หลังจากจบการสอบต่างๆของชีวิตเด็กม.6ปี63 อย่างพวกผมจบลง ระหว่างการรอคะแนนเพื่อยื่นเข้ามหาลัยต่างๆ ช่วงนี้จึงเป็นการพักผ่อนอย่างเต็มที่หลังจากการสอบอย่างหนักหน่วงและสอบติดๆกัน หลายๆคนย่อมมีกิจกรรมต่างๆที่ต่างแตกกันไป ส่วนตัวผมนั้นก็ไม่พ้นการอ่าน เพราะดองไว้เยอะซะเหลือเกิน 555 หนังสือที่นำมารีวิวในวันนี้ก็เป็นหนังสือเล่มแรกที่อ่านจบหลังจากการสอบต่างๆ ถือได้ว่าตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว เพราะเล่มนี้คลายเครียดได้ดีมาก ยิ่งสถานการณ์ในปัจจุบันวุ่นวายมาก การอ่านหนังสือเล่มนี้อาจจะช่วยได้ ร่ายยาวมากแล้วไปดูรีวิวกันดีกว่า
ผลงานของ "ป.อินทรปาลิต" นี้เป็นหัสนิยายอมตะที่บันทึกวิวัฒนาการทางสังคมไทยอย่างต่อเนื่องยาว "สามเกลอ" ชุดวัยหนุ่ม เล่ม 1 เป็นนิยายเรื่องสั้นรวม 3 ตอนด้วยกัน
เรื่องแรก "อายผู้หญิง" คือปฐมบทแห่ง สามเกลอ คงมีเพียง พล และนิกร เป็นตัวเอกในการเดินเรื่อง ก่อนที่จะมีกิมหงวน และเจ้าคุณปัจจนึกฯ ตามมาในภายหลัง เนื้อหาคงความสนุกสนานครื้นเครง หยอกล้อกันไปมา
เรื่องสอง "หนุ่มรักสนุก" เรื่องของการหนีออกจากบ้านของพล และนิกร ที่ต่อเนื่องจากตอน อายผู้หญิง หลังจากที่ถูกผู้ใหญ่ดุด่ามานั้นเอง
เรื่องสาม "หวงลูกสาว" กล่าวถึงเจ้าคุณปัจจนึกฯ ชายผู้หวงลูกสาวที่สุดในประเทศ ต้องมาพบกับพล และนิกร ซึ่งการจีบสาวในระดับของพลและนิกรแล้วนั้นมีหรือที่จะธรรมดา เมื่อสองเกลอจอมทะเล้นมาพบกับเจ้าคุณผู้หวงลูกสาว ความทะลึ่งทะเล้นของสองเกลอจึงเริ่มต้นขึ้น อนึ่ง หวงลูกสาว คือการเบิกโรงสำหรับเจ้าคุณปัจจนึก และกิมหงวน แต่สำหรับกิมหงวนจะยังไม่มีบทบาทในตอนนี้มากนัก
นี่คือตำนานหัสนิยายอมตะของไทยที่ีอยู่คู่คนไทยมาช้านานมากเป็นเวลากว่า81ปีแล้วครับ มีการจัดพิมพ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482-2511 มีมากมายเกินกว่าพันตอน ครบทุกรส เนื้อหาออกไปในแนวสนุกสนานครื้นเครง มีการหยอกล้อกันไปมา จัดเป็นหนึ่งในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน
นอกจากรูปแบบหนังสือแล้ว พล นิกร กิมหงวน ยังเคยทำเป็นภาพยนตร์ รวมทั้งละครโทรทัศน์ อีกด้วย
หลังจากการเฝ้ารอมาอย่างเนิ่นนาน ในที่สุดผมก็ได้อ่านหัสนิยายในตำนานนี่สักที โดยไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้อ่านในรูปแบบของการตีพิมพ์ครั้งใหม่ เพราะไอ้เราก็กะว่าคงจะได้อ่านในแบบ PDF บ้างล่ะ หนังสือเก่ามือสองบ้างล่ะ การได้อ่านแบบการตีพิมพ์ครั้งใหม่ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพร์สพอสมควรเลยล่ะครับ
ในเล่มนี้นะครับเนื้อหาหลักๆก็จะเป็นปฐมบทของมหากาพย์แห่งความฮาของเหล่าตัวละครต่างๆ เนื้อหาในแต่ละตอนแฝงไว้ด้วยความตลกขบขันของตัวหลักในช่วงแรกอย่าง พล พัชราภรณ์ และ นิกร การุณวงศ์ สองเพื่อนซี้ลูกผู้ดีผู้มั่นคง แถมทั้งสองยังเป็นญาติสนิทมิตรสหายกันอีกต่างหาก
ในเล่มนี้ เราจะสนุกสนานไปกับประพฤติการณ์ความกะล่อน,ความเจ้าชู้ของไอ้สองเสือพระเอกของเรา ที่ผมรับรองได้เลยว่าแม่มแสบได้ใจมาก กะล่อนได้ทุกเรื่องไม่เฉพาะในเรื่องผู้หญิง เรื่องปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นไอ้พวกนี้ก็ใช้ความกะล่อนแก้ปัญหาได้ด้วย 555 ถ้าให้เทียบกับปัจจุบันถ้าทุกท่านอยากเห็นภาพมากที่สุด ลองนึกถึงซิทคอมในตำนานอย่าง "เป็นต่อ" นะครับ 555
แต่ด้วยความแสบอันมาจากความกะล่อนของตัวละครเรื่องนี้มันมีมาเกินไป คนในยุคนี้ที่มาอ่านก็อาจจะมีความร็สึกแปลกๆไปบ้างยกตัวอย่างเช่น
ในตอนหนึ่งที่พลและนิกรใช้ลูกไม้ "งู" กับสาวๆในเรื่อง ผลลัพธ์จากลูกไม้นี้คือสาวๆจะตกใจและเข้ามาโผกอดเลยทันทีทันใด เอาฉวยจังหวะนี้กอดเฉยๆมันธรรมดาเกินไปครับเพราะจอมแสบสองคนนั้นฉวยจังหวะนี้หอมแก้มเลยครับ 555 โคตรร้ายบอกเลย คือด้วยบริบทเมื่อ81ปีก่อน การแสดงออกและค่านิยมต่างๆของผู้หญิงผู้ชายยุคนั้นไม่เหมือนกับในปัจจุบันนะครับ เพราะฉะนั้นหลังจากลูกไม้นี้สำเร็จสาวๆพวกนั้นก็ต่างเขินอายไปตามๆกัน ดีสุดก็ดุด่าและตบหน้าพอเป็นพิธีและพวกเธอเหล่านั้นก็ลืมมันเสีย ถ้าเป็นหญิงสาวประเภทไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมจอมแสบสองคนนั้นก็แก้ตัวน้ำขุ่นว่าทำไปเพราะความตกใจ ถ้าทันเล่ห์เหลี่ยมหน่อยก็ปล่อยเลยตามเลย ซึ่งหากมีคนใช้ลูกไม้นี้ในปัจจุบันรับรองได้เลยว่าได้ลงโซเชียลคนด่ากันทั้งประเทศชัวร์ 555
นอกจากความฮาในเรื่องแล้ว เรื่องนี้ก็ยังแฝงข้อคิดเกี่ยวข้อคิดในแง่เกี่ยวกับความรักอยู่หน่อยๆแม้ไม่เจาะลึกมากก็ตาม แถมเรายังเหมือนได้ย้อนเวลาไปดูสภาพการใช้ชีวิตของคนในช่วงยุคพ.ศ. 2482ได้เลย รับทราบถึงสภาพชีวิต,สังคม,ความเป็นอยู่ของคนในยุคนู้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความเป็นอยู่,ความนิยมชมชอบของเหล่าคนมีสตางค์ (เพราะเนื้อหาของเรื่องส่วนใหญ่จะเน้นตัวละครคนรวย) ว่าไปเที่ยวที่ไหนว่างๆจะทำอะไรเช่นนี้
เอออีกอย่างหนึ่งเราจะเพลิดเพลินไปกับคำศัพท์และภาษาต่างๆของยุคนั้นที่บางคำก็ใกล้เคียงหรือก็ไม่ค่อยได้เห็นในปัจจุบันมากนัก ตัวอย่างก็สรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวเองว่า "กัน" เรียกคนอื่นว่า "แก" ที่ใช้กันในหมู่เพื่อน กับอันนี้ที่ใช้ในปัจจุบันอย่างคำว่า "เปย์" ใครจะไปคิดว่าคำนี้ใช้กันเมื่อ81ปีก่อน และความหมายก็เหมือนกับในปัจจุบันเป๊ะเลยทีเดียวเชียวแหละครับ
อาจจะมีข้อเสียบ้างในความเก่าของเนื้อหาที่อ่านในสมัยนี้อาจจะงงๆ หรือความกะล่อนจนมากเกินไปของเหล่าตัวละครเอก แต่นั้นก็ไม่ทำให้เรามีอุปสรรคในการอ่านได้เลยล่ะครับ ให้สัก4ดาวครับสำหรับเล่มนี้
ด้วยเนื้อหาที่เบาๆเหมาะเหลือเกินครับในการอ่านช่วงนี้ เพียงแค่หามุมดีๆบรรยากาศเหมาะๆในการอ่านแค่นี้ก็เตรียมรับความสุขสันต์หรรษาจากหนังสือเล่มนี้เเล้วครับ
ปล. สำหรับคนที่ติดใจเรื่องนี้ ไม่ต้องรอนานครับ ทางสนพแสงดาวตีพิมพ์ตอนอื่นๆมา5-6เล่มแล้วครับ ฉะนั้นไปสอยกันได้เลยครับ 555
[CR] (รีวิวบ้านๆ) อ่านแล้วมาเล่า [7] : สามเกลอ (พล นิกร กิมหงวน) ของ ป.อินทรปาลิต
เรื่องแรก "อายผู้หญิง" คือปฐมบทแห่ง สามเกลอ คงมีเพียง พล และนิกร เป็นตัวเอกในการเดินเรื่อง ก่อนที่จะมีกิมหงวน และเจ้าคุณปัจจนึกฯ ตามมาในภายหลัง เนื้อหาคงความสนุกสนานครื้นเครง หยอกล้อกันไปมา
เรื่องสอง "หนุ่มรักสนุก" เรื่องของการหนีออกจากบ้านของพล และนิกร ที่ต่อเนื่องจากตอน อายผู้หญิง หลังจากที่ถูกผู้ใหญ่ดุด่ามานั้นเอง
เรื่องสาม "หวงลูกสาว" กล่าวถึงเจ้าคุณปัจจนึกฯ ชายผู้หวงลูกสาวที่สุดในประเทศ ต้องมาพบกับพล และนิกร ซึ่งการจีบสาวในระดับของพลและนิกรแล้วนั้นมีหรือที่จะธรรมดา เมื่อสองเกลอจอมทะเล้นมาพบกับเจ้าคุณผู้หวงลูกสาว ความทะลึ่งทะเล้นของสองเกลอจึงเริ่มต้นขึ้น อนึ่ง หวงลูกสาว คือการเบิกโรงสำหรับเจ้าคุณปัจจนึก และกิมหงวน แต่สำหรับกิมหงวนจะยังไม่มีบทบาทในตอนนี้มากนัก
นี่คือตำนานหัสนิยายอมตะของไทยที่ีอยู่คู่คนไทยมาช้านานมากเป็นเวลากว่า81ปีแล้วครับ มีการจัดพิมพ์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482-2511 มีมากมายเกินกว่าพันตอน ครบทุกรส เนื้อหาออกไปในแนวสนุกสนานครื้นเครง มีการหยอกล้อกันไปมา จัดเป็นหนึ่งในหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน
นอกจากรูปแบบหนังสือแล้ว พล นิกร กิมหงวน ยังเคยทำเป็นภาพยนตร์ รวมทั้งละครโทรทัศน์ อีกด้วย
หลังจากการเฝ้ารอมาอย่างเนิ่นนาน ในที่สุดผมก็ได้อ่านหัสนิยายในตำนานนี่สักที โดยไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้อ่านในรูปแบบของการตีพิมพ์ครั้งใหม่ เพราะไอ้เราก็กะว่าคงจะได้อ่านในแบบ PDF บ้างล่ะ หนังสือเก่ามือสองบ้างล่ะ การได้อ่านแบบการตีพิมพ์ครั้งใหม่ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพร์สพอสมควรเลยล่ะครับ
ในเล่มนี้นะครับเนื้อหาหลักๆก็จะเป็นปฐมบทของมหากาพย์แห่งความฮาของเหล่าตัวละครต่างๆ เนื้อหาในแต่ละตอนแฝงไว้ด้วยความตลกขบขันของตัวหลักในช่วงแรกอย่าง พล พัชราภรณ์ และ นิกร การุณวงศ์ สองเพื่อนซี้ลูกผู้ดีผู้มั่นคง แถมทั้งสองยังเป็นญาติสนิทมิตรสหายกันอีกต่างหาก
ในเล่มนี้ เราจะสนุกสนานไปกับประพฤติการณ์ความกะล่อน,ความเจ้าชู้ของไอ้สองเสือพระเอกของเรา ที่ผมรับรองได้เลยว่าแม่มแสบได้ใจมาก กะล่อนได้ทุกเรื่องไม่เฉพาะในเรื่องผู้หญิง เรื่องปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นไอ้พวกนี้ก็ใช้ความกะล่อนแก้ปัญหาได้ด้วย 555 ถ้าให้เทียบกับปัจจุบันถ้าทุกท่านอยากเห็นภาพมากที่สุด ลองนึกถึงซิทคอมในตำนานอย่าง "เป็นต่อ" นะครับ 555
แต่ด้วยความแสบอันมาจากความกะล่อนของตัวละครเรื่องนี้มันมีมาเกินไป คนในยุคนี้ที่มาอ่านก็อาจจะมีความร็สึกแปลกๆไปบ้างยกตัวอย่างเช่น
ในตอนหนึ่งที่พลและนิกรใช้ลูกไม้ "งู" กับสาวๆในเรื่อง ผลลัพธ์จากลูกไม้นี้คือสาวๆจะตกใจและเข้ามาโผกอดเลยทันทีทันใด เอาฉวยจังหวะนี้กอดเฉยๆมันธรรมดาเกินไปครับเพราะจอมแสบสองคนนั้นฉวยจังหวะนี้หอมแก้มเลยครับ 555 โคตรร้ายบอกเลย คือด้วยบริบทเมื่อ81ปีก่อน การแสดงออกและค่านิยมต่างๆของผู้หญิงผู้ชายยุคนั้นไม่เหมือนกับในปัจจุบันนะครับ เพราะฉะนั้นหลังจากลูกไม้นี้สำเร็จสาวๆพวกนั้นก็ต่างเขินอายไปตามๆกัน ดีสุดก็ดุด่าและตบหน้าพอเป็นพิธีและพวกเธอเหล่านั้นก็ลืมมันเสีย ถ้าเป็นหญิงสาวประเภทไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมจอมแสบสองคนนั้นก็แก้ตัวน้ำขุ่นว่าทำไปเพราะความตกใจ ถ้าทันเล่ห์เหลี่ยมหน่อยก็ปล่อยเลยตามเลย ซึ่งหากมีคนใช้ลูกไม้นี้ในปัจจุบันรับรองได้เลยว่าได้ลงโซเชียลคนด่ากันทั้งประเทศชัวร์ 555
นอกจากความฮาในเรื่องแล้ว เรื่องนี้ก็ยังแฝงข้อคิดเกี่ยวข้อคิดในแง่เกี่ยวกับความรักอยู่หน่อยๆแม้ไม่เจาะลึกมากก็ตาม แถมเรายังเหมือนได้ย้อนเวลาไปดูสภาพการใช้ชีวิตของคนในช่วงยุคพ.ศ. 2482ได้เลย รับทราบถึงสภาพชีวิต,สังคม,ความเป็นอยู่ของคนในยุคนู้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะความเป็นอยู่,ความนิยมชมชอบของเหล่าคนมีสตางค์ (เพราะเนื้อหาของเรื่องส่วนใหญ่จะเน้นตัวละครคนรวย) ว่าไปเที่ยวที่ไหนว่างๆจะทำอะไรเช่นนี้
เอออีกอย่างหนึ่งเราจะเพลิดเพลินไปกับคำศัพท์และภาษาต่างๆของยุคนั้นที่บางคำก็ใกล้เคียงหรือก็ไม่ค่อยได้เห็นในปัจจุบันมากนัก ตัวอย่างก็สรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัวเองว่า "กัน" เรียกคนอื่นว่า "แก" ที่ใช้กันในหมู่เพื่อน กับอันนี้ที่ใช้ในปัจจุบันอย่างคำว่า "เปย์" ใครจะไปคิดว่าคำนี้ใช้กันเมื่อ81ปีก่อน และความหมายก็เหมือนกับในปัจจุบันเป๊ะเลยทีเดียวเชียวแหละครับ
อาจจะมีข้อเสียบ้างในความเก่าของเนื้อหาที่อ่านในสมัยนี้อาจจะงงๆ หรือความกะล่อนจนมากเกินไปของเหล่าตัวละครเอก แต่นั้นก็ไม่ทำให้เรามีอุปสรรคในการอ่านได้เลยล่ะครับ ให้สัก4ดาวครับสำหรับเล่มนี้
ด้วยเนื้อหาที่เบาๆเหมาะเหลือเกินครับในการอ่านช่วงนี้ เพียงแค่หามุมดีๆบรรยากาศเหมาะๆในการอ่านแค่นี้ก็เตรียมรับความสุขสันต์หรรษาจากหนังสือเล่มนี้เเล้วครับ
ปล. สำหรับคนที่ติดใจเรื่องนี้ ไม่ต้องรอนานครับ ทางสนพแสงดาวตีพิมพ์ตอนอื่นๆมา5-6เล่มแล้วครับ ฉะนั้นไปสอยกันได้เลยครับ 555
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้