ฝนมาฟ้าจะใสไหม
จดหมายฉบับที่ 63/2563 บ้านดิโอเรียนทอล เชียงใหม่
วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2563
ถึง พรพนา
ฝนมาฟ้าจะใสไหม เป็นอย่างไรบ้างทางเมืองฝาง เกือบจะทุกสื่อต่างออกมาเตือนให้ระวังช่วงวันที่ 3 - 5 มี.ค. 63 นี้ ในบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกบางพื้นที่ แจ้งให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือสิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง คงต้องตรวจตราสภาพแวดล้อมก่อนพายุมากันไว้ดีกว่าแก้เข้าสู่ฤดูร้อนเต็มรูปแบบกันแล้วที่บ้านเรา ไปทางไหนก็แห้งแล้งน้ำตามแอ่งที่เคยมีต่างแห้งเหือดติดก้นบ่อ ลำน้ำไม่มีน้ำกลายเป็นร่องกรวดทรายสองฝั่งหญ้าแห้งเฉาตายทอดเป็นทางยาว สลับเนินดินที่แตกระแหงสีน้ำตาลแห้งผาก ร้อนอบอ้าว มองดูเขาก็เตียนโล้นโล่งไม่มีร่มเงาให้พักพิง ฝนมาฟ้าจะใสไหม
ให้นึกถึง บทอาขยาน รักษาป่า แต่งโดย นภาลัย สุวรรณธาดา ที่ครูภาษาไทยให้ท่องจำตอนเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 ความว่า
“นกเอยนกน้อยน้อย บินล่องลอยเป็นสุขศรี
ขนขาวราวสําลี อากาศดีไม่มีภัย
ทุกทิศเจ้าเที่ยวท่อง ฟ้าสีทองอันสดใส
มีป่าพาสุขใจ มีต้นไม้มีลําธาร
ผู้คนไม่รู้โรค นับเป็นโชคสุขสําราญ
อากาศไร้พิษสาร สัตว์ชื่นบานดินชื่นใจ
คนสัตว์ได้พึ่งป่า มารักษาป่าไม้ไทย
สิ้นป่าเหมือนสิ้นใจ ช่วยปลูกใหม่ไว้ทดแทน”
ต้นไม้ป่าไม้นกน้อยน้อยหายไปหมดคงแก่ตายเพราะท่องมานานแล้วครับครู สภาพบ้านเราตรงข้ามกับบทอาขยานนั้นไปแล้วโดยสิ้นเชิงอากาศเป็นพิษอันดับหนึ่งของโลก โรคห่าโควิดระบาดต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน หลายแห่งร้างผู้คน เห้อ
บวดใจหาอาหารเช้าทานดีกว่า เมนูผจญฝนลมแล้งในวันนี้ แก๋งผักเฮียด ผัดผักกาดขาว เกาเหลาลูกชิ้น ผัดผักกูด ยำยำ ขอให้อยู่ดีมีสุข พ้นภัยธรรมชาติพายุฝนฟ้าคนอง นะพรพนา
รักและเป็นห่วง
Noohom Ja
ฝนมาฟ้าจะใสไหม
จดหมายฉบับที่ 63/2563 บ้านดิโอเรียนทอล เชียงใหม่
วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2563
ถึง พรพนา
ฝนมาฟ้าจะใสไหม เป็นอย่างไรบ้างทางเมืองฝาง เกือบจะทุกสื่อต่างออกมาเตือนให้ระวังช่วงวันที่ 3 - 5 มี.ค. 63 นี้ ในบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกบางพื้นที่ แจ้งให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือสิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง คงต้องตรวจตราสภาพแวดล้อมก่อนพายุมากันไว้ดีกว่าแก้เข้าสู่ฤดูร้อนเต็มรูปแบบกันแล้วที่บ้านเรา ไปทางไหนก็แห้งแล้งน้ำตามแอ่งที่เคยมีต่างแห้งเหือดติดก้นบ่อ ลำน้ำไม่มีน้ำกลายเป็นร่องกรวดทรายสองฝั่งหญ้าแห้งเฉาตายทอดเป็นทางยาว สลับเนินดินที่แตกระแหงสีน้ำตาลแห้งผาก ร้อนอบอ้าว มองดูเขาก็เตียนโล้นโล่งไม่มีร่มเงาให้พักพิง ฝนมาฟ้าจะใสไหม
ให้นึกถึง บทอาขยาน รักษาป่า แต่งโดย นภาลัย สุวรรณธาดา ที่ครูภาษาไทยให้ท่องจำตอนเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 ความว่า
“นกเอยนกน้อยน้อย บินล่องลอยเป็นสุขศรี
ขนขาวราวสําลี อากาศดีไม่มีภัย
ทุกทิศเจ้าเที่ยวท่อง ฟ้าสีทองอันสดใส
มีป่าพาสุขใจ มีต้นไม้มีลําธาร
ผู้คนไม่รู้โรค นับเป็นโชคสุขสําราญ
อากาศไร้พิษสาร สัตว์ชื่นบานดินชื่นใจ
คนสัตว์ได้พึ่งป่า มารักษาป่าไม้ไทย
สิ้นป่าเหมือนสิ้นใจ ช่วยปลูกใหม่ไว้ทดแทน”
ต้นไม้ป่าไม้นกน้อยน้อยหายไปหมดคงแก่ตายเพราะท่องมานานแล้วครับครู สภาพบ้านเราตรงข้ามกับบทอาขยานนั้นไปแล้วโดยสิ้นเชิงอากาศเป็นพิษอันดับหนึ่งของโลก โรคห่าโควิดระบาดต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน หลายแห่งร้างผู้คน เห้อ
บวดใจหาอาหารเช้าทานดีกว่า เมนูผจญฝนลมแล้งในวันนี้ แก๋งผักเฮียด ผัดผักกาดขาว เกาเหลาลูกชิ้น ผัดผักกูด ยำยำ ขอให้อยู่ดีมีสุข พ้นภัยธรรมชาติพายุฝนฟ้าคนอง นะพรพนา
รักและเป็นห่วง
Noohom Ja