คือเมื่ออาทิตย์ 26 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 18:20 น. (เหตุเกิด 18:45) ผมได้เข้าไปซื้ออกไก่สดรวมใส่ถุงแล้ว มีสินค้าทั้งสิ้นอยู่ 4 ชิ้นด้วยกัน เมื่อพนักงานชั่งและติดป้ายราคาเสร็จจึงเดินเข้าไปยังแคชเชียร์ช่องทางด่วนแคชเชียร์หมายเลข 2 เนื่องจากต้องการความเร็งด่วนในการชำระสินค้า และสินค้าผมไม่เกิน 10 ชิ้นตามที่ทางห้างกำหนดและมีป้ายเขียนบอกชัดเจนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในขณะนั้น (18:35 น.) ผมได้ต่อคิวเป็นลำดับที่ 3 แต่สังเกตุคนหน้าสุดมีรถเข็นพร้อมผู้ญิง 1 คน และมีจำนวนสินค้ารวมแล้วมากกว่า 10 ชิ้น  ในขณะที่ลูกค้าดังกล่าวกำลังหยิบของวางเพื่อรอคิดเงิน ผมจึงได้กล่าวอย่างสุภาพกับผู้หญิงท่านนั้นว่า "สินค้ามันเกิน 10 ชิ้นนี่ครับ" หญิงลูกค้ามองหันมาที่ผมและส่งยิ่งให้เขินๆ ซึ่งผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อคิดว่าอืมช่างเขาเถอะ...

...แต่ทันใดนั้นพนักงานแคชเชียร์หมายเลข 2 ได้พูดรีบสวนขึ้นมาอย่างทันทีทันใดว่า ลูกค้า (หมายถึงผม) ไปช่องอื่นก็ได้นะคะ !! พร้อมน้ำเสียงที่ดูแข็งกร้าวและแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ผมจึงได้แย้งว่าก็นี่มันช่องสำหรับสินค้าไม่เกิน 10 ชิ้นไม่ใช่เหรอ พนง. ก็แย้งมาว่าแค่นี่อะลุ่มอล่วยกันก็ได้ และ เขา (ลูกค้าหญิง) ก็ไม่ใช่คนไทย (น่าจะเป็นชาวเมียร์ม่า) ผมก็แย้งไปว่าคุณก็ต้องบอกเขาสิ ไม่ใช่ให้เขามาละมิดสิทธิ์ผอกกติกาแบบนี้ .... ซึ่งป้ายก็มีเขียนชัดเจนด้วย ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมได้รับ คือ แคชเชียร์คนนี้กำลังทำให้ผมกลายเป็นคนผิด ซึ่งความเป็นจริงแล้วคนที่ พนง. คนดังกล่าว ควรจะบอกให้ไปล๊อกอื่นคือ ลูกค้าหญิงคนนั้นไม่ใช่หรือครับ แต่ทำไมผมกลับได้การปฏิบัติด้วยการถูกไล่แบบนั้นแทน

ปกติพนักงานแคชเชียร์ที่นี่บริการดีมาก มากกว่าห้างข้างเคียงเสียอีก หลายครั้งผมเลือกที่จะซื้อของเข้าบ้านที่ห้างใดห้างหนึ่งด้วยเหตุผลด้านบริการของแคชเชียร์เป็นสิ่งสำคัญ รองจากสินค้าที่ผมต้องการ แต่สำหรับแคชเชียร์คนนี่ (ผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน) สร้างประสบการณ์ที่ดีมาทั้งหมดหายออกไป ผมไม่ควรได้รับการบริการเสมือนว่าผมเป็นคนผิดแบบนี้ ผมเชื่อมาเสมอว่าทางห้างได้มีการอบรมอย่างดี แก่พนักงานก่อนเข้ามาทำงานทุกครั้ง แต่สำหรับลอจิกของพนักงานคนนี้ผมไม่แน่ใจว่าได้ผ่านการอบรมก่อนมาปฏิบัติงานหรือเปล่า พนง. ไม่ควรเอาคำว่าก็เขาเป็นต่างชาติมาใช้อ้าง หรือ ใช้คำว่าอลุมอะลวย เพื่อสร้างหาเหตุผลให้กับลูกค้าที่กำลังทำผิดกติกา หรือมองอีกมุมคือลูกค้าหญิงคนนั้นกำลังเอาเปรียบลูกค้าคนอื่นอยู่ โดยมี พนง. ของห้างที่น่าจะรู้กติกาของห้างเป็นอย่างดี ให้การสนับสนุนการทำผิดนั้น !! อย่างเต็มที่ และโยนความรู้สึกผิดให้กับลูกค้าที่เคารพกติกาของห้างแทน แบบนี้ก็ได้เหรอครับ

ผมจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองโดยการไม่ต้องเคารพป้าย หรือ กติกาที่กำหนดใดๆ แล้วเลือกที่จะยกคำว่าอะลุ่มอล่วยมาใช้ในการทำผิดกติกา ถึงจะได้รับการยอมรับและการปฏิบัติที่ดีจากพนักงานของทางห้างฯใช่ไหมครับ