โลกของเราเต็มไปด้วยความสุดขั้วมากมาย สถานที่ที่สุดขั้ว สัตว์ที่สุดขั้ว แต่สัตว์บางชนิดก็สุดขั้วเหนือไปกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ
และ กระทู้นี้ผมจะพาคุณนับอันดับไปกับ 10 สัตว์ที่มีอวัยวะยื่นออกมาจากตัวที่มีความน่าพิศวงที่สุด
10. กิ้งก่าคามีเลียน (Chameleon) - Family Chamaeleonidae
ใน นิวซีแลนดื ชนเผ่าเมารี ใช้ลิ้นเพื่อข่มชู่ศัตรู ในส่วนหนึ่งของ ฮากา (Haka) หรือ การเต้นสงคราม
อันดับ 10 ของเราก็ใช้ประโยชน์จากลิ้นเฃ่นกัน มันคือ กิ้งแก่คามีเลียน
ข้างในปากของมันมีลิ้นที่ยาวมากถึง 2 เท่าของลำตัว
เพื่อจับอาหารกิน มันยื่นลิ้นออกไปด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. และใช้เวลาเพียงแต่ 20 เสี้ยววินาที
เป็นคำถามต่อนักวิทยาศาสตร์มาช้านาน ว่ากล้ามเนื้ออะไรที่จะสร้างความเร่งได้มากขนาดนั้น
จนมีการค้นพบว่า ภายในคางของกิ้งก่ามีมวลคอลลาเจนยืดหยุ่นได้และอุดมไปด้วยพลังงานมหาศาล
เมื่อจะจับเหยื่อ กิ้งก่าจะยืดคางตัวเองลง เหมือนการง้างคันธนู และเมื่อปล่อย มวลคอลลาเจนก็จะส่งพลังงานปริมาณมากไปที่ลิ้น
9. หอยทาก (Snail)
คลานเข้ามาสู่อันดับ 9 ของเรา คือ หอยทาก
ทั่วโลกเรามีหอยทากอยู่มากกว่า 60,000 สปีชีส์ และ ทั้งหมดก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน
หอยทาก เป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกเลย และ สำหรับการกินมันก็ไม่มีฟันกรามเหมือนเรา
เพื่อทดแทน ปากของมันมีอวัยวะพิเศษที่ช่วยมันให้บดเคี้ยวอาหาร
มันเป็นแถบริบบิ้นที่มีฟันขนาดจิ๋วจำนวนมาก เรียกว่า เรดูล่า (Radula)
ในเรดูล่า มันมีหนามขนาดเล็กได้มากถึง 750,000 อัน ซึ่งหนามเหล่านี้เป็นวัสดุเดียวกันกับหนามเกราะป้องกันของแมลง
เพื่อเริ่มต้นการการ หอยทากจะใช้เรดูล่าเจาะเข้าไปในใบไม้หรือเนื้อ
แล้วก็เคลื่อนที่ไปตักกินไปเหมือนรถไถ
และก้ไม่ใฃ่ว่าหอยทากทุกชนิดจะกินมังสวิรัติ, มันอาจจะเชื่องช้า แต่เป็นนักล่า
หอยทากบางสปีชีส์มีปากที่ยาวและแหลมเหมือนกริช และยังสามารถยิงเรดูล่าออกไปจับเหยื่อได้ด้วย
8. แมลงปอ (Dragonfly) - Infraorder Anisoptera
บินเข้ามาสู่อันดับ 8 คือ แมลงปอ
ในอากาศ มันเป็นนักล่าทรงพลัง ที่ไล่จับเหยื่อด้วยความเร็วที่สูงจนน่ากลัว
มันมีอายุมากถึง 7 ปี แต่ก็เป็นเพียงช่วงไม่กี่สัปดาห์สุดท้ายเท่านั้น ที่มันจะได้มีปีก เพื่อบินไปวางไข่ซึ่งลูกของมันจะเติบโตอยู่ใต้น้ำ
นี่คือ แมลงปอในรูปแบบเยาว์วัย มีชื่อเรียกว่า นิมฟ์ (Nymph)
มันไม่มีปีกแต่มันก็ก้ยังคงเป็นนักล่าที่เหี้ยมโหด ต้องขอบคุณอวัยวะสุดพิเศษบางอย่าง
ริมฝีปากล่างของนิมฟ์ ได้พัฒนาไปเป็น ฉมวก (Harpoon)
ฉมวกของมันใช้เวลาเพียง 25 เสี้ยววินาทีในการจับเหยื่อ
และ มันไม่ต้องการอวัยวะเก็บพลังงานเหมือนคามีเลียน เพราะว่าอยู่ใต้น้ำ
มันใช้ช่องท้องบีบอัดน้ำมห้เกิด แรงดันไฮดรอลิก
7. ช้าง (Elephant) - Subfamily Elephantinae
จมูกที่ยาวได้มากกว่า 2 เมตรของช้าง หรือที่เรียกว่า งวง (Trunk) นั้นเป็นเหมือน มีดสวิสในโลกของสัตว์
ที่ปลายงวงของมันยังมีส่วนที่เป็นเหมือน นิ้วมือ อีกด้วย
ด้วยการที่มีกล้ามเนื้อมากกว่า 40,000 ในเฉพาะที่งวง มันสามารถทำงานที่ละเอียดอ่อนสุดอย่างการ เก็บเหรียญบนพื้น ไปจนถึง การโค่นล้มต้นไม้ ได้ง่ายๆ
ท่อของมันยังมีพลังการดูดน้ำ 200 ลิตรในเวลาเพียงแค่ 4 นาที ครึ่ง และเป็นได้ทั้ง ฝักบัวพ่นน้ำและท่อหายใจใต้น้ำ
ด้วยการที่ทำได้มากขนาดนี้ มันน่าตกใจที่ลูกช้างเกิดใหม่นั้นไม่มีกล้ามเนื้อในงวงเลย
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะมันใช้ปากกินนมแม่โดยตรง ไม่ได้ใช้งวงเลย
6. ตุ่นจมูกดาว (Star-nosed Mole) - Condylura cristata
ถ้าเราอาศัยอยู่ในความมืดมิดอย่างสนิท การสัมผัสคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
อวัยวะของมนุษย์ที่มีเซลล์ประสาทรับรู้สภาพพื้นผิวมากที่สุด คือ มือ, และนี่คือเหตุผลที่ นิ้วมือ จำเป็นต่อคนที่อ่านอักษรเบรลล์
คู่แข่งต่อไปของเราก็พึ่งพา นิ้วมือ ในการนำทางในความมืด
แต่ นิ้วของมันอยู่ที่จมูก
นิ้วเหล่านี้มามากถึง 25,000 ปลายประสาทรับการสัมผัส เชื่อมต่อกับเครือข่ายเส้นใยประสาทเป็นแสนเซลล์ ซึ่งนำข่อมูลสู่สมองโดยตรง
นี่คือเหตุผลที่ นิ้วของพวกมันไวต่อการสัมผัสมากกว่ามือเรา อย่างน้อย 6 เท่า
เมื่อเทียบกับ ตัวตุ่นปกติ ได้มีการพบว่า ตุ่นจมูกดาวสามารถหาเหยื่อได้มากกว่าถึง 14 เท่า ในเวลาที่เท่ากัน
5.ลิงแมงมุม (Spider Monkey) - Genus Ateles
ปีนป่ายเข้ามาสู่อันดับ 5 ของเรา ลิงแมงมุม
มันมีแขนขาที่ยาวกว่าลำตัวมากๆ เหมือน แมงมุม และนี่คือที่มาของชื่อ
เมื่อเราจะต้องกระโดดไปมาที่ความสูง 30 เมตรเหนือพื้นดิน, มันปลอดภัยขึ้นมากถ้าเรามี 5 แขนขา (Limb) แทนที่จะเป็น 4
นี่คือเหตุผลที่ ลิงแมงมุม มีหางที่ยาวและแข็งแรงมาก
น้ำหนักลิงคือประมาณ 8 กก. แต่หางของมันก็ไม่มีปัญหาเลยที่จะแบกทั้งตัว
ที่ปลายหางของลิงแมงมุมคือก้อนเนื้อไร้ขนที่มีร่อง (Groove) มากมาย คล้ายมือเรา
และก้อนเนื้อนี้ก็ยังมีลายที่ไม่ซ้ำกัน เหมือน ลายนิ้วมือเราด้วย
ลิงแมงมุมใช้ส่วนพิเสษที่ปลายหางนี้ในการจับกิ่งไม้ และมันยังใช้คว้าหยิบผลไม้หรือเบอร์รี่ได้ไม่ต่างไปจากมือเลย
บางสปีชีส์ก็ทำได้มากกว่านั้น ด้วยการที่ใฃ้ส่วนนั้นตักน้ำจากรูและร่องตามลำต้นของต้นไม้
หน้าที่หลักของหางลิงแมงมุมก็คือการห้อยโหน ซึ่งมันสามารถห้อยโหนไปได้ไกลถึง 12 เมตร โดยใช้หางเกาะแค่ครั้งเดียว
และมันก็เป็นสัตว์ที่ไวที่สุดในต้นไม้ของอเมริกาใต้
4. กิ้งก่าเทเนรีฟ (Tenerife Lizard) - Gallotia galloti
สัตว์คู่แข่งของเราสามารถทิ้งบางส่วนของอวัยวะออกไปได้ ถ้ามันจะนำมาซึ่งความปลอดภัย
มีกิ้งก่าหลากหลายสปีชีส์มากมายที่ได้พัฒนากลอุบายมาเพื่อหลบหนีผู้ล่า
สำหรับกิ้งก่าเทเนรีฟ แห่งเกาะคานารี นอกชายฝั่งสเปน การเอาตัวรอดที่ดีที่สุดก็คือ กิ้งก่าเทเนรีฟตัวอื่น
ตัวผู้มีจุดสีน้ำเงินที่เป็นจ่าฝูง มักจะถูกบุกรุกด้วยตัวผู้ตัวอื่น เพื่อแย่งอาหารและตัวเมีย
การต่อสู้ชิงอาณาเขตกินเวลาไปได้มาถึง 30 นาที ซึ่งท่ามกลางความบาดเจ็บที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นกับทั้งคู่ ตัวผู้ที่ทนไม่ไหวก่อนก็จำเป็นต้องจากไป
ซึ่งมันก็จะทิ้งหางตัวเองไว้ก่อนหนี หางที่ถูกทิ้งไว้จะยังคงดิ้นไปมาได้ซักพัก เพื่อดึงดูดความสนใจ วึ่งก้เป็นเวลามากพอที่จะย่องหนีออกไป
กิ้งก่าเทเนรีฟ เป็น อันดับ 4 เพราะว่า มันสามารถตัดหางตัวเองออกได้เองเมื่อต้องการ ไม่ต้องอาศัยการถูกฉุดกระชากหาง
กระดูกสันหลังของมันมีข้อปล้องที่เป็นจุดอ่อนแอซึ่งเกิดขึ้นเอง และนี่ก็คือจุดที่จะตัด
หลังตัดหาง ร่างกายมันมีกลไกการห้ามเลือดอย่างรวดเร็ว เพื่อการสูญเสียเลือดที่น้อยที่สุด
3. นูดีแบรนช์ (Nudibranch) - Order Nudibranchia
นูดีแบรนช์ คือ ทากทะเลประเภทหนึ่ง
หนวดยาวคล้ายนิ้วมือของมันแต่ละก้าน คือ อวัยวะสุดพิเศษที่บรรจุอาวุธลับที่มันขโมยมาจากอาหารที่กิน ซึ่งก็คือ ดอกไม้ทะเล
สัตว์แทบทุกชนิดกลัวดอกไม้ทะเล เพราะหนวดของมันมีเข็มพิษขนาดเล็กมากมายที่ต่อยได้
แต่นูดีแบรนช์สามารถต้านทานสิ่งเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และ ยิ่งไปกว่านั้น มันค้นพบวิธีที่จะกักเก็บส่วนของสัตว์ชนิดอื่นไว้ในร่างกายของมันด้วย
เมื่อนูดีแบรนช์กินดอกไม้ทะเล กระเพาะของมันมีการทำงานสุดพิเศษโดยการ แยกเอาเฉพาะเนื้อดอกไม้ทะเลมาย่อย ส่วนเข็มพิษจะถูกส่งไปเก็บอยู่ในอวัยวะคล้ายนิ้วมือที่อยู่บนหลัง และนี่คือ คำพูดยอดฮิต เราเป็นในสิ่งที่กิน อย่างแท้จริง
เมื่อมีผู้ล่าเข้ามาใกล้ เซลล์เข็มพิษนี้ก็จะต่อยออกไป
2. หอยสองฝาน้ำจืด (Freshwater Mussel) - Order Unionida
ผู้แข่งขันต่อไปของเราสามารถถูกพบอยู่ที่หิน ที่ก้นพื้นทะเลสาบน้ำจืดและแม่น้ำ
แค่ในอเมริกาเหนือก็มีหอยสองฝาน้ำจืด หรือที่เรียกว่า มัสเซลน้ำจืด อยู่อย่างน้อย 300 สปีชีส์ และ ปลาท้องถิ่นอีกอย่างน้อย 800 สปีชีส์
ซึ่ง 2 อย่างนี้ บางทีมันก็ยากที่จะแยกออกจากกัน
นี่ไม่ใช่ปลา แต่เป็นก้อนเนื้อของ เหงือกที่ถูกดัดแปลงมาพิเศษ โผล่ออกมาจาก ขอบเปลือก (Lip) ของมัสเซลตัวเมีย
สมบูรณ์แบบด้วย ตาและหางปลอม อวัยวะส่วนนี้เป็นเหยื่อล่อปลา และนั่นก้เพราะว่า ลูกๆของมันจะเติบโตเมื่อไปเกาะอยู่ที่เหงือกของปลาใหญ่ เท่านั้น
การกัดของปลาทำให้เบ็ดแตกออก และปลดปล่อยตัวอ่อนมัสเซลนับพัน
เซลล์ตัวอ่อนขนาดเล็กเหล่านี้ ต้องเกาะติดให้ใกล้เหงือกมากที่สุด เพื่อได้รับสารเคมีเฉพาะที่ผลิตโดยเหงือกปลาซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต
เซลล์ตัวอ่อนเหล่านี้จะเกาะอยู่ประมาณ 6 เดือนแล้วก็ออกไปเอง
มัสเซลที่แตกต่างกันก็มีการสร้างเบ็ดล่อรูปร่างต่างกัน เพื่อดึงดูดปลาสายพันธุ์เฉพาะ
ปลาจะไม่ได้รับอันตรายใดๆจากการบุกรุกของ มัสเซลน้อย, เหงือกของมันเพียงแค่ป้อนอาหารให้จนกว่ามัสเซลจะโตมากพอ ที่จะปลดตัวเองออกไปอยู่ที่พื้น
1. ปลากบ (Frogfish) - Family Antennariidae
ทั่วโลกเรามีปลาอยู่มากกว่า 15,000 สปีฃีส์
และส่วนใหญ่ก็มี ครีบ เพื่อว่ายน้ำ
อย่างไรก็ตาม สัตว์ในอันดับ 1 ของเราใช้ ครีบ เพื่อเดิน
ปลากบ ไม่ค่อยจะว่ายน้ำ มันใช้ ครีบอ้วนเตี้ยอันประหลาดเป็นเหมือนขาขนาดเล็ก
มันไม่มีความจำเป็นที่จะว่ายน้ำเลย เพราะมันยังค้นพบวิธีใช้ครีบอันสุดประหลาดอีกอย่างหนึ่ง
มันเปลี่ยนครีบเป็น เบ็ดตกปลา
สิ่งที่ดูเหมือนหนอนนี้คือ ชิ้นผิวหนัง จากครีบหลังที่ยื่นออกมามากเป็นพิเศษ
เมื่ออาหารของมันถูกล่อเข้ามาใกล้ ปลากบก็จะดูดเหยื่อเข้าปาก ด้วยแรงดันที่สร้างขึ้นเองจากการขยายช่องปาก
จบคร้าบ เป็นไงกันบ้าง ชอบกันมั้ย คอมเม้นกันได้นะคร้าบ
การใช้คำอาจจะแปลกๆนิดนึงนะครับ เพราะ พยายามแปลให้เหมือนวีดีโอต้นฉบับที่สุด
ลิงค์วีดีโอต้นฉบับ
https://www.youtube.com/watch?v=WaVOoL3GO58
10 อันดับ สัตว์ที่มีอวัยวะพิเศษที่แปลกประหลาดที่สุด
และ กระทู้นี้ผมจะพาคุณนับอันดับไปกับ 10 สัตว์ที่มีอวัยวะยื่นออกมาจากตัวที่มีความน่าพิศวงที่สุด
10. กิ้งก่าคามีเลียน (Chameleon) - Family Chamaeleonidae
ใน นิวซีแลนดื ชนเผ่าเมารี ใช้ลิ้นเพื่อข่มชู่ศัตรู ในส่วนหนึ่งของ ฮากา (Haka) หรือ การเต้นสงคราม
อันดับ 10 ของเราก็ใช้ประโยชน์จากลิ้นเฃ่นกัน มันคือ กิ้งแก่คามีเลียน
ข้างในปากของมันมีลิ้นที่ยาวมากถึง 2 เท่าของลำตัว
เพื่อจับอาหารกิน มันยื่นลิ้นออกไปด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. และใช้เวลาเพียงแต่ 20 เสี้ยววินาที
เป็นคำถามต่อนักวิทยาศาสตร์มาช้านาน ว่ากล้ามเนื้ออะไรที่จะสร้างความเร่งได้มากขนาดนั้น
จนมีการค้นพบว่า ภายในคางของกิ้งก่ามีมวลคอลลาเจนยืดหยุ่นได้และอุดมไปด้วยพลังงานมหาศาล
เมื่อจะจับเหยื่อ กิ้งก่าจะยืดคางตัวเองลง เหมือนการง้างคันธนู และเมื่อปล่อย มวลคอลลาเจนก็จะส่งพลังงานปริมาณมากไปที่ลิ้น
9. หอยทาก (Snail)
คลานเข้ามาสู่อันดับ 9 ของเรา คือ หอยทาก
ทั่วโลกเรามีหอยทากอยู่มากกว่า 60,000 สปีชีส์ และ ทั้งหมดก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน
หอยทาก เป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกเลย และ สำหรับการกินมันก็ไม่มีฟันกรามเหมือนเรา
เพื่อทดแทน ปากของมันมีอวัยวะพิเศษที่ช่วยมันให้บดเคี้ยวอาหาร
มันเป็นแถบริบบิ้นที่มีฟันขนาดจิ๋วจำนวนมาก เรียกว่า เรดูล่า (Radula)
ในเรดูล่า มันมีหนามขนาดเล็กได้มากถึง 750,000 อัน ซึ่งหนามเหล่านี้เป็นวัสดุเดียวกันกับหนามเกราะป้องกันของแมลง
เพื่อเริ่มต้นการการ หอยทากจะใช้เรดูล่าเจาะเข้าไปในใบไม้หรือเนื้อ
แล้วก็เคลื่อนที่ไปตักกินไปเหมือนรถไถ
และก้ไม่ใฃ่ว่าหอยทากทุกชนิดจะกินมังสวิรัติ, มันอาจจะเชื่องช้า แต่เป็นนักล่า
หอยทากบางสปีชีส์มีปากที่ยาวและแหลมเหมือนกริช และยังสามารถยิงเรดูล่าออกไปจับเหยื่อได้ด้วย
8. แมลงปอ (Dragonfly) - Infraorder Anisoptera
บินเข้ามาสู่อันดับ 8 คือ แมลงปอ
ในอากาศ มันเป็นนักล่าทรงพลัง ที่ไล่จับเหยื่อด้วยความเร็วที่สูงจนน่ากลัว
มันมีอายุมากถึง 7 ปี แต่ก็เป็นเพียงช่วงไม่กี่สัปดาห์สุดท้ายเท่านั้น ที่มันจะได้มีปีก เพื่อบินไปวางไข่ซึ่งลูกของมันจะเติบโตอยู่ใต้น้ำ
นี่คือ แมลงปอในรูปแบบเยาว์วัย มีชื่อเรียกว่า นิมฟ์ (Nymph)
มันไม่มีปีกแต่มันก็ก้ยังคงเป็นนักล่าที่เหี้ยมโหด ต้องขอบคุณอวัยวะสุดพิเศษบางอย่าง
ริมฝีปากล่างของนิมฟ์ ได้พัฒนาไปเป็น ฉมวก (Harpoon)
ฉมวกของมันใช้เวลาเพียง 25 เสี้ยววินาทีในการจับเหยื่อ
และ มันไม่ต้องการอวัยวะเก็บพลังงานเหมือนคามีเลียน เพราะว่าอยู่ใต้น้ำ
มันใช้ช่องท้องบีบอัดน้ำมห้เกิด แรงดันไฮดรอลิก
7. ช้าง (Elephant) - Subfamily Elephantinae
จมูกที่ยาวได้มากกว่า 2 เมตรของช้าง หรือที่เรียกว่า งวง (Trunk) นั้นเป็นเหมือน มีดสวิสในโลกของสัตว์
ที่ปลายงวงของมันยังมีส่วนที่เป็นเหมือน นิ้วมือ อีกด้วย
ด้วยการที่มีกล้ามเนื้อมากกว่า 40,000 ในเฉพาะที่งวง มันสามารถทำงานที่ละเอียดอ่อนสุดอย่างการ เก็บเหรียญบนพื้น ไปจนถึง การโค่นล้มต้นไม้ ได้ง่ายๆ
ท่อของมันยังมีพลังการดูดน้ำ 200 ลิตรในเวลาเพียงแค่ 4 นาที ครึ่ง และเป็นได้ทั้ง ฝักบัวพ่นน้ำและท่อหายใจใต้น้ำ
ด้วยการที่ทำได้มากขนาดนี้ มันน่าตกใจที่ลูกช้างเกิดใหม่นั้นไม่มีกล้ามเนื้อในงวงเลย
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะมันใช้ปากกินนมแม่โดยตรง ไม่ได้ใช้งวงเลย
6. ตุ่นจมูกดาว (Star-nosed Mole) - Condylura cristata
ถ้าเราอาศัยอยู่ในความมืดมิดอย่างสนิท การสัมผัสคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
อวัยวะของมนุษย์ที่มีเซลล์ประสาทรับรู้สภาพพื้นผิวมากที่สุด คือ มือ, และนี่คือเหตุผลที่ นิ้วมือ จำเป็นต่อคนที่อ่านอักษรเบรลล์
คู่แข่งต่อไปของเราก็พึ่งพา นิ้วมือ ในการนำทางในความมืด
แต่ นิ้วของมันอยู่ที่จมูก
นิ้วเหล่านี้มามากถึง 25,000 ปลายประสาทรับการสัมผัส เชื่อมต่อกับเครือข่ายเส้นใยประสาทเป็นแสนเซลล์ ซึ่งนำข่อมูลสู่สมองโดยตรง
นี่คือเหตุผลที่ นิ้วของพวกมันไวต่อการสัมผัสมากกว่ามือเรา อย่างน้อย 6 เท่า
เมื่อเทียบกับ ตัวตุ่นปกติ ได้มีการพบว่า ตุ่นจมูกดาวสามารถหาเหยื่อได้มากกว่าถึง 14 เท่า ในเวลาที่เท่ากัน
5.ลิงแมงมุม (Spider Monkey) - Genus Ateles
ปีนป่ายเข้ามาสู่อันดับ 5 ของเรา ลิงแมงมุม
มันมีแขนขาที่ยาวกว่าลำตัวมากๆ เหมือน แมงมุม และนี่คือที่มาของชื่อ
เมื่อเราจะต้องกระโดดไปมาที่ความสูง 30 เมตรเหนือพื้นดิน, มันปลอดภัยขึ้นมากถ้าเรามี 5 แขนขา (Limb) แทนที่จะเป็น 4
นี่คือเหตุผลที่ ลิงแมงมุม มีหางที่ยาวและแข็งแรงมาก
น้ำหนักลิงคือประมาณ 8 กก. แต่หางของมันก็ไม่มีปัญหาเลยที่จะแบกทั้งตัว
ที่ปลายหางของลิงแมงมุมคือก้อนเนื้อไร้ขนที่มีร่อง (Groove) มากมาย คล้ายมือเรา
และก้อนเนื้อนี้ก็ยังมีลายที่ไม่ซ้ำกัน เหมือน ลายนิ้วมือเราด้วย
ลิงแมงมุมใช้ส่วนพิเสษที่ปลายหางนี้ในการจับกิ่งไม้ และมันยังใช้คว้าหยิบผลไม้หรือเบอร์รี่ได้ไม่ต่างไปจากมือเลย
บางสปีชีส์ก็ทำได้มากกว่านั้น ด้วยการที่ใฃ้ส่วนนั้นตักน้ำจากรูและร่องตามลำต้นของต้นไม้
หน้าที่หลักของหางลิงแมงมุมก็คือการห้อยโหน ซึ่งมันสามารถห้อยโหนไปได้ไกลถึง 12 เมตร โดยใช้หางเกาะแค่ครั้งเดียว
และมันก็เป็นสัตว์ที่ไวที่สุดในต้นไม้ของอเมริกาใต้
4. กิ้งก่าเทเนรีฟ (Tenerife Lizard) - Gallotia galloti
สัตว์คู่แข่งของเราสามารถทิ้งบางส่วนของอวัยวะออกไปได้ ถ้ามันจะนำมาซึ่งความปลอดภัย
มีกิ้งก่าหลากหลายสปีชีส์มากมายที่ได้พัฒนากลอุบายมาเพื่อหลบหนีผู้ล่า
สำหรับกิ้งก่าเทเนรีฟ แห่งเกาะคานารี นอกชายฝั่งสเปน การเอาตัวรอดที่ดีที่สุดก็คือ กิ้งก่าเทเนรีฟตัวอื่น
ตัวผู้มีจุดสีน้ำเงินที่เป็นจ่าฝูง มักจะถูกบุกรุกด้วยตัวผู้ตัวอื่น เพื่อแย่งอาหารและตัวเมีย
การต่อสู้ชิงอาณาเขตกินเวลาไปได้มาถึง 30 นาที ซึ่งท่ามกลางความบาดเจ็บที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นกับทั้งคู่ ตัวผู้ที่ทนไม่ไหวก่อนก็จำเป็นต้องจากไป
ซึ่งมันก็จะทิ้งหางตัวเองไว้ก่อนหนี หางที่ถูกทิ้งไว้จะยังคงดิ้นไปมาได้ซักพัก เพื่อดึงดูดความสนใจ วึ่งก้เป็นเวลามากพอที่จะย่องหนีออกไป
กิ้งก่าเทเนรีฟ เป็น อันดับ 4 เพราะว่า มันสามารถตัดหางตัวเองออกได้เองเมื่อต้องการ ไม่ต้องอาศัยการถูกฉุดกระชากหาง
กระดูกสันหลังของมันมีข้อปล้องที่เป็นจุดอ่อนแอซึ่งเกิดขึ้นเอง และนี่ก็คือจุดที่จะตัด
หลังตัดหาง ร่างกายมันมีกลไกการห้ามเลือดอย่างรวดเร็ว เพื่อการสูญเสียเลือดที่น้อยที่สุด
3. นูดีแบรนช์ (Nudibranch) - Order Nudibranchia
นูดีแบรนช์ คือ ทากทะเลประเภทหนึ่ง
หนวดยาวคล้ายนิ้วมือของมันแต่ละก้าน คือ อวัยวะสุดพิเศษที่บรรจุอาวุธลับที่มันขโมยมาจากอาหารที่กิน ซึ่งก็คือ ดอกไม้ทะเล
สัตว์แทบทุกชนิดกลัวดอกไม้ทะเล เพราะหนวดของมันมีเข็มพิษขนาดเล็กมากมายที่ต่อยได้
แต่นูดีแบรนช์สามารถต้านทานสิ่งเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และ ยิ่งไปกว่านั้น มันค้นพบวิธีที่จะกักเก็บส่วนของสัตว์ชนิดอื่นไว้ในร่างกายของมันด้วย
เมื่อนูดีแบรนช์กินดอกไม้ทะเล กระเพาะของมันมีการทำงานสุดพิเศษโดยการ แยกเอาเฉพาะเนื้อดอกไม้ทะเลมาย่อย ส่วนเข็มพิษจะถูกส่งไปเก็บอยู่ในอวัยวะคล้ายนิ้วมือที่อยู่บนหลัง และนี่คือ คำพูดยอดฮิต เราเป็นในสิ่งที่กิน อย่างแท้จริง
เมื่อมีผู้ล่าเข้ามาใกล้ เซลล์เข็มพิษนี้ก็จะต่อยออกไป
2. หอยสองฝาน้ำจืด (Freshwater Mussel) - Order Unionida
ผู้แข่งขันต่อไปของเราสามารถถูกพบอยู่ที่หิน ที่ก้นพื้นทะเลสาบน้ำจืดและแม่น้ำ
แค่ในอเมริกาเหนือก็มีหอยสองฝาน้ำจืด หรือที่เรียกว่า มัสเซลน้ำจืด อยู่อย่างน้อย 300 สปีชีส์ และ ปลาท้องถิ่นอีกอย่างน้อย 800 สปีชีส์
ซึ่ง 2 อย่างนี้ บางทีมันก็ยากที่จะแยกออกจากกัน
นี่ไม่ใช่ปลา แต่เป็นก้อนเนื้อของ เหงือกที่ถูกดัดแปลงมาพิเศษ โผล่ออกมาจาก ขอบเปลือก (Lip) ของมัสเซลตัวเมีย
สมบูรณ์แบบด้วย ตาและหางปลอม อวัยวะส่วนนี้เป็นเหยื่อล่อปลา และนั่นก้เพราะว่า ลูกๆของมันจะเติบโตเมื่อไปเกาะอยู่ที่เหงือกของปลาใหญ่ เท่านั้น
การกัดของปลาทำให้เบ็ดแตกออก และปลดปล่อยตัวอ่อนมัสเซลนับพัน
เซลล์ตัวอ่อนขนาดเล็กเหล่านี้ ต้องเกาะติดให้ใกล้เหงือกมากที่สุด เพื่อได้รับสารเคมีเฉพาะที่ผลิตโดยเหงือกปลาซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต
เซลล์ตัวอ่อนเหล่านี้จะเกาะอยู่ประมาณ 6 เดือนแล้วก็ออกไปเอง
มัสเซลที่แตกต่างกันก็มีการสร้างเบ็ดล่อรูปร่างต่างกัน เพื่อดึงดูดปลาสายพันธุ์เฉพาะ
ปลาจะไม่ได้รับอันตรายใดๆจากการบุกรุกของ มัสเซลน้อย, เหงือกของมันเพียงแค่ป้อนอาหารให้จนกว่ามัสเซลจะโตมากพอ ที่จะปลดตัวเองออกไปอยู่ที่พื้น
1. ปลากบ (Frogfish) - Family Antennariidae
ทั่วโลกเรามีปลาอยู่มากกว่า 15,000 สปีฃีส์
และส่วนใหญ่ก็มี ครีบ เพื่อว่ายน้ำ
อย่างไรก็ตาม สัตว์ในอันดับ 1 ของเราใช้ ครีบ เพื่อเดิน
ปลากบ ไม่ค่อยจะว่ายน้ำ มันใช้ ครีบอ้วนเตี้ยอันประหลาดเป็นเหมือนขาขนาดเล็ก
มันไม่มีความจำเป็นที่จะว่ายน้ำเลย เพราะมันยังค้นพบวิธีใช้ครีบอันสุดประหลาดอีกอย่างหนึ่ง
มันเปลี่ยนครีบเป็น เบ็ดตกปลา
สิ่งที่ดูเหมือนหนอนนี้คือ ชิ้นผิวหนัง จากครีบหลังที่ยื่นออกมามากเป็นพิเศษ
เมื่ออาหารของมันถูกล่อเข้ามาใกล้ ปลากบก็จะดูดเหยื่อเข้าปาก ด้วยแรงดันที่สร้างขึ้นเองจากการขยายช่องปาก
จบคร้าบ เป็นไงกันบ้าง ชอบกันมั้ย คอมเม้นกันได้นะคร้าบ
การใช้คำอาจจะแปลกๆนิดนึงนะครับ เพราะ พยายามแปลให้เหมือนวีดีโอต้นฉบับที่สุด
ลิงค์วีดีโอต้นฉบับ https://www.youtube.com/watch?v=WaVOoL3GO58