อยากสอบถามและระบายเกี่ยวกับมาตรไฟฟ้า เมื่อผมซื้อแฟลตเคหะ ต่อจากเจ้าของเดิม มีการซิกแซก

คือ เรื่องมี มีอยู่ว่า ทางผมได้ซื้อ แฟลตการเคหะ ต่อเจ้าของเดิม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562  ซึ่งผมติดต่อจะซื้อกันตั้งแต่เดือน มกราคม 62 แต่ยังไม่พร้อม  มาพร้อม โอนทำเรื่องการเคหะ จริงๆ คือ วันที่ 18 มีนาคม 2562  ซึ่งระหว่างนี้  ชื่อจะยังไม่เปลี่ยนเป็น ชื่อผม จะใช้เป็นชื่อเจ้าของเดิม ใช้เวลา โอนประมาณ 2 เดือน
พอวันรุ่งขึ้น วันที่ 19 มีนาคม ทางนั้นมาย้ายของที่เหลือออก มาเจอกันที่ห้องที่ตกลงซื้อขายกัน ตอนเย็นๆคํ่าๆ  เจ้าของเดิมมาเพื่อจด ตัวเลขมาตรไฟ และมาตรนํ้าที่ทางเจ้าของเดิมสิ้นสุดการใช้ ทีนี้มัน มาเอ้ะ ใจ ตรงที่ตอน เจ้าของเดิมกำลังจะเดินออกจากห้อง มาสั่ง ให้เราปิดไฟ ด้านหลังบ้าน คุณแม่ผม ถึง ย้อนถามว่า เอ้ะ เราซื้อขาย กันเรียบร้อยแล้วต้องขออนุญาต ใช้ไฟด้วยหรือ?
หลังจากนั้น หลายวันต่อมา เรื่องมันเริ่มชัดขึ้นๆ ทีละนิด มันมีประเด็นตรงที่ว่า  พอผ่าน  ไปไม่กี่วัน เจ้าของเดิม โทรให้ทางผมไปเปลี่ยนชื่อ มาตรไฟฟ้า เป็นชื่อทางผม  ให้เตรียมเงินค่าประกันไฟฟ้าไป 2700 เมื่อเปลี่ยนแล้วตน จะไปเอาเงินประกันของตนออก

     ที่นี้ผมก็ไปดูห้องแฟลตที่ผมซื้อแล้ว พบ จดหมายบิลค่าเช่า+ ค่านํ้า (ที่แฟลตจะเก็บสองรายการนี้พร้อมกันส่วนไฟฟ้าจะเป็นการไฟฟ้าโดยตรง ) มาส่งที่หน้าห้อง แต่เวลาที่ครบ รอบบิลที่ระบุ คือ วันที่ "17 มีนาคม 2562 " แต่ ทางผมซื้อห้องแฟลต "วันที่ 18 มีนาคม 2562  " ซึ่งหมายความบิลนี้จะต้องเป็นค่าใช้จ่ายของเจ้าของเดิม ซึ่งพอมาดูบิลเก่า ที่เจ้าของเดิมไปจ่าย มันเป็นค่าใช้จ่ายของเดือน กุมภาพันธ์ 2562  แถมยังโดนค่าปรับ จ่ายเลยเกินกำหนดเวลา แต่ดันมาเขียนด้วยปากว่า เดือนมีนาคม
พอเวลาผ่านไปอีกหลายวันอีกครั้ง 
จู่ๆ สามี เจ้าของเดิมมาหา  เอาเงินมาจ่ายค่าไฟฟ้ามาให้ แล้ว มาบอกเรื่องที่เราไม่รู้มาก่อนจะตกลงซื้อขายกันเลยคือ ไฟฟ้าห้องเรา มีการจัมป์ไฟ ไปให้แม่ค้า ไปใช้ไฟทำมาค้าขาย  จึงได้เอาเงินมาจ่าย เรา
     เราเลยถึงบางอ้อ เลย "ว่ามิน่าทำไมเจ้าของเดิม ถึงมาสั่งให้เราปิดไฟหลังบ้าน ก่อนจะจากกันไป"
ซึ่งไหนๆก็มาแล้ว เลยยื่นบิล ค่าเช่าแฟลตที่พ่วงค่ายนํ้า ที่บิลตัดรอบวันที่ 17 มีนาคม 2562 ให้ดู  สามีเลยติดต่อ ภรรยาหรือ เจ้าของห้องเดิม แต่การคุย โทรศัพท์ ก็ไม่ได้เป็นไปด้วยดี ซึ่งสามีไม่ได้อำนาจในการตัดสิน ออกความเห็นใดเลย ทำท่ากลัวาภรรยาด้วยซํ้า เลยให้ถ่ายรูปบิลกลับไปด้วยเลย

บทสนทนาก็ประมาณนี้ครับ
ทางผม : คุณยังมีบิลค้างชำระ ก่อนที่เราจะตกลงโอน ซื้อขายกัน
คุณเจ้าของเดิม : ไม่มี หนูจ่ายไปหมด ถ้าไม่จ่าย หนูโอนขายไม่ได้หรอก  ค่านํ้า เท่าไหร่คะ
ทางผม : ค่านํ้าตัว เลข xxx เท่านี้ คุณ หักล้างตัวเลขในบิลจากวันที่คุณจดไป เหลือ กี่หน่วย ก็คือที่คุณใช้
คุณเจ้าของเดิม : ไม่ใช่ บิลที่หนูจ่ายนี้ตัวเลขนี้
ทางผม : แต่ บิลมันออก วันที่ 17 มีนาคม 2562 แต่เราโอนกันวันที่ 18 มีนาคม นะ 
คุณเจ้าของเดิม : อ่อ วันเดียวเอง
คุยกันไปมา ก็ไม่ได้ข้อสรุป สุดท้ายจบลงว่าเจ้าของเดิมจะไปถาม การเคหะ

คือ ผมรู้สึก ไม่โอเค แน่ๆแล้ว คือ มาตอบ ว่า "อ๋อ วันเดียวเอง"  ทั้งๆที่ คุณ เป็นเจ้าของเดิม คุณต้องรู้มากกว่า เรา อีก ว่าบิล มันตัดยอดวันที่เท่าไหร่ ของทุกเดือน  กลาย เป็นว่า ก่อนตกลงซื้อขายกัน พูดเพราะ พูดดี แต่พูดไม่ครบ แต่ พอ โอนกันเสร็จ คุณ ได้เงินซื้อขายไปแล้ว  คุณมาบอกขอเปลี่ยน ชื่อมาตรไฟ จะเอาประกันไฟฟ้าคืน กับเราที่หลัง แล้วเรื่อง จัมป์ ไฟฟ้า ให้ แม่ค้าใช้ ก็หมกเม็ด ทั้งๆที่เรา ติดต่อซื้อขายกัน มาเป็นเดือนๆ คุณมีโอกาสบอกตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่บอกกันก่อน หรือ บอกแล้ว กลัว เราไม่ซื้อ กลายเป็นว่าทางผมขาดความเชื่อถือ ต้องมาตรวจไฟฟ้าในบ้านตรงไหนที่จัมป์ไปใช้อีกรึเปล่า

มีคำถาม ประมาณ 2-3 ข้อนะครับ
1) เวลาซื้อขายห้องชุด หรือ บ้านที่ดิน ประกัน มาตรไฟ มาตรนํ้า ตามปกติตกลงกันยังไงครับ ที่ผมเคยซื้อขาย กันมา เจ้าของเดิม จะไม่ย้อนศร ขายเสร็จจะมาเอาทีหลังแบบนี้ หรือแม้แต่ขายบ้านที่ดิน มา ก็ไม่เคยขอคนซื้อ เปลี่ยนชื่อ เพื่อเอาประกัน มาตรไฟฟ้า-นํ้า คืนนะ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมก็ต้องไปขอเปลี่ยนชื่อเค้าหมดเลยสิ มันถูกหรือ ผิดอย่างไรครับ
2) ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป เจ้าของเดิม ก็โทรมาจะมาเอาเรื่อยๆ ทั้งที่เวลา ผ่านล่วงเลยมาขนาดนี้ ถ้าท้ายที่สุดยังตกลง กันไม่ได้ตามเดิม ควร เจรจากันอย่างไรดี " ยอมจ่าย ให้จบๆกัน ไป แม้เรารู้สึกไม่โอเคกับการทำแบบนี้ หรือ ลงเอ่ยกันไม่ได้ ไปคุยโรงพักดีไหม 
เพราะผู้ใหญ่ ในบ้าน เองก็บอก ถ้าทะเลาะกัน ไม่พอใจเค้ามาป่วนถึงหน้าห้องเราได้ เราก็รู้สึกไม่ปลอดภัยอีก

ขอคำแนะนำด้วยนะครับรู้สึกไม่สบายใจ และไม่โอเคมากๆ ที่เจอ คนหมกเม็ดแบบนี้ มีเวลา จะบอกก่อนตกลงซื้อขาย ไม่บอก มันดูไม่ซื่อสัตย์ ฉวยโอกาสเอามากๆ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
1 ปกติ ค่านำ้ไฟที่ค้าง เจ้าของเดิมต้องชำระ ส่วนชื่อเจ้าของส่วนมากจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นปัจจุบัน ส่วนค่าประกันขึ้นอยู่กับการตกลงกัน ทุกอย่างอยู่ที่การเจรจาตกลงกันครับ

2 จริงๆแล้วเพื่อจบปัญหา คุณก็จ่ายๆไปเถอะครับ เพราะยังไงก็จะเป็นเงินประกันของคุณนั่นเอง จะได้ตัดขาดกับผู้ขายรายนี้ให้จบๆครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่