งานนิทรรศการศิลปะ “ความโกลาหลในดินแดนขนมหวาน” (The chaos of candyland)


วันนี้ผมจะพาทุกงานไปที่ คาฬวิท สตูดิโอ แอนด์ แกลเลอรี่ (ซอยร่วมฤดี 2)   เพื่อไปชมงานนิทรรศการศิลปะ “ความโกลาหลในดินแดนขนมหวาน”  (The chaos of candyland) โดย จิรายุ  เกียรติรุ่งวิไลกุล (หยก) ศิลปินหนุ่มแดนเหนือที่มาจากรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (เจ็ดยอด) เชียงใหม่  ผมขออนุญาตนำคำบรรยายงานมาลงไว้ให้ได้อ่านกันครับ


ทฤษฎีความโกลาหล กล่าวไว้ว่า ยิ่งเราพยายามเข้าไปจัดการเปลี่ยนแปลงให้เป็นไปตามที่หวังมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลให้เกิดความวุ่นวาย เพราะผลที่ตามมานั้น อาจเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิม เปรียบเสมือนการกระทำของมนุษย์ที่ยิ่งเข้าไปรบกวนธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมมากเท่าไหร่ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม กลับส่งผลกระทบต่อโลกมากขึ้นเท่านั้น ศิลปินเคลือบสิ่งที่สะท้อนการกระทำเหล่านั้นให้เป็นดั่งดินแดนขนมหวาน แม้ภายนอกจะดูหอมหวานเพียงใด แต่ภายในกลับตรงกันข้าม

ผลงานจิตรกรรมของ จิรายุ เกียรติรุ่งวิไลกุล แสดงออกถึงเรื่องความรุ่งโรจน์ของมนุษย์ที่มีผลต่อโลก และในปัจจุบันก็ยังเห็นถึงการกระทำเช่นนั้นอยู่ โดยนำเสนอผ่านศิลปะสไตล์ป๊อป เซอร์เรียลลิสม์ ด้วยความน่ารักของตัวการ์ตูนในดินแดนขนมหวาน แต่แอบแฝงความชั่วร้ายบางอย่างไว้



คลิปพาชมงานนิทรรศการศิลปะ “ความโกลาหลในดินแดนขนมหวาน” (The chaos of candyland) โดย จิรายุ เกียรติรุ่งวิไลกุล (หยก) ศิลปินเจ้าของผลงานภาพวาดสีอะคริลิคบนพื้นผ้าใบ ซึ่งเป็นงานศิลปะสไตล์ป๊อป เซอร์เรียลลิสม์
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


สำหรับความรู้สึกส่วนตัวของผม  เมื่อผมได้ไปชมผลงานของน้องเขาแล้ว  ในตอนแรกที่ดูภาพอย่างเดียวผมรู้สึกว่าศิลปินคนนี้วาดภาพดูดีจัง  ภาพวาดของน้องเขาเหมือนภาพประกอบที่ผมเคยเห็นในหนังสือวรรณกรรมเยาวชนของต่างประเทศเลย  ที่ดูแล้วเหมือนมีจินตนาการในการเล่าเรื่อง  โดยเฉพาะภาพส่วนใหญ่ที่จัดแสดงอยู่ในงานนิทรรศการครั้งนี้มีตัวละครอยู่ในภาพด้วย  ผมชมแล้วรู้สึกว่าตัวละครในภาพนั้นมันทำให้ผมต้องนึกถึงตัวการ์ตูนที่ดังเคยรู้จักต่าง ๆ ซึ่งออกแนวการ์ตูนยุโรปหรือตัวการ์ตูนที่จากเทพนิยายปกรณัมต่าง ๆ  โดยสิ่งที่ผมมองเห็นชัดมากเลยคือดวงตาที่กลมโตและดูใสเหมือนลูกแก้ว  ลูกตาของตัวการ์ตูนในภาพนั้นเองที่ทำให้แต่ภาพละดูเหมือนมีเรื่องราวที่ต้องการจะพูดสื่อออกมา
 
แต่พอผมได้สัมภาษณ์ตัวศิลปินแล้ว  ได้ทราบถึงที่มาที่ไป และแนวคิดของการสร้างสรรค์ผลงานแต่ละภาพแล้ว  ผมต้องอึ้งไปชั่วขณะ  เพราะว่าตัวศิลปินมีมุมมองที่ลึกล้ำมาก  นำเสนอเรื่องร้าย ๆ ผ่านภาพลักษณ์ที่ดูสวยงาม  ดูแล้วรู้สึกย้อนแย้งกันอย่างมาก แต่ก็ทำให้ผู้ชมอย่างเราต้องคบคิด  โดยเฉพาะผู้ชมที่รู้ความหมายที่ตัวศิลปินแฝงไว้แล้ว  จะต้องมองแต่ละภาพแบบ 2 ด้าน และ 2 มุมมองในทันที
 
ผมดูภาพและทราบที่มาที่ไปทั้งหลายแล้ว  ผมก็ต้องฉุกคิดตามว่า เรื่องราวในสังคมของเราที่มันดูดีดูสวยงามนั้น (ผมไม่ได้เฉพาะเจาะจงนะว่าเรื่องอะไร)  จริง ๆ แล้วมันถูกทำให้มีภาพที่ดูดีในสายตาของสาธารณะชนก็เป็นได้  ใช่หรือไม่?  ซึ่งเบื้องหลังนั้นอาจจะเหลวร้ายเน่าและฟ่อนเฟะ  จนต้องเอาศีลธรรมอันดีที่เปรียบเหมือนน้ำตาลหวาน ๆ ที่คนทั่วไปชอบ  เอามาเคลือบแต่งไว้ให้ดูสวยงามก็เป็นได้ 

 
ว่าแล้วผมก็ต้องขอเชิญชวนว่า ถ้าท่านใดสนใจงานศิลปะแนวนี้ต้องลองไปชมของจริง ต้องลองไปชมไปยืนพินิจพิจารณาดูด้วยมุมมองแบบ 2 ด้าน แล้วจะเห็นว่าผลงานศิลปะนั้นสร้างความหมายที่ลึกซึ้งได้เช่นกัน  อีกทั้งภาพของจริงแต่ละภาพดูละเอียดมากกว่าที่ผมถ่ายภาพมาให้ดูกันเยอะเลยครับ


ช่วงนี้งานกิจกรรมอีเว้นท์ต่าง ๆ ยกเลิกกันเยอะเพราะกลัวไข้หวัดโควิด-19  ดังนั้นเราไปชมงานศิลปะกันดีกว่า  โดยใส่หน้ากากและลากเจลล้างมือไปด้วย  ส่วนตัวแกลเลอรี่ที่จัดงานนั้นสำหรับสะอาดและปลอดภัยแน่ ๆ ครับ
 
สำหรับงานนิทรรศการ ศิลปะ “ความโกลาหลในดินแดนขนมหวาน”  (The chaos of candyland)  นี้ จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม - 10 เมษายน 2563  เวลา 10.00 - 18.00 น.  ในวันอังคารถึงวันอาทิตย์ (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม) ณ  คาฬวิท สตูดิโอ แอนด์ แกลเลอรี่ (ซอยร่วมฤดี 2 ,สถานีรถไฟฟ้า เพลินจิต ทางออกที่ 4) 
 
ลองเข้าไปสอบถามรายละเอียดการเดินทางได้ที่เพจ คาฬวิท สตูดิโอ แอนด์ แกลเลอรี่  หรือจะกดหาจาก GPS พิมพ์คำว่า “บ้านเพลินจิต ร่วมฤดี” ก็ได้ครับ  ตัวแกลเลอรี่อยู่ตรงข้ามกับบ้านเพลินจิตเลยครับ
 
หรือจะโทรสอบถามเส้นทางที่เบอร์  02 - 2544629  ก็ได้ครับ



ไปชมและไปให้กำลังใจศิลปินกันเยอะ ๆ นะครับ

ขอให้ทุกท่านเสพงานศิลป์ด้วยอารมณ์ที่สุนทรียะและมีความสุขมาก ๆ ครับ

พาพันขอบคุณพาพันชอบพาพันอาบน้ำ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่