เด็กยุคใหม่ ( วัยอนุบาล-ประถม ) กับความไร้มารยาท และความละเลยในการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่

เรื่องเกิดเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ เราไปร่วมงานบุญใหญ่ที่วัดใกล้บ้าน โดยเราเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทำบุญโรงทาน เป็นงาน 2 วันต่อกัน
ทางเราและครอบครัวทำขนมและเครื่องดื่มร่วมกับผู้ร่วมทำบุญโรงทานแจกฟรีแก่ผู้มาร่วมงาน ซึ่งคนมาเที่ยวก็มีหลากวัยปนกันไป
แต่ที่ทำให้เรามาตั้งกระทู้นี้คือผู้ร่วมงานวัยเด็ก กลุ่มเด็กอนุบาลและเด็กประถมช่วงอายุราวๆ 5-12 ปี เด็กกลุ่มนี้เป็นคนที่มาเอาขนมเครืองดื่มมากทีสุด
พฤติกรรมของเด็กๆ เรามองว่าน่าเป็นห่วง เพราะพอเอาขนมไปก็คือเอาไปเฉยๆ ไม่มีการเอ่ยขอบคุณ เป็นแบบนี้ประเมินคร่าวๆ ได้ 8 ใน 10 คน
คือใน 10 คนจะมีคนที่กล่าวขอบคุณเองอยู่แค่ 2 คนเท่านั้น บางคนพ่อแม่พามาเอาขนม เด็กได้ขนมไปไม่ขอบคุณพ่อแม่ก็นิ่งเฉยไม่ตักเตือนอะไร
นี่มองว่าเด็กแบบนี้พฤติกรรมไม่น่ารักเอาซะเลย แต่ไม่แปลกใจเพราะดูพ่อแม่ไม่ใส่ใจเรื่องนี้เลยพอจะเข้าใจพฤติกรรมเด็กได้
มีบางคนที่ขอขนมแล้วไม่ขอบคุณแต่พ่อแม่เขาบอกเด็กให้ขอบคุณ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นเด็กเล็กน่าจะวัยอนุบาลค่ะ นี่ยังดีที่พ่อแม่เอาใจใส่มีการกล่าวตักเตือน
โตไปเด็กจะได้รู้ว่าการเอ่ยขอบคุณเป็นมารยาทดีงามที่ควรทำ แต่เด็กช่วงวัยประถมหลายๆ คนคือไม่พูดขอบคุณเลย มาขอขนมขอน้ำพอได้ของก็ไปเลย
อันนี้เป็นวันแรกที่เจอซึ่งเราก็เพิ่งเคยมาคลุกคลีกับเด็กๆ วัยนี้เป็นจำนวนมากก็วันนั้นแหละค่ะ เลยรู้สึกว่าเด็กๆ ยุคนี้ขาดมารยาทที่ดีกันเยอะจริงๆ

พอมาวันที่สองเราเปลี่ยนกลยุทธคือเวลาเด็กมาขอขนม ถ้ารับของไปแล้วไม่ขอบคุณเราจะบอกเด็กตรงนั้นเลยว่าให้ขอบคุณ 
คือเราจะพูดเลยว่า ได้ขนมแล้วต้องทำยังไงคะ? เหมือนเด็กจะระลึกได้พอโดนถาม เด็กก็จะขอบคุณ แต่มีบางคนยืนงงจนเราต้องบอกให้ขอบคุณ
หนักกว่านั้นคือพ่อแม่พามาเอาขนมแล้วเด็กไม่พูดขอบคุณ เราก็ถามเด็กต่อหน้าพ่อแม่เขาว่ารับของต้องทำยังไง เด็กโดนถามถึงเอ่ยขอบคุณ
ปฏิกริยาพ่อแม่บางคนเหมือนไม่พอใจที่เราไปสอนลูกเขา ก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่กลุ่มนี้จะคิดว่าเราไปยุ่งเรื่องสอนลูกเขาไหมนะ 5555
แต่เราคิดว่าว่ามารยาทเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก คำขอบคุณง่ายๆ พูดให้ติดปากเราว่ามันช่วยสร้างจิตสำนึกให้เด็กได้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีทีควรทำ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่