'นักเขียนซีไรต์'ชี้ยุบอนาคตใหม่เกิดจาก'Boomerang Effect'ความไม่ต้องการอยู่ร่วมกับคนที่คิดต่าง
25 ก.พ.63 - วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวมีเนื้อหาดังนี้
“Boomerang Effect”
ตอนเปิดตัว “พรรคอนาคตใหม่” คุณธนาธรประกาศอย่างอหังการ์ว่า “พรรคไหนคิดไม่เหมือนเราก็ต้องเป็นศัตรูกับเรา” แน่นอน...ย่อมรวมถึงคนทั้งประเทศที่คิดต่างกับเขาด้วย
ผลคือ...เขาได้ศัตรูเพียบนับแต่สิ้นเสียงประกาศ!
พรรคเขาปั่นกระแสแบ่งแยก “คนรุ่นเก่า - คนรุ่นใหม่” “พวกก้าวหน้า - พวกล้าหลัง” “ฝ่ายประชาธิปไตย - ฝ่ายเผด็จการ” จนกลายเป็นความแตกแยกร้าวลึกไปถึงหน่วยงาน - สถาบันต่างๆ จนถึงระดับครอบครัว!
บางคนเขียนโปสเตอร์ในเฟซบุ๊คว่า จะไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ จะให้อดตาย เพราะเป็นพวกสลิ่ม
บางคนประกาศว่า “ฆ่าสลิ่มไม่บาป!”
(แบบเดียวกับกิตติวุฒิโฑเคยบอกในยุค 6 ตค. 19 ว่าฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป)
เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคอนาคตใหม่ได้ สส. มากกว่า 80 คน ด้วยคะแนนเสียง 6.3 ล้าน ยิ่งทำให้เขาจึงมั่นใจมากขึ้น จึงมุ่งแต่จะตะลุยไปข้างหน้าจนสะดุดขาตัวเองหลายครั้ง
สุดท้ายก็ล้มด้วยเรื่องเงินกู้ - เงินบริจาคที่เขาให้แก่พรรคอนาคตใหม่
(แต่เคยคุยว่าพรรคเขาไม่มีนายทุน!)
พรรคถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคหมดสิทธิ์เล่นการเมือง 10 ปี และยังจะมีคดีอาญาตามมาอีก!
สส.ในพรรคก็แตก...ไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาลหลายคน เขา คุณปิยบุตร และคุณพรรณิการ์แทบกระอักเลือดด้วยความโกรธแค้นที่ถูกทรยศ
ฝ่ายเดียวกันยังคงเชียร์พวกเขาต่อไป และก่นด่าศาลรัฐธรรมนูญ ด่ารัฐธรรมนูญ ด่ารัฐบาล ว่าไม่ยุติธรรม และพาลแขวะไปถึงบุคคลที่เขาเรียกว่า “ผู้กำกับภาพยนตร์” !
แต่เสียงก่นด่าพวกเขา สมน้ำหน้าพวกเขา เยาะเย้ย-ดันพวกเขาดังกระหึ่มมากกว่าพวกที่เชียร์
นั่นเพราะอะไร?
เพราะพวกเขาได้แบ่งฝ่ายไว้เอง ทำให้สังคมแตกแยกไว้เอง ดูถูกเหยียดหยาม และเหยียบย่ำหัวใจคนค่อนประเทศที่รักสถาบันกษัตริย์ (ไม่เรียนรู้จากกรณีคุณทักษิณ)
ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำไว้...ล้วนกลับมาทำร้ายและทำลายพวกเขาเอง
ทำอะไรไว้ก็ได้รับผลอย่างนั้น!
มันเป็นผลจาก “ความไม่ต้องการอยู่ร่วมกับคนอื่นที่คิดต่าง”
มันเป็น “Boomerang Effect”
https://www.thaipost.net/main/detail/58161
ส้มยุบมีปัญหาอยู่ร่วมกับคนคิดต่างไม่ได้ จะคอยถล่มเขาตลอดเวลา
นี่คือปัญหาที่ส้มยุบต้องแก้ไขตัวเองต่อสังคม
❄❄❄มาลาริน/จริงค่ะ ..'นักเขียนซีไรต์'ชี้ยุบอนาคตใหม่เกิดจาก'Boomerang Effect'ความไม่ต้องการอยู่ร่วมกับคนที่คิดต่าง
25 ก.พ.63 - วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวมีเนื้อหาดังนี้
“Boomerang Effect”
ตอนเปิดตัว “พรรคอนาคตใหม่” คุณธนาธรประกาศอย่างอหังการ์ว่า “พรรคไหนคิดไม่เหมือนเราก็ต้องเป็นศัตรูกับเรา” แน่นอน...ย่อมรวมถึงคนทั้งประเทศที่คิดต่างกับเขาด้วย
ผลคือ...เขาได้ศัตรูเพียบนับแต่สิ้นเสียงประกาศ!
พรรคเขาปั่นกระแสแบ่งแยก “คนรุ่นเก่า - คนรุ่นใหม่” “พวกก้าวหน้า - พวกล้าหลัง” “ฝ่ายประชาธิปไตย - ฝ่ายเผด็จการ” จนกลายเป็นความแตกแยกร้าวลึกไปถึงหน่วยงาน - สถาบันต่างๆ จนถึงระดับครอบครัว!
บางคนเขียนโปสเตอร์ในเฟซบุ๊คว่า จะไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ จะให้อดตาย เพราะเป็นพวกสลิ่ม
บางคนประกาศว่า “ฆ่าสลิ่มไม่บาป!”
(แบบเดียวกับกิตติวุฒิโฑเคยบอกในยุค 6 ตค. 19 ว่าฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่บาป)
เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคอนาคตใหม่ได้ สส. มากกว่า 80 คน ด้วยคะแนนเสียง 6.3 ล้าน ยิ่งทำให้เขาจึงมั่นใจมากขึ้น จึงมุ่งแต่จะตะลุยไปข้างหน้าจนสะดุดขาตัวเองหลายครั้ง
สุดท้ายก็ล้มด้วยเรื่องเงินกู้ - เงินบริจาคที่เขาให้แก่พรรคอนาคตใหม่
(แต่เคยคุยว่าพรรคเขาไม่มีนายทุน!)
พรรคถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคหมดสิทธิ์เล่นการเมือง 10 ปี และยังจะมีคดีอาญาตามมาอีก!
สส.ในพรรคก็แตก...ไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาลหลายคน เขา คุณปิยบุตร และคุณพรรณิการ์แทบกระอักเลือดด้วยความโกรธแค้นที่ถูกทรยศ
ฝ่ายเดียวกันยังคงเชียร์พวกเขาต่อไป และก่นด่าศาลรัฐธรรมนูญ ด่ารัฐธรรมนูญ ด่ารัฐบาล ว่าไม่ยุติธรรม และพาลแขวะไปถึงบุคคลที่เขาเรียกว่า “ผู้กำกับภาพยนตร์” !
แต่เสียงก่นด่าพวกเขา สมน้ำหน้าพวกเขา เยาะเย้ย-ดันพวกเขาดังกระหึ่มมากกว่าพวกที่เชียร์
นั่นเพราะอะไร?
เพราะพวกเขาได้แบ่งฝ่ายไว้เอง ทำให้สังคมแตกแยกไว้เอง ดูถูกเหยียดหยาม และเหยียบย่ำหัวใจคนค่อนประเทศที่รักสถาบันกษัตริย์ (ไม่เรียนรู้จากกรณีคุณทักษิณ)
ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาทำไว้...ล้วนกลับมาทำร้ายและทำลายพวกเขาเอง
ทำอะไรไว้ก็ได้รับผลอย่างนั้น!
มันเป็นผลจาก “ความไม่ต้องการอยู่ร่วมกับคนอื่นที่คิดต่าง”
มันเป็น “Boomerang Effect”
https://www.thaipost.net/main/detail/58161
ส้มยุบมีปัญหาอยู่ร่วมกับคนคิดต่างไม่ได้ จะคอยถล่มเขาตลอดเวลา
นี่คือปัญหาที่ส้มยุบต้องแก้ไขตัวเองต่อสังคม