาพบำบัดครับ แต่เป็นผู้ป่วยโดยตรง และอาการของผมกับของเพื่อนๆแต่ละท่าน อาจจะไม่ตรงกันเสมอ ผมจะเล่าอาการและแนวทางที่รักษาผมหายขาดนะครับ (สำหรับผมคนเดียวนะ)

กระทู้นี้ขอ แบ่งเป็น 2 ส่วนคร่าวๆนะครับ

1. สาเหตุ และเรื่องราว ในการพยามลองหาทางรักษาในวิธีต่างๆ

2. วิธีการรักษาที่ ทำให้ผมหายขาด 
 
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ  อดทนและใจเย็นๆหายแน่นอน !
 
PART 1 : สาเหตุที่ทำให้บาดเจ็บหลัง และ เรื่องราวการรักษาต่างๆ(ที่ไม่หายสำหรับผม) ก่อนนะครับ 
 
สาเหตุการบาดเจ็บ
 
ตอนนั้นผมเพิ่งเรียนจบใหม่ๆไฟแรง จึงตัดสินใจเริ่มช่วยกิจการที่บ้านต่อเลยซึ่งเป็นโรงงานครับ ผมเลยเริ่มจากการเป็นคนงานเองก่อนซะเลย ช่วงนั้นจำได้ว่านอน ราวๆ 5 ชม ต่อวัน แล้วต้องไปยกของหนักครับ แต่ไม่ได้คำนึงถึงท่าที่ถูกต้องเลย บวกกับตอนเย็นไปออกกำลังกายฟิตเนสอย่างหนักเกือบทุกวันและบางวันก็ช่วยแฟนเย็บผ้าของโปรเจ็คจบมหาลัย โดยการนั่งหลังค่อม ตัวงอ ท่าเดียว ติดต่อกันราวๆ 2-3 ชม ถึงเปลี่ยนท่า พอเปลี่ยนทีก็รู้สึกปวดมากๆ 

ผมคิดว่าสามอย่างนี้คือปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาครับ และใช้ร่างกายแบบหักโหมเกินไป ไม่ระวังด้วย เมื่อเกิดอาการช่วงแรกผมทรมาณมาก บางวันแทบจะเดินไม่ได้เลย แค่ขยับ หรือทำตัวให้ตรงโดยการนั่งหรือการเดินก็ปวดแล้วครับ 

โดยผมปล่อยให้อาการหนักมาประมาณ 3 อาทิตย์จึงค่อยไปหาหมอ เพราะ ไม่มีประสบการณ์การบาดเจ็บทางร่างกายเลยคิดว่า นีคงอาจจะเหมือนกับแผลทั่วๆไป ที่ถ้าพักนานๆหน่อย มันคงจะสมาน และรักษาตัวมันเอง แต่ปรากฏว่ามันไม่หายและไม่ดีขึ้นเลยครับ
 
ดังนั้น เรื่องราวการรักษาต่างๆจึงเกิดขึ้นครับ
 
ทานยาแก้อักเสบ

การรักษาแรกเกิดจากไปหาหมอตาม รพ เอกชนครับ สรุปคุณหมอว่าอาการคือกล้ามเนื้ออักเสบ โดยการ Scan หลังคร่าวๆ จึงจัดยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบให้ (ตัวยาขึ้นต้นด้วยตัว A) ความรู้สึกของผมนะ ผมรู้สึกชัดเจนมากว่ายาค่อนข้างจะเป็นแนวบรรเทา*มากกว่า ที่จะรักษา* เมื่อไหร่ทีหยุดทานอาการบาดเจ็บหนักๆจะกลับมาทันที และหาข้อมูลมาว่ายานี้ค่อนข้างแรงมากเลย มีผลกับตับและไตหนักมาก กินไปเป็นเดือน ถ้าเลิกเมื่อไหร่ก็กลับมาเป็นอีก ผมเลยเลิกกินไปครับ เพราะกลัวส่งผลกับร่างกายระยะยาวมากกว่า (คืออ่านไปเจอว่ามีคนเป็นมะเร็งจากยาตัวนี้ จากอาการเจ็บหลังเรื้อรังเหมือนกัน เขากินไปเรื่อยๆประคองอาการ แต่ดันเป็นมะเร็งตับแทน T T ) 
 
Ultrasound และกายภาพบำบัด 

ต่อไปจึงไปหาศูนย์กายภาพบำบัดครับ ผลก็คือได้ทำอัลตร้าซาวน์ (จริงๆแล้วมีผลจริงๆในการช่วยการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและอาการบาดเจ็บ) ซึ่งสำหรับผม ลำพังการทำอัลตร้าซาวน์มันไม่เพียงพอสำหรับการฟื้นฟูของผมเลย อาการเดิมๆยังกลับมาอยู่ครับ ไม่ว่าก่อนและหลังทำ 

และการทำกายภาพบำบัด ระยะเวลาสั้นๆก็ไม่ช่วย ยิ่งทำก็ยิ่งบาดเจ็บ โดยเฉพาะการ Streching + Strengthening และผมเองมีความเชื่อที่ว่า ร่างกายเรามันไม่โกหกว่าอันไหนเวิร์คไม่เวิร์ค สรุปคือยิ่งทำยิ่งเจ็บ เลยเลิกไป 

**ซึ่งอย่าเพิ่งคิดว่าการทำกายภาพบำบัดไม่ดีนะครับ ตอนนั้นผมทำผิดวิธี จริงๆแล้ววิธีการหายของผมหลักๆเลยคือทำกายภาพบำบัด และจะเขียนแบบละเอียดใน Part 2 ครับ) 
 
ออกกำลังกายในน้ำ วารีบำบัด
ครับ จากการ google บ่อยๆ จึงเจอ ข้อนี้ครับ ผมจึงไม่รีรอและทำการออกกำลังกายในน้ำทันที แบบเบาๆโดยการเดินไปเดินมา ไม่มีโปรแกรมการฝึก ซึ่งผลก็เหมือนเดิมครับ ไม่เวิร์ค ( แต่จริงๆแล้วผมคิดว่ามันเป็นหนึ่งในการทำกายภาพที่ดีเลยแหละ แต่ตอนนั้นไม่มีคนที่ช่วยสอนครับ ถ้าออกถูกวิธีผมคิดว่าอาจจะช่วยนะ ) 
 
จัดกระดูก Chiropractic 
หลังจากการรักษาไปหลายๆวิธีไม่หาย ผมเองจึงเริ่มสงสัยและ ว่า เฮ้ย หรือว่ามันจะเป็นที่กระดูก เช่นหมอนรองกระดูกเคลื่อน ไรงี้นะ เห็นมีคนเป็นอาการนี้เยอะมากเลย โดยเฉพาะบอร์ดฝรั่งบางคนบอกว่า บาดเจ็บหลังมาเป็นสิบๆปี แต่ไปหาหมอจัดกระดูก ให้เข้าทาง เป๊าะเดียวจบเลย ที่เป็นมา 10 20 ปี ปลิดทิ้ง เพราะกระดูกมันอยู่ผิดที่ เราก็คิดว่าไหนๆก็มาขนาดนี้แล้ว ลองหน่อยจะเสียหายอะไร

จึงตื่นแต่เช้าไปรอคิวเลยครับ ไปราวๆ 3 รอบ และอีกที่นึง อีก 3 รอบเช่นกัน 

สรุปคือ มีการสบายตัว สบายหลัง ชั่วคราวหลังการจัดกระดูกไป  ไม่เวิร์คอีกแล้ว ความเจ็บปวดไม่หายไป
 
- MRI Scanner 

เนื่องจากการลองการรักษา มาหลายวิธีมากๆ คราวนี้ผมเครียดเลย ว่าสรุปมันเป็นที่อะไรกันแน่ ช่วงนั่นกินเวลาไปหลายเดือนเลยครับ เกือบจะปีแล้ว จึงคิดว่าเราอยากรู้สาเหตุจริงๆจะได้ไม่รักษาแบบสะเปะสะปะ 

จึงยอมเสียเงินก้อนนึง Scan แบบ MRT จัดเต็มให้รู้ไปเลยว่าเป็นที่อะไรกันแน่ สาเหตุจริงๆ สรุป ผลคือ พอ Scan ออกมา กระดูกผมเรียงปกติดีครับ การกังวลถึงเรื่องกระดูกและหมอนรองจึง ตัดออกไป 
 
- ฝังเข็ม

และแล้วผมก็ได้หยุดพักชั่วคราวกับ อาการบาดเจ็บครับ ช่วงนั้นผมต้อง ทำการเดินทางไป ตปท ระยะหนึ่ง
จึงเครียดเลยเพราะ ถ้าเรานั่งนานๆ อาการปวดจะมาเยี่ยมเป็นระยะ แล้วนั่งบนเครื่องด้วยจึงไม่น่าจะรอด 

จึงทดลองวิธีที่เหลืออยู่โดยไม่เยอะ คือการฝังเข็มครับ 

ผมไปฝังที่ รพ หัวเฉียวครับ (แนะนำเลยถูกและดีมากครับ) 

แต่การฝังครั้งแรกจะไม่เห็นผลนะ ของผมจะเห็นผลก็ต่อเมื่อ ฝังไปประมาณครั้งที่ 3 

เชื่อมั้ยครับ ปวดมาเกือบปีกว่า หายแบบปลิดทิ้งเลย แต่แค่ชั่วคราวนะ เลยพอที่จะเดินทางได้ครับ  แต่พอเลิกฝังไปนานๆก็กลับมาปวดใหม่ครับ

- Search หาใน Pantip 

ครับสุดท้าย พอลองหลายๆอย่างด้วยตัวเองแล้วไม่หาย ผมเลยพยาม Search แบบจริงจังในเว็ปนี้แหละครับ พยามหา Comment ที่มาโพสว่า 

ทำอะไรแล้วถึงหาย ปรากฏว่าก็เจออยู่ แต่ที่เจอคือจะเขียนแบบสั้นๆ และไม่ได้เล่าประสบการณ์วิธีการรักษาแบบละเอียดครับ 

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเจอเหมือนกันและได้ส่งข้อความไปหาหลังไมค์ ของแต่ละท่านคือ “การกลับไปออกกำลังกายใหม่ เช่นเตะบอล แล้วอยู่ๆก็หายกันไปเอง” (ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าเป็นการ Strengthening นั่นเองครับ) 

โอเคครับ ที่เขียนมาคือ หลายๆคนที่มีความรู้อาจจะบอกผมว่า ผมไม่ยอมรักษาแบบต่อเนื่องให้เพียงพอ ผมยอมรับนะครับว่าอาจจะจริง แต่เพราะตอนนั้น

ผมไม่มีประสบการณ์และความรู้ในศาสตร์นี้ เลยรักษาแบบสะเปะสะปะครับ  ระยะเวลาการเรื้อรังของผมคือ ปีกว่า ซึ่งจริงๆแล้วเทียบกับคนอื่นก็ถือว่าไม่ได้

เรื้อรังนานเท่าไหร่ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจเลยครับ ว่าถ้าผมไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ตัวเลขอาจจะยาวกว่านี้ก็ได้ แต่ผมโชคดีครับ ที่สุดท้าย มีคนมารักษาผมถูกวิธี จึงทำให้ระยะเวลาการเรื้อรังค่อนข้างสั้นและ จบค่อนข้างเร็ว ซึ่งจะอยู่ตอนต่อไปนะครับ

Edited: คำผิดครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่