สวัสดีครับทุกท่าน
ราคาหุ้นส่วนใหญ่จะสะท้อนกำไรของบริษัทในอนาคต
SET ลงมาขนาดนี้ สะท้อนกำไรในอนาคตอันมืดมน
ตลาดบอกไว้แบบนั้น
ว่าแต่… เราเชื่อตลาดได้แค่ไหน
ในสภาวะวิกฤต
นักลงทุนมองหาอะไร?
ที่แน่ๆคือ ไม่ใช่เวลามองหาบริษัทเติบโต
เพราะความเสี่ยงที่บริษัทจะไม่โตสูง
เผลอๆถ้ากู้เงินมาเยอะ หรือมีหุ้นกู้ปริมาณมากๆอาจจะ Default (ผิดนัดชำระ) ได้
และถ้า Default ตอนนี้ทุกอย่างคือจบ!!!
เพราะจะโดน เทขาย แบบบ้าคลั่งแน่นอน
บริษัทที่มีเงินสดจำนวนมาก ขายสินค้าจำเป็น มีหนี้ในระดับเหมาะสม
นั่นคือสิ่งที่นักลงทุนมองหา
ขอพูดถึงเพื่อนบ้านเรานิดนึง
“เวียดนาม”
ผมติดตามการลงทุนของ ดร.นิเวศน์ เกี่ยวกับเวียดนามมาบ้าง
ช่วงนึงท่านพูดว่า เวียดนามเหมือนไทยก่อนปี 40
ผมยังคิดเล่นๆเลยว่า งั้นอาจจะเหมือนไทยปี 41 42 43 ด้วย
ที่ธุรกิจเจ๊งกันระนาว
จากการลงทุนมหาศาล หนี้ต่างประเทศที่สูง
ถ้าเกิดปัญหาขึ้น ไม่ว่าจากด้านวัตถุดิบ จากคำสั่งซื้อที่หาย หรือ การผลิตที่มีปัญหา
เมื่อรายได้หายไป แต่หนี้ยังอยู่ ธุรกิจที่ลงทุนไปจะอยู่ได้นานแค่ไหน
อีกไม่นานเราคงได้เห็น
แต่ถ้ามีปัญหาจริง เวียดนาม ที่เหมือนไทยปี 43 อาจจะน่าลงทุนก็ได้
กลับมาดู ประเทศไทยเรากันบ้าง
มันเป็นเรื่องจริง ที่ประเทศเราไม่มีการลงทุน ในช่วงที่ผ่านมา
ทุกอย่างดูแย่ ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีนวัตกรรม
ปัญหาคนสูงอายุ รายได้คนส่วนใหญ่ยังมาจากภาคเกษตร ขาดการลงทุน ประชากรลดลง
แล้วเรามีอะไร?? ข้อดีของเราคืออะไร???
ข้อดีของเราคือ “เรามีเงิน” ในช่วงที่ทั้งโลกต้องการ
หนี้สินต่างประเทศเราต่ำ ธุรกิจที่เราทำคือสินค้าจำเป็น อาหาร น้ำมัน ปิโตรเคมี ไฟฟ้า โรงพยาบาล ADVANC ICT
ถ้ามองดีๆ เราคือหุ้นที่น่าสนใจตอนนี้
ตอนที่โลกมีปัญหา
หลายคนกำลังสับสนและถามว่า
หุ้นจะลงไปถึงไหน 1200 1000 ล่าสุด คนพูดกันถึง 900
ถ้าให้ตอบตรงๆ ก็คือ “ไม่รู้”
แต่ถ้าคิดดูดีๆ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่……ยกเว้นท่านเล่น S เหมือนท่านเซียนเหลา
คำถามที่ท่านควรถามจริงๆคือ
บริษัทอะไรที่จะผ่านไปได้และฟื้นตัวได้ดีที่สุด?
เมื่อถามถูกคำถาม คำตอบจะถูกต้อง
เพราะท่านสามารถซื้อหุ้นแบบนี้ได้ตั้งแต่ 1200
1100 ท่านก็ซื้อหุ้นแบบนี้ได้
900 ท่านก็ซื้อได้
เพราะถ้าผ่านได้ ไม่เจ๊ง กลับมาทำกำไร
หุ้นแบบนี้ทุกท่านก็รู้ว่าจะทำ New High…… และจะกำไรทุกราคา
ไม่ซื้อ…ไม่ขาดทุน
สวัสดีครับทุกท่าน…… แม้ SET จะหลุด 1200 …… แต่ยังมีความหวัง
สวัสดีครับทุกท่าน
ราคาหุ้นส่วนใหญ่จะสะท้อนกำไรของบริษัทในอนาคต
SET ลงมาขนาดนี้ สะท้อนกำไรในอนาคตอันมืดมน
ตลาดบอกไว้แบบนั้น
ว่าแต่… เราเชื่อตลาดได้แค่ไหน
ในสภาวะวิกฤต
นักลงทุนมองหาอะไร?
ที่แน่ๆคือ ไม่ใช่เวลามองหาบริษัทเติบโต
เพราะความเสี่ยงที่บริษัทจะไม่โตสูง
เผลอๆถ้ากู้เงินมาเยอะ หรือมีหุ้นกู้ปริมาณมากๆอาจจะ Default (ผิดนัดชำระ) ได้
และถ้า Default ตอนนี้ทุกอย่างคือจบ!!!
เพราะจะโดน เทขาย แบบบ้าคลั่งแน่นอน
บริษัทที่มีเงินสดจำนวนมาก ขายสินค้าจำเป็น มีหนี้ในระดับเหมาะสม
นั่นคือสิ่งที่นักลงทุนมองหา
ขอพูดถึงเพื่อนบ้านเรานิดนึง
“เวียดนาม”
ผมติดตามการลงทุนของ ดร.นิเวศน์ เกี่ยวกับเวียดนามมาบ้าง
ช่วงนึงท่านพูดว่า เวียดนามเหมือนไทยก่อนปี 40
ผมยังคิดเล่นๆเลยว่า งั้นอาจจะเหมือนไทยปี 41 42 43 ด้วย
ที่ธุรกิจเจ๊งกันระนาว
จากการลงทุนมหาศาล หนี้ต่างประเทศที่สูง
ถ้าเกิดปัญหาขึ้น ไม่ว่าจากด้านวัตถุดิบ จากคำสั่งซื้อที่หาย หรือ การผลิตที่มีปัญหา
เมื่อรายได้หายไป แต่หนี้ยังอยู่ ธุรกิจที่ลงทุนไปจะอยู่ได้นานแค่ไหน
อีกไม่นานเราคงได้เห็น
แต่ถ้ามีปัญหาจริง เวียดนาม ที่เหมือนไทยปี 43 อาจจะน่าลงทุนก็ได้
กลับมาดู ประเทศไทยเรากันบ้าง
มันเป็นเรื่องจริง ที่ประเทศเราไม่มีการลงทุน ในช่วงที่ผ่านมา
ทุกอย่างดูแย่ ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีนวัตกรรม
ปัญหาคนสูงอายุ รายได้คนส่วนใหญ่ยังมาจากภาคเกษตร ขาดการลงทุน ประชากรลดลง
แล้วเรามีอะไร?? ข้อดีของเราคืออะไร???
ข้อดีของเราคือ “เรามีเงิน” ในช่วงที่ทั้งโลกต้องการ
หนี้สินต่างประเทศเราต่ำ ธุรกิจที่เราทำคือสินค้าจำเป็น อาหาร น้ำมัน ปิโตรเคมี ไฟฟ้า โรงพยาบาล ADVANC ICT
ถ้ามองดีๆ เราคือหุ้นที่น่าสนใจตอนนี้
ตอนที่โลกมีปัญหา
หลายคนกำลังสับสนและถามว่า
หุ้นจะลงไปถึงไหน 1200 1000 ล่าสุด คนพูดกันถึง 900
ถ้าให้ตอบตรงๆ ก็คือ “ไม่รู้”
แต่ถ้าคิดดูดีๆ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่……ยกเว้นท่านเล่น S เหมือนท่านเซียนเหลา
คำถามที่ท่านควรถามจริงๆคือ
บริษัทอะไรที่จะผ่านไปได้และฟื้นตัวได้ดีที่สุด?
เมื่อถามถูกคำถาม คำตอบจะถูกต้อง
เพราะท่านสามารถซื้อหุ้นแบบนี้ได้ตั้งแต่ 1200
1100 ท่านก็ซื้อหุ้นแบบนี้ได้
900 ท่านก็ซื้อได้
เพราะถ้าผ่านได้ ไม่เจ๊ง กลับมาทำกำไร
หุ้นแบบนี้ทุกท่านก็รู้ว่าจะทำ New High…… และจะกำไรทุกราคา
ไม่ซื้อ…ไม่ขาดทุน