จากไทยบินไปลงที่ Buenos Aires, Argentina นะคะ แล้วต่อเครื่องลงไปที่ Ushuaia แนะนำให้ไปถึงก่อนเรือออกสักคืน สองคืน ตกเรือไม่ขำนะคะ จาก Ushuaia ก็ day trip ไปเที่ยวเล่นดู penguin ได้ หรือจะไป hiking ก็ได้ค่ะ บริษัทเรือส่วนใหญ่จะนัดประชุมเย็นวันก่อนเรือออกด้วย

ไปยังไง How to get there?
ช่วงฤดูร้อนของซีกโลกใต้จะมีเรือออกตั้งแต่ปลายตุลา ถึงประมาณ มีนา/เมษา เรือออกจากท่าที่ Ushuaia นะคะ ท่าเรือเล็กๆเลยค่ะ ผู้โดยสารจะต้องมารวมตัวกันที่ Bus stop เพื่อขึ้นบัสไปขึ้นเรือ ผู้ที่ไม่เกี่ยวค้องไม่สามารถเข้าไปในท่าได้



เรือไหนดี how to choose a cruise?
การเลือกเรือก็แล้วแต่งบและจำนวนวัน เรือมีตั้งแต่ budget cruise จนไปถึง super yacht เราจะไม่พูดถึงราคานะคะ ใครสะดวกแบบไหนก็ไปแบบนั้น เรือแพง ก็บริการหรูขึ้น อาหารดีขึ้น กิจกรรมรวมแล้วมากขึ้น เรือบางลำมี helicopter ด้วย

ระยะเวลา Cruise จะมีตั้งแต่ 8/9 วันขึ้นไป บางทริปเค้าไปกัน 3-4 อาทิตย์ก็มี ยิ่งไปนาน ก็ยิ่งลงใต้ไปได้ไกลกว่า Antarctic Peninsula ที่เราไป เรือของเรา 10 วันค่ะ 4 วันลอยอยู่กลางทะเล อีก 4 วันเป็น landing days ที่ทวิปแอนตาร์กติกา แล้วก็มีวันขึ้นลงเรือ

เราไปกับเรือ Hondius ที่เลือกเพราะเป็นเรือใหม่ มี satellite wifi ถึงจะต้องจ่ายก็เหอะ ยอมค่ะ มีดีกว่าไม่มี นอกจากนั้นเรือใหม่ระบบทุกอย่างก็ใหม่กว่า รองเท้าที่ให้ใช้ ห้องพัก ทักอย่างใหม่หมด เพิ่งใช้เป็น season แรก นอกจากความใหม่แล้ว เรือเล็ก นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นฝั่งได้ทุกวัน วันละ 2 รอบ เรือใหญ่บางเรือเป็น cruise only ไม่มีการขี้นบกนะคะ ตอนจองอ่านดีๆ 

อีกอย่างที่เลือกเรือนี้เพราะเป็นเรือ expedition ไม่ใช่ cruise liner ใหญ่ๆ ชอบความที่ expedition crew มีความรู้ แล้วมีการจัด lectures บนเรือตลอด อีกเหตุผลที่เลือกก็เพราะบริษัทนี้ sustainable ค่ะ เราไม่ค่อยโอเคกับเรือที่ทิ้งอาหารเยอะแยะ แล้วก็แจกน้ำขวดตลอด ไหนๆ ก็ carbon footprint อย่างเยอะแล้ว อะไรที่ช่วยสิ่งแวดล้อมได้ก็จะทำค่ะ

ราคาเรือจะถูกหน่อยถ้าจองสองปีล่วงหน้า หรือไม่ก็ last minute สักเดือน สองเดือนก่อน ใครมีเวลาจะไปรอเอาที่ Ushuaia ก็ได้ แต่ราคาไม่ต่างจากจองเดือนหนึ่งก่อนนะคะ เรือถูกสุดจะเป็นเรือจีนเหมา ใครไม่ mind ที่จะไปกับคนจีนอีก 200 ชีวิตก็เชิญได้ค่ะ เรือพวกนี้จะไม่ได้เปิดขายทั่วไป ต้องถาม agent ที่นั้นเอานะคะ



At Sea: Drake Passage..time to explore the Hondius
2 วันแรก และ 2 วันสุดท้ายจะเป็นวันเดินทางระหว่างทวีปอเมริกาใต้กับทวีป Antarctica เรือจะต้องผ่าน Drake Passage ซึ่งคือทะเลจาก Cape Horn ไปถึง South Shetland Islands น้ำตรงนั้นจะเป็นจุดที่มีการมาเจอกันของสองมหาสมุทร Pacific + Atlantic Ocean

ระยะทางทั้งหมด 800กม การเดินเรือในทะเลเปิด open sea ก็จะมีคลื่นเยอะหน่อย Drake Passage ขึ้นชื่อในการเป็น rough crossing ถ้าโชคร้ายอากาศไม่ดีก็จะเจอคลื่นสูงเกิน 4เมตร นั่งไปก็สนุกดีค่ะ เราเจอ swell สูงสุด 4.2เมตร ยังดีที่เรือมี stabilizer ที่ดี ไม่งั้นอาจจะอ้วกได้ มีหลายคนเหมือนกันที่เมาเรือ บางคนก็กินยากันไว้เลย เพราะเรือมันจะโครงเครง เหมือนนั่งเก้าอี้คุณปู่ rocking chair



ตลอดทางก็ไม่มีวิวอะไรให้ดูนะคะ มีนกให้เห็นบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีอะไร เราแวะขึ้นไปที่ ship bridge เผื่อถ่ายรูป ไหนๆ เรือก็มี open bridge policy แล้ว ก็ขึ้นไปดูหน่อย ไม่ใช่ทุกเรือจะให้ขึ้นไปนะคะ ตอนเราไป captain ไม่อยู่ ก็เลยมีโอกาสได้ถ่ายรูปชิลๆ

นอกจากอ่านนั่งสือ ดู series เราก็กินๆนอนๆ ฟัง lecture  วนไป 2 วันค่ะ (ขากลับนั่งทำรูป) วันที่ 2 เค้าแจกอุปกรณ์ด้วย มีรองเท้าให้ยางให้ แล้วก็มีการทำความสะอาดเสื้อผ้าและกระเป๋าที่เราจะเอาลงไปใช้ที่ Antarctica เค้ากลัวมีพืชหรืออะไรติดไป แล้วไปทำลายระบบนิเวศของ Antarctica

     

ว่างๆเราก็มีโอกาสเดินสำรวจเรือด้วยนะ ห้องอาหารมีห้องเดียว กินเป็นเวลาพร้อมกันหมด เช้าปลุกทั้งเรือพร้อมกัน มีเวลาให้กิน 1 ชม พอเที่ยงเค้าก็จะประกาศเวลาเปิด แล้วก็ให้กิน 1 ชม เหมือนกัน สองมือนี้จะเป็นบุฟเฟ่ต์ ส่วนมื้อเย็นส่วนใหญ่จะเป็น sit-down dinner คือถ้าคุณไปคนเดียวอย่างเรา ยังไงก็มีเพื่อนค่ะ เพราะโต๊ะอาหารเป็น 4 ที่ซะส่วนมาก ก็นั่งรวมกับคนอื่นที่เดินทางคนเดียว แล้วก็ make friend ไปค่ะ 2 วันแรกก็ได้เพื่อนเยอะเลย แล้วหลังอาหารเย็น ก็จะไปนั่งเล่นก็ที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งมีบาร์ ทางเรือก็มีไพ่และเกมต่างๆให้ยืมเล่น



หลังห้องนั่งเล่นก็มีห้องสมุด แล้วก็ lecture room ส่วนกลางก็มีแค่นั้นค่ะ นอกนั้นเป็นห้องนอน เรานอนห้อง 4 คนอยู่ ซื้อเตียงเดียวถูกสุดแล้ว โชคดีห้องเราไม่เต็ม มีแค่ 3 คน เราแชร์ห้องกับ ผญ เยอรมันและสวิส ห้องดีค่ะ มีทีวีที่เราไม่ได้เปิดเลย ห้องน้ำก็ดีมาก ชอบตรงน้ำกินได้ เรือแจกขวดน้ำให้ แล้วหลังจากนั้นเติมกันเอาเอง ไม่ขายน้ำขวด ทั้งเรือทุกก๊อกดื่มได้หมด อีกอย่างคือบนเรือไม่มีการใช้เงินสด จะเป็นการตื้ดบัตรเอา เหมือนบัตรประจำตัว หมดทริปจ่ายทีเดียว บัตรนี้จะใช้สแกนเข้าออกด้วย ขึ้น/ลงเรือ ห้ามลืมสแกนบัตรเด็ดขาด ไม่งั้นเค้าต้องมานั่งประกาศหา วันแรกถ้าลืมยังประกาศเป็นเบอร์ห้อง วันหลังๆ ประกาศชื่อเลยจ้า รู้จักกันหมดทั้งเรือแล้วด้วย อายไปเลย ขำๆนะ

  

Landing Days 
Day 1: Orne Harbour + Cuverville Island + camping at Paradise Bay
มีความสุขมาก ในที่สุดก็ถึงAntarctica...ครบ 7 ทวีปแล้วค่ะ นอกจาก penguin แล้วก็วิวที่สวยมากๆ วันนี้ได้ว่ายน้ำด้วยนะ ทำไปได้ยังไงไม่รู้ polar plunge นำ้ 0° เกือบช็อคตาย มือเท้าชาไปหมด ดีนะที่เค้าเตรียมเรือรอ แล้วใจดีไม่รอคนอื่นเอาเรากลับก่อนเลย ไม่งั้น hypotermia แน่ เล่นน้ำเป็นตอนช่วงบ่ายนะคะ ที่ Cuverville Island ช่วงเช้าไปเดินเขาที่ Orne Harbour ตอนเดินขึ้นก็ก้มหน้าก้มตาเดินกันขึ้นไป ตอนลง slide ลงมาเลยจ้า สนุกมาก ข้างบนเขามีฝูง penguin ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องปีนไปขนาดนั้น จุดนี้ตรงที่ขึ้น/ลงเรือ zodiac สวยมากๆ ทั้งแสง + น้ำแข็ง perfect สุดๆ

    
       
      
      

      



ตอนแรกเกือบจะไม่ได้ไป camping แต่มีหนุ่มยกที่ให้ 555+ คือใครจะไปวันนี้ห้ามดื่มเหล้า นางดื่มมาทั้งวัน เลยอด เห็นเราบ่น งอแง มา 3 วัน ว่าอยากไปๆ เลยสละที่ แล้วบอกให้ยกให้นี่ไปแทน ต้องขอบคุณเค้ามากจริงๆ ไม่งั้นชาตินี้ไม่รู้จะมีโอกาสได้นอนบนทวีปนี้ไหม มันเจ๋งสุดๆเลยนะ การที่ได้นอนข้างๆ penguins + seals นอนในถุงนอน ไม่มี tent ต้องขึดหลุมให้ตัวเองอยู่ ห้องน้ำไม่ต้องพูดถึง ไม่ต้องเข้าดีสุด ใครอยากไปรีบจองนะ พวกนี้เค้าจองก่อนเป็นปี เรา waitlist อยู่คนที่ 9 เป็นคนสุดท้ายพอดี