WHO ห่วงสถานการณ์ 3 ประเทศยอดติดเชื้อ ‘โควิด-19’ พุ่ง
องค์การอนามัยโลกแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ใน "อิตาลี อิหร่าน และเกาหลีใต้" พบยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง
นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่า ทุกประเทศจะต้องเตรียมพร้อมมากขึ้นเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขณะยังเชื่อว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่สามารถควบคุมได้ และมีหลายประเทศที่ทำได้ดี ขณะที่สถานการณ์ใน 3 ประเทศยังคงน่าเป็นห่วง
อิตาลี มีผู้เสียชีวิต 6 คน และติดเชื้อสะสม 230 คน มากที่สุดในยุโรป หลังพบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน หรือ คลัสเตอร์ 2 กลุ่ม ในแคว้นลอมบาร์ดี จำนวน 177 ราย กับเวเนโต จำนวน 33 ราย ทางภาคเหนือ ต่อมา พบเพิ่มในแคว้นเพื่อนบ้าน เอมเลีย-โรมัญญา และปีเยมอนเต โดยมีผู้ป่วยมีอาการ 101 รายในโรงพยาบาลอีก 27 อยู่ในความดูแลใกล้ชิด และอย่างน้อย 94 รายให้กักตัวในบ้าน ทางการปิดเมือง 10 แห่ง แยกกักกว่า 5 หมื่นคน โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ และมหาวิทยาลัย ปิดทำการ
อิหร่าน ทางกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันมีผู้เสียชีวิต 12 คน ติดเชื้อสะสม 61 แต่ตัวเลขจากส่วนกลาง ขัดกับที่ สมาชิกรัฐสภาอิหร่านผู้แทนเมืองกอม ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 คน ในเมืองศักดิสิทธิ์ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปในทางใต้ 120 กิโลเมตร และมี 250 คนถูกแยกกักดูอาการ
ทั้งนี้ เกือบทุกประเทศรอบอิหร่าน ประกาศปิดชายแดน หรือจำกัดการเดินทาง โดยในวานนี้ (24 ก.พ.) มีหลายประเทศที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรก โดยเฉพาะในแถบตะวันออกกลาง อย่าง คูเวต โอมาน บาห์เรน กับอัฟกานิสถาน โดยทั้งหมดเกี่ยวข้องกับคนที่ไปอิหร่านกลับมา
เกาหลีใต้ มียอดผู้เสียชีวิต 8 ราย ส่วนติดเชื้อสะสมที่ประกาศหลังสุดเมื่อ 16.00 น. วานนี้ อยู่ที่ 893 ราย จำนวนนี้มีทหารรวมอยู่ด้วย 13 ราย กระทรวงกลาโหมสั่งให้ทหาร 7,500 นาย กักตัวเองดูอาการ
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/867822?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=corona
ไทยติดโควิดอีก2รวม37-ลุยวิจัยฟ้าทะลายโจร
ด่วน! สธ.เผยไทยป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 2 คน รวม 37 คน - เร่งวิจัยฟ้าทะลายโจรต้าน
25 กุมภาพันธ์ 2020 - 12:24 น.
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 (COVID-19) ในประเทศไทย
ด้าน นายแพทย์สุขุม กล่าวว่า วันนี้ ได้รับรายงาน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 แห่ง (กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ได้ผลยืนยันพบผู้ป่วยเพิ่ม 2 ราย
รายที่ 1 เป็นหญิงไทยอายุ 31 ปี อาชีพแม่บ้าน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี แพทย์ตรวจพบปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งจากการซักประวัติ พบว่ามีสมาชิกในครอบครัวเดินทางกลับจากประเทศจีน
รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพทำงานสัมผัสใกล้ชิดนักท่องเที่ยวชาวจีน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการนำข้อมูลผู้ป่วยและการสอบสวนโรคเบื้องต้นเข้าสู่การพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญ 3 ด้าน เพื่อพิจารณาโดยละเอียดอีกครั้ง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคอยู่ระหว่างทำการสอบสวนและเก็บตัวอย่างจากผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เพื่อส่งตรวจ ทำให้ขณะนี้ มีผู้ป่วยยืนยัน ในประเทศไทย รวม 37 คน ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหาย ปัจจุบัน พบมีผู้ป่วย ที่กลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 คน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยที่กลับบ้านแล้ว ล่าสุด อยู่ที่ 22 คน รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 15 คน
ขณะเดียวกัน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม ยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการวิจัยยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกับไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อศึกษาวิจัยประสิทธิผลของยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการต้านเชื้อไวรัสดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการที่กระทรวงสาธารณสุขปรับนิยามการเฝ้าระวังคัดกรองตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 โดยขยายพื้นที่ครอบคลุมประเทศเสี่ยงใหม่ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน (ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน) และ 8 จังหวัดของไทย คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย สมุทรปราการ กระบี่ ภูเก็ต ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งประเทศไทยได้มีการคัดกรองผู้เดินทางจากทุกด่าน ทั้ง ด่านท่าอากาศยาน ด่านท่าเรือ ด่านพรมแดนทางบก และ จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 3,141,879 คน (24 กุมภาพันธ์ 2563) รวมถึงการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลและชุมชน พบผู้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง 1,580 คน กักตัวไว้ที่โรงพยาบาล 420 คน กลับบ้านได้ 1,160 คน
สำหรับ การประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย อันดับ ที่ 14 เพื่อประโยชน์ต่อการดูแลประชาชน มีกฎหมายรองรับ ทำให้โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ บุคลากรสามารถบังคับรับรักษา ปฏิบัติงานได้อย่างคล่องตัว ประโยชน์ต่อสังคมทำให้ประชาชนรู้สถานการณ์โรคเร็ว ลดการแพร่ระบาดในวงกว้าง
ทั้งนี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ องค์การเภสัชกรรม ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการวิจัยยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิจัยประสิทธิผลของยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ณ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข
จากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวมีสาระสำคัญ คือ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำโครงการศึกษาวิจัยและเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ รวมถึงสนับสนุนงบประมาณค่าตอบแทนอาสาสมัครในโครงการวิจัย ด้านกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ดำเนินการศึกษาวิจัยทางคลินิกในศูนย์วิจัยทางคลินิกกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อเก็บตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครคนไทยสุขภาพแข็งแรง หลังจากได้รับยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ส่วนองค์การเภสัชกรรมจัดหายาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรตามปริมาณความต้องการที่ใช้ในการศึกษาวิจัย
จากการศึกษาการจับกันของโมเลกุลยากับเชื้อไวรัสโควิด-19 จากโครงสร้าง 3 มิติของยาและเชื้อ (Moleculardocking) พบว่าสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลค์ (Andrographolide) ในฟ้าทะลายโจร น่าจะมีศักยภาพในการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโคโรน่าไวรัสเข้าสู่เซลล์ (Entry inhibitor) และป้องกันการแบ่งตัวของโคโรน่าไวรัสได้ (Viral replication inhibitor) หากผลการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ได้ผลสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะทำการประสานทางกรมการแพทย์ เพื่อใช้ประโยชน์ในการรักษายับยั้งเชื้อไวรัสต่อไป รวมทั้งประสานองค์การเภสัชกรรมให้เร่งดำเนินการผลิตและวางแผนรองรับให้เพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ แต่หากผลการวิจัยไม่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะใช้ในการส่งเสริมสุขภาพและทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยสมุนไพรตัวอื่น ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
https://www.innnews.co.th/social/news_607245/
ให้กำลังใจกันทุกวันนะคะ....สู้ๆค่ะ....
💞💞มาลาริน/WHO ห่วงสถานการณ์ 3 ประเทศติดเชื้อ ‘โควิด-19’พุ่ง...ไทยติดโควิด 19 อีก 2 คน รวม37คน ลุยวิจัยฟ้าทะลายโจร
องค์การอนามัยโลกแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ใน "อิตาลี อิหร่าน และเกาหลีใต้" พบยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง
นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่า ทุกประเทศจะต้องเตรียมพร้อมมากขึ้นเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขณะยังเชื่อว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่สามารถควบคุมได้ และมีหลายประเทศที่ทำได้ดี ขณะที่สถานการณ์ใน 3 ประเทศยังคงน่าเป็นห่วง
อิตาลี มีผู้เสียชีวิต 6 คน และติดเชื้อสะสม 230 คน มากที่สุดในยุโรป หลังพบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน หรือ คลัสเตอร์ 2 กลุ่ม ในแคว้นลอมบาร์ดี จำนวน 177 ราย กับเวเนโต จำนวน 33 ราย ทางภาคเหนือ ต่อมา พบเพิ่มในแคว้นเพื่อนบ้าน เอมเลีย-โรมัญญา และปีเยมอนเต โดยมีผู้ป่วยมีอาการ 101 รายในโรงพยาบาลอีก 27 อยู่ในความดูแลใกล้ชิด และอย่างน้อย 94 รายให้กักตัวในบ้าน ทางการปิดเมือง 10 แห่ง แยกกักกว่า 5 หมื่นคน โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ และมหาวิทยาลัย ปิดทำการ
อิหร่าน ทางกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันมีผู้เสียชีวิต 12 คน ติดเชื้อสะสม 61 แต่ตัวเลขจากส่วนกลาง ขัดกับที่ สมาชิกรัฐสภาอิหร่านผู้แทนเมืองกอม ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 คน ในเมืองศักดิสิทธิ์ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปในทางใต้ 120 กิโลเมตร และมี 250 คนถูกแยกกักดูอาการ
ทั้งนี้ เกือบทุกประเทศรอบอิหร่าน ประกาศปิดชายแดน หรือจำกัดการเดินทาง โดยในวานนี้ (24 ก.พ.) มีหลายประเทศที่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรก โดยเฉพาะในแถบตะวันออกกลาง อย่าง คูเวต โอมาน บาห์เรน กับอัฟกานิสถาน โดยทั้งหมดเกี่ยวข้องกับคนที่ไปอิหร่านกลับมา
เกาหลีใต้ มียอดผู้เสียชีวิต 8 ราย ส่วนติดเชื้อสะสมที่ประกาศหลังสุดเมื่อ 16.00 น. วานนี้ อยู่ที่ 893 ราย จำนวนนี้มีทหารรวมอยู่ด้วย 13 ราย กระทรวงกลาโหมสั่งให้ทหาร 7,500 นาย กักตัวเองดูอาการ
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/867822?utm_source=homepage&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=corona
ไทยติดโควิดอีก2รวม37-ลุยวิจัยฟ้าทะลายโจร
ด่วน! สธ.เผยไทยป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 2 คน รวม 37 คน - เร่งวิจัยฟ้าทะลายโจรต้าน
25 กุมภาพันธ์ 2020 - 12:24 น.
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 (COVID-19) ในประเทศไทย
ด้าน นายแพทย์สุขุม กล่าวว่า วันนี้ ได้รับรายงาน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 2 แห่ง (กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ได้ผลยืนยันพบผู้ป่วยเพิ่ม 2 ราย
รายที่ 1 เป็นหญิงไทยอายุ 31 ปี อาชีพแม่บ้าน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี แพทย์ตรวจพบปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งจากการซักประวัติ พบว่ามีสมาชิกในครอบครัวเดินทางกลับจากประเทศจีน
รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 29 ปี อาชีพทำงานสัมผัสใกล้ชิดนักท่องเที่ยวชาวจีน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการนำข้อมูลผู้ป่วยและการสอบสวนโรคเบื้องต้นเข้าสู่การพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญ 3 ด้าน เพื่อพิจารณาโดยละเอียดอีกครั้ง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคอยู่ระหว่างทำการสอบสวนและเก็บตัวอย่างจากผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เพื่อส่งตรวจ ทำให้ขณะนี้ มีผู้ป่วยยืนยัน ในประเทศไทย รวม 37 คน ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหาย ปัจจุบัน พบมีผู้ป่วย ที่กลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 คน ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยที่กลับบ้านแล้ว ล่าสุด อยู่ที่ 22 คน รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 15 คน
ขณะเดียวกัน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม ยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการวิจัยยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรกับไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อศึกษาวิจัยประสิทธิผลของยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการต้านเชื้อไวรัสดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การพบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการที่กระทรวงสาธารณสุขปรับนิยามการเฝ้าระวังคัดกรองตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 โดยขยายพื้นที่ครอบคลุมประเทศเสี่ยงใหม่ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน (ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน) และ 8 จังหวัดของไทย คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย สมุทรปราการ กระบี่ ภูเก็ต ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งประเทศไทยได้มีการคัดกรองผู้เดินทางจากทุกด่าน ทั้ง ด่านท่าอากาศยาน ด่านท่าเรือ ด่านพรมแดนทางบก และ จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 3,141,879 คน (24 กุมภาพันธ์ 2563) รวมถึงการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลและชุมชน พบผู้อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง 1,580 คน กักตัวไว้ที่โรงพยาบาล 420 คน กลับบ้านได้ 1,160 คน
สำหรับ การประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย อันดับ ที่ 14 เพื่อประโยชน์ต่อการดูแลประชาชน มีกฎหมายรองรับ ทำให้โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ บุคลากรสามารถบังคับรับรักษา ปฏิบัติงานได้อย่างคล่องตัว ประโยชน์ต่อสังคมทำให้ประชาชนรู้สถานการณ์โรคเร็ว ลดการแพร่ระบาดในวงกว้าง
ทั้งนี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ องค์การเภสัชกรรม ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการวิจัยยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิจัยประสิทธิผลของยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ณ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข
จากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวมีสาระสำคัญ คือ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำโครงการศึกษาวิจัยและเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ รวมถึงสนับสนุนงบประมาณค่าตอบแทนอาสาสมัครในโครงการวิจัย ด้านกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ดำเนินการศึกษาวิจัยทางคลินิกในศูนย์วิจัยทางคลินิกกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อเก็บตัวอย่างเลือดของอาสาสมัครคนไทยสุขภาพแข็งแรง หลังจากได้รับยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ส่วนองค์การเภสัชกรรมจัดหายาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรตามปริมาณความต้องการที่ใช้ในการศึกษาวิจัย
จากการศึกษาการจับกันของโมเลกุลยากับเชื้อไวรัสโควิด-19 จากโครงสร้าง 3 มิติของยาและเชื้อ (Moleculardocking) พบว่าสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลค์ (Andrographolide) ในฟ้าทะลายโจร น่าจะมีศักยภาพในการช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโคโรน่าไวรัสเข้าสู่เซลล์ (Entry inhibitor) และป้องกันการแบ่งตัวของโคโรน่าไวรัสได้ (Viral replication inhibitor) หากผลการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ได้ผลสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะทำการประสานทางกรมการแพทย์ เพื่อใช้ประโยชน์ในการรักษายับยั้งเชื้อไวรัสต่อไป รวมทั้งประสานองค์การเภสัชกรรมให้เร่งดำเนินการผลิตและวางแผนรองรับให้เพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ แต่หากผลการวิจัยไม่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะใช้ในการส่งเสริมสุขภาพและทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยสมุนไพรตัวอื่น ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
https://www.innnews.co.th/social/news_607245/
ให้กำลังใจกันทุกวันนะคะ....สู้ๆค่ะ....