สัตว์โลกที่มีฟันสยองเหมือนปีศาจ


ปลามังกรดำ (Black Dragonfish) 


ปลามังกรดำ (Black Dragonfish) เป็นปลาที่มีลำตัวยาวราวกับงู มีความยาวได้มากที่สุดเพียง 40 เซนติเมตร มันเป็นปลาหน้าตาน่ากลัวมีขนาดเล็ก 
ปลามังกรดำเป็นปลาน้ำลึกที่เรืองแสงได้ แถมยังมีความแตกต่างระหว่างตัวผู้และตัวเมียอย่างมากจนน่าทึ่งเลย นั่นคือ ในขณะที่ตัวเมียยาวได้ถึง 40 เซนติเมตร มีฟันแหลมคมน่ากลัว และอาศัยอยู่ในน้ำลึก 500-800 เมตร ตัวผู้อาจจะมีความยาวน้อยกว่า 2-3 เท่า และอาศัยอยู่ลึกกว่าที่ 1,000-2,000 เมตร

นักวิทยาศาสตร์ด้านวัสดุศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานดิเอโก ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า เริ่มแรกนั้นก็คิดว่าฟันปลาทำมาจากวัสดุที่ไม่รู้จัก แต่ก็ค้นพบว่าทำมาจากวัสดุพื้นฐานเดียวกันกับฟันมนุษย์ จากการศึกษาปลามังกรสายพันธุ์ Aristostomias scintillans อาศัยอยู่ที่ความลึก 1,000 เมตรในมหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ปลาชนิดนี้มีคุณสมบัติที่น่าแปลกใจ หัวตลอดจนลำตัวเป็นสีดำยาวคล้ายปลาไหล มีเส้นใยอวบเป็นแท่งห้อยลงมาจากกรามล่างและส่วนปลายเรืองแสงไว้สำหรับล่อเหยื่อ มีอวัยวะที่เรืองแสงตามความยาวของลำตัว ฟันก็มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดของร่างกาย

ส่วนของฟันก็เคลือบด้วยผลึกระดับนาโนฝังอยู่ในโครงสร้างโดยรอบ เนื้อฟันมีเส้นใยระดับนาโนของโปรตีนคือคอลลาเจนและเคลือบด้วยผลึกของแร่ไฮดรอกซีแอปาไทต์ (Hydroxyapatite) ที่พบได้ทั่วไปในกระดูกและฟัน ลักษณะเหล่านี้ป้องกันแสง 

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์เผยว่า ปลามังกรแตกต่างจากปลาและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมีปลาตกเบ็ดหรือปลาแองเกลอร์ (anglerfish) และปลาขวาน (hatchetfish) ที่มีฟันโปร่งใสและยังไม่ได้ถูกตรวจสอบ แต่นักวิจัยสงสัยว่าน่าจะมีโครงสร้างที่คล้ายกันกับปลามังกร.

ภาพจาก sciencedump.com ,dewymossempire.tumblr.com



Camel Mouth


“อูฐ” ชาชินกับสภาพอากาศที่รุนแรงและความร้อนระอุในดินแดนแห่งท้องทะเลทราย ในการใช้ชีวิตพวกมันมีทรัพยากรอาหารที่จำกัด ต้องสามารถกินได้ทุกอย่างในระหว่างการเดินทาง นั่นหมายความว่า ปากของพวกมันต้องแข็งแกร่งพอสำหรับงาน แม้แต่กระบองเพชร พวกมันก็กินได้ 
 
กระบองเพชรไม่ใช่อะไรที่เราจะหยิบมาเคี้ยวเล่น แต่ข้อห้ามนี้ใช้กับอูฐไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่าหนามแหลมๆ จะทำอะไรมันไม่ได้เลย อันที่จริงหนามซึ่งตำปากของมันนั้นสร้างความเจ็บปวดให้อูฐ แต่มันสามารถทนได้ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะอูฐปรับตัวทุกอย่างในร่างกายของมันมาเพื่อการอยู่อาศัยในทะเลทรายโยเฉพาะ
ภายในปากของมันมีปุ่มรูปกรวยเล็กๆ ที่ช่วยในการเคี้ยว เคล็ดลับก็คืออูฐจะหมุนกระบองเพชรไปเรื่อยๆ และเลื่อนหนามให้ไหลลงคอตามแนวตั้ง เพื่อไม่ให้หนามตำคอ นอกจากนั้นพวกมันยังมีปากที่หนา และฟันที่แข็งอีกด้วย เรียกได้ว่าพืชที่ปรับตัวมาเพื่อป้องกันตนเองโดยเฉพาะก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้แก่ฟังก์ชั่นในปากอูฐ

Cr.https://board.postjung.com/900504 / โดย GOVID



 ปลาแลมป์เพรย์ 


ปลาแลมป์เพรย์ (อังกฤษ: Lamprey fish,ชื่อวิทยาศาสตร์: Petromyzon marinus) มีต้นตระกูลเดิมคือ ออสตราโคเดิร์ม ( Ostracoderm) ซึ่งเป็นปลาโบราณที่สูญพันธ์ไปแล้วในปัจจุบัน พวกจัดอยู่ในกลุ่มปลาไม่มีขากรรไกรอันดับ Petromyzontiformes ในวงศ์ Petromyzontidae 

มีลักษณะลำตัวยาวคล้ายปลาไหล ลำตัวด้านหลังมักจะเป็นสีดำ มีครีบหลังและครีบหาง แต่ไม่มีครีบคู่ ไม่มีเกล็ด ปากจะอยู่ค่อนลงมาทางด้านท้องซึ่งไม่มีขากรรไกร แต่จะมีลักษณะเป็นวงกลมใช้สำหรับดูด มีฟันแหลมคมจำนวนมากอยู่ในปาก มีลักษณะเพศแยกออกเป็นเพศผู้และเพศเมียชัดเจน

มันจัดเป็นสัตว์ปรสิตประเภทหนึ่ง โดยมันจะใช้ปากเกาะเหยื่อและใช้ฟันกับลิ้นครูดเอาเนื้อออก เพื่อให้เลือดของเหยื่อไหลผ่านได้สะดวก ระหว่างนั้นร่างกายของมันจะสร้างสารป้องกันการตกตะกอนของเลือดส่งไปที่ปากแผลเหยื่อ เมื่อดูดเลือดของเหยื่อจนตัวเหยื่อแห้งตายแล้วก็จะปล่อยทิ้งแล้วหาเหยื่อใหม่ต่อไป ซึ่งเหยื่อของมันจะเป็นพวกสัตว์มีกระดูกสันหลังที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น ปลาขนาดใหญ่ชนิดต่าง ๆ ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม

เมื่อโตเต็มที่สามารถยาวได้ประมาณ 2-3 ฟุต ปากของมันจะเป็นวงกลม ฟันแหลมคมจำนวนมากอยู่ในปาก เอื้อต่อการใช้ดูดเลือดปลาชนิดอื่น ด้วยวิธีการใช้ปากเกาะติดลำตัวเหยื่อ แล้วใช้ฟันแหลมคมครูดเนื้อออก ก่อนจะดูดเลือดเหยื่อในปริมาณมากเท่าที่จะดูดได้ 
Source : Kapook (Image)
ที่มา
 Lecture De Bookstore
https://suwanneefai.wordpress.com
https://jusci.net



 Hagfish


แฮคฟีช (hagfish) รูปร่างเหมือนทากหรือปลิงแต่ความจริงแล้วเป็นปลา  ไม่มีขากรรไกรที่อาศัยอยู่ในทะเล โดยการกินปลาตาย หรือใกล้ตายรวมทั้งสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่มีลำตัวอ่อนนุ่ม กลุ่มหนอนปล้องมอลลัสและครัสเตเชียน ดังนั้น แฮคพีชจึงไม่เป็นปรสิต และไม่ได้เป็นสัตว์ล่าเหยื่อ แต่ค่อนมาทางกินซากสัตว์มากว่า แฮคฟีชมีประมาณ 32 ชนิด ชนิดที่รู้จักกันดีในอเมริกาเหนือในมหาสมุทรแอตแลนติก

แต่ เนื่องจากรูปร่างที่คล้ายปลาไหล พวกมันจึงถูกเรียกว่า ปลาไหล  พวกมันมีพฤติกรรมการกิน โดยอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล คอยเก็บกินซาก โดยจะทะลวงจากด้านในออกมาสู่ด้านนอก  



hagfish จับปลาตัวเล็กๆ กินเป็นอาหารได้ด้วย ตอนที่ hagfish จับปลาที่เข้าไปแอบในรูใต้พื้นทะเล มันจะเริ่มจากการขดลำตัวยาวๆ ให้เหมือนสปริงเพื่อเพิ่มความเร็วในการฉก จากนั้นก็จะมัดหางตัวเองให้เป็นปมเพื่อให้เกิดแรงยึดดึงเหยื่อเข้าๆ ออกๆ จนเหยื่อตายสนิท 
 
ที่มา - PhysOrg
ภาพจาก SCIENTIC REPORT; เครติด Zintzel et al 2011



เต่าเหลี่ยม (Leatherback) 


เต่ามะเฟือง หรือ เต่าเหลี่ยม (อังกฤษ: Leatherback) เป็นเต่าที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก เจ้าเต่ามะเฟืองนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตมาจากขนาดตัวเล็กๆและน่ารักมาก แต่มันก็เติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นสัตว์ยักษ์ มีขนาดอยู่ที่ 800-900 กก.หากดูภายนอกเต่ามะเฟืองก็จะเหมือนๆกับเต่าทั่วไป แต่เมื่อพวกมันเปิดปาก คุณจะพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่ภายในปากของมัน

มันไม่มีฟัน แต่มีหนังที่แหลมคมใช้บดอาหารได้ จากนั้นจะเข้าสู่กระเพาะอาหาร ย่อยอาหารและดูดซึมที่ลำไส้  แม้ว่าหนามเหล่านี้จะน่ากลัว แต่มันก็เป็นอาวุธที่ใช้ย่อยอาหาร   มันกินอาหารทุกวัน วันละ 800-900 กิโลกรัม อาหารที่ชอบมากที่สุดคือแมงกะพรุน  เมื่อเต่ามะเฟืองมีอาหารเพียงพอก็จะพักลดพลังงานในตัวมันด้วย
Cr. http://www.liekr.com/post_136414.html
 
 

แมวน้ำกินปู (crabeater seal)


กระโหลกของแมวน้ำกินปู (crabeater seal,ชื่อวิทยาศาสตร์ Lobodon carcinophaga) แสดงแนวฟันรูปสันลอนสลับเป็นแนวฟันปลาที่มีรูปร่างแตกต่างจากแนวฟันของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือแม้แต่ฟันของกลุ่มแมวน้ำสายพันธุ์ใกล้เคียงอื่น ๆ และนับเป็นหนึ่งในลักษณะของฟันที่รูปร่างประหลาดในอาณาจักรสัตว์

แม้จะมีชื่อว่าแมวน้ำกินปู แต่แท้จริงแล้วแมวน้ำกินปูนั้นมีแหล่งอาหารหลักมากกว่าร้อยละ 90 เป็นการบริโภคเคยทะเล สัตว์กลุ่มครัสตาเชียนที่อาศัยอยู่ในน้ำทะเลโดยรอบมหาสมุทรแอนตาร์กติกที่อุดมสมบูรณ์

แมวน้ำกินปูจับพวกมันโดยการฮุบเอาน้ำที่อุดมด้วยเหยื่อเหล่านี้เข้าไป ไล่เอาน้ำออกและกรองเอาเคยกินเป็นอาหาร วิวัฒนาการของพวกมันได้คัดสรรให้ลูกหลานของแมวน้ำกินปูที่มีรูปร่างฟันที่เอื้อต่อการฮุบและระบายน้ำได้รวดเร็ว(ส่งผลต่อการกินที่มีประสิทธิภาพ) สามารถอยู่รอดและสืบทอดลูกหลานได้มากสุด ส่งผลต่อแนวฟันที่มีรูปร่างสันลอน แต่ประกบสนิทที่พวกมันจะกรองเอาเหยื่อกินได้ง่าย คล้ายกับกลุ่มวาฬบาลีนที่วิวัฒนาการแนวซี่แปรงขึ้นมาตลอดแนวขากรรไกรบนเพื่อทำหน้าที่คล้ายคลึงกัน

แมวน้ำกินปูนั้นมีขนาดประมาณ 2.3เมตร และหนักประมาณ 200กิโลกรัม พวกมันกระจายตัวอยู่โดยรอบแนวชายฝั่งทวีปแอนตาร์กติก โดยประชากรของพวกมันถูกประมาณการอยู่ในช่วง 7-70ล้านตัว ซึ่งนับเป็นกลุ่มสายพันธุ์แมวน้ำที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และนับว่าโชคดีที่ศัตรูตามธรรมชาติของมันมีแค่แมวน้ำเสือดาว และวาฬเพชฌฆาต ส่วนมนุษย์นั้นยังไม่พบประวัติการล่าพวกมันแต่อย่างใด
โดย แอดลู่
ที่มาภาพ http://novomundoestranho.blogspot.com/…/estranhos-dentes-da…
Cr.https://hi-in.facebook.com/Penedgeencyclopedia/photos/-กระโหลกของแมวน้ำกินปู-crabeater-sealชื่อวิทยาศาสตร์-lobodon-carcinophaga-แสดงแน/1733476173395881/


(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่