นายกฯเผยไทยติดเชื้อลำดับที่ 17ใน75ประเทศ
นายกรัฐมนตรี เผย ไทยติดเชื้อลำดับที่ 17 ใน 75 ประเทศ ขณะรัฐบาลเตรียมมาตการรับผีน้อยกลับไทยแล้ว ย้ำผีน้อยถือเป็นคนไทยรัฐบาลต้องดูแล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายการสั่งการและติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาโดยตลอด โดยขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 17 ใน 75 ประเทศ ซึ่งถือว่ายังมีผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย
สำหรับกรณีที่ประชาชนไทยมีความห่วงใยต่อการเดินทางกลับประเทศของแรงงานไทยผิดกฎหมายหรือกลุ่มผีน้อย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าอย่างไรก็ตามคนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นคนไทยซึ่งรัฐบาลต้องให้ความดูแล แต่ต้องไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยมีมาตรการคัดกรองตั้งแต่ต้นทางคือสาธารณรัฐเกาหลี จะมีการตรวจคัดกรองในเบื้องต้น หรือ Exit Screening ทุกสายการบินหากพบผู้โดยสารมีไข้ก็จะปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง หรือหากขึ้นมาแล้วเป็นไข้ก็ต้องจัดให้แยกที่นั่งและแยกห้องน้ำ ซึ่งเป็นมาตรการควบคุมบนเครื่อง รัฐบาลมีการประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน เช่น กระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานฯ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีมาตรการคัดกรองที่เป็นมาตรฐาน รัดกุม หากพบผู้เดินทางเข้าประเทศที่มีไข้ จะคัดแยกออกตั้งแต่ที่สนามบินเพื่อไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป
ทั้งนี้ แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากสาธารณรัฐเกาหลี จะแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. คนไทยที่กลับจาก 2 พื้นที่ที่พบความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คือเมืองแทกูและคย็องซัง ทุกคนจะต้องถูกกักตัว ในพื้นที่ควบคุมโรค ตามที่รัฐบาลจัดไว้ให้เป็นเวลา 14 วัน (State quarantine)
2. ผู้ที่มาจากเมืองอื่นๆ ในสาธารณรัฐ หากไม่พบอาการไข้จะได้เดินทางกลับตามภูมิลำเนา แต่จะจัดพื้นที่ในส่วนราชการ หรือสถานพยาบาลไว้ เพื่อติดตามอาการ (Local quarantine) โดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขจะหารือกันเพื่อหาสถานที่เหมาะสมต่อไป
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงเรื่องหน้ากากอนามัยว่า ขณะนี้มีกำลังการผลิต 1 ล้านชิ้นต่อวัน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. จัดส่งให้บุคลากรทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลของรัฐ จำนวน 300,000 ชิ้น
2. จัดส่งให้ร้านค้าทั่วไปเพื่อจัดจำหน่าย จำนวน 700,000 ชิ้น ซึ่งภาครัฐมีการติดตามและตรวจสอบช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หน้ากากอนามัยไปถึงประชาชนอย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่
https://www.innnews.co.th/politics/news_613247/
สธ.เผย 19 ผีน้อยป่วยแต่ไม่พบ “โควิด-19”/ไทยอันดับ 17 โลก
ผู้ป่วยยังคงทึ่สะสม 43 ราย เสียชีวิต 1 อาการยังหนัก 1 ระบุด้วยมาตรการเข้มข้นทำให้ไทยอยู่ที่ 17 ของโลก ย้ำมาตรการเร่งด่วนของนายกฯ14 ข้อชะลอการระบาด ขณะปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัย แนะคนปกติให้ใช้หน้ากากผ้า พร้อมเชิญชวนทำเอง โดยกรมอนามัยมีคลิปสอนทำได้ง่ายๆ ขณะแรงงานกลับจากเกาหลีใต้พบมีไข้ 19 ราย แต่ไม่พบเชื้อโควิด-19 โดยยังเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข และคณะแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า จากการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในวงกว้าง ทำให้ปัจจุบันไทยอยู่ในอันดับ 17ของโลก และวันนี้จำนวนผู้ป่วยสะสมยังอยู่ที่ 43 ราย ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 11 ราย หายกลับบ้านแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย อาการหนัก 1 ราย ซึ่งย้ำกับประชาชนอีกครั้งว่าโรคนี้ป้องกันได้ด้วยการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ใส่หน้ากากอนามัย
ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. – 3 มี.ค.63 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 3,680 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 104 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 3,576 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 2,435 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,545 ราย
สถานการณ์ทั่วโลกใน 75 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 ม.ค. – 4 มี.ค.63 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ92,321 ราย เสียชีวิต 3,137 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,152 ราย เสียชีวิต 2,945 ราย
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำข้อสั่งการของนายกฯเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วนสำหรับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้านการป้องกันโรค ทั้งหมด 14 ข้อ ได้แก่
1.ให้ทุกหน่วยดำเนินตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
2.ติดตามดูแลคนไทยในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างใกล้ชิด
3.ทุกส่วนราชการระงับ/เลื่อนการเดินทางไปประเทศที่มีการแพร่ระบาดและประเทศเฝ้าระวัง
4.เตรียมสถานที่สังเกตอาการ คัดกรองผู้ป่วย
5.เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดต้องกักตัว 14 วันไม่ถือเป็นวันลา
6.จัดหาเวชกัณฑ์อุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นเพิ่มเติมและหากจำเป็นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานของบประมาณเพิ่มเติม
7.ตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ทำเนียบฯ
8.ให้มีการประชุมเตรียมพร้อมป้องกันสม่ำเสมอ
9.ทุกหน่วยงานเร่งจัดหาสินค้าที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้พียงพอกับความต้องการ
10.ดูแลบุคลากรทางการแพทย์อย่างเหมาะสม
11.กระทรวงพาณิชย์ป้องกันการกักตุนสินค้าและควบคุมราคา
12.กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลรองรับพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
13.กระทรวงคมนาคมคัดกรองผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด
และ14.ขอความร่วมมืองดจัด
สำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด และหากเป็นชาวต่างชาติหากไม่มีถิ่นที่พำนักในประเทศไทยที่ชัดเจนอาจถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทาง อย่างไรก็ตาม เมื่อพบมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย อย่างใดอย่างหนึ่งให้ประสานสถานพยาบาลเพื่อนำสู่ระบบการตรวจรักษาที่เหมาะสมต่อไป หากไม่พบอาการต้องสงสัย ให้กักตัวเองในที่พัก 14 วัน (Self quarantine at home) และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ดังนี้ สวมหน้ากากอนามัยอยู่ห่างจากคนอื่น 1-2 เมตร หยุดเรียน/ทำงาน งดร่วมกิจกรรมต่างๆ นอนห้องแยก ปิดปาก จมูกทุกครั้งที่ไอ จาม ทำความสะอาดที่พัก ของใช้ แยกของใช้ ทานอาหารแยกกับผู้อื่น ใช้ช้อนกลาง ทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีหลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ หากมีไข้ ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ หายใจเหนื่อย ให้รีบพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง
ส่วนข้อกังวลของประชาชนเกี่ยวกับการใช้หน้ากากผ้าแทนหน้ากากอนามัยที่อาจจะหายากในช่วงเวลานี้เราขอย้ำว่าในคนที่มีสุขภาพปกติสามารถใช้หน้ากากผ้าในการป้องได้เมื่อต้องออกไปในที่ชุมนุมชน และเชิญชวนให้ประชาชนทำหน้ากากผ้าใช้เองจากผ้า 3ชนิด คือ ผ้าฝ้าย ผ้าใยสังเคราะห์,ผ้าสาลู ซึ่งกรมอนามัยมีคลิปสอนทำหน้ากากผ้าอย่างง่าย ประชาชนสามารถเข้าไปดูและทำตามได้
ด้านเรื่องแรงงานไทยในประเทศเกาหลีใต้ในวันนี้ มีการยืนยันแล้วว่ามี 19 คนที่มีไข้แต่จากการตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้อยู่ในการเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และนอกจากนี้ในวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ก.สาธารณสุข ก.การต่างประเทศ ก.แรงงาน ก.คมนาคม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายความมั่นคง เพื่อวางแผนร่วมกัน ในส่วนของก.สาธารณสุขจะดูแลป้องกันการระบาด ดำเนินการตามหน้าที่และพร้อมที่จะดำเนินการตามข้อสั่งการต่อไป
https://siamrath.co.th/n/136790
ไทยมีผู้ติดเชื้ออันดับที่ 17 ของจำนวน 75 ประเทศ
ในขณะที่เริ่มต้นเป็นอันดับ 2
ถือว่ารับมือได้ดีนะคะ
แต่ตอนนี้มีภาระให้ต้องเฝ้าระวังเพิ่มขึ้น จากบรรดาผีน้อย
เหนื่อยกันไม่หยุดเลย
ขอส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ รัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ
🍀มาลาริน/นายกฯเผยไทยติดเชื้อลำดับที่ 17ใน75 ประเทศผีน้อยป่วยแต่ไม่พบ “โควิด-19 เตรียม 10 มณฑลทห.รับผีน้อย
นายกรัฐมนตรี เผย ไทยติดเชื้อลำดับที่ 17 ใน 75 ประเทศ ขณะรัฐบาลเตรียมมาตการรับผีน้อยกลับไทยแล้ว ย้ำผีน้อยถือเป็นคนไทยรัฐบาลต้องดูแล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายการสั่งการและติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาโดยตลอด โดยขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 17 ใน 75 ประเทศ ซึ่งถือว่ายังมีผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย
สำหรับกรณีที่ประชาชนไทยมีความห่วงใยต่อการเดินทางกลับประเทศของแรงงานไทยผิดกฎหมายหรือกลุ่มผีน้อย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าอย่างไรก็ตามคนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นคนไทยซึ่งรัฐบาลต้องให้ความดูแล แต่ต้องไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยมีมาตรการคัดกรองตั้งแต่ต้นทางคือสาธารณรัฐเกาหลี จะมีการตรวจคัดกรองในเบื้องต้น หรือ Exit Screening ทุกสายการบินหากพบผู้โดยสารมีไข้ก็จะปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่อง หรือหากขึ้นมาแล้วเป็นไข้ก็ต้องจัดให้แยกที่นั่งและแยกห้องน้ำ ซึ่งเป็นมาตรการควบคุมบนเครื่อง รัฐบาลมีการประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน เช่น กระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานฯ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีมาตรการคัดกรองที่เป็นมาตรฐาน รัดกุม หากพบผู้เดินทางเข้าประเทศที่มีไข้ จะคัดแยกออกตั้งแต่ที่สนามบินเพื่อไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป
ทั้งนี้ แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากสาธารณรัฐเกาหลี จะแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1. คนไทยที่กลับจาก 2 พื้นที่ที่พบความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คือเมืองแทกูและคย็องซัง ทุกคนจะต้องถูกกักตัว ในพื้นที่ควบคุมโรค ตามที่รัฐบาลจัดไว้ให้เป็นเวลา 14 วัน (State quarantine)
2. ผู้ที่มาจากเมืองอื่นๆ ในสาธารณรัฐ หากไม่พบอาการไข้จะได้เดินทางกลับตามภูมิลำเนา แต่จะจัดพื้นที่ในส่วนราชการ หรือสถานพยาบาลไว้ เพื่อติดตามอาการ (Local quarantine) โดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขจะหารือกันเพื่อหาสถานที่เหมาะสมต่อไป
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงเรื่องหน้ากากอนามัยว่า ขณะนี้มีกำลังการผลิต 1 ล้านชิ้นต่อวัน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. จัดส่งให้บุคลากรทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลของรัฐ จำนวน 300,000 ชิ้น
2. จัดส่งให้ร้านค้าทั่วไปเพื่อจัดจำหน่าย จำนวน 700,000 ชิ้น ซึ่งภาครัฐมีการติดตามและตรวจสอบช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หน้ากากอนามัยไปถึงประชาชนอย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่
https://www.innnews.co.th/politics/news_613247/
สธ.เผย 19 ผีน้อยป่วยแต่ไม่พบ “โควิด-19”/ไทยอันดับ 17 โลก
ผู้ป่วยยังคงทึ่สะสม 43 ราย เสียชีวิต 1 อาการยังหนัก 1 ระบุด้วยมาตรการเข้มข้นทำให้ไทยอยู่ที่ 17 ของโลก ย้ำมาตรการเร่งด่วนของนายกฯ14 ข้อชะลอการระบาด ขณะปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัย แนะคนปกติให้ใช้หน้ากากผ้า พร้อมเชิญชวนทำเอง โดยกรมอนามัยมีคลิปสอนทำได้ง่ายๆ ขณะแรงงานกลับจากเกาหลีใต้พบมีไข้ 19 ราย แต่ไม่พบเชื้อโควิด-19 โดยยังเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข และคณะแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า จากการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้ประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในวงกว้าง ทำให้ปัจจุบันไทยอยู่ในอันดับ 17ของโลก และวันนี้จำนวนผู้ป่วยสะสมยังอยู่ที่ 43 ราย ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 11 ราย หายกลับบ้านแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย อาการหนัก 1 ราย ซึ่งย้ำกับประชาชนอีกครั้งว่าโรคนี้ป้องกันได้ด้วยการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ใส่หน้ากากอนามัย
ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. – 3 มี.ค.63 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 3,680 ราย คัดกรองจากทุกด่าน 104 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 3,576 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 2,435 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 1,545 ราย
สถานการณ์ทั่วโลกใน 75 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 ม.ค. – 4 มี.ค.63 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ92,321 ราย เสียชีวิต 3,137 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,152 ราย เสียชีวิต 2,945 ราย
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำข้อสั่งการของนายกฯเกี่ยวกับมาตรการเร่งด่วนสำหรับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้านการป้องกันโรค ทั้งหมด 14 ข้อ ได้แก่
1.ให้ทุกหน่วยดำเนินตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
2.ติดตามดูแลคนไทยในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างใกล้ชิด
3.ทุกส่วนราชการระงับ/เลื่อนการเดินทางไปประเทศที่มีการแพร่ระบาดและประเทศเฝ้าระวัง
4.เตรียมสถานที่สังเกตอาการ คัดกรองผู้ป่วย
5.เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดต้องกักตัว 14 วันไม่ถือเป็นวันลา
6.จัดหาเวชกัณฑ์อุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นเพิ่มเติมและหากจำเป็นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานของบประมาณเพิ่มเติม
7.ตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ทำเนียบฯ
8.ให้มีการประชุมเตรียมพร้อมป้องกันสม่ำเสมอ
9.ทุกหน่วยงานเร่งจัดหาสินค้าที่ใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้พียงพอกับความต้องการ
10.ดูแลบุคลากรทางการแพทย์อย่างเหมาะสม
11.กระทรวงพาณิชย์ป้องกันการกักตุนสินค้าและควบคุมราคา
12.กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลรองรับพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
13.กระทรวงคมนาคมคัดกรองผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด
และ14.ขอความร่วมมืองดจัด
สำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด และหากเป็นชาวต่างชาติหากไม่มีถิ่นที่พำนักในประเทศไทยที่ชัดเจนอาจถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทาง อย่างไรก็ตาม เมื่อพบมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย อย่างใดอย่างหนึ่งให้ประสานสถานพยาบาลเพื่อนำสู่ระบบการตรวจรักษาที่เหมาะสมต่อไป หากไม่พบอาการต้องสงสัย ให้กักตัวเองในที่พัก 14 วัน (Self quarantine at home) และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ดังนี้ สวมหน้ากากอนามัยอยู่ห่างจากคนอื่น 1-2 เมตร หยุดเรียน/ทำงาน งดร่วมกิจกรรมต่างๆ นอนห้องแยก ปิดปาก จมูกทุกครั้งที่ไอ จาม ทำความสะอาดที่พัก ของใช้ แยกของใช้ ทานอาหารแยกกับผู้อื่น ใช้ช้อนกลาง ทิ้งหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธีหลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ หากมีไข้ ไอ มีน้ำมูกเจ็บคอ หายใจเหนื่อย ให้รีบพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง
ส่วนข้อกังวลของประชาชนเกี่ยวกับการใช้หน้ากากผ้าแทนหน้ากากอนามัยที่อาจจะหายากในช่วงเวลานี้เราขอย้ำว่าในคนที่มีสุขภาพปกติสามารถใช้หน้ากากผ้าในการป้องได้เมื่อต้องออกไปในที่ชุมนุมชน และเชิญชวนให้ประชาชนทำหน้ากากผ้าใช้เองจากผ้า 3ชนิด คือ ผ้าฝ้าย ผ้าใยสังเคราะห์,ผ้าสาลู ซึ่งกรมอนามัยมีคลิปสอนทำหน้ากากผ้าอย่างง่าย ประชาชนสามารถเข้าไปดูและทำตามได้
ด้านเรื่องแรงงานไทยในประเทศเกาหลีใต้ในวันนี้ มีการยืนยันแล้วว่ามี 19 คนที่มีไข้แต่จากการตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ซึ่งขณะนี้อยู่ในการเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และนอกจากนี้ในวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ได้หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ก.สาธารณสุข ก.การต่างประเทศ ก.แรงงาน ก.คมนาคม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายความมั่นคง เพื่อวางแผนร่วมกัน ในส่วนของก.สาธารณสุขจะดูแลป้องกันการระบาด ดำเนินการตามหน้าที่และพร้อมที่จะดำเนินการตามข้อสั่งการต่อไป
https://siamrath.co.th/n/136790
ไทยมีผู้ติดเชื้ออันดับที่ 17 ของจำนวน 75 ประเทศ
ในขณะที่เริ่มต้นเป็นอันดับ 2
ถือว่ารับมือได้ดีนะคะ
แต่ตอนนี้มีภาระให้ต้องเฝ้าระวังเพิ่มขึ้น จากบรรดาผีน้อย
เหนื่อยกันไม่หยุดเลย
ขอส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ รัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ