น่าจะเปลี่ยนเป็น
มั่นใจคนไทย ภูมิโควิดดี ไม่ห่วง หรือ
มั่นใจฟ้าทะลายโจร รับมือโควิดได้ไม่ห่วง เพราะคนไทยส่วนมาก ไม่ใช่กลุ่ม 608 ก็ไม่ได้ยาฝรั่งหรอก ได้ยาไทยแลนด์นี่แหละ
โควิดทั่วโลกรวมทั้งจีน เป็นสายพันธุ์โอไมครอนหมดแระ ต่างแต่สายพันธุ์บ่อย ถ้าปีที่แล้วใครป่วยสองหน ก็คือเป็นโอไมครอนทั้งสองหน แต่คนละสายพันธุ์ การมาถึงนทท.จีน หลายประเทศเช่น อิตาลี มาเลเซีย ก็มีมาตรการออกมา เช่นต้องมีผลตรวจโควิด ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ ก็ว่าได้ อย่างนิวซีแลนด์ ก็มีเรื่องการตรวจโควิดเหมือนกัน แต่นิวซีแลนด์แถลงว่าเป็นมาตรการชั่วคราว ถ้าไม่มีการระบาดที่น่าเป็นห่วง ก็จะปรับเปลี่ยนในเดือนต่อไป หรือ มั่นใจแต่ไม่ประมาท ของมันต้องทดสอบก่อนเพื่อความชัวร์
ดังนั้นมาตรการที่หลายชาติออกมา จึงเป็นการเลือกปฏิบัติแน่นอน แต่ที่เค้าทำแบบนี้ เพื่อสกัดกั้นคลื่น นทท.จีน ไม่ให้ทะลักทะลายเข้ามาแบบพายุ เค้าก็เลย มีป่าโกงกาง รวมถึงป่าไม้ต่างๆ สกัดคลื่นลมพายุ ให้ลดน้อยลง หรือ เป็นการแจ้งนทท.จีนว่า รักนะไม่ได้เกลียด แต่ช่วงแรกขอให้ทยอยมา ไม่ใช่มาแบบมืดฟ้ามัวดิน
สำหรับไทย จีนบุ๊คล่วงหน้า มาแบบพายุแน่นอน แต่ได้ชื่อว่าคนไทย เป็นคนมั่นมาก พายุมาคนไทยไม่เคยย้ายไม่เคยหนี ให้ลอยไปกับหลังคาก็ไม่หวั่น พร้อมลุยทุกสถานการณ์
นทท.ทุกชาติรวมทั้งจีนด้วย ก็ไม่ใส่มาสก์ คือไม่ใส่อะ จขกท.เคยเจอ คนจีนมารพ.นางไม่ใส่มาสก์ คือฝรั่งนี่ยื่นแมสก์ให้ก็ใส่นะ แบบเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม แต่คนจีนคือไม่ใส่ทั้งแกงค์อะ เอาแมสก์ให้ก็ไม่ใส่ เหน็ดอะไม่รู้จะว่าไง จะเป็นอย่างงี้ทุกนางหรือเปล่านะ
จขกท.ว่า การระบาดกับการท่องเที่ยว ไปด้วยกันได้ แต่ถ้าไม่ใส่แมสก์เรียกว่าลองของดีกว่า ใส่แมสก์ทั้งสองฝ่ายมีโอกาสติดเชื้อโควิดร้อยละ 1.5 แต่ถ้าใส่แมสก์ฝ่ายเดียวมีโอกาสติดเชื้อร้อยละ 30 หรือโอกาสติดเชื้อสูงขึ้น 20 เท่า
ตอนนี้นทท.จะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าขึ้นไป การป้องกัน ไม่มี คนไทยส่วนนึงก็เลิกใส่แมสก์แล้ว จขกท.คิดถึงการคัดเลือกโดยธรรมชาติ หรือ natural selection หรือ ชาลส์ ดาร์วิน ตอนเรียนนี่ไม่อิน ไม่สนว่า นก กิ้งก่า หรือ เต่า จะเป็นยังไง พอมาตอนนี้ อินมากขึ้น อ่อใช้กับคนนี่เอง ใครแพ้ทางโควิด ก็ป่วยก็ตายไป อ่อนแอก็แพ้ไป ไม่มีโอกาสสืบพันธุ์ต่อ เป็นเช่นนี้เอง
มั่นใจหรือไม่ การสาธารณสุขไทยรับมือ นทท.จีนได้ ไม่ห่วง?
มั่นใจคนไทย ภูมิโควิดดี ไม่ห่วง หรือ
มั่นใจฟ้าทะลายโจร รับมือโควิดได้ไม่ห่วง เพราะคนไทยส่วนมาก ไม่ใช่กลุ่ม 608 ก็ไม่ได้ยาฝรั่งหรอก ได้ยาไทยแลนด์นี่แหละ
โควิดทั่วโลกรวมทั้งจีน เป็นสายพันธุ์โอไมครอนหมดแระ ต่างแต่สายพันธุ์บ่อย ถ้าปีที่แล้วใครป่วยสองหน ก็คือเป็นโอไมครอนทั้งสองหน แต่คนละสายพันธุ์ การมาถึงนทท.จีน หลายประเทศเช่น อิตาลี มาเลเซีย ก็มีมาตรการออกมา เช่นต้องมีผลตรวจโควิด ถือเป็นการเลือกปฏิบัติ ก็ว่าได้ อย่างนิวซีแลนด์ ก็มีเรื่องการตรวจโควิดเหมือนกัน แต่นิวซีแลนด์แถลงว่าเป็นมาตรการชั่วคราว ถ้าไม่มีการระบาดที่น่าเป็นห่วง ก็จะปรับเปลี่ยนในเดือนต่อไป หรือ มั่นใจแต่ไม่ประมาท ของมันต้องทดสอบก่อนเพื่อความชัวร์
ดังนั้นมาตรการที่หลายชาติออกมา จึงเป็นการเลือกปฏิบัติแน่นอน แต่ที่เค้าทำแบบนี้ เพื่อสกัดกั้นคลื่น นทท.จีน ไม่ให้ทะลักทะลายเข้ามาแบบพายุ เค้าก็เลย มีป่าโกงกาง รวมถึงป่าไม้ต่างๆ สกัดคลื่นลมพายุ ให้ลดน้อยลง หรือ เป็นการแจ้งนทท.จีนว่า รักนะไม่ได้เกลียด แต่ช่วงแรกขอให้ทยอยมา ไม่ใช่มาแบบมืดฟ้ามัวดิน
สำหรับไทย จีนบุ๊คล่วงหน้า มาแบบพายุแน่นอน แต่ได้ชื่อว่าคนไทย เป็นคนมั่นมาก พายุมาคนไทยไม่เคยย้ายไม่เคยหนี ให้ลอยไปกับหลังคาก็ไม่หวั่น พร้อมลุยทุกสถานการณ์
นทท.ทุกชาติรวมทั้งจีนด้วย ก็ไม่ใส่มาสก์ คือไม่ใส่อะ จขกท.เคยเจอ คนจีนมารพ.นางไม่ใส่มาสก์ คือฝรั่งนี่ยื่นแมสก์ให้ก็ใส่นะ แบบเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม แต่คนจีนคือไม่ใส่ทั้งแกงค์อะ เอาแมสก์ให้ก็ไม่ใส่ เหน็ดอะไม่รู้จะว่าไง จะเป็นอย่างงี้ทุกนางหรือเปล่านะ
จขกท.ว่า การระบาดกับการท่องเที่ยว ไปด้วยกันได้ แต่ถ้าไม่ใส่แมสก์เรียกว่าลองของดีกว่า ใส่แมสก์ทั้งสองฝ่ายมีโอกาสติดเชื้อโควิดร้อยละ 1.5 แต่ถ้าใส่แมสก์ฝ่ายเดียวมีโอกาสติดเชื้อร้อยละ 30 หรือโอกาสติดเชื้อสูงขึ้น 20 เท่า
ตอนนี้นทท.จะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าขึ้นไป การป้องกัน ไม่มี คนไทยส่วนนึงก็เลิกใส่แมสก์แล้ว จขกท.คิดถึงการคัดเลือกโดยธรรมชาติ หรือ natural selection หรือ ชาลส์ ดาร์วิน ตอนเรียนนี่ไม่อิน ไม่สนว่า นก กิ้งก่า หรือ เต่า จะเป็นยังไง พอมาตอนนี้ อินมากขึ้น อ่อใช้กับคนนี่เอง ใครแพ้ทางโควิด ก็ป่วยก็ตายไป อ่อนแอก็แพ้ไป ไม่มีโอกาสสืบพันธุ์ต่อ เป็นเช่นนี้เอง