สวัสดีค่า … วันนี้จะมาขอแชร์ประสบการณ์การเล่นสกีที่ประทับใจมาก ขอเท้าความเดิมก่อนนะคะ ส่วนตัวเป็นคนเล่นสกีระดับปานกลาง ชอบเปลี่ยนที่สกีไปเรื่อยๆ หาประสบการณ์ใหม่ๆ ถ้าได้ไปสัมผัสวิถีคน local ยิ่งชอบค่ะ ปรกติจะติดใจโซนยุโรปเพราะชอบวิว แต่รอบนี้ได้ลายแทงใหม่มาฝากทุกคนค่ะ คือไปมาแล้วแบบ… เห๊ยยยยยยย คือมันดีอ่ะ เลยอยากจะเอามานำเสนอ



เมื่อก่อนพอพูดถึงสกีที่ยุโรปก็ต้องนึกถึงยอดเขาแบบช๊อคโกแลต Toblerone อะเนอะ เป็นภูเขาแบบตามหนัง อยู่บ้านไม้แชร์ห้องกับเพื่อนๆ กลางคืนเล่นไพ่ แบบใน MV Perfect ของคุณ Ed Sheeran แต่พอพูดถึงญี่ปุ่นก็จะต้องนึกถึงหิมะฟูนุ่ม อาหาร แล้วก็ออนเซ็นอุ่นๆให้แช่ผ่อนคลายหลังเล่นสกี ทุกปีก็จะมีคำถามว่าเราจะไปที่ไหนดี เพราะทั้งสองที่นี้ การเตรียมตัวต่างกันเยอะมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องการเดินทาง การขอวีซ่า คนละฟิวเลย แต่วันนี้พอได้ไปลองลายแทงใหม่มา ..ได้คำตอบเลยว่าเราไม่ต้องเลือกค่ะ เราสามารถ All- in-One ได้ในลานสกีแถบนี้ที่เดียวอยู่
 



ลานสกี Ishiuchi นี่เป็นลานสกีเก่าแก่เปิดมามากกว่า 70 กว่าปีแล้ว ถือว่าเป็นลานสกีที่ใหญ่และดังเป็นอันดับต้นๆของจังหวัดกันเลยทีเดียว แต่อาจจะไม่ดังในหมู่คนต่างชาติมากเท่ากับ Gala Yuzawa หรือ Naeba ที่อยู่ใกล้เคียงกัน แต่สำหรับคนญี่ปุ่น ลานนี้ฮอทฮิตไม่แพ้ใครเลย ด้วยความขึ้นชื่อเรื่องวิว ที่เวลาสกีลงมาแล้วสามารถมองเห็นไปไกลเจ็ดย่านน้ำก็ว่าได้ วิวส่วนใหญ่จะเป็นนาข้าวกับบ้านคน แต่ถ้ามองไปทางยอดเขานี่ได้ฟิวเหมือนยุโรปเลยค่ะ ตอนเย็นๆหลังจากช่วงประมาณ 16:00 ฟ้าเริ่มจะโพล้เพล้ ทางรีสอร์ทสกีจะเปิดไฟ สำหรับ Night Ski สำหรับเราเวลานั้นคือตอนที่ได้ฟิวโรแมนติกที่สุดเลย~

ล่าสุดทางลานสกีเพิ่งได้รื้อลิฟต์ตัวหลักออกจากลานกลาง (Chuo) แล้วทำใหม่ ลิฟต์ตัวนี้ชื่อ SUNRISE EXPRESS เจ้าตัวนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Hightlight ของลานสกีนี้เลยค่ะ เพราะเป็นที่แรกและที่เดียวในญี่ปุ่นที่นำเอา Gondola และ Chairlift มาไว้ด้วยกันบนสายเคเบิลเส้นเดียว โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งแบบไหน แต่โดยส่วนตัวชอบ Chairlift มากเพราะเบาะมีฮีตเตอร์ในตัวด้วย เพราะเวลาที่หนาวที่สุดของการเล่นสกีคือตอนที่นั่งบนลิฟต์ขึ้นไปบนสโลปนี่แหละค่ะ พอเล่นลงมาเสร็จหย่อนตัวลงเก้าอี้เบาะนุ่มๆอุ่นๆ ดึงที่กันลมมาปิด หยิบมือถือมาเล่นตอบไลน์ได้ตามสบายโดยไม่ต้องพะวงเรื่องถุงมือตก หรือจะหนาวนิ้วเลยค่ะ (เพราะตัวเบาะเป็นเก้าอี้ติดกันยาวไม่มีช่องให้ของตกเลย)



ส่วนเรื่องความใหญ่ของลานหรือจำนวนสโลปที่มีนี่เหมาะสำหรับ 2 วันสกีได้สบายๆค่ะ ถ้าใครเบื่อ ยังสามารถซื้อตั๋ว All Mountain จ่ายเงินเพิ่ม 1,000 เยน ข้ามไปลุยที่ Gala Yuzawa และ Yuzawa Kogen ได้เลยค่ะ โดยจุดเชื่อมระหว่าง Ishiuchi ไป Gala Yuzawa จะอยู่บนลิฟต์ด้านบนสุดของ Ishiuchi ค่ะ  แต่ถ้าใครคิดจะไปถึงสุด Yuzawa Kogen อาจจะต้องรีบไปตั้งแต่เช้านะคะ เพราะต้องเผื่อเวลาเดินทางกลับข้ามเขาให้ทันก่อนลิฟท์ปิดช่วงสี่โมงค่ะ*** แต่ถ้ากลับมาไม่ทันจริงๆ มีรถเวียนเป็นรอบๆค่ะ



ส่วนตัวมองว่าถ้าสำหรับ Beginner ก็สามารถมาเล่นโซนนี้ได้อย่างสบายๆ (แต่ถ้าใครเป็น First Timer อาจจะต้อง book a class เรียนไปก่อน เนื่องจากแถวนี้หากต้องการครูที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ จะมีจำนวนไม่มาก ตารางเวลาอาจจะไม่ได้ตามที่เราต้องการค่ะ ส่วนท่านที่ชอบทาง Intermediate - Advance นี่สบายบรื๋อสะดือโบ๋ค่ะ จะฟินสุดๆ นอกจากจะมีโซนเส้นเขียว แดง ดำ ต่างๆให้ได้ลุยแล้ว ทางลานก็มีโซน Powder Area โดยที่สโลปส่วนใหญ่จะมีโซนพาวเดอร์ติดกับ Groomed Track ค่ะ สำหรับคนที่อยากเล่นเส้น Groomed ปรกติก็สามารถเล่นลงมาคู่กับเพื่อนที่ลุยฝั่งพาวเดอร์ได้ค่ะ ใครชอบความชันหน่อย แนะนำเส้น Giant Course กับ Kokutai Course ค่ะ ตอนไปยืนอยู่บนขอบก็สยิวท้องเบาๆพอตัว นอกจากความชันแล้ว วิวข้างล่างมันมองไปได้ไกลมากจริงๆค่ะ (ก่อนลงต้องมีการทำใจสวดมนต์เอาฤกษ์เอาชัยเล็กน้อยก่อนเจิม) แต่ข้อดีของลานที่นี่คือ เส้นที่ลงส่วนใหญ่จะค่อนข้างกว้าง เมื่อเทียบกับลานสกี Gala Yuzawa ทำให้เวลาเราลงไม่ต้องพะวงกับคนที่เล่นลงมาเท่าไหร่นัก ส่วนเส้นสีส้มๆ ที่อยู่ในแผนที่ความชันประมานเทียบเท่าเส้นเขียวได้เลยค่ะ (บางช่วงให้ฟิวเหมือนเดินเล่นเข้าไปในป่า ความชันประมานแค่ยืนเฉยๆก็ไหลไปเอื่อยๆค่ะ) ถ้าใครได้มาแล้วอย่าลืมขึ้นไปบนยอด สั่นระฆังเชคอินขอพรด้วยนะคะ



ด้วยความที่ลานสกีมันแยกออกมาเป็นสามขาเมื่อลงมาถึงพื้นราบ หลายคนอาจจะงงว่า เอ… แล้วเราควรจะจองที่พักตรงไหนดีน้า คำตอบคือได้หมดทั้งสามขาเลยค่ะ (Hatsukaishi ขาด้านซ้ายมือ Chuo ขาตรงกลาง และขาด้านขวา Kanko) เพราะทั้งทางสามด้านมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน มีบูทขายตั๋ว ร้านเช่า หรือร้านอาหาร แต่ถ้าให้แนะนำเลยก็อาจจะเป็นขาตรงกลาง (Chuo) เพราะเป็น Center ของเค้าเลยค่ะ 


การซื้อ Ski lift pass และเช่าอุปกรณ์ค่อนข้างสะดวกสบาย โดยเราสามารถกรอกข้อมูลลงไปใน Ipad ได้เลย (ที่สำคัญคือมีภาษาไทยด้วย อุ่นใจมากกกก) 












ชั้นสองมีโซนนั่งพักจิบกาแฟรอเวลารถบัส มีห้องน้ำ และล๊อคเกอร์หยอดเหรียญ (แบบไม่คืนเงิน) แยกชายหญิง พร้อมโซนแต่งตัวเป่าผม ห้องน้ำใหม่สะอาดสะอ้านดีค่ะ ส่วนใครที่พกสกีหรือสโนบอร์ดมา ก็มีที่เป่าหิมะ (Snow gun)ให้ใช้ 




และที่นี่มีบริการแมวดำสำหรับส่งกระเป๋าและอุปกรณ์ด้วยค่ะ

จาก Center เดินประมาณ 2-3 นาทีก็ถึงจุดขึ้นลิฟต์ Sunrise Express รอบๆบริเวณนั้นจะมี ร้านเช่าอุปกรณ์ ที่พัก ร้านอาหาร ร้านอิซากายะ และบาร์สาเกค่ะ






ส่วนตัวพักที่โรงแรม Elm Ishiuchi เป็นโรงแรมที่นับว่าเป็น Ski In/Out ที่แท้ทรูค่ะ

ลากกระเป๋าผ่านหิมะแค่ประมานสิบเมตรก็จะถึงประตูโรงแรม ข้างหน้าโรงแรมเป็นลิฟต์ตัวขวาสุดฝั่ง Kanko ค่ะ ตอนขาลงกลับมาที่โรงแรมเห็นมีแต่เส้นดำๆมาไม่ต้องกังวลนะคะ สามารถใช้เส้น Dynamic Bypass สีส้มๆกลับมาที่โรงแรมได้ ความชันตลอดเส้นนี้จะเทียบเท่าเส้นเขียว แถมตอนช่วงเย็นมีไฟไนท์สกีกลับมาด้วยค่ะ




ที่โรงแรมมีแพคเกจให้เลือก ว่าจะรับอาหารเช้า + อาหารเย็นด้วยเลยหรือเปล่า วันนี้เลือกพักแบบมีอาหารเช้าอาหารเย็นให้ มื้อเย็นจะเป็นเมนูเซ็ตไว้ให้แล้วค่ะ ส่วนตอนเช้าจะเป็น Buffetให้ตักได้เอง หนึ่งในสิ่งที่ชอบมากของอาหารที่โรงแรมนี้คือ เขาปลูกข้าวเองค่ะ เป็นข้าวสายพันธุ์ Koshihikari ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อแถบนี้ ใครอยากทานแต่ไม่ได้พักที่นี่ สามารถซื้อข้าวสารกลับไปได้แต่ของมีจำนวนจำกัดนะคะ



ที่พักค่อนข้างสะดวกสบาย เป็นแนว Local แบบที่ชาวญี่ปุ่นเค้ามาพักกันจริงๆ ห้องมีให้เลือกสองแบบว่าจะเลือกแบบ Western หรือ Japanese ทางเราได้ห้อง Western ค่ะ มีห้องน้ำ+ที่อาบน้ำในตัว สะอาดสะอ้าน นอกจากนี้ในรร.ยังมีบ่อออนเซนข้างล่างให้ได้แช่ผ่อนคลายหลังจากบู๊มาทั้งวันด้วย ทางด้านใต้โรงแรมมีห้องล๊อคเกอร์ไว้เก็บสกี มีร้านเช่าเสื้อผ้าและอุปกรณ์ แต่ถ้าใครไม่ถูกใจเดินจากรร. ออกไปสามนาทีก็มีร้านเช่า Local เจ้าอื่นๆให้เลือกค่ะ หรือถ้าใครเช็คเอ้าแล้วจะสกีต่อก็สามารถฝากกระเป๋าไว้ได้ ทางโรงแรมมี Snow Airgun ให้บริการสำหรับคนที่เอาอุปกรณ์มาเองให้ได้ใช้หลังเล่นเสร็จ เรียกได้ว่าถึงเป็นโรงแรมไม่ใหญ่มาก แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สำหรับคนที่ชื่นชอบการเล่นสกีเลยค่ะ


โรงแรมมีรถไปรับไปส่งที่สถานี ECHIGO-YUZAWA ด้วย แต่ต้องแจ้งความประสงค์กับฟร้อนโรงแรมนิดนึงว่าจะไปรอบไหน แล้วก็มีรถจากโรงแรมไปส่งที่ Center Chuo ด้วยค่ะ



นอกจากจะมี รร ตามขาต่างๆของสโลปแล้ว มี advance กว่านั้นอีก คือนอนในสโลปเลยค่ะ คือตรงที่วงไว้จะเป็นดงร้านอาหารเรียงรายกัน แต่ที่เด็ดคือชั้นสองของร้านอาหารเหล่านี้เป็นที่พักค่ะ เนื่องจากพื้นที่บางส่วนในลานสกี เป็นประชาชนทั่วไป เค้าอาศัยอยู่ที่นี่ดั้งเดิมอยู่แล้วก่อนลานสกีจะมาเปิด พอลานสกีมาเปิดเจ้าของที่ก็เลยเปิดเป็นร้านอาหารบ้างที่พักบ้างค่ะ คนที่จะเข้าพักต้องนั่งสกีลิฟต์หรือกอนโดล่าขึ้นมาเพื่อเช็คอิน แต่ไม่มั่นใจว่าถ้าอยากนอนตรงนี้จะต้องนำกระเป๋าขึ้นมาอย่างไร แต่คิดว่าน่าจะต้องติดต่อทางโรงแรมดูค่ะ แต่มั่นใจว่าตื่นมานอกจากจะได้เห็นวิวสวยๆแล้ว ยังได้เป็น very first run ชัวร์ค่ะ บางวันช่วงเช้าที่นี่มีทะเลหมอกด้วย เสียดายตอนช่วงที่เราไปอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ เลยไม่เจอเลย



ร้านอาหาร


มีตั้งแต่ Yakiniku คือปิ้งกันบนสโลปเลย อาหารจานเดียว อาหารฝรั่ง (ข้างในร้านมีเตาผิงเก๋ๆให้เข้าไปถ่ายรูป) ในร้านส่วนใหญ่มีเมนูภาษาอังกฤษหรือเมนูรูปภาพเกือบหมดค่ะ


หรือถ้าใครอยากไปทานอาหารพร้อมวิวแบบนี้ แนะนำร้านตรงนี้เลยค่ะ Restaurant Cologne
เป็นอาหารฝรั่ง & ญี่ปุ่น ทานอาหารไปดูวิวไป หรือจะเลือกซื้อเครื่องดื่มร้อนออกไปจิบริมระเบียงก็ได้อยู่ค่ะ

 



ถ้าไม่เล่นสกี สามารถขึ้นกอนโดล่า SUNRISE EXPRESS ขึ้นไปชมวิว ทานอาหาร และมีโซน Ishiuchi Snowland มี Sled ให้เล่น เด็กเล่นได้ผู้ใหญ่เล่นดีค่ะ



หรือถ้าใครสนใจจะ Day trip รอบๆ สกีรีสอร์ท ก็มีฟาร์มสตอว์เบอรี่ สามารถเข้าชมเก็บสตรอว์เบอรรี่ หรือจะเข้า workshop ทำโซบะ ก็มีค่ะ สามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่